หาดใหญ่-ช่างเฟอร์นิเจอร์ที่รู้จัก

ยังจำเพื่อนรุ่นน้องโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น
ชื่อเล่นว่า เต็ก ตัวอ้วนล่ำ ผิวดำคล้ำ แบบเรียกกันว่า จีนดำ
เพราะมีพ่อเป็นจีน แต่แม่เป็นลูกครึ่งจีนกับไทย
รวมทั้งอาจเป็นเพราะชอบเล่นกีฬากลางแจ้งก็ได้

เต็ก หลังจากจบโรงเรียนมัธยมแล้ว
ไปเรียนต่อโรงเรียนช่างกลอุตสาหกรรมที่บางกอก
มีเรื่องเล่าการวิ่งหนีการไล่ตีของโรงเรียนคู่อริ
มาเล่าสู่กันฟังเสมอเพราะแกไม่ชอบการต่อยตีอยู่แล้ว
จบแล้วพยายามจะเรียนต่อรามคำแหง
แต่ก็ไม่พบกับความสำเร็จในการเรียนแต่อย่างใด
เลยต้องกลับมาช่วยบ้านค้าขายสินค้าในตลาด

สักพักน้าชายเลยชวนให้ไปช่วยงานโรงงาน
โรงงานทำเฟอร์นิเจอร์ของน้าชายที่หาดใหญ่
ซึ่งทักษะจากงานช่างกลก็ช่วยได้มากในส่วนนี้
ในการวัดการตัดการออกแบบและการดูแบบชิ้นงาน
หรือภาษาช่างชอบพูดว่า ยาวตัด สั้นต่อ ไม่พอซื้อ
ทำให้สามารถควบคุมการทำงานของลูกน้อง
และทำงานตามมอบหมายได้ตามที่ผู้ว่าจ้างต้องการ
กอปรกับคนอ้วนส่วนมากมักจะมีอารมณ์ดีและอารมณ์ขัน
ทำให้งานการราบรื่นและไม่มีปัญหาอย่างใด

ไม่ช้านานก็เหมือนกับวงดนตรีลูกทุ่งคือ
ดังแล้วต้องแยกวงเป็นธรรมดา
เต็กเลยแยกตัวออกมาตั้งโรงงานเฟอร์นิเจอร์เอง
ธูรกิจไปได้ดีในช่วงแรกเพราะอาศัยเพื่อนฝูงโรงเรียนเก่า
ช่วยบอกต่อ ๆ กัน รวมทั้งแม่ของแกในตลาด
ช่วยกันทำการตลาดแบบปากต่อปาก
กับสมัยนั้นยังไม่เฟอร์นิเจอร์สำเร็จรูปแบบปัจจุบันมาแข่งขัน
หรือมีการทุ่มตลาดจากการนำสินค้าจากจีน
เข้ามาแข่งขันหรือมีสินค้าเฟอร์นิเจอร์แบบประกอบ(น็อคดาวน์)
กับราคาเฟอร์นิเจอร์รับทำยังจัดว่าไม่แพงมากนัก

เต็กมีปัญหาบางอย่างเช่นกันในการรับเหมาเฟอร์นิเจอร์
เช่นข้อตกลงต้องการไม้กระดานหนาเพื่อทำที่รองรับสินค้า
แกมักจะลูกเล่นใช้ไม้อัดแบบหนาแบบสิบเซ็นต์ขึ้นไปตีปิดทาสีดำทับแทน
ในบางส่วนของชิ้นงานเฟอร์นิเจอร์ที่ลับหูลับตาหน่อย
เพื่อลดต้นทุนเวลาลูกค้าไม่ทันสังเกต
ทำให้มีปัญหากับลูกค้าที่เนียนมาก (ละเอียดมาก)
ปัญหานี้เคยเจอกับบ้านเพื่อนหลังหนึ่ง
ตกลงต้องลดราคาค่ารับเหมาลงมาบางส่วน
แต่ก็เรียกว่าไม่ถึงกับเข้าเนื้อหรือขาดทุน

รองลงมาคือปัญหาเงินทุนหมุนเวียนไม่พอ
ต้องไปกู้ยืมเงินจากนายทุนที่เป็นพี่สาวเพื่อน
โดยการขายลดเช็คในอัตราหมื่นละสิบบาทต่อวัน
เช่น ยืมเงินสองหมื่นต้องจ่ายดอกเบี้ยเดือนละหกร้อยบาท
ถ้าเช็คเด้งจะถูกแจ้งความกับตำรวจให้จับคดีอาญาแถมให้
เป็นการบีบลูกหนี้ให้รีบจ่ายเงินตามเช็ค

มีครั้งหนึ่งเต็กชวนผมไปเป็นเพื่อน
เื่พื่อไปหาพี่สาวเพื่อนคนนี้ที่ปล่อยกู้ด้วยเช็คค้ำประกัน
เพื่อขอกู้ยืมเงินสองหมื่นมาใช้ในธุรกิจ
คุยไปคุยมาพี่สาวของเพื่อนจะให้ผมสลักหลังเช็ค
เท่ากับเป็นการค้ำประกันหนี้ตามเช็คด้วย
แต่ผมไม่ยอมเซ็นให้และปฏิเสธไปเพราะ
เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่รองนั่ง เอากระดูกมาแขวนคอ
รวมทั้งช่วงนั้นทำงานที่ธนาคารไทยแห่งแรก
ต้องทำความเข้าใจกฎหมายและหลักประกัน
ยิ่งทำให้กลัวการค้ำประกันเข้าไปใหญ่
เลยตอบไปว่า การปล่อยเงินกู้ควรเป็นเรื่องระหว่างผู้ให้กู้กับผู้กู้
พิจารณาว่ากล่าวกันเองเห็นสมควรปล่อยก็ปล่อย
เห็นว่าไม่สมควรก็อย่าปล่อยหนี้
เงินดังกล่าวผมก็ไม่ได้มีส่วนได้เสียแต่อย่างใด

เรื่องค้ำประกันของเมืองไืทย
จะแตกต่างกับทางมาเลย์
เหล้าขาว เคยเล่าให้ผมฟังและทำให้เข้าใจว่า

เรื่องของเหล้าขาว เขียนในเรื่องชีวิตชายแดนปาดังเบซาร์

http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2009/06/W7929935/W7929935.html

หลายปีก่อนที่สินค้าชายแดนหาดใหญ่ดังมาก
ในการปล่อยเครดิตสินค้าชายแดน(ของหนีภาษี)
จากปาดังเบซาร์ให้กับพ่อค้าในหาดใหญ่
ร้านค้าในสันติสุข หรือตลาดยงดี
พ่อค้าแม่ขายรับสินค้าแล้วไม่จ่ายเงินสดขอเครดิต
ต้องหาคนค้ำประกันการจ่ายเงินตามงวดการจ่ายเงินด้วย
โดยคนค้ำประกันจะได้รับเปอร์เซ็นต์ในการค้าประกันลูกหนี้
ที่ได้รับการปล่อยเครดิตจากสินค้าชายแดน
ขาดี ๆ ร้อยละห้า ขาเน่า ๆ ร้อยละยี่สิบ
หมายความว่า ถ้าลูกหนี้จ่ายเงินค่าสินค้าหนึ่งแสนบาท
คนค้ำประกันจะได้รับค่าเสี่ยงภัยหรือค่าค้ำประกันห้าพันบาท
แต่ถ้าขาเน่าก็ตกประมาณสองหมื่นบาท
ถ้าหนี้เสียคนค้ำประกันต้องจ่ายเงินก่อน
แล้วไปไล่เบี้ย/ไล่บี้กับลูกหนี้แทนคนให้เครดิตแทน

การเป็นคนเดินโพยหวยหริอขายหวยมาเลย์

เรื่องหวยมาเลย์

http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2009/08/W8265998/W8265998.html

ก็หลักการเช่นเดียวกันไม่ใช่ใครก็ได้
จะขอขายหวยมาเลย์ได้ง่าย ๆ เลย
ต้องมีคนค้ำประกันเช่นเดียวกันในการขายหวยมาเลย์
ให้กับเจ้ามือในตลาดปาดังเบซาร์หรือเจ้ามือในมาเลย์
ที่ทราบเรื่องนี้ดี เพราะเพื่อน ๆ กับเพื่อนรุ่นน้องในสมัยหนึ่ง
ให้พาไปหาเหล้าขาวแบบอยากขายหวยมาเลย์มาก
แต่พอเจอเงื่อนไขต้องมีคนค้ำประกันขึ้นมา
ไม่มีใครหาญกล้าเป็นคนค้ำประกัน
เพราะหวยมาเลย์ได้เสียกันอาทิตย์สามวันอย่างต่ำ
มีวันพิเศษอีก ทั้งไทยทั้งมาเลย์เรียกว่าเล่นกันสนุก
เกิดคนเดินโพยไม่จ่ายเงินครบ
หรือนำเงินไปหมุนเองไม่นำเงินมาให้
คนค้ำประกันจะเดือดร้อนก่อนเป็นคนแรก
เพราะมีคำพูดกันเล่น ๆ แต่จริงจังเลยว่า
เงินค่าหวยเหมือนเงินกู้ยืมยมบาลทีเดียว

เรื่องกู้เงินทำให้เข้าใจหลักเศรษฐศาสตร์ชาวบ้านได้ว่า
ช่วงค้าขายดีดอกเบี้ยแพงเท่าไรก็มีคนกล้ากู้ยืม
เพราะซื้อง่ายขายคล่องหาเงินมาจ่ายได้ง่าย ๆ
แต่เศรษฐกิจไม่ดี ทั้งคนกู้เงินกับคนปล่อยเงินกู้
ต่างคนต่างวิตกจริตซึ่งกันและกันในภาวะเศรษฐกิจ
ทำให้ไม่กล้ากู้เงินหรือปล่อยเงินกู้แต่อย่างใด

เต็กได้เงินกู้ไปแล้วก็ไปใช้ในธุรกิจส่วนหนึ่ง
แต่อีกส่วนไปใช้จ่ายในสถานบันเทิงยามราตรี
เรียกว่ากินแบบเสี่ยจ่ายแบบเสี่ย
ให้กับนักร้องเด็กเสริฟตามคาเฟ่ทีเดียว
ที่รู้เรื่องนี้ดีเพราะเคยไปฉลองชัยกับเต็กครั้งหนึ่ง
แม้ว่าเพื่อนจะเคยเล่าให้ฟังมาบ้างแต่ไม่ค่อยเชื่อ

งานฉลองชัยครั้งนั้นคือ
ตามพบมอเตอร์ไซด์​ที่หาย
มีครั้งหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่มีต้นศรีตรังเป็นสัญลักษณ์
มีการจัดงานดนตรีเพื่อชีวิตให้ชมฟรี
เต็กขับรถมอเตอร์ไซด์ไปด้วย
หลังจอดเสร็จเข้าชมออกมารถหายไปแล้ว
ไปแจ้งความที่โรงพักหาดใหญ่
ตำรวจเลยแซวว่า ค่าตั๋วแพงกว่าชาวบ้าน
ค่าชมครั้งนี้ค่าตั๋วห้าพันกว่าบาท
(ราคารถมือสองตามสภาพที่ขับและท้องตลาด)

เรื่องนี้ผ่านไปร่วมสองปีแล้ว
วันนั้นคุยกันเล่น ๆ เลยพูดถึงเรื่องรถหายขึ้นมา
มีการบอกเบอร์รถของเพื่อนอีกสองคัน
เลยจดเล่น ๆ ใส่ในสมุดบันทึกแบบเครื่องคิดเลข
ถ้าจำไม่ผิดยี่ห้อ Citizens
ขนาดเท่านามบัตรหนาประมาณหนึ่งเซ็นติเมตร
เก็บข้อมูลพวกเบอร์โทรศัพท์กับชื่อได้จำนวนหนึ่ง
(เครื่องนี้ไม่ทราบว่าหายไปไหนหรือลอยไปกับน้ำท่วมแล้ว)

มีอยู่วันหนึ่งต้องเอารถมอเตอร์ไซด์
ไปจอดแถวหอพักชายในมหา'ลัย
เพราะบริเวณจัดงานไม่มีที่จอดรถแล้ว
เจอรถมอเตอร์ไซด์คันหนึ่งเก่ามาก
ฝุ่นเกาะเต็มเบาะสภาพไม่มีการใช้งานนานแล้ว
ผมลองเอาเครื่องบันทึกเปิดดูเล่น ใช่เลยรถเต็ก
เลยขับมอเตอร์ไซด์กลับบ้านตามหาเต็ก
แล้วบอกเบอร์รถมอเตอร์ไซด์กับที่ตั้ง
(ยุคนั้นยังไม่มีมือถือเพราะเป็นอะไรที่แพงมาก)

เต็กพาตำรวจโรงพักหาดใหญไ่ปเอารถคืน
ถามนักศึกษาแถวนั้น
ต่างคนต่างบอกว่าไม่รู้ว่าใครเป็นคนมาจอดไว้
เห็นจอดทิ้งไว้นานมากแล้ว
เลยสงสัยสองประเด็นคือ
คนเอารถมาคิดว่าของเพื่อนขับมาจอดแล้ว
พอรู้ว่าเป็นรถคนอื่นเลยไม่กล้านำไปใช้อีก
หรือเต็กหลงลืมที่จอดรถมอเตอร์ไซด์ก็ได้

คืนนั้นเลยฉลองชัยตามหารถพบเจอ
จึงพบเห็นจริงกับคำบอกเล่าของเพื่อน
ว่าแกใช้จ่ายเงินอย่างกับเสี่ยทีเดียว
ไม่ใช่ทำเพื่ออวดเพื่อนแต่อย่างใด
หลังงานนั้นก็ไม่ได้ไปกับแกอีก
เพราะภาระงานและกลุ่มเพื่อนที่นิยมไปไหนมาไหนด้วยกัน
เป็นกลุ่มชอบดื่มสุราแบบเงียบ ๆ
และชื่นชอบธรรมชาติภุเขาน้ำตก (ยกเว้นทะเล)

แก้ไขเมื่อ 04 ธ.ค. 55 23:47:43

จากคุณ	: ravio
เขียนเมื่อ	: 4 ธ.ค. 55 23:46:27

bookmark

เก็บเข้าคลังกระทู้

ส่งต่อกระทู้

พิมพ์

หน้าหลัก

กระทู้ก่อนหน้า

กระทู้ถัดไป