Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
กับดักรักสองโลก 13. vote ติดต่อทีมงาน

.

.


13.


เสียงโหวกเหวกโวยวายของมนุษย์โลกพาปั่นป่วนโสตประสาท เงินประมูลยังขึ้นสูงเป็นเท่าตัวโดยเฉพาะบุรุษทั้งหลายต่างจ้องมองโฉมงามผู้ถูกส่งเข้าประมูลกันไม่วางตา


‘25,000’


‘30,000’


“แฟรงค์!! ไปบอกอิเจ้าของร้านยกเลิกประมูลทีสิ ไปจัดการเร็ว! ก่อนที่มันจะวุ่นวายไปมากกว่านี้”


“นี่มันเรื่องอะไรไอ้ชาย! ทำไมนีลาน่ามาอยู่ที่นี่! แล้วทำไมถึงถูกประมูลแบบนี้!”


น้ำเสียงดุดันคุกรุ่นด้วยความโกรธเคืองไม่น้อย สายตาแผดรังสีอำมหิตจ้องมองสมชายราวจะกินเลือดกินเนื้อเสียให้ได้


“โอ๊ย!! อย่าเพิ่งถามอะไรตอนนี้เลย ไปจัดการอิเจ้าของร้านก่อน ไปเร็วชายไปด้วย ชายจะไปตบมันให้คว่ำคามือ โทษฐานทำให้อกสั่นขวัญแขวน!”


“คงจะยากหน่อยนะ ดูหนุ่มๆ แต่ละคนสิ เมามันส์ขนาดไหนกับการประมูลครั้งนี้ ยอมทุ่มเงินกันสุดตัวเพื่อเธอคนนี้ หากแฟรงค์กับชายจะไปยกเลิกกลางคั้นอาจเกิดเรื่องเอาได้นะ แล้วอย่าหาว่าพรีมไม่เตือน”


พรีมาดาพยายามโน้มน้าวจิตใจเพื่อนสนิทให้ไตร่ตรองสถานการณ์ หากแฟรงค์คงไม่หลงกลติดกับ เขาไม่ต้องรอคิดทบทวนด้วยซ้ำ


“ไอ้ชายเอ็งรออยู่นี่ อยู่กับนีลาน่า ข้าจัดการเอง” สองเท้าก้าวยาวขึ้นบนเวทีทันที เพื่อไกล่เกลี่ยเจรจายุติความวุ่นวายที่เกิดขึ้นให้สงบลง  


‘เอ่อ.. ทุกท่านครับ..’


และเป็นอีกครั้งเมื่อเสียงดังจากไมโครโฟนหยุดความวุ่นวาย พาลูกค้าในร้านชะงักกึกและยอมสงบปากสงบคำชั่วครู่ รอฟังสถานการณ์ของผู้ป่าวประกาศอย่างลุ้นระทึก


‘ผมขอแสดงความเสียใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด คือ.. ทุกอย่างเป็นเรื่องเข้าใจผิดครับ ทางร้านจะขอชดเชยความผิดที่เกิดขึ้นทุกประการ โดยจะขอยุติการประมูลครั้งนี้ไปก่อนนะครับ’


‘ไม่เอาโว้ย! ประมูลต่อ!’


เสียงตะโกนต่อต้านโห่ดังขัดเสียงกึกก้องของไมโครโฟน ราวกับกำลังจะเกิดจลาจลครั้งใหญ่ บุรุษทั้งหลายที่หมายตาหมายใจยลสิ่งสวยงามตั้งใจแน่วแน่กับการทุ่มเงินประมูลครั้งนี้ โหวกเวกโวยวายไม่พอใจ เนื่องจากฤทธิ์น้ำเมาสร้างอารมณ์ปั่นป่วนทำให้แสดงความหงุดหงิดออกมาชัดเจน และด้วยสิทธิ์ของการเป็นลูกค้า เจ้าของสถานที่จึงไม่อาจขัดหากถือคติที่ว่าลูกค้าคือพระเจ้า


‘อยากได้ก็ประมูลแข่งสิวะ’ เสียงท้าทายดังตามพร้อมเตรียมต่อสู้กับศึกครั้งนี้เต็มที่


“โอ๊ย!! ตายแล้วเอาไงดีล่ะ ยัยขี้เหร่ ฉันจะช่วยเธอยังไงดี ไอ้พวกขี้เมาทั้งหลายไม่ยอมหยุด โอ๊ย!! อกสมชายจะแตกแล้ว!!”


นีลาน่าได้แต่นิ่งเงียบยอมรับชะตากรรมตนเองอีกครั้ง เมื่อเห็นบุรุษร่างใหญ่ก้าวเดินกลับมายืนข้างนางพร้อมส่งสายตาหมดหวัง


“ห้ามยกเลิกการประมูลเด็ดขาด หากล้มก่อนจบ พรีมจะทำให้ร้านนี้ล้มละลายเลยคอยดู” โทรศัพท์ถูกกดเบอร์ต่อสายยังผู้ควบคุมเวทีด้านหน้า.. พร้อมเสียงการประมูลเริ่มต้นอีกครั้ง..


‘35,000’


‘40,000’


การประมูลถูกยัดเยียดต่ออย่างไม่แยแสสิ่งใด พาเจ้าของสถานที่ถึงกับกุมขมับห่วงเรื่องวุ่นวายจะเกิดขึ้นกับร้านของตน สายตาเว้าวอนส่งตรงยังโต๊ะที่เป็นจุดสนใจราวขอโทษและรู้สึกผิดมหันต์


“เห็นไหมพรีมบอกแล้วว่าห้ามไม่อยู่ นีลาน่าของกันย์นี่ไม่เบาเลยทีเดียวดึงดูดสายตาดีจริงๆ”


“ยัยพรีม! ชายไม่คิดเลยว่าเธอจะร้ายแบบนี้”


“พรีมก่อเรื่องนี้งั้นเหรอ!!” แฟรงค์เหวี่ยงสายตามองตามยังบุคคลที่สมชายให้ความสนใจจ้องตาเขม็ง


พรีมาดาหัวเราะชอบอกชอบใจ ราวกับตนเองชนะทุกสิ่งเตรียมคว้าชัยชนะที่ต้องการ นี่หรือคนสำคัญของกันยวัฒน์ ช่างไร้ความหมายสิ้นดี หากหญิงสาวผู้นี้สำคัญจริงเขาคงจะมาโผล่อยู่ตรงนี้แล้วแต่เหตุใดยังไม่เห็นแม้แต่เงา เด็กบ้านนอกยังไงก็คงเป็นได้แค่นั้นอยู่วันยันค่ำ พรีมาดาหยิ่งผยองได้ใจ รอดูสถานการณ์จนกว่าการประมูลจะสิ้นสุด เธอยิ้มเหยียดพอใจกับแผนการที่วางไว้


‘45,000’


‘48,000’


‘48,000’ ครั้งที่หนึ่ง


‘49,000’


‘49,000’ ครั้งที่หนึ่ง


‘49,000’ ครั้งที่สอง


‘50,000’


‘50,000’ ครั้งที่หนึ่ง


‘50,000’ ครั้งที่สอง


‘50,000’ ครั้งที่... เสียงเงียบกริบรอลุ้นกันแทบหยุดหายใจ คงถึงวาระสิ้นสุดแล้วกับการประมูลโฉมงามครั้งนี้


‘60,000!’


ทุกสายตาเหลียวมองตามเสียงเย็นเยือกที่ดังจากประตูทางเข้า บุรุษร่างสูงเดินตรงยังแสงสว่างที่ส่องไสว พามนุษย์ทั้งหลายมองตามตลอดก้าวเดิน ดวงตาคมกริบไม่แสดงสิ่งใดนอกจากความเฉยชา แต่ในใจกลับตรงกันข้าม ร้อนระอุจนแทบระเบิดเป็นจุล เกือบไปแล้ว เขาเกือบมาช้าไป


“กันย์!!”


สมชายถอนใจโล่งอก คว้ามือนีลาน่าจับบีบไว้แน่นราวดีใจสุดกลั้น เต้นเร่าๆ ยกใหญ่ หากทว่านีลาน่าได้แต่หลบเลี่ยงสายตาดุดันคู่นั้นที่จ้องมองมาคล้ายโกรธเคืองสาหัส


“มีใครจะประมูลแข่งอีกหรือเปล่าครับ จะสูงกว่านี้เท่าไหร่ก็ได้ จะเป็นแสนหรือเป็นล้านผมก็สู้ ต่อให้ต้องทำงานใช้หนี้เงินประมูลมากแค่ไหนก็ยอม”


ทุกสิ่งรอบด้านหยุดนิ่งราวถูกแช่แข็ง อึ้งตามกัน มนุษย์ขี้เมาที่ออกเสียงโวยวายเมื่อครู่ถึงกับแสดงสีหน้าหงุดหงิดแต่ก็ยอมยุติโดยดี หากทว่าในใจส่วนลึกยังคงเสียดายความงดงามอยู่ไม่น้อย จบแล้ว จบสิ้นเรื่องราวความวุ่นวายเสียที พรีมาดากำมือแน่นกัดขบฟันด้วยความโกรธแค้น ยืนมองดูเหตุการณ์ทั้งหมดด้วยร่างสั่นเทา เธอเหวี่ยงสายตามองยังนีลาน่าด้วยความเกลียดชิงชังเข้ากระดูกดำ เธอกำลังจะเป็นผู้ชนะ แต่เวลานี้กลับตาลปัตรกลายเป็นแพ้อย่างราบคาบ


“ไอ้กันย์! เอ็งมาช้าไปหรือเปล่าวะ ข้าโทรตามตั้งนานแล้ว”


“สมชาย ไว้เราต้องเคลียร์กัน”


กันยวัฒน์ส่งเสียงเรียบนิ่ง แต่มันทำให้สมชายถึงกับสะดุงสุดตัว ยืนตาค้าง รอรับชะตากรรมที่ใกล้ขาดเต็มที  


“ไอ้แฟรงค์.. ฝากจัดการเรื่องต่อให้ด้วยนะ”


กันยวัฒน์คว้ามือบอบบางให้ก้าวเดินตามออกจากร้าน ละทิ้งความวุ่นวายทั้งหมดไว้เบื้องหลัง นีลาน่าได้แต่เดินตามต้อยๆ ไม่กล้าเอ่ยสิ่งใดออกมา เมื่อทั้งสองหลุดพ้นสถานที่กดดันยืนยังริมฟุตบาทหน้าร้านอาหารกึ่งผับแห่งนั้น บุรุษหนุ่มพยายามมองหารถแท๊กซี่ เนื่องจากก่อนเดินทางมาเขาติดภารกิจสำคัญเมื่อได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนสนิทจึงรีบขึ้นรถโดยสารมายังสถานที่เกิดเหตุ โดยไม่คิดถึงสิ่งใดทั้งสิ้น ความห่วงเพียงสิ่งเดียวคือนางที่ยืนอยู่ด้านข้างเวลานี้


นีลาน่าก้มหน้าก้มตาไม่กล้าสบมองบุรุษหนุ่มแต่อย่างใด ได้แต่รู้สึกผิดในใจ เพราะนางทำให้เขาต้องคอยเดือดร้อนทุกครั้ง ความรู้สึกผิดก่อตัวในใจไม่รู้รอบที่เท่าไหร่


“รถหายาก เดินตามผมมาก่อนแล้วกัน”


กันยวัฒน์ก้าวเท้าเดินนำ ออกคำสั่งให้เงือกพรายเดินตาม ระหว่างทางพื้นที่บนฟุตบาทละแวกนั้นเต็มไปด้วยร้านขายสุรา สิ่งมึนเมาเรียงรายตลอดทางเท้า มนุษย์โลกทั้งหลายที่กำลังหาความสำราญหันมองตามสิ่งสวยงามเหลียวหลัง บ้างดีดนิ้วเป่าปากส่งเสียงหยอกเย้า แซวสาวงามที่ก้มหน้างุดมองพื้นดิน นีลาน่ารีบสาวเท้ายาวพยายามเดินให้ทันร่างสูงเบื้องหน้า มือบางเอื้อมคว้าชายเสื้อเชิ้ตกำไว้แน่น เพราะมันพอจะทำให้นางอุ่นใจขึ้นมาได้บ้าง


ชายเสื้อรั้งดึงทำให้กันยวัฒน์รู้สึกตัว ชะลอความเร็วลงเล็กน้อย เขาถอนใจทิ้งก่อนเอื้อมมือยังด้านหลัง คว้าแขนบอบบางไปจับกุมไว้ พาเงือกพรายเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ คงอีกไม่ไกลรถแท็กซี่อาจจะหาง่ายกว่านี้ กันยวัฒน์พยายามปลอบใจตนเอง ไว้ถึงที่หมายเมื่อไหร่คงได้ซักไซ้เจรจาเรื่องราวทุกอย่างให้หายข้องใจ


“เจ้าโลกันต์..”


“...”


“เจ้าโกรธเคืองเราใช่หรือไม่”


“ทำไมถึงคิดว่าผมจะโกรธคุณ”


“ก็เจ้าตีหน้ายักษ์ใส่เรา”


กันยวัฒน์หยุดนิ่ง ทำเอาเงือกพรายที่ก้มหน้ามุดดินเดินตามหยุดฝีเท้าไม่ทัน ใบหน้าชนเข้ากับแผ่นหลังกว้างอย่างจัง นีลาน่าดึงมือออกจนหลุดพ้นพันธนาการ ยกมือขึ้นลูบหน้าผากกับจมูกโด่งเป็นสัน แรงกระแทกพานางเจ็บรอยแดงปรากฏบนผิวนวลเนียนจางๆ กันยวัฒน์ได้แต่ขำในใจและวางสีหน้านิ่งเฉยตามเดิม


นีลาน่าสบมองวงหน้าคมสันอย่างกล้าๆ กลัวๆ สีหน้าสลดของนางพาจิตใจที่ร้อนระอุเมื่อครู่เย็นลงเป็นปลิดทิ้ง กันยวัฒน์ได้แต่ระบายยิ้มจางๆ โดยไม่ให้นางตรงหน้าได้เห็น เขาคงจะดุจริงจังขนาดเงือกพรายยังหวาดกลัวได้เพียงนี้


“งั้นเราคุยกันตรงนี้เลยดีไหม”


“...” นีลาน่าเงยหน้าสบตากันยวัฒน์ชั่วครู่ก่อนก้มลงตามเดิม พยักหน้าบ่งบอกตกลง


“ทำไมคุณมาอยู่ที่นี่”


“คุณสมชายชวนเรามา เราก็เลยมา”


“คุณสมชาย..” กันยวัฒน์เลิกคิ้ว ทวนคำพูด มองนีลาน่าซึ่งพยักหน้ารับอีกเป็นครั้งที่สอง


“ใช่ คุณสมชาย”


“ถ้าอย่างนั้นผมคงต้องกลับไปจัดการไอ้คุณสมชายของคุณให้น่วม”


“ไม่! เราตามคุณสมชายมาเอง คุณสมชายไม่ผิด” น้ำเสียงใสเปล่งดังขึ้น นางคงปัดความผิดให้คุณครูผู้สอนรับโทษฝ่ายเดียวไม่ได้


“แล้วทำไมคุณถึงถูกส่งประมูล ครั้งที่แล้วตอนเป็นนางเงือกคุณยังไม่เข็ดหรือไงกัน”


“...” แววตาสั่นระรัว แสดงความหวาดหวั่นออกจากดวงตาสีฟ้ามรกตกลมโตคู่นั้น


“คนที่น่าจะรู้เรื่องที่สุดคงไม่พ้นไอ้คุณสมชาย เดี๋ยวผมจัดการต่อเอง แล้วทีนี่คุณรู้เหตุผลหรือยังว่าทำไมผมไม่อยากให้คุณออกไปไหน หากไม่มีผมไปด้วย”


นีลาน่าพยักหน้ารับราวกับเด็กน้อยว่านอนสอนง่าย พยายามทำความเข้าใจถึงสิ่งที่กันยวัฒน์ตั้งใจอธิบายให้นางรับรู้ เวลานี้นางรู้เต็มอกแล้วว่าเพราะเหตุใดเขาถึงตั้งกฏสร้างข้อบังคับขึ้นมา


“เอาล่ะ ผมจะไม่โกรธคุณ เพราะครั้งนี้คุณไม่ได้ตั้งใจจะมาทำให้เกิดเรื่องวุ่นวาย เดินต่อไหวไหมอีกไม่ไกลคงหาเรียกรถแท็กซี่ได้”


“เราเดินได้”


“อืม”


นีลาน่าเดินนำโดยมีร่างสูงย่างเดินตามต่อไปเรื่อยๆ จู่ๆ สายฝนเกิดโปรยปรายไม่รู้เนื้อรู้ตัวแต่อย่างใด ท้องฟ้าก็สว่างสดใสไม่มีตั้งเค้าของความมืดทมิฬ หรือส่งเสียงคำรามให้รับรู้ล่วงหน้าแม้แต่น้อย กันยวัฒน์คว้าแขนบางพาวิ่งหลบเม็ดฝนเข้ายังตู้กระจกข้างทางเพื่อหาที่กำบังโดยเร็วที่สุด


ตู้โทรศัพท์สาธารณะแบบหยอดเหรียญดูเก่าคร่ำครึ เนื่องจากมนุษย์ส่วนใหญ่สมัยนี้พัฒนาไปไกลพกโทรศัพท์ส่วนตัวโก้หรูคงน้อยคนนักที่จะพึ่งพาตู้เหล่านี้อีกหากไม่จำเป็นจริงๆ สภาพจึงดูเสื่อมโทรมตามกาลเวลา จะมีประโยชน์ก็ต่อเมื่อเจอเหตุการณ์ฉุกเฉินแบบนี้เพราะมันช่วยบังแดด บังลม กันฝนได้เป็นอย่างดี  


“มาไม่ให้รู้เนื้อรู้ตัว ไอ้ฝนบ้า”


เสียงต่อว่าต่อขานท้องฟ้าเบื้องบน ที่บังอาจโปรยปรายสายฝนให้ร่วงหล่นลงมายังพื้นดิน สร้างความเดือดร้อนให้มนุษย์โลกหลายๆ ชีวิต ซึ่งรวมถึงตัวเขาด้วยเช่นกัน


นีลาน่ายื่นมือออกนอกกรอบกระจกสัมผัสน้ำที่ตกลงมาเป็นสายไม่ขาดเม็ด มือบางเกิดขึ้นเลื่อมใสฟ้ามรกตห่อหุ้มผิวกายบางๆ เกิดเป็นประกายแวววาวจางๆ คล้ายผังพืดระหว่างนิ้ว พามนุษย์ที่มองตามนึกสลดในใจ นางคงคิดถึงบ้านเกิดเมืองนอนสินะ


“เอาไงดี รถก็ไม่มีผ่านซักคัน ฝนก็ไม่ยอมหยุด”


กันยวัฒน์เอ่ยพร้อมกวาดสายตามองรอบบริเวณพยายามหาหนทางแก้ไข สายตาปะทะเข้ากับร้านค้าซึ่งอยู่ไม่ห่างจากที่ยืนอยู่เท่าใดนัก ความคิดผุดขึ้นในสมอง


“รอนี่นะ ห้ามไปไหน เดี๋ยวผมมา”


นีลาน่าหลบเข้าด้านในปล่อยให้ร่างสูงเบี่ยงกายออกจากตู้โทรศัพท์ พร้อมวิ่งมุ่งหน้ายังร้านค้าที่อยู่ฝั่งตรงข้ามถนน ดวงตากลมกลิ้งทอดมองตามไม่กะพริบรอคอยกันยวัฒน์ต่อไป ไม่นานนักเขาก็กลับมาพร้อมร่มกันฝนหนึ่งคัน เกิดเป็นจุดสนใจสร้างความสงสัยกับนีลาน่า เจ้ามนุษย์โลกถือสิ่งใดติดมือกลับมา


“เจ้าถือสิ่งใดมาด้วย” ไม่ลังเล คำถามที่ตั้งไว้ส่งต่อยังบุรุษเบื้องหน้าทันที


“ร่ม.. ไปกัน ขืนรออยู่ตรงนี้คงไม่ได้กลับบ้าน”


นีลาน่าก้าวเดินขนาบข้างกันยวัฒน์พร้อมยกมือแตะสัมผัสด้ามจับขอมีส่วนร่วม มือแข็งแรงกระชับด้ามจับไว้มั่นพยายามเคลื่อนร่มให้พอดีกับร่างบอบบางเพื่อจะได้ไม่มีเม็ดฝนสาดกระเด็นใส่ ทั้งสองพากันก้าวเดินตามทางฟุตบาทไปเรื่อย ท่ามกลางสายฝนเทกระหน่ำไม่ขาดสายและไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเลยแม้แต่น้อย


“เจ้าโลกันต์..”


“ว่าไง”


“ร่างเจ้าเปียกชื้นหมดแล้ว” นีลาน่าพูดพลางดันร่มให้เคลื่อนย้ายไปทางกันยวัฒน์เพื่อที่เขาจะได้รับร่มเช่นกัน


“ไม่เป็นไรน่า ผมเป็นมนุษย์ธรรมดาที่โดนน้ำก็ไม่กลายร่าง ไม่เหมือนคุณนะ โดนน้ำแปบเดียวผิวหนังเกร็ดปลาโผล่ขึ้นมาหุ้มร่างกายแล้ว”


กันยวัฒน์ขยับร่มกลับที่เดิมเพื่อปกป้องพรายสาวจากเม็ดฝนโปรยปราย ร่างสองร่างก้าวเดินต่อไปข้างกันพร้อมร่มหนึ่งคันในมือ ทั้งหนาวสั่น ทั้งเยือกเย็น อยากถึงที่พักเต็มที


++++


รุ่งเช้าของวันใหม่ ปัญหาคับข้องใจของใครหลายคนยังไม่มีวี่แววลดลงจนต้องรีบเร่งมาแต่เช้าเพื่อขจัดความบาดหมางในใจให้หมดไป สมชายพร้อมแฟรงค์เกนสไตล์นัดหมายเจอกันยังที่อยู่อาศัยของเพื่อนสนิท มือระรัวกดกริ่งเพื่อส่งสัญญาณเตือนเจ้าของบ้านรับรู้การมาเยือน


กันยวัฒน์เดินหน้ามุ่ยยังประตูรั้วหน้าบ้าน เนื่องจากฝนตกหนักเมื่อคืนพาจะเป็นไข้ขึ้นมา ทั้งปวดกะโหลก ทั้งมึนงง สีหน้าดูอิดโรยชัดเจนจนเพื่อนสนิทสังเกตุเห็น


“กันย์!! กันย์ของชายไม่สบายหรือเปล่า”


น้ำเสียงตื่นตระหนกลืมตัวว่าเขาเองกำลังตกเป็นจำเลยรอไต่สวนคดีความ สายตาคมกริบจ้องมองอย่างดุดันทำเอาสมชายชะงักกลางอากาศพานึกถึงเรื่องราวเมื่อคืนที่ผ่านมาได้กะทันหัน จึงพลิกบุคลิกแปรเปลี่ยนสร้างท่าทางสงบเสงี่ยมเจียมตัวทันทีอย่างรู้ตัว


“นีลาน่าล่ะ เป็นไงบ้าง เมื่อคืนดูเธอผวานะ” แฟรงค์เกนสไตล์ถามไถ่ถึงหญิงสาวที่เขาห่วงใย


“อยู่บนห้อง”


บุรุษทั้งสามพากันเดินตรงเข้าด้านในของที่พักอาศัย กันยวัฒน์ยืนกอดอกพร้อมพิพากษาความคับข้องใจโดยมีแฟรงค์และสมชายเตรียมพร้อมเคลียร์ปัญหาค้างคาลดความกดดันที่เป็นอยู่เวลานี้ให้หมดสิ้น


“ว่ามาชาย เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น” กันยวัฒน์ไม่รอช้า ส่งคำถามทันที


“เมื่อวานชายมาอยู่กับยัยขี้เหร่แล้วมีโทรศัพท์นัดสังสรรค์ ชายก็เลยพายัยขี้เหร่ไปเปิดหูเปิดตาแค่นั้นเองล่ะ ไม่มีอะไร”


สมชายอึกอักไม่กล้าเอ่ยความจริงทั้งหมดเนื่องจากเขารู้ดีว่าเรื่องราวทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะพรีมาดา หากเขาบอกออกไปเรื่องคงไม่จบเพียงเท่านี้  


“แล้วนีลาถูกประมูลแบบนั้นได้ไง ถ้าแค่ไปสังสรรค์”


“เออ ไอ้ชายบอกมา ไม่บอกข้าจะเหยียบเอ็งให้มิดเท้า” แฟรงค์เกนสไตล์สมทบ พาสมชายหน้าถอดสี จะทำอย่างไรดี หรือเขาเองต้องยอมบอกเรื่องจริงทั้งหมด


“นี่ถ้าไอ้แฟรงค์ไม่บังเอิญไปรับงานที่นั่น หรือไม่เผอิญโผล่ไปพอดี ไม่รู้ป่านนี้นีลาจะเป็นไงบ้าง”


“ชายขอโทษกับเรื่องทั้งหมดแล้วกัน คราวหน้าคงไม่มีเหตุการณ์แบบนี้อีกแล้ว ต่อไปนี้จะไม่พายัยขี้เหร่ออกไปไหนถ้ากันย์ไม่อนุญาต”


“เออไอ้ชาย.. ข้าถามจริง เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับพรีมหรือเปล่า” คำพูดของเพื่อนสนิทสะกิดใจกันยวัฒน์ ทำไมชื่อคนรักเก่าถึงต้องเข้ามาพัวพันเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้


“เอ่อ.. คือชาย.. ชายคิดว่า..”


“เอาล่ะ.. เรื่องมันผ่านไปแล้วก็ให้มันจบไป คราวหน้าจะทำอะไรต้องระมัดระวังให้มากขึ้น” กันยวัฒน์ตัดบท


“ไอ้กันย์.. เอ็งต้องเคลียร์เรื่องนี้ให้จบ ข้าไม่อยากให้นีลาน่าโดนหางเลข เธอไม่รู้เรื่องอะไรด้วย ข้าว่าเป็นเพราะเอ็ง พรีมเลยหาทางเล่นงานนีลาน่า”


ความเงียบยึดพื้นที่ กันยวัฒย์พยายามคิดตามคำพูดของเพื่อน คงเพราะความใกล้ชิดระหว่างเขากับเงือกพรายจึงทำให้คนรักเก่าเกิดความไม่พอใจ พลันหางตาเห็นใครบางคนลอบมองอย่างมีพิรุธหน้าที่พักอาศัย เขาค่อยๆ เคลื่อนกายไปทางบานหน้าต่างสำรวจความคุ้นเคย


“เห้ย.. ไอ้บ้าที่ยืนซุ่มอยู่หน้าบ้านมันช่างถ่ายภาพคนในงานหมั้นนิหว่า”


“ใครวะ” แฟรงค์เกนสไตล์ถามพร้อมลุกเดินยืนข้างเพื่อน


“อะไรกันเหรอหนุ่มๆ” สมชายเกิดใคร่รู้อยากเห็นบุคคลดังกล่าวขึ้นมาบ้าง จึงค่อยๆ ก้าวไปยืนหลบมุมหน้าต่างสอดส่องร่วมอีกคน


“อ้าว.. ไอ้คนนี้เมื่อคืนข้าเห็นมันเดินตามหลังเอ็งออกไปนิหว่าไอ้กันย์”


“ใช่ๆ ชายก็เห็น”


“คนนี้เป็นช่างภาพมืออาชีพ ที่อยากได้นีลาไปถ่ายแบบ แล้วพรีมก็เคยมาเอ่ยปากช่วยติดต่อด้วยอีกที ตามมาถึงบ้านแบบนี้ ชักแปลกแล้วล่ะ”


“เออ ระวังตัวด้วยล่ะ เห็นว่าเพื่อนพรีมหลายคนเป็นนักข่าว หากพรีมไม่หยุดทำตัวเหลวไหลข้าว่าต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับนีลาน่าอีกแน่ ยังไงเอ็งต้องจัดการให้เด็ดขาด อย่าให้นีลาน่าโดนอะไรแบบเมื่อคืนอีกนะไอ้กันย์ ไม่งั้นข้าเอาเอ็งตายคาเท้าแน่รับรอง”


แฟรงค์เกนสไตล์สมทบเสียงแข็งพร้อมแสดงสีหน้าห่วงใย พากันยวัฒน์หวั่นใจไม่เป็นสุข เรื่องราวบ้าบอเมื่อไหร่ถึงจะจบสิ้นเสียที แล้วเขาต้องจัดการอย่างไรหลังจากนี้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอะไรขึ้นกับพราวสาวที่เขาต้องรับผิดชอบดูแล



++++



“ไอ้กันย์ข้าคุยด้วยหน่อยว่ะ”


เพื่อนสนิททักทายเมื่อเห็นกันยวัฒน์ก้าวเดินเข้ามายังห้องพักนักดนตรีคล้ายมีปัญหาหนักอกหนักใจสาหัสอีกครั้ง กับหน้าที่การงานก็ต้องรับผิดชอบ ปัญหาโลกแตกต่างๆ ก็ต้องหาหนทางคิดหนักกับวิธีแก้ไข คืนนี้เพื่อนสนิทยังทำท่าทางราวกับมีเรื่องคอขาดบาดตายให้ปวดสมองเพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องรับรู้


“มีไร”


“เอ็งปิดโทรศัพท์ทำไม ข้าติดต่อทั้งวันก็ไม่ได้ โทรเข้าบ้านไอ้สมชายก็บอกเอ็งไม่อยู่”


“อืม.. ปิดไว้ เพราะไม่จำเป็นต้องใช้อะไร ว่าแต่ทำไมต้องเร่งด่วนติดต่อข้าด้วยไอ้แฟรงค์”


“ตอนนี้เกิดเรื่องว่ะ”


“เรื่องอะไร มีไรก็พูดมา ยืดเยื้อน่ารำคาญน่า”


“พรีมไม่สบาย แล้วไม่ยอมให้ใครดูแลคงยกเว้นเอ็ง เธอบอกอยากเจอเอ็ง ตอนนี้พรีมอยู่ที่คอนโด ข้าว่าเอ็งควรไปเพื่อเคลียร์เรื่องทุกอย่างให้จบซะทีไอ้กันย์ อย่างให้คาราคาซังนาน จะเอาไงก็พูดๆ ไปเลยให้มันจบ”


อีกแล้ว.. เมื่อไหร่เรื่องราวของผู้หญิงคนนี้จะจบเสียที ทำไมต้องมีมาวนเวียนจิตใจสร้างความคลุ้มคลั่งกับสมองไม่หยุดหย่อน แล้วสมควรหรือไม่ที่เขาต้องไปหาคนรักของผู้อื่น ในเมื่อเธอก็หมั้นหมายเป็นเรื่องเป็นราวไปแล้ว


“...”


“อย่าว่าข้าวุ่นวายเลยนะ พรีมคงป่วยเพราะตรอมใจเรื่องเอ็งจริงๆ ไปดูใจหน่อยดีไหมวะ แล้วจะจัดการยังไงก็คุยกันให้รู้เรื่อง”


กันยวัฒน์กำหมัดแน่นคิดหนัก ความคิดสองด้านต่อต้านกันเอง อีกไม่นานเขาคงได้กลายเป็นคนบ้า หรือไม่ก็จิตใจฟั่นเฟือนเข้าให้สักวัน


“ปัดโธ่เว้ย!!” เสียงสบถเอ่ยดังก่อนร่างสูงหันหลังกลับ เดินออกจากห้องรับรองนักดนตรี


++++


โปรดติดตามตอนต่อไป..

แก้ไขเมื่อ 05 ธ.ค. 55 18:30:19

แก้ไขเมื่อ 04 ธ.ค. 55 19:29:25

จากคุณ : มาโซคิส
เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 55 18:25:09




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com