บทที่ ๒๓
วันนี้อาจเป็นครั้งแรกในการพบกันในเมืองไทยที่อราลีรู้สึกว่าวันเวลาระหว่างเธอและเคมินกลับมาเหมือนวันเก่าๆ ที่เคยพบกันในปางแก้ว เพราะเธอกับเขากำลังเดินทางไปต่างจังหวัดด้วยกันบนเส้นทางที่ไม่มีใครภายนอกรับรู้ และวันนี้ท่าทีของ นายน้อยแห่งปางแก้ว ก็ดูผ่อนคลายไปมากนับจากวันแรกที่ได้พบกับเขาโดยไม่คาดฝันในงานประชุมครั้งนี้
ในวันแรกเคมินนับเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของเหล่าหน่วยงานต่างประเทศและภาครัฐที่มาเข้าร่วมประชุม ในวันถัดๆ มาแม้ว่าเขาจะไม่ได้ขึ้นไปอภิปรายอะไรอีก แต่ก็อาจกล่าวได้ว่าเขาเป็นที่หมายตาที่สุดของเหล่าสื่อมวลชนและองค์กรต่างๆ ดังเช่นนักข่าวที่ดาหน้าเข้ามาขอสัมภาษณ์เขาไม่เว้นแต่ละวัน และเคมินก็ต้องอะลุ้มอล่วยให้คนเหล่านั้นได้สัมภาษณ์อย่างทั่วถึงด้วยบทบาทโฆษกที่ติดตัวมา แม้หญิงสาวจะรู้นิสัยเขาดีว่าเคมินค่อนข้างเป็นคนไม่ชอบเปิดเผยตัวต่อสาธารณะ แต่ในเมื่อเขาถูกเลือกให้ก้าวมาสู่แสงสว่าง.. เคมินก็ถูกฉายแสงเสียจนเจิดจ้า
ยิ่งกว่านั้น ฉายานาม White Opium Prince ที่เขาส่ายหน้าไม่ใยดีก็กลับกลายเป็นนิยามประจำตัวเขาที่แพร่หลายในหมู่สื่อมวลชนอย่างช่วยไม่ได้
ตกลงเขาเป็นเจ้าชายมาจากเขตปกครองพิเศษวายัณรึเปล่า อราลี? แม้แต่ไบบา นายใหญ่ของเธอยังแอบกระซิบถามในที่ประชุม ฉันไปได้ยินพวกนักข่าวเรียกเขาว่าเจ้าชายฝิ่นขาว คิดอยู่นะว่าน่าจะเป็นฉายา แต่ก็นึกอยากรู้
ไม่หรอกค่ะ เขาก็แค่เป็นหลานนายพลซอหม่องลูซึ่งเป็นตัวตั้งตัวตีของแผนการขจัดฝิ่นในวายัณ คุณตาเขาจึงมีฉายาว่าขุนพลฝิ่นขาว เขาเลยพลอยถูกเรียกว่าเจ้าชายฝิ่นขาว ว่าแต่ทำไมคุณมาถามฉันล่ะคะ? อราลีเลิกคิ้วกลับ
นายสาวใหญ่มองหน้าลูกน้องสาวด้วยสายตารู้ทัน
ก็ฉันแน่ใจน่ะสิว่าเธอจะต้องตอบได้ เพราะหลายวันที่ผ่านมา..ได้ยินว่าเคมินจองตัวเธอทานมื้อเช้าและมื้อเที่ยงแทบจะตลอด!
หญิงสาวถึงกับเถียงไม่ออก.. วันแรกที่ได้พบกันอีกครั้งในที่ประชุมเธอกับเคมินอาจยังตั้งตัวไม่ถูกว่าจะพบพูดคุยกันอย่างไร แต่สุดท้ายแล้วทุกอย่างก็กลายเป็นว่า เคมินตามมาพบหน้าเธอทุกครั้งในตอนเช้าและพักเที่ยง และมันก็เป็นภาพที่ทุกคนเห็นเหมือนกันเป็นมติเอกฉันท์.. ว่าระหว่างโฆษกของพรรควายัณกับเจ้าหน้าที่องค์กรระหว่างประเทศที่ชื่ออราลีนั้น มีลุ้น แน่นอน
และถ้าขืนมีใครรู้ว่าในวันหยุดอย่างนี้ อราลีกำลังนั่งรถมากับเคมินกันเพียงสองคนล่ะก็.. หญิงสาวไม่อยากจะคิดเลยว่าคนอื่นเขาจะคิดไปถึงไหนต่อไหน ว่าแล้วก็อยากมองคนข้างๆ อย่างเคืองนัก.. โทษฐานทำทุกอย่างตามใจตัวเอง!
เป็นอะไรรึเปล่า มองหน้าผมเหมือน..ไม่ค่อยพอใจ ขนาดกำลังขับรถอย่างตั้งใจ คนอย่างเคมินยังรับรู้ได้ทางปลายสายตาว่าคนนั่งข้างมีปฏิกิริยาอย่างไร
หน้าฉันคงเต็มใจแต่แรกเลยมั้งคะ เธอไม่วายประชด ถ้าไม่เพราะเข้าใจว่าคุณอยากเจอหน้าพ่อของตัวเอง.. ฉันคงไม่มากับคุณหรอกนะ ว่าแต่ทำไมไม่พาคนอื่นมาด้วยบ้างคะ? ต้าหมิง พุมมา ยูเจียง อย่างน้อยจะได้ไม่ต้องมีกันแค่สองคนบนรถอย่างนี้
ก็อย่างนี้ล่ะที่ต้องการ ชายหนุ่มตอบเสียงรื่น บางครั้งก็รำคาญคนตามหน้าตามหลัง อยู่ในวายัณจะไปไหนนอกจากปางแก้วต้องมีคนติดรถไปด้วยเสมอ ถึงจะอึดอัดใจบ้างแต่ก็ต้องมีเพราะคุณตาสั่งไว้ ถึงอย่างนั้นคนติดตามผมน่ะยังน้อยนะ ถ้าระดับเจ้าพ่อค้ายาที่ซ่อนตัวแถบนั้นล่ะก็ ไปไหนมาไหนทีมีมือปืนคุ้มกันหน้าหลังเป็นขบวน
คุณเคยเห็นพวกเขาเหรอคะ?
ถ้าคุณอยู่แถวสามเหลี่ยมทองคำแต่ไม่รู้เรื่องราวเกี่ยวกับคนพวกนี้เลยก็แสดงว่าหูหนวกตาบอด เคมินยักไหล่ มาเฟียค้ายาเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับแถบนั้นมานาน คนเก่าหมดอำนาจ..คนใหม่ก็ก้าวขึ้นมาแทนที่ แต่ไม่มีวันไหนที่คนพวกนี้จะหายสาบสูญไปได้ง่ายๆ อย่างเมื่อก่อนขุนพลกองกำลังกู้ชาติไทยใหญ่คนนึงชื่อดังกระฉ่อนเรื่องค้ายา พอหมดยุคเขาก็กลายเป็นว่าวายัณทั้งก๊กค้ายา
นั่นคงเป็นเหตุผลให้วายัณส่งคุณมาร่วมงานประชุมนี้ละมั้งคะ และคุณก็ทำให้คนในห้องประชุมได้เข้าใจว่าเครือข่ายค้ายาเสพติดเป็นเรื่องของกลุ่มคนมีอำนาจหลายเชื้อชาติร่วมมือกัน วายัณอาจมีส่วน.. แต่พวกคุณก็ไม่ได้ทำทั้งหมด และพวกคุณก็ต้องการความช่วยเหลือ..
เคมินพยักหน้าเมื่อได้ยินเช่นนั้น คุณคงรู้จุดประสงค์นี้ของผมก่อนใครตั้งแต่วันที่เราพบกันในปางแก้วแล้ว
แต่ฉันก็ยังติดใจสงสัยอยู่เรื่องนะคะ อราลีเอ่ยเสียงครุ่นคิด คุณบอกเองว่าแถบสามเหลี่ยมทองคำนั้นมีกลุ่มเจ้าพ่อตั้งตัวเป็นใหญ่ค้ายาเสพติดมากมาย วายัณเองก็เป็นเขตปกครองในแถบนั้น แถมคุณบอกเองว่าคนพวกนี้ไม่หายไปง่ายๆ แล้วอย่างนั้นสิ่งที่พวกคุณพยายามทำ..คืออะไร?
ทำเขตของเราให้ สะอาด กว่าเดิม เคมินตอบเสียงจริงจัง เราไม่อาจขจัดยาเสพติดอย่างหมดจดได้หรอกในดินแดนแถบนี้ ผมเสียใจที่จะต้องบอกคุณว่ามันเป็นเรื่องหนักหนาเกินไปที่เราจะทำได้ แต่ในเมื่อเรามีอำนาจพอในเขตแดนของเรา เราก็จะทำ ที่สำคัญ..คนของเราต้องได้รับการพัฒนา
หญิงสาวนิ่งงันไปอย่างพอเข้าใจ.. เคมินเองก็ตระหนักดีว่าอิทธิพลมืดแห่งสามเหลี่ยมทองคำนั้นรุนแรงเกินกว่าที่เขาจะต่อกรได้ทั้งหมด พวกเขาจึงเลือกจะอยู่ในระดับที่ตนเองจัดการได้
แต่ถึงอย่างนั้น.. อราลีเปรยอย่างใช้ความคิด ฉันก็อยากให้ผู้คนละแวกใกล้เคียง.. คนชนเผ่าอื่นที่ไม่ใช่วายัณแต่อยู่แถบนั้น พวกเค้าก็ควรจะได้รับการดูแลเช่นเดียวกันนะคะ ไม่อย่างนั้นจะเกิดความเหลื่อมล้ำทางสังคม
ผมชักเชื่อแล้วว่าคุณเป็นคนเกิดมาเพื่อคนอื่น และคุณไม่ได้จำกัดแค่คนกลุ่มเดียว.. คุณเกิดมาเพื่อทุกคน ชายหนุ่มคลี่ยิ้ม วางใจเถอะ คนของเราที่ว่าผมไม่ได้หมายถึงแค่วายัณ เพราะในเขตเราเองก็ใช่ว่าจะมีแต่คนวายัณ คนไทยใหญ่ คนจีนยูนนานหรือชาวเขาเผ่าต่างๆ ก็อยู่ในเขตวายัณไม่น้อย แถบนั้นเราอยู่กันแบบผสมผสานเผ่าพันธุ์นานแล้ว ขนาดผมนี่สิ ยังมีเชื้อสายไทยครึ่งนึงแบบคุณเลย เพียงแต่ว่าผมดันไม่คุ้นภาษาและวัฒนธรรมไทยเลยเสียอย่างนั้น
เคมินแวะเติมน้ำมันที่สถานีบริการแห่งหนึ่ง และอราลีก็ใช้เวลานั้นเดินเข้าไปในร้านขายของสะดวกซื้อภายใน เมื่อไม่เห็นว่าเขาเข้ามาในร้านดังกล่าวจึงตัดสินใจซื้อเครื่องดื่มและขนมกินเล่นติดรถเผื่อเขาไว้บ้าง
เราน่าจะมาได้เกือบครึ่งทางแล้วใช่ไหม เคมินเอ่ยระหว่างที่รถเริ่มแล่นต่อไป เขาบอกไว้ว่าอะไรนะ เจอกันที่ตัวเมืองน่านได้เลยใช่ไหม แล้วเขาจะออกมารับ
ค่ะ เขาบอกให้โทร.ติดต่อเขาไว้ตลอดก็ได้ แล้วเขาจะพยายามออกมารับเราสองคน เธอพยักหน้า พ่อของคุณ.. เขาเป็นคนจังหวัดนี้เหรอคะ?
เท่าที่รู้ ดูเหมือนเขาย้ายมาจากเชียงใหม่มากกว่า เคมินรับเท่าที่เคยรับรู้ ผมรู้แค่ว่าแม่กับพ่อเจอกันที่เชียงใหม่ หลังเลิกกันพ่อก็คงจะมี..ครอบครัวแถวนั้น แต่ที่เขาย้ายมาที่นี่ดูเหมือนจะเป็นช่วงหลังๆ ที่เขาย้ายมาพักผ่อนที่นี่ และก็เป็นช่วงที่เขาเริ่มพยายามติดต่อผมอีกครั้งหลังจากขาดการติดต่อไปพักใหญ่ เขาส่งจดหมายหาผมหลายฉบับจากที่นี่
ก็นับว่า.. เขายังมีความพยายามนะคะ อราลีพยักหน้า.. อย่างน้อยจากที่ฟังเสียงตอนโทร.ไปหานั้น เธอก็คิดว่าชายสูงวัยคนนั้นออกจะตื่นเต้นเอามากๆ ที่เคมินซึ่งไม่เคยติดต่อกลับกำลังจะมาพบหน้าเป็นครั้งแรก
รู้สึกยังไงบ้างคะ? กำลังจะได้พบหน้าคนที่คุณไม่เคยได้พบหน้ามาเลยตลอดชีวิต เธออดเอ่ยถามขึ้นไม่ได้
ก็..รู้สึกแปลกนิดๆ เขายอมรับ เคยได้ยินเสียงเขาตอนเด็กๆ แต่ก็ได้คุยกันไม่นาน ตอนเด็กที่ผมอยู่ทางโน้นไม่ค่อยมีโอกาสมาเมืองไทยเท่าไหร่ พอมีโอกาสข้ามแดนมาบ้างตอนเริ่มทำงานให้ปางแก้วก็เห็นว่าพ่อย้ายมาอยู่เมืองน่านนี้แล้ว ตอนได้รับจดหมายจากเขาก็นึกแปลกใจเหมือนกัน แต่ก็อย่างที่บอก..อ่านไม่ออก ก่อนหน้าคุณจะมาก็วานคนงานที่อ่านเขียนไทยได้ช่วยแปลให้ พอเขาไปแล้วผมก็ไม่รู้จะให้ใครแปล เจียก็พูดได้อย่างเดียว อ่านไม่ได้
หญิงสาวรับฟังอย่างพอเข้าใจ คนระดับเคมินแห่งปางแก้วเองก็คงจะมีธุระปะปังเยอะพอตัว จนทำให้เขาเก็บงำเรื่องส่วนตัวเอาไว้กับตัวเองอย่างนั้น
ทานเครื่องดื่มอะไรหน่อยไหมคะ อุตส่าห์ซื้อมาเผื่อ.. เธอยกเครื่องดื่มที่มีอยู่สองสามอย่างให้เขาเลือก
อ้าว ผมเองก็ลืมนึกถึงเรื่องนี้ไปเหมือนกัน ขอบคุณนะกำลังอยากดื่มกาแฟพอดี เขาเอ่ยยิ้มๆ เมื่อเหลือบมาเห็นกาแฟเย็นกระป๋องหนึ่ง หญิงสาวได้ยินอย่างนั้นจึงจัดการเปิดฝาให้พร้อมเสียบหลอดลงไปเรียบร้อย
ทว่าตอนที่เธอยื่นไปให้ที่มือข้างหนึ่งของเขานั้น เคมินกลับไม่เอื้อมมารับในทันที เขายังคงคุมพวงมาลัยอยู่เมื่อเอ่ยด้วยสายตาแพรวพราวว่า
ผมขับรถอยู่ คิดว่าคงไม่สะดวกถ้าจะต้องถือกาแฟกระป๋อง แต่ก็นึกอยากจิบ รบกวนคุณช่วยอะไรสักอย่างได้ไหม
หญิงสาวนิ่งอึ้งเมื่อเจอไม้นี้ของเคมิน เพราะจากสายตาและน้ำเสียงนั้นก็พอรู้ว่าเขาหมายถึงจะให้เธอช่วยอย่างไร
รถคันนี้เกียร์ระบบออโตเมติกค่ะ มือข้างนึงคุณว่าง ฉันรู้ อราลีหรี่ตาอย่างรู้ทัน
แต่ถ้าคุณจะ..กรุณาสักแป้บ จะเป็นการดี เคมินยังคงต่อรองแต่อมยิ้ม
อราลีมองท่าทีลอบยิ้มของเขาอย่างอดจะหมั่นไส้ไม่ได้ ตั้งแต่ได้รู้จักกับเคมินมา.. เธอคิดว่าวันนี้ล่ะที่เขาทำตัว ออดอ้อน ได้อย่างไม่เหลือมาดนายน้อยแห่งปางแก้วคนเดิมสักนิด!
หญิงสาวถอนใจเฮือกเมื่อต้องเป็นคนยื่นกระป๋องกาแฟไปให้เขาแล้วชายหนุ่มก็ละเลียดดื่มจากหลอด ดูเขาจะรื่นรมย์ใจมิใช่น้อยที่วันนี้เขาทำให้เธอเป็นลูกล่อลูกชนได้หลายรอบแล้ว
ขอบคุณมากนะ อราลี ผมรู้แล้วว่าคุณต้องมีน้ำใจ
ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณเคมินแห่งปางแก้ว! เธอว่าอย่างจงใจเหน็บ เพียงแต่ไม่คิดมาก่อนว่าท่านนายน้อยจะต้องการความช่วยเหลืออย่างนี้ด้วย ถ้าคนที่นั่งข้างคุณเป็นต้าหมิงล่ะก็ ฉันเชื่อว่าต่อให้รถเป็นเกียร์ธรรมดาคุณก็ทำทุกอย่างได้เองด้วยซ้ำ!
# # #
ตัวเมืองจังหวัดน่านค่อนข้างสงบและมีความเป็นระเบียบอย่างน่าชื่นชม ไม่แปลกใจหากใครสักคนจะคิดมาพำนักที่นี่ในยามบั้นปลาย ดังเช่นคนที่เคมินเรียกว่าพ่อซึ่งตอนนี้อราลีก็ได้ทราบว่าเขาเป็นนักธุรกิจท้องถิ่นเชื้อสายไทยจีน ชื่อคุณสุบิน ก่อนหน้านี้ครอบครัวเขาทำกิจการอุปกรณ์ก่อสร้างขนาดใหญ่ที่อำเภอหนึ่งในเชียงใหม่มาก่อน จนปัจจุบันได้ขยายกิจการมาที่เมืองน่าน และได้ซื้อที่ดินผืนหนึ่งสร้างเป็นโรงแรมขนาดกลางแห่งใหม่ของตัวจังหวัด
การหาโรงแรมแห่งนั้นไม่ใช่เรื่องยากเลย แค่เพียงถามทางนิดหน่อยรถที่อราลีและเคมินขับมาก็มาถึงด้านหน้า เมื่อเข้าไปแจ้งกับเคาเตอร์ด้านใน พนักงานก็ขมวดคิ้วบ้าง แต่พอแจ้งเจ้าของกิจการแล้วอีกฝ่ายรีบให้พาเข้าไปพบ พนักงานหลายคนก็ดูจะเกรงใจแขกทั้งสองเป็นพิเศษ
แวบแรกที่ก้าวเข้าไปในห้องทำงานของเจ้าของกิจการ อราลีรู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย และคิดว่าชายหนุ่มเองก็คงจะรู้สึกไม่ต่างกัน เพราะสายตาเคมินที่กราดมองเข้าไปในห้องวินาทีแรกนั้นเหมือนนี่คือการรอคอยที่ได้สิ้นสุดลง
เพียงร่างสูงของชายหนุ่มที่เดินนำเข้าไป ชายวัยค่อนคนในห้องก็รีบเอ่ยมาเป็นคำแรกว่า
เคมิน! เคมินใช่มั้ย? เสียงผู้สูงวัยปกปิดความตื่นเต้นไม่มิด ก่อนจะสำรวจตรวจตราด้วยสายตาตื้นตัน โต..โตขึ้นมาก จนไม่คิดว่าจะจำได้.. ดีใจเหลือเกินที่ในที่สุดก็ได้พบลูก เป็นยังไงบ้าง? ข้ามมาจากชายแดนพม่าใช่ไหม แล้วเดินทางเหนื่อยมั้ย?
สวัสดีครับ.. แน่นอนว่าเคมินได้เพียงแต่เอ่ยคำทักทายภาษาไทยและยิ้มอ่อนๆ จนอราลีต้องแปลทุกประโยคที่คุณสุบินเอ่ยเมื่อสักครู่ เขาจึงมีคำตอบกลับเป็นภาษาอังกฤษว่า ผมข้ามมาจากชายแดนเพื่อประชุมที่เชียงราย เลยแวะมาที่เมืองน่าน.. เพื่อเจอคุณเป็นครั้งแรก ดีใจที่ได้พบเช่นกัน
เคมินแนะนำให้อีกฝ่ายทราบว่าอราลีมาด้วยเป็นเพื่อนร่วมทางกับเขา หญิงสาวยกมือไหว้อีกฝ่ายอย่างนอบน้อม คุณสุบินดูจะมัวตื่นเต้นที่ได้พบหน้าคนเป็นลูกหลังจากไม่เคยพบกันเลยตั้งแต่เคมินกำเนิด แต่ก็ยิ้มและพูดคุยกับเธออย่างดีเพราะจากนี้ไปหญิงสาวคงต้องเป็นล่ามคนสำคัญระหว่างสองพ่อลูกคู่นี้ ซึ่งเป็นสิ่งหญิงสาวอดเห็นใจทั้งคู่ไม่ได้ ทั้งที่เคมินคือเลือดเนื้อเชื้อไขของอีกฝ่าย แต่ในวันนี้ที่พบกันกลายเป็นว่าทั้งสองคนพูดกันคนละภาษาและไม่สามารถสื่อสารได้สะดวกหากไม่มีคนรู้ภาษาสากลคอยช่วย
เคมินดูมีความคล้ายพ่อของเขาอยู่บ้าง อย่างแรกหญิงสาวคิดว่าสมัยหนุ่มคุณสุบินน่าจะเป็นคนรูปหล่อไม่น้อยเพราะถึงตอนนี้เขาก็ยังมีเค้าความดูดีอยู่ จึงไม่น่าแปลกใจที่แวบแรกที่พบกันนั้นคนเป็นพ่อจะมั่นใจว่าเคมินเป็นลูกที่ไม่เคยพบเจอเป็นแน่แท้
เป็นยังไงบ้าง ได้ยินว่า.. ส่วนมากอยู่ที่ปางแก้ว? คุณสุบินเอ่ยถามเคมินถึงที่ทางของอีกฝ่าย พ่อเคยพยายามดูจากแผนที่ ก็เห็นว่าปางแก้วอยู่เหนือชายแดนไทยไปสักระยะใช่ไหม?
ครับ ปางแก้วเป็น..เมืองหนึ่งของเขตปกครองพิเศษวายัณ เคมินตอบยิ้มๆ เมื่อก่อนเป็นเมืองไม่ใหญ่มาก แต่พอทางพรรควายัณเริ่มขยายความเจริญของตัวเมือง เราก็พยายามพัฒนาปางแก้วให้เป็นเมืองหลักแห่งหนึ่งนอกจากเมืองลันซึ่งเป็นศูนย์กลางของเรา ตอนนี้ปางแก้วก็ถือว่าเติบโตไปมาก ถ้าคุณอยากเข้าไปดูที่นั่นสักวัน.. ผมก็ยินดี
คุณสุบินยิ้มแก้มปริเมื่อคนเป็นลูกเอ่ยเช่นนั้น
หวังว่าสักวันจะได้เข้าไปบ้างเหมือนกัน ถ้า..ไปแล้วจะได้เจอลูกที่นั่น คำรับของท่านทำให้เคมินยิ้มออกเช่นกัน
แล้วครอบครัวของคุณพ่อ.. เป็นยังไงบ้างครับ พวกเขาสบายดี? เคมินเอ่ยถามถึงครอบครัวใหม่ของพ่อเขาด้วยท่าทีนิ่งสงบ อาจเพราะความเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมากทำให้สองพ่อลูกรื้อฟื้นเรื่องเหล่านี้มาคุยได้อย่างไม่รู้สึกอึดอัดใจ
ก็ดี..ส่วนมากเขาอยู่เชียงใหม่กันมากกว่า แต่ก็มีบ้างที่แวะมาที่เมืองน่านนี้ อีกฝ่ายรับ แต่ก็เดาได้ยากว่าการที่ครอบครัวอยู่กันคนละที่เช่นนี้มีความหมายว่าอย่างไร แต่ในเมื่อนี่เป็นการพบกันครั้งแรกระหว่างพวกเขาทั้งสอง จึงยังไม่จำเป็นต้องเอาคนอื่นมาเกี่ยวข้อง
ฝากความคิดถึงและความเคารพไปให้พวกเขาด้วยก็แล้วกันครับ เคมินเอ่ยเรียบๆ ทำให้คุณสุบินยิ่งรู้สึกตื้นตันที่เคมินยังมีแก่ใจถามไถ่
แล้ว..ทางครอบครัวของลูกที่โน่นล่ะ เป็นอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะคุณตาคุณยายของลูก.. คนที่พ่อได้ยินว่าเค้าเป็นคนเลี้ยงดูเคมินมา
ครอบครัวที่ปางแก้วก็ถือว่ามีความสุขตามอัตภาพครับ ตอนนี้ผมเหลือแค่คุณตา เพราะคุณยายเสียชีวิตไปหลายปีแล้ว ก่อนผมจะไปเรียนที่สิงคโปร์อีก คุณตาเองตอนนี้ก็อายุเยอะแล้วแต่ก็ค่อนข้างเป็นคนแข็งแรง ชอบลงไปเดินเล่นในเมืองปางแก้วบ่อยๆ
แล้วตอนนี้ คุณแม่ของเคมิน.. สบายดีมั้ย? ผู้เอ่ยถามมีแววหวั่นใจในส่วนลึก แต่นี่อาจจะเป็นสิ่งที่ท่านอยากรู้มากที่สุด ในเมื่อเป็นคนที่เคยรักและผูกสัมพันธ์ขนาดมีลูกด้วยกันแต่หายหน้ากันไปร่วมระยะทศวรรษ
เคมินไม่มีท่าทีอึดอัดเมื่อต้องตอบคำถามนั้น ในเมื่อนี่อาจเป็นคนๆ เดียวที่เขาอยากให้ได้ยินได้ฟังข่าวเกี่ยวกับมารดาตัวเองมากที่สุด
แม่มีครอบครัวใหม่กับนักธุรกิจสิงคโปร์ที่เข้ามาในพม่าครับ หลังแต่งงานใหม่กับเขา แม่ก็ย้ายไปอยู่สิงคโปร์กับสามีใหม่ แม่มีลูกกับเขาสองคน และมีความสุขตามอัตภาพที่สิงคโปร์ ส่วนผมนั้นอยู่กับคุณตามาแทบตลอด แต่ก็ได้ไปเรียนที่สิงคโปร์ในระดับปริญญาตรีและโทเพราะแม่ชวนให้ไปเรียนที่โน่น จบแล้วผมก็กลับมาอยู่กับคุณตาที่ปางแก้ว
ก็..ดีใจด้วยมากๆ.. ที่ได้ยินว่าเขามีความสุขดี ผู้สูงวัยตอบรับสั้นๆ แม้ดวงตาจะสะท้อนลึก และก็ดีใจที่ได้รู้ว่าลูกได้ร่ำเรียนดีๆ ด้วยนะเคมิน
ขอบคุณครับ
ตลอดการสนทนา แม้จะมีอุปสรรคด้านภาษาแต่ก็ไม่ทำให้สองพ่อลูกย่อท้อในความพยายามจะสื่อสารกัน กระนั้นก็ตามด้วยความที่ไม่เคยได้พบหน้ากันเลย ก็ยังดูออกอยู่บ้างว่ามีความประหม่าและบางครั้งก็ตะขิดตะขวงใจกันพอเป็นกระสายเนื่องจากเรื่องราวผ่านมาก็นานแล้วแต่กลับเพิ่งได้พบหน้ากันตอนนี้ อราลีเองแม้ตลอดการสนทนาจะพยายามทำหน้าที่เพียงเป็นผู้แปลที่ดี แต่ก็อดเห็นใจบุรุษทั้งสองผู้ไม่ได้เมื่อความเป็นพ่อลูกเพิ่งบรรจบกับความสมบูรณ์ก็วันนี้.. ทั้งที่มันควรจะได้เริ่มต้นตั้งนานแล้ว
และนั่นอาจเป็นสิ่งที่อยู่ในใจของบุรุษสูงวัยชื่อสุบินคนนี้มาตลอด เพราะเมื่อได้เวลาอาหารแล้วเขาเอ่ยปากจะพาไปห้องอาหารส่วนตัวของโรงแรมเพื่อแขกสุดพิเศษคนนี้ เขาก็อดเอ่ยขึ้นตรงๆ กับเคมินด้วยท่าทีหวั่นใจไม่ได้ว่า
เคมิน.. ขอถามสักคำนะลูก ลูกโกรธพ่อบ้างมั้ย? เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา พ่อทำได้เพียงโทรศัพท์ไปหาบ้าง แต่กลับไม่เคยไปพบหน้าลูกเลย?
ดวงตาเคมินฉายแววแข็งแกร่งขึ้นมาก.. ในเมื่อวันนี้คนที่เขารู้สึกคลางแคลงใจมาตลอดในความเป็นพ่อได้แสดงออกชัดว่าท่านเองก็รู้สึกผิดไม่น้อยที่ได้ละเลยสายเลือดของตัวเองไปนับนาน ชายหนุ่มมองลึกไปที่ดวงตาของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อเมื่อตอบกลับว่า
ตอนผมยังเด็ก ผมเคยสงสัย..และไม่เข้าใจเรื่องนี้มาตลอด แต่วันนี้ที่ผมได้พบกับคุณพ่อ ผมก็ไม่เหลือความสงสัยหรือข้องใจเหล่านั้นแล้ว อย่างน้อยผมคิดว่าผมก็ยังโชคดีมากที่ได้พบหน้าพ่อในที่สุด ไม่ว่าที่ผ่านมาเรื่องราวจะเป็นยังไง แต่ผมก็ขอบคุณที่คุณพ่อได้พยายามส่งจดหมายติดต่อหาผมในช่วงปีหลังๆ ที่ผ่านมา และจนถึงวันนี้ คุณก็ทำให้ผมได้เอ่ยคำว่า พ่อ ได้เป็นครั้งแรกในชีวิต ผมขอบคุณครับ
# # #
หลังอาหารมื้อนั้นก็เป็นเวลาย่ำสายัณห์ ในตอนแรกนั้นเคมินและอราลีคาดการณ์ไว้ว่าน่าจะเดินทางกลับเชียงรายได้ทันเวลา ทว่า.. อาจเพราะคุณสุบินต้องการจะพบหน้าลูกชายคนแรกในชีวิตที่ไม่เคยพบกันมาก่อนให้นานกว่าเดิม จึงได้ออกปากว่า
จะพักที่โรงแรมก็ได้นะ ขับรถทางไกลมาอาจจะเหนื่อย อยากให้พักผ่อน คุณสุบินเอ่ยเหมือนร้องขอ อันเป็นสิ่งที่ทั้งเคมินและอราลีเข้าใจว่าเขาคงอยากพบหน้าชายหนุ่มให้มากขึ้นนั่นเอง
อราลี..คุณจะโอเคมั้ย? ถ้า..เราต้องค้างที่นี่? เคมินเอ่ยอย่างเกรงใจ แต่หญิงสาวเองก็พอเข้าใจรูปการณ์ทุกอย่างดี จึงพยักหน้าอย่างไม่เกี่ยงงอน ทั้งสองจึงตกลงปลงใจจะพักที่นี่ดังคำขอของเจ้าภาพ
คุณสุบินรีบกุลีกุจอไปเอ่ยปากกับพนักงานโรงแรมให้รีบหาห้องพักให้ ตรวจสอบกันเพียงครู่เดียวอีกฝ่ายก็เอ่ยว่า
ตอนนี้ยังพอมีห้องว่างอยู่บ้าง อืม..ห้องใหญ่สุดจะเป็นห้องสวีทนะ เอาห้องนั้นเลยดีมั้ย?
ขอคนละห้องนะคะ หญิงสาวรีบแสดงท่าทีให้ชัดเจน หนูเป็นเพื่อนเคมินค่ะ คุณลุงจะให้เคมินพักห้องใหญ่ก็ได้ แต่หนูขอห้องเดี่ยวก็พอ
อ้อ..ได้ๆ ผู้สูงวัยเอ่ยยิ้มเหมือนคาดการณ์อะไรผิดไปก้าวหนึ่ง แต่ก็จัดการให้ตามคำขอของอราลีทันที
แต่กระนั้น คุณสุบินออกจะก้ำกึ่งกับความสัมพันธ์ระหว่างเคมินและหญิงสาวผู้มาด้วยคนนี้ แม้ปากจะบอกว่าทั้งสองเป็นเพียงเพื่อน แต่อากัปกิริยาที่แสดงต่อกันมาตลอดทำให้เขารู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้อาจมีความสำคัญหรือผูกพันกันระดับหนึ่งกับเคมิน เพราะในท่าทีเรียบเฉยของชายหนุ่มผู้เป็นลูกนั้น.. แสดงออกชัดว่าแคร์เธอคนนี้มากกว่าใคร
จากนั้นจึงสรุปได้ว่าอราลีและเคมินต่างได้ห้องพักที่ค่อนข้างเป็นระดับดีของโรงแรมดังกล่าว และก็เป็นคนละห้องดังที่หญิงสาวปรารถนา ระหว่างทางไปห้องพัก เคมินยังแอบเย้ากับหญิงสาวเป็นการส่วนตัวว่า
ผมรู้นะว่าเมื่อกี้คุณบอกพวกเค้าว่าเราสองคนต้องพักคนละห้อง
นี่คุณฟังภาษาไทยออกตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?หญิงสาวถามพิศวง
ฟังไม่ค่อยออก แต่เดาได้จากท่าทางทั้งหมด ก็คุณพูดไว้แต่แรกแล้วนี่ว่าคุณต้องพักคนละห้องกับผม เขาเอ่ยกลั้วยิ้ม ว่าแต่คุณจะกลัวไปทำไมกันก็ไม่รู้นะ ตอนอยู่ปางแก้ว..ผมกับคุณก็พักบ้านเดียวกันมาแล้ว แถมห้องนอนของผมคุณก็เคยเข้าไปแล้วนี่นา!
ถ้าไม่ติดว่าคุณสุบินซึ่งเป็นผู้ใหญ่อยู่แถวนั้น อราลีคิดว่าเธอคงได้ จวก ใส่เคมินสักยกที่เขากล้าลามปามกันขนาดนี้!
# # #
อราลีเดินออกมาจากห้องพักในเวลาค่ำหลังจากเธอจัดวางข้าวของอันน้อยนิดเรียบร้อยแล้ว และก็บังเอิญได้พบกับคุณสุบินอีกรอบ ดูท่าวันนี้เขาจะพยายามป้วนเปี้ยนแถวนั้นไม่ห่างเหมือนอยากคอยดูแลคนเป็นลูก
อ้อ..หนู เป็นยังไงบ้าง ห้องโอเคมั้ย? อีกฝ่ายทักอราลีท่าทีเอ็นดู เพราะวันนี้เธอคอยช่วยการสื่อสารของสองพ่อลูกตลอด และภาษาอังกฤษของเธอคนนี้แสดงชัดว่าเธอน่าจะมีพื้นฐานที่ดีไม่น้อย
ดีมากค่ะ ดีกว่าที่คิดไว้ แล้วก็ขอบคุณที่จัดห้องแยกให้นะคะ
นั่นสิ แหม..ตอนแรกลุงก็ขอโทษนะที่.. เข้าใจไปเอง อีกฝ่ายเสียอีกขอโทษขอโพยกันครั้งใหญ่
หนูเป็นแค่พื่อนของเคมินน่ะคะ เพียงแต่บังเอิญเป็นคนไทยเค้าก็เลยขอให้ช่วยเหลือในการมาเมืองน่านครั้งนี้ อราลีอธิบายให้ชัดขึ้น ซึ่งนั่นก็ทำให้ผู้สูงวัยกว่ายิ้มจางๆ ให้
ถ้าอย่างนั้น ลุงก็คิดว่าหนูเป็นคนมีน้ำใจมาก วันนี้อยากขอบคุณหนูมากที่ช่วยแปลทุกอย่างให้ คุณสุบินเอ่ยอย่างซาบซึ้ง แต่ลุงก็ไม่แปลกใจที่เค้าจะไม่เข้าใจภาษาไทยเพราะแม่ของเค้า.. พาเค้าไปอยู่ที่พม่าตั้งนานมากแล้ว
ก็ได้ยินว่าเข้าใจบ้างนิดหน่อยนะคะ เพราะพักหลังที่เค้าช่วยงานคุณตาเค้าที่ปางแก้วและพรรควายัณ เค้าก็เดินทางข้ามชายแดนมาบ่อยเหมือนกัน แต่ก็ไม่มากขนาดสื่อสารได้
ตกลง.. เขาทำงานให้พรรควายัณใช่ไหม อีกฝ่ายคล้ายอยากรู้เรื่องลูกตนเอง ลุงไม่เคยเข้าไปถึงในเขตนั้น ข้ามชายแดนแม่สายไปพม่าน่ะเคยบ้าง แต่สมัยก่อน..ได้ยินว่าแถบโน้นมันวังเวง ยิ่งตอนนี้ข่าวเกี่ยวกับวายัณมีแต่เกี่ยวกับยาบ้ายาเสพติด จนนึกเป็นห่วงเขาเหมือนกันว่าอยู่ข้างในนั้นจะเป็นยังไง เคมินเค้าไม่ได้..ยุ่งกับยาเสพติดใช่ไหม?
ไม่ค่ะ เธอตอบกลับเสียงจริงจัง คนวายัณทุกคนไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดเหมือนที่เราได้ยินข่าวหรอกนะคะ โดยเฉพาะเคมินและซอหม่องลูคุณตาของเค้า.. พวกเขาเป็นผู้นำวายัณสายต่อต้านยาเสพติดด้วยซ้ำ หนูยืนยันได้ ที่เขามาประชุมที่เชียงรายนี่ก็เพื่อเป็นตัวแทนพรรคให้คนภายนอกได้เข้าใจความจริงเกี่ยวกับวายัณ ว่าตอนนี้วายัณกำลังจะปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง
นั่นทำให้ลุงยิ่งห่วง.. ในประเทศอย่างนั้น เขาจะอันตรายมากไหมถ้าต่อต้านการค้ายาอย่างนั้น? คุณสุบินอดเป็นกังวลไม่ได้
เคมินเคยบอกหนูว่า..นั่นคือหน้าที่เขาค่ะ อราลีตอบกลับเสียงมั่น เขาเติบโตมาพร้อมคุณตาที่มุ่งมั่นในเรื่องนี้ และเขาก็ทุ่มเทกับเรื่องนี้ค่อนข้างมาก คนที่ปางแก้วถึงรักคุณตาและเค้ามาก หนูเองก็เชื่อว่า..พวกเขาจะฝ่าฟันไปได้ค่ะ
จากนั้นคุณสุบินก็เอ่ยถามอราลีอีกหลายเรื่องเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่เคมินปัจจุบัน ดูอีกฝ่ายจะรู้สึกเต็มตื้นไม่น้อยที่ได้รู้ว่าเคมินเติบโตได้อย่างงดงามและวันนี้เขาก็ดูเป็นชายหนุ่มที่มีบทบาทสำคัญในระดับผู้นำของวายัณ แม้ว่า..ทุกสิ่งที่เคมินเป็นได้ในทุกวันนี้นั้นจะไม่ได้มาจากการเลี้ยงดูของเขาก็ตาม
ก่อนจะขอตัวออกมา คุณสุบินก็เอ่ยทิ้งท้ายกับอราลีด้วยสายตาสะเทือนใจว่า
ฝากบอกเขาด้วยว่า ลุงเสียใจ..ที่ไม่เคยไปพบเขาเลย ลุงไม่กล้าจะพูดเรื่องนี้ต่อหน้า..ทั้งที่รู้สึกผิด ที่ตอนหนุ่มๆ นั้นอ่อนแอจนไม่สามารถทัดทานทางบ้านได้ ปล่อยให้แม่ของเคมินคลอดลูกแล้วก็ต้องจากกันอย่างนั้น พอลุงมีครอบครัวของตัวเอง ลุงก็เพิ่งสำนึกว่าควรจะพบหน้าลูกคนแรก แต่มันก็อาจจะสายไป.. ตอนส่งจดหมายไปหาเค้าก็คิดว่าเค้าคงไม่สนใจอ่าน.. เพราะคนที่ไม่เคยเลี้ยงดูเลยจะเรียกว่าพ่อได้ยังไงกัน แต่สุดท้ายที่เขาอุตส่าห์มาพบ..ลุงก็ดีใจมากที่ได้เห็นเขาเป็นครั้งแรกและเขาไม่โกรธที่ลุงไม่เคยไปพบเลย และอีกอย่าง.. ก็ดีใจมากที่ได้เห็นว่าเขาโตเป็นหนุ่มที่ดูสง่างามขนาดนี้
จากคุณ |
:
ณ พิชา
|
เขียนเมื่อ |
:
วันพ่อแห่งชาติ 55 19:23:38
|
|
|
|