Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
สาปกณิการ์ :: งามชบา - บทที่ 26 vote ติดต่อทีมงาน

http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W13019483/W13019483.html

บทที่ 26

กระทั่งล่วงเข้ายามดึก เสียงกรีดร้องโหยหวนของหมู่ดวงวิญญาณกู่ระงมออกมาจากวิหารวังร้างอย่างต่อเนื่อง ซาตานวจาตื่นแล้ว มันโกรธจัดที่โดนสยบด้วยคำสาปกณิการ์ที่หมอผาร่ายกระท่อนกระแท่น จึงแผดเสียงคำรามทำร้ายทาส

บางดวงน่าเวทนานักที่ไม่อาจทานทนต่อรังสีอันธพาล จึงพานแตกดับหมดสิทธิ์ไปผุดไปเกิด ส่วนที่ยังประคองกันได้ ก็ลอยรวนงุ่นง่านอย่างเจ็บปวดทรมาน ไม่ยกเว้นแม้แต่มวลผกาผู้น่าสงสาร

ใช่ ทุกครั้งที่ซาตานอมตะสำนึกว่าพ่ายแพ้แก่แม่นางน่าชัง มันจะเดือดดาลแทบจะขย่มโลกให้แตกเป็นเสี่ยงๆ เหมือนที่เคยถล่มพิธีฉลองหน่อเนื้อของแม่นางกณิการ์ในกาลเก่าอย่างแสนสะใจมาแล้ว แต่ก็ต้องแลกกับการถูกจองจำอยู่ที่นี่ ผ่านกาลเวลานานนับร้อยๆ ปีอยู่เช่นนี้

ณ วันอันเป็นมงคล ประชาชนแต่งกายสวยงามนัก ต่างนัดแนะแห่แหนมารวมตัวกันชื่นชมหน่อเนื้อแห่งแม่นางเจ้าฟ้า พระครูลาพุชตั้งชื่อให้ว่าแม่นางมัลลิกา

หากแต่ในวันตั้งชื่อ กลับไม่มีใครทันสังเกตดวงตาเศร้าหมองของท่านสักคน เพราะแม้ชื่อจะตั้งในวันมงคลก็จริง แต่ดวงชะตาแม่นางน้อยนั้นสั้นนัก

หลังจากคำนวณวิถีโคจรของดาวประจำตัวจนแน่ใจ ท่านก็ได้แต่ทอดถอนใจ พร้อมไปกับทำใจว่าสวรรค์ส่งแม่นางน้อยลงมาปฏิบัติภาระหน้าที่อันน้อยนิด

นั่นก็คือยื้อชีวิตแม่นางกณิการ์เพื่อให้มีพลังแข็งกล้าและทรงอำนาจจนถึงขีดสุด เพื่อที่แม่นางจะได้ต่อกรกับซาตานอมตะ ณ วันอันเป็นมงคลที่ว่า

ทั่วโถงใหญ่เซ็งแซ่ด้วยเสียงมากมาย ทั้งดนตรีจากโรงนาฎศิลป์ ทั้งเจ้าฟ้าหน่อเนื้อต่างคามที่มาร่วมแสดงความยินดี ทั้งเหล่านักบวชที่มาร่วมสวดมนต์มงคล

องครักษ์นักรบทุกคนปฏิบัติหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยทั้งภายในภายนอกอย่างแข็งขันและเคร่งครัดภายใต้การควบคุมเข้มอีกชั้นขององครักษ์ศมะ

องครักษ์นักรบแห่งคามธุมาธารเดินกร่างวางมาดทำทีทักทายคู่อริด้วยน้ำเสียงจองหอง ในใจนึกเยาะหยันว่าแม่นางเจ้าฟ้าเย่อหยิ่งอวดดีนัก แล้วสุดท้ายเป็นยังไง เจ้าฟ้าธุวชินย้ายคืนสู่คามธุมาธารไม่ทันไร แม่นางผู้จองหองเกรียงไกรก็ให้คนไปส่งข่าวว่า 'ตั้งครรภ์'

"ไม่ได้เจอกันนาน ดูท่วงท่าแล้ว ท่านมียศมีศักดิ์สูงส่งขึ้นละสิ ประจบจนได้ดีน่านับถือยิ่ง"

"นานทีเจอหน้าก็อย่าได้ส่อเสียดให้ระคายทั้งหูทั้งใจเลย เราไม่สันทัดเชือดเฉือนน้ำใจมิตรหรอกนะ ถ้าท่านไม่เต็มใจเป็นมิตรก็จงเดินไปข้างหน้าเถอะ มีอีกหลายคนอยากเสนอหน้าเป็นมิตรกับท่าน ซึ่งไม่ใช่เรา"

"ท่าน.. "

"พูดแบบนี้ ท่านคงตีความไม่แตกฉานใช่ไหม เราพูดใหม่ก็ได้ คือว่าตัวเราไม่เคยมีความคิดอยากผูกมิตรต่อท่าน มันไม่มีอยู่ในหัวเลยน่ะ เข้าใจแล้วใช่ไหมท่าน"

"ท่านศมะ"

"เราขอตัวเถอะ มีภารกิจมากมายเหลือเกินในวันนี้ แล้วมันก็สำคัญกว่าตัวท่านมากโขนัก"

องครักษ์ประเดก็เลยมีอันหน้าแตกหน้าแดง ตาฉายแววโกรธแค้นแดงก่ำคล้ายแสงเพลิงโชนกลางวงล้อมของพายุยักษ์

แทนที่จะติเตียนฝ่ายตนว่าแถเข้าไปหาเรื่องถากถางก่อน แต่กลับพยาบาทว่าฝ่ายโน้นปากคอไม่มียอม ตอกต้อนย้อนคมไม่เห็นแก่ฐานะและศักดิ์ศรีองครักษ์เจ้าฟ้าหน่อเนื้อแห่งธุมาธารเสียบ้างเลย

เพิ่งจะสะบัดหน้าไป เพิ่งจะยกย่างฝีเท้าอย่างไม่สบอารมณ์ จู่ๆ แผ่นดินก็มีอันสะเทือนไหว ทั่วโถงเกิดอาการสั่นกึกๆ โคมไฟชายผ้าม่านพลิ้วหนักหน่วง แจกันบนแท่นไม้แท่นแก้วล้มหล่นกลิ้งระเนระนาด หรือแม้แต่คนด้วยกันเองก็พานซวนเซล้มทับกันทุลักทุเล

"เกิดอะไรขึ้น"

องครักษ์ต่างคามพึมพำประหลาดใจพลางตะปบดาบตามสัญชาตญาณ จากนั้นก็เร่งฝีเท้าเข้าใกล้เจ้าชีวิตเพื่อทำหน้าที่ปกป้อง

"มีอะไรหรือท่านประเด" เจ้าฟ้าธุวชินถามอย่างสงสัยขณะยึดเสาต้นหนึ่งไว้เป็นหลักประคองกาย

"ไม่ทราบได้เจ้าข้า จู่ๆ แผ่นดินก็โคลงเคลงดั่งย้ายลงไปอยู่ในแม่น้ำใหญ่ ท่านอยู่ตรงนี้นะเจ้าข้า เราจะออกไปสำรวจนอกโถงสักครู่"

"ได้ แล้วรีบเข้ามารายงาน เราจะขึ้นไปดูหน่อเนื้อมัลลิกาสักหน่อย ป่านนี้แม่นางเจ้าฟ้าคงแต่งตัวให้เสร็จเรียบร้อยแล้ว โอ๊ะ"

เจ้าชีวิตยังกล่าวไม่จบความก็พลันอุทานตกใจ ตัวไถลมือหลุดจากกุมเสา ซวนถลำไปล้มนั่งบนขั้นบันไดหมิ่นเหม่ องครักษ์ผู้ภักดีก็รีบปรี่ไปประกบคุ้มครองอย่างว่องไว ทั้งสองงุนงงกับเหตุพิสดาร ต่างเบิกตากว้างอ้าปากค้างกับภาพโกลาหลตรงหน้า

โถงใหญ่สั่นครืนและรุนแรงกว่าเดิม พื้นหินอ่อนกรุรัตนชาติงดงามปริร้าวเป็นทางยาวอย่างรวดเร็วราวกับมีคนซ่อนอยู่ข้างใต้แล้วกรีดครูดมันด้วยมีดเหล็กกล้า

ควันกับผงฝุ่นคลุ้งจางขึ้นมาจากช่องปริร้าวนั้น ซ้ายขวารายรอบถูกโอบไว้ในวงล้อมของสรรพเสียงก้องระงมที่ฟังไม่ได้ศัพท์ ไม่ว่าจะเป็นเสียงร้องกรี๊ดๆ อุทานเรียกหา สบถบริภาษมากมาย

กระทั่งโคมไฟที่สลักขึ้นจากหินเนื้อใสสีเงินยวงแกว่งเกรี้ยวกราดสามสี่หน แล้วก้านโลหะชุบทองตอกตึงละเอียดประณีตด้วยรัตนชาติสีเข้มล้ำค่าเม็ดจิ๋วที่ยึดเชื่อมกับตะขอเหล็กกล้าบนเพดานก็พลันขาดสะบั้น โคมหนักก็ร่วงลงแตกเปรื่อง ก่อเกิดเสียงกึกก้องประหนึ่งท้องฟ้าระเบิด

เศษหินชิ้นเล็กชิ้นน้อยกระจุยกระจายเป็นวงกว้าง บางชิ้นแหลมคมปักแขนเชือดขาคนเคราะห์ร้ายใกล้เคียงได้เลือดได้แผลกันไป

บางคนโชคร้ายอายุสั้นไปเลย เพราะโดนชิ้นคมปาดลำคอเลือดพุ่งแล้วล้มลงดิ้นกระ:-)กระสนเจ็บปวด ตาเหลือกถลนทรมานก่อนจะแน่นิ่งดับสูญสร้างความแตกตื่นสู่คนที่เหลืออีกคณานับ




พระครูลาพุชสูดหายใจลึกยาว สวดมนต์เยือกเย็นเพื่อระงับความพลุ่งพล่าน ในยามนี้หากท่านร้อนรนเสียอีกคน ก็คงไม่มีใครคอยช่วยเหลือแม่นางกณิการ์อีกแล้ว

องครักษ์ศมะคงฝ่าด่านร้อนแรงของเหตุแปรปรวนไม่ไหว ท่านทำนายรีบเร่งผ่านปลายนิ้วเรียวขาวแล้วพบที่มาที่ไปอย่างน่าตระหนก

"ได้ความหรือยังพระครู ต้องอาศัยนิ้วเราช่วยหรือไม่เล่า วนมาวนไปอยู่เช่นนั้น แล้วเราจะได้ความไหม"

เสียงกร้าวของแม่นางมีทั้งประชดรำคาญ มีทั้งรุ่มร้อนลึกในทรวง ในวันมงคลฉลองวันตั้งชื่อครบเดือนของหน่อเนื้อมัลลิกา แต่กลับมีใครก็ไม่รู้กำแหงมาลองดีป่วนพิธี หากไม่กำราบให้หลาบจำ ต่อไปภายหน้าจะมีใครยำเกรงเล่า

"เจ้าสามคนองครักษ์มานี่ซิ" แม่นางร้องบัญชาเฉียบ "เฝ้าอารักขาแม่นางมัลลิกาอย่าได้ละสายตา ถ้ามีเหตุจวนตัวจงพาหนีไปไหนก็ได้ที่เจ้าคิดแล้วว่าปลอดภัย หากแม่นางน้อยตกใจโยเย จะทำยังไงก็ทำ ขอแค่สงบลงได้และปลอดภัยในตอนท้าย เราพร้อมจะขอบใจและซาบซึ้งยิ่ง"

"แม่นางจะทำอะไรเจ้าข้า"

พระครูรีบถามทันที แม่นางเจ้าฟ้าสั่งความยาวเหยียดดั่งว่าตัดสินใจลงไปเผชิญกับเหตุแปรปรวน ยังไม่ได้หรอก ท่านรู้ว่าข้างล่างมีอันตรายรออยู่

"แล้วท่านจะให้เราทำอะไร ยืนมองท่านทำนายเหตุแปรปรวนต่อไปหรือเล่า หลับตากับนิ่วหน้า พูดก็ไม่พูด ไม่ได้ความอะไรแก่เราสักสิ่ง เราจะลงไปดูเอง เราไม่กลัวอะไรทั้งนั้น ใครหน้าไหน.. "

"แม่นางชั่วช้า เจ้าอยู่ไหน ลงมากราบแทบเท้าเราซาตานวจาผู้ยิ่งใหญ่ มา"

เสียงตะโกนกร้าวโหยหวนเย็นเยียบพลันแทรกวาจาห้าวหาญของแม่นางกณิการ์อย่างปุบปับ

ประชาชนทั่วโถงทั่วคามพากันตะครั่นตะครอขนลุกซู่ สีหน้าของทุกคนพรั่นพรึงเสียขวัญ ต่างเร่งฝีเท้าหลบหนี แต่บางรายก็หนีไม่พ้น ซาตานโหดยื่นมือปราดตะปบคอแล้วบิดอำมหิต

เสียงกระดูกหักกรุบกรับยังไม่หนำใจเท่ามือใหญ่หยาบนั้นบีบขยำจนเนื้อคอเละเป็นเลือดไหลหยดเป็นสายข้นลอดร่องนิ้ว

ทุกคนเบิกตาโพลง อ้าปากค้าง ผู้หญิงก็กรีดร้องสุดเสียงแล้วเป็นลมล้มพับ ร่างที่ทอดแน่นิ่งบนพื้นกระเด้งขึ้นลงตามจังหวะกระทืบเท้าอหังการของซาตานร้าย

องครักษ์นักรบแม้จะขวัญหนีดีฝ่อกับซาตานที่ยังบอกไม่ถูกว่าคนหรือผี แต่ด้วยหน้าที่อันเคร่งครัด แม้ต้องตายสนองคามก็ต้องยืดอกอย่างกล้าหาญ ต่างกรูเข้าใส่:-)ดาบแทงมีด

โอ.. ช่างน่าหวั่นไหวตื่นตะลึงนักเมื่อพบว่าคมอาวุธใดๆ ก็ไม่อาจเชือดเฉือนเนื้อแข็งดั่งหินนั้น ซ้ำยังก่อเกิดประกายไฟแลบแปลบทุกครั้งที่เนื้อแข็งปะทะกับอาวุธสารพัดชนิดอีกด้วย

"วจา" แม่นางกณิการ์อุทานพลุ่งพล่าน ฝีเท้าทำท่าขยับพุ่ง

"อย่าร้อนรนไปแม่นาง" พระครูลาพุชรีบยับยั้ง

"หุบปาก"

แม่นางพลันตวาดเดือดดาล เลิกคิ้วสูง ตาถลึงแข็งกร้าวขึ้น แวววาววับในนั้น นอกจากจะดุร้ายน่าหวาดผวาแล้ว ยังลุกร้อนแดงจ้าไปด้วยไฟโทสะกองโชน

"เวลาเช่นนี้ ท่านยังจะห้ามปรามอะไรอีก ท่านได้ยินเหมือนเราไม่ใช่หรือ วจามันอาจหาญมาทำลายพิธีฉลองชื่อแม่นางน้อย เราจะลงไปกำราบมัน"

"แม่นาง"

"เอ๊ะ หมายความว่ายังไงกัน" ตอนท้าย แม่นางสะดุดกับข้อสงสัย "มันยังไม่ดับสูญใต้หุบเหวปีศาจหรือ เป็นไปไม่ได้ ไม่เคยมีใครรอดชีวิตขึ้นมาจากเหวอันลึกจนหาที่สิ้นสุดไม่ได้แห่งนั้น"

"แม่นาง"

พระครูใจหายวาบ พลางเร่งฝีเท้าตามติดร่างปราดเปรียวออกมานอกโถงพัก เร่งล้ำไปสามก้าวหวังกีดขวางทางมุทะลุ แล้วปรามด้วยเสียงหนักเข้มว่า

"หยุดก่อนแม่นาง อย่าวู่วาม จงฟังเรา"

"ไม่ฟัง หลบไปเดี๋ยวนี้พระครู เราสั่งว่า.. "

"แม่นาง จงฟังเราเจ้าข้า หุนหันพลันแล่นเช่นนี้มีแต่จะพ่ายแพ้และสิ้นท่า เรากำลังจะบอก.. "

"เจ้า แม่นางกณิการ์ชั่วช้า นั่นหรือเจ้า โอ้ สวยสะคราญยิ่งกว่าวัยเยาว์เสียอีก"

ซาตานวจาทุบอกอย่างลิงโลด แสยะยิ้มหื่นกามอวดฟันหนาเป็นคราบดินสกปรก ผมเผ้ากระเซิงและแข็งดั่งเคลือบกาวหนาอย่างดี รอบลำคอใหญ่สวมสร้อยกระดูกสีแดงขุ่น ข้อมือข้อเท้าก็เช่นกัน

มันนุ่งห่มหนังสัตว์ที่คลุ้งด้วยกลิ่นเหม็นเน่า ซ้ำยังเปื้อนเลือดของประชาชนเคราะห์ร้ายที่เพิ่งบิดคอดับสูญไปเมื่อครู่ก่อน

ยามนี้ มันกำลังทอดตาทื่อขึ้นไปบนระเบียงอันกว้าง ตรงนั้นตรึงสง่าไว้ด้วยร่างแม่นางกณิการ์ใต้อาภรณ์กระโปรงยาวกรอมเท้าสีขาวละมุน ประดับเครื่องรัตนชาติล้ำเลอค่าทั้งลำคอแขนข้อมือนิ้วและเอว

ที่ขาดเสียไม่ได้คือแส้ทองคู่กายรัดซ้อนทับผ้าคาดเอวชายพลิ้วและตอกตรึงด้วยแผ่นโลหะขนาดเล็กบางตัดแต่งเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวเรียงเป็นแนว กลางแอ่งโค้งปักประดับเม็ดรัตนชาติสีสวยหนึ่งเม็ด

ข้างเอวยังแขวนปลอกหนังฝังเพชรวูบวาบ ซ่อนมีดเหล็กกล้าลงอาคมขลัง ยังเห็นด้ามที่ห่อหุ้มด้วยหยกเขียวใสเนื้อดีงองุ้มปลายให้จับถนัดมือโผล่พ้นปลอกเล็กน้อย

หลังจากสำรวจจนอิ่มแล้ว ไฟกามก็ค่อยก่อเสียงปะทุขึ้นในร่างอมตะ มันร้อนอบอ้าวและใคร่ปลอดปล่อยคลื่นราคะให้ไหลออกไป ปากหนาแสยะยิ้มกว้างขึ้น ฉายความกระหายหื่นมากขึ้น เสียงคำรามครางก็เผยถึงความใคร่หยาบช้าที่หมายย่ำยีสู่เรือนร่างน่าพิสมัยนั้นว่า

"โอ้ ในความทรงจำของข้า เจ้าคือแม่นางชั่วที่กล้าลบหลู่ข้าด้วยวัยเพียงสิบห้าเศษ แต่วันนี้ไม่ใช่แล้ว วันคืนอันยาวนานหล่อหลอมแม่นางชั่วคนนั้นให้กลายเป็นแม่นางแสนสะคราญน่าลุ่มหลงน่าเสน่หา โอ้ ใช่แล้ว น่าเสน่หาเหลือเกิน"

"เจ้าคือ.. "

"ซาตานอมตะเจ้าข้า" พระครูกระซิบก่อนที่แม่นางผู้เกรียงไกรจะตวาด

"อะไรนะท่าน หมายความว่ายังไงซาตานอมตะ"

"รีบเข้าข้างใน เรามีเรื่องบอกกล่าวมากมาย อ้อ แต่ก่อนไป เราจะร่ายมนตร์สกัดไว้ชั้นหนึ่งก่อน"

พระครูกล่าวจบก็เร่งร่ายมนตราศักดิ์สิทธิ์ ไม่แน่ใจว่าจะใช้ขวางวิถีคุกคามของซาตานอมตะได้นานแค่ไหน ท่านไม่กล้าเผยความจริงอันน่าตื่นตระหนกสู่แม่นางกณิการ์ในยามนี้

หากแต่แม่นางผู้เกรียงไกรก็ใช่ว่าจะปัญญาเชื่องช้า ลองว่าพระครูต้องร่ายมนตร์ปกป้องอีกชั้นละก็ มันต้องไม่ชอบมาพากลแน่แล้ว มีหรือที่แม่นางจะมองข้าม ด้วยความรอบคอบอันน่าชื่นชม แม่นางดึงมีดเหล็กกล้าออกมาปักบนยอดเสาของระเบียง

ประกายบารมีแห่งแม่นางเจ้าฟ้าก็พลันเปล่งเจิดจ้ามองเห็นเป็นรัศมีสีรุ้งแพรวพราวจาบเจือสีทองจาง ไม่เพียงเท่านั้น แม่นางยังปลดเข็มขัดขึงทางขึ้นกั้นสิ่งชั่วร้ายไม่ให้กำแหงฝ่าล้ำอย่างเหิมเกริม

ซาตานวจาเกือบจะหัวเราะลำพองว่าไม่มีมนตราใดๆ จะขัดขวางชีวิตอมตะของมันได้

แต่ครั้นปะทะรังสีสีรุ้งปนทองที่แผ่แพรวพราวออกมาจากหัวเข็มขัด มันพลันร้อนอบอ้าวต้องรีบถอยร่นอย่างตระหนก ในใจค่อยฉุกคิดถึงถ้อยคำกำชับของผู้นำไสยเวทย์ใต้หุบเหวปีศาจอันลึกเร้นอย่างทันทีทันใดว่า

"นับแต่นี้สืบไป เจ้าคือซาตานที่ไม่มีวันตาย แต่อย่าได้บังอาจไปเข้าใกล้รัศมีอาคมของแม่นางอชินีเป็นเด็ดขาด แม้เจ้าจะไม่มีวันตาย แต่รังสีอันร้อนไปด้วยวาสนาของแม่นางจะทำให้พลังของเจ้าอ่อนแรงและพ่ายแพ้แก่ศัตรูในที่สุด"

"ทำไมเล่า ทำไมต้องเป็นอย่างนั้น ทำไมยังมีอำนาจอื่นใดเหนือกว่าชีวิตอมตะของข้าอีก"

"เพราะในตัวเจ้าปะปนด้วยดวงวิญญาณของสมิงพรายไพร มันดับสูญด้วยอาคมสยบสมิงขั้นสูงของแม่นางอชินี เป็นส่วนที่แข็งแกร่งที่สุดที่ประคองร่างอมตะของเจ้า ดังนั้น เจ้าไม่มีวันไม่ยำเกรงต่อบารมีแม่นาง"

"ข้าไม่เชื่อ"

"ไม่เป็นไร เจ้ายังไม่ต้องเชื่อ แต่จงจำคำทั้งหมดนี้ให้จงดี"

พอฉุกใจได้คิดเช่นนี้ มันก็พลันระเบิดเสียงคำราม ทุบอกด้วยกำปั้นใหญ่อย่างคลั่งแค้น กระทืบเท้าจนโถงสั่นไหว ประชาชนเคราะห์ร้ายถูกพลังซาตานชั่วช้าดูดให้ไหลเข้าไปสังเวยชีวิต

มันหักแขนซดเลือดให้เห็นกันสดๆ แล้วค่อยฉีกร่างออกเป็นสองชิ้นฟาดเหวี่ยงไม่เกี่ยงทิศ เลือดกระเซ็นเปรอะเปื้อนไปทั่วทั้งวัตถุและตัวคน

"ได้ ข้าจะรอให้เจ้าลงมาแม่นางชั่ว อันนิสัยยโสอย่างเจ้า ไม่มีทางยอมหดหัวกลัวตายให้ประชาชนรับเคราะห์แทนเป็นแน่ ข้ารู้ เอาเลย จะหารือรับมือซาตานอมตะอย่างข้าให้นานแค่ไหนก็เอาเลย ข้ารอได้"

มันตะเบ็งเสียงถากถางกึ่งยั่วยุ พาร่างที่ชโลมด้วยเลือดสดส่งกลิ่นคาวคลุ้งส่ายอาดๆ พื้นสะเทือนไหวไม่หยุดหย่อน สองมือกางเกร็งพร้อมจะตะปบข้าวของผู้คนมาทำลายให้สิ้นซากตลอดเวลา มันยังข่มขวัญอย่างกระหยิ่มต่อไปอีกว่า

"วันนี้จะต้องเป็นวันที่ข้าได้สมสู่กับแม่นางยโสอย่างเจ้าให้สมดั่งอาฆาตมานานแสนนาน ข้านี่แหละแม่นางเอ๋ย ข้าเองที่จะเป็นฝ่ายยื่นบทเรียนให้เจ้ารู้ซึ้งแท้จริงถึงการดับสูญอย่างทุกข์ทรมาน"

โอ้ กระแสอาฆาตของซาตานอมตะช่างน่าสะพรึงกลัวนัก ทั่วโถงปรักหักพังเนืองนองไปด้วยเลือดคาวข้นกับเศษแตกหักของข้าวของไม่เว้นแม้แต่ชิ้นเนื้อของคนที่ตายแล้ว

ประชาชนที่ยังเหลือรอดชีวิตส่วนหนึ่ง ก็ได้แต่เกาะกลุ่มนั่งซุกอยู่ตรงมุม ไม่กล้าขยับ แม้แต่สูดหายใจก็ยังต้องระมัดระวังเต็มที่

ทั้งชายหญิงไม่ต้องอดออมกับคำว่าอับอาย เพราะยามนี้มีแต่จะลุ้นระทึกว่านาทีถัดไปจะถึงคราวตัวต้องดับสูญหรือเปล่า จึงเร่งแบ่งปันอ้อมแขนอ้ากอดและร่วมโศกเศร้าหลั่งน้ำตากลั้วสะอื้นไม่มีหยุด

บางคนยังเร่งภาวนาในใจให้แม่นางกณิการ์รีบลงมาจากโถงพักเพื่อกำราบสิ่งชั่วร้ายที่ยังเดินกร่างวางอำนาจ แล้วก็พร่ำคำรามเรียกตัวเองอย่างเหิมเกริมไม่ขาดเสียงว่า 'ข้าคือซาตานวจา ชีวิตของข้าเป็นอมตะ'

จากคุณ : รัชนีกานต์
เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 07:32:13




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com