ธนาบอกกับเลขาสาว ซึ่งตอนนี้กลายเป็นพยานคนสำคัญไปเรียบร้อยแล้ว หลังจากที่ธันตะตามตัวเธอจนพบและเค้นเอาความจริง ทั้งขู่ทั้งปลอบให้เธอยอมพูดออกมา
ไม่เป็นไรหรอกคะบอส กวางก็ผิดด้วยค่ะที่คิดโง่ไปช่วยไอ้พี่ชายเลวๆของตัวเอง กวางเห็นแกตัวมากเลยใช่ไหมคะบอส ฉันขอโทษนะคะทุกคน หูกวางทำท่าจะร้องไห้ ตอนนี้เธอสำนึกผิดแล้วจริงๆ
คนเราหลงผิดกันได้ค่ะ แต่ถ้ารู้ตัวว่าหลงผิดแล้วคิดจะกลับตัวคนๆนั้นก็คู่ควรกับคำว่าอภัยนะคะ จิดาพูดแบบนี้ยิ่งทำให้ความรู้สึกผิดของหูกวางเพิ่มขึ้นมาอีกหลายเท่า ตอนนี้เธอมีแต่ความละอายใจอยู่เต็มอก ไม่น่าเห็นแกตัวทำเรื่องชั่วๆแบบนี้เลย
คุณวี ไหวหรือเปล่า จะกลับไปรอที่รถก่อนก็ได้นะ เดี๋ยวผมให้จ่ายิ้มพาไป ธันตะถามด้วยความห่วงใย
ไม่ค่ะ ฉันไม่กลับ ฉันยังไหวอยู่สบายมากค่ะ ซุป ตาร์ภารวีซะอย่าง ผู้กองไม่ต้องห่วงฉันนะ ภารวีกลั้นใจตอบทั้งที่ความจริงเธอทั้งเหนื่อยทั้งล้า ไหนจะโดนยุงกัด ไหนจะโดนใบไม้ใบหญ้าบาดจะคันคะเยอไปหมดทั้งตัวแล้วก็ตาม
ไอ้จี๊ด แกล่ะโอเคหรือเปล่าไหวไหมเนี่ย ? ธนาหันไปถามจิดาบ้าง
เฮ้ย ฉันโอเคสิคนอย่างจิดาเดินป่าแค่นี้สบายอยู่แล้ว สิ่งที่เธอตอบกับสภาพที่ธนาเห็นมันช่างแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง สภาพของจิดาตอนนี้ก็ดูจะไม่ได้แตกต่างจากภารวีไปมากสักเท่าไหร่เลย
ดีนะที่ยายกานต์มาไม่ได้ ต้องอยู่ดูแลคุณลุงคุณป้า ธันตะนึกดีใจที่เวทกานต์ตามมาด้วยไม่ได้
นี่ผู้กอง เราก็เดินกันมาตั้งแต่หัวค่ำจนดึกขนาดนี้แล้ว ทำไมมันยังไม่ถึงสักทีล่ะ ภารวีชักเริ่มจะล้า หลงทางหรือเปล่าก็ไม่รู้
เอ่อ...ผมก็ไม่แน่ใจ ธันตะสารภาพเสียงอ่อย
อ้าว! ทำไมพูดเหมียวๆแบบนี่ล่ะผู้กอง ภารวีเริ่มจะเครียด
ก็ถ้ามาตอนกลางวัน ก็คงถึงไปนานแล้วล่ะ ตอนนี้มันมืดมากแถมวันนี้ แสงจากดวงจันทร์ก็ไม่ค่อยสว่างทางก็ยังซับซ้อนมันก็เลยต้องใช้เวลาคลำทางกันนานสักหน่อย ยังไงก็ต้องเสี่ยงดูน่าคุณ
ธันตะอธิบายพร้อมๆกับส่องไฟฉายไปมา ความจริงแล้วก็คือ ทางที่เดินมากันนั้นไม่ใช่ทางที่ถูกต้องเพราะธันตะจำได้ว่าต้นไม้ต้นนี้เขาเคยเดินผ่านมาสองรอบแล้ว แต่ไม่กล้าบอกทุกคนออกไปตรงๆ เพราะไม่อยากจะให้เสียกำลังใจเขาก็เลยนิ่งเสียดีกว่า
ถ้าคุณเวทินอยู่ด้วยก็คงจะดีเนอะ เขาคงจะช่วยเราได้มาก จิดาได้แต่ถอนหายใจยาว หายไปต้องหลายวัน ไม่รู้ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง และทันใดนั้นเองเธอก็ได้ยินเสียงคนเรียกชื่อเธอ
คุณจี๊ด
จิดาหันไปมองทุกคนแล้วถามธนาที่เดินอยู่ใกล้เธอที่สุด ไอ้นา เมื่อกี้แกเรียกฉันเหรอ?
เปล่า ฉันไม่ได้เรียก ธนาส่ายหน้าดิกๆ จิดาหันไปหา ภารวีกันธันตะ และหูกวาง ทั้งหมดพากันส่ายหน้า
วีก็ไม่ได้เรียกนะคะ ภารวีส่ายหน้าดิก
แล้วใครเรียกฉันล่ะ? จิดาเริ่มจะหวั่นๆ หรือว่าจะเป็นเสียง ผอ-สระอี แต่นี่มันยังไม่ถึงวันพระเลยนี่นา เซนส์ของเธอไม่น่าจะแรงขนาดนี้
คุณจี๊ด ผมอยู่นี่ จิดารู้สึกว่าเสียงนี้มันคุ้นหูยังไงพิกล
เสียงคุณเวทิน! เสียงคุณเวทินจริงๆด้วย จิดาเพ่งสายตามองฝ่าไปในความมืด ตอนนี้เธอได้ยินแต่เสียง ไม่เห็นตัว ภารวีเห็นท่าทางแปลกๆของจิดาก็ชักจะหวั่นๆ เธอเกาะแขนธันตะเอาไว้เป็นลูกเกาะพ่อ คุณอยู่ตรงไหน ออกมาให้ฉันเห็นหน่อยสิ พวกเรากำลังต้องการความช่วยเหลือจากคุณอยู่นะ
คุณลองตั้งใจมองอีกทีสิ ผมอยู่ตรงหน้าคุณนี่ไง จิดาปิดเปลือกตาลง ตั้งสมาธิและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้นมา และเธอก็พบว่าดวงจิตของเวทินกำลังยืนอยู่ตรงหน้าเธอจริงๆ แต่เห็นเลือนรางมากไม่ค่อยชัด เหมือนหลอดไฟที่ติดๆดับๆ
คุณ คุณจริงๆด้วย จิดาเอื้อมมือไปจับแขนเขา แต่ก็ลืมไปว่าเธอไม่สามารถจับต้องตัวเขาได้ คุณเป็นอะไรหรือเปล่า แล้วหายไปไหนมา รู้ไหมฉัน...เอ่อ ทุกคนเขาเป็นห่วงคุณมาก จิดายิงคำถามเป็นชุด
ไอ้กรมันลักพาร่างผมออกมาจากโรงพยาบาล แล้วเรื่องทุกอย่างมันก็เป็นจริงอย่างที่คุณว่า ไอ้กรมันแค้นผมเรื่องน้องเน และที่ผมต้องเกือบตาย กลายมาเป็นดวงจิตแบบนี้ทั้งหมดเป็นฝีมือของมัน
ฉันว่าแล้วไหมล่ะ ว่ามันต้องเป็นแบบนี้ จิดาดีดนิ้วเปาะเธอคิดตั้งแต่แรกแล้วว่าเรื่องคุณน้องเนติยา ต้องมีเอี่ยวกับเรื่องนี้ไม่มากก็น้อย แล้วมันก็เป็นอย่างที่เธอคิดจนได้
เฮ้ย ...ไอ้จี๊ด ตกลงเป็นคุณเวทินใช่ไหม ? ธนาถามเพื่อน จิดาพยักหน้า
แล้วเวทินว่ายังไงบ้างคะคุณจี๊ด ภารวีถามบ้าง
น่ะ นั่นสิคะ ว่ะ ว่าไงบ้างคะ หูกวางถามเสียงสั่น เธอพอจะรู้จากธนาอยู่บ้างว่ามีเพื่อนมีเซ้นส์ แต่ไม่ได้คิดว่าจะเป็นจิดา
เขาบอกว่าพวกนายกรศักดิ์เป็นคนลักพาร่างเขามาไว้ที่นี่ค่ะ จิดาหันมาบอกกับทุกคน
ไอ้จี๊ดถามคุณเวทินสิ ว่าโกดังร้างที่ว่ามันไปทางไหน ธนาว่า