Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ร่มรักเงาใจ >>>>>> บทที่ 2 vote ติดต่อทีมงาน

http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W13038620/W13038620.html  บทนำ - บทที่ 1


บทที่ 2

ตลอดระยะเวลาสามวันที่ผ่านมา ชีวิตของอรพลินต้องพบเจอกับคนมากหน้าหลายตาที่แวะเวียนมาเยี่ยมอาการของเธอ พร้อมทั้งแนะนำตัวเองว่าเป็นใครบ้าง ซึ่งมีทั้งเพื่อนสมัยเรียนมัธยมปลาย เพื่อนร่วมคณะที่มหาวิทยาลัย อาจารย์ เพื่อนของพ่อแม่ พี่ชาย ป้าแม่บ้านที่คอยทำกับข้าวให้เธอกิน ว่าที่เจ้าสาวของอดิรุจ ซึ่งอรพลินสามารถท่องจำชื่อของคนเหล่านั้นได้อย่างรวดเร็ว ทุกอย่างดำเนินผ่านไปอย่างราบรื่น จะยกเว้นก็แต่เช้าวันนี้ที่ทั่วทั้งห้องพักนั้นเต็มไปด้วยดอกกุหลาบสีขาว ราวกับมีใครยกมหกรรมกุหลาบขาวมาไว้ในห้อง แต่นั่นก็ยังไม่น่างุนงงเท่ากับได้เห็นชายหนุ่มอีกคน ที่ตอนนี้กำลังยืนคุยอยู่กับหมอศิวัฒที่เป็นเจ้าของไข้เธอ หญิงสาวมองสำรวจเขาอย่างละเอียด ตั้งแต่ร่างสูงสมส่วนที่มีกล้ามเนื้อแน่นอย่างคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ ผมสีดำสนิทตัดลองทรงรับเข้ากับเครื่องหน้าคมเข้ม ที่ถึงแม้ว่าในตอนนี้หัวคิ้วนั้นจะขมวดยุ่ง สีหน้าแสดงชัดว่ากำลังเครียดจัด หากแต่ก็ยังดูดี ซึ่งอรพลินมั่นใจว่า หากเขาแย้มรอยยิ้มหรือตั้งใจหว่านเสน่ห์แล้วล่ะก็ ไม่ว่าสาวแท้สาวเทียมเป็นอันได้ละลายไปต่อหน้าต่อตาเขาเป็นแน่

แล้วในที่สุด เขาก็หันมามองเธอ ขณะที่หมอผู้เป็นเจ้าของไข้ขอตัวออกไปจากห้อง

“ไงค่ะ เป็นยังไงบ้าง เจ็บแผล ปวดหัวบ้างไหม”น้ำเสียงทุ้มนุ่มอ่อนโยนนั้น บ่งชัดว่าห่วงใยคนเจ็บหนักหนา

“ดีขึ้นเยอะแล้วค่ะ ยังเจ็บแผลบ้าง แต่ไม่ปวดหัวแล้ว”อรพลินตอบกลับช้าๆ จ้องอีกฝ่ายตาแป๋ว ก่อนจะยกมือขึ้นไหว้อย่างอ่อนน้อมสวยงาม แม้ยังไม่แน่ใจว่าเป็นใคร แต่ก็ทักทายไปตามมารยาทที่ดี ตามที่อดิศรเคยบอกย้ำไว้ “ขอบคุณค่ะที่มาเยี่ยม”

“หืม...”อีกฝ่ายถึงกับทำเสียงแปลกใจ คิ้วขมวดมุ่น กระพริบตาปริบๆ อยู่สักพัก แล้วก็ทำท่าคอตก ถอนหายใจดังเฮือก “ถึงมิกซ์จะบอกล่วงหน้า แต่มาเจอเข้าจริงๆ ทำใจลำบากเหมือนกันนะเนี่ย”

ประโยคนั้นกระตุ้นในสิ่งที่พี่ชายคนกลางเคยพูดคุยด้วย “เอ่อ...คุณ ดนุนัย ใช่ไหมค่ะ”

“พี่รักค่ะ พี่รัก”พันตรีดนุนัย  โชติภูมินทร์เอ่ยเสียงขื่น ใบหน้าหล่อบิดเบี้ยวราวกับถูกมีดบาด “ปกติหนูโมเรียกพี่แบบนี้”

หญิงสาวทำสีหน้าเก้อกระดาก “ก็ตอนนี้ไม่ปกตินี่ค่ะ”

“เอาเป็นว่าเรียกพี่รักเหมือนเดิม อย่าเรียกชื่อจริงอีกนะคะ พี่รับไม่ได้”

อรพลินพยักหน้ารับ ก่อนจะกวาดสายตาไปรอบๆ ห้อง อ้อมแอ้มถาม

“เอ่อ...แล้วดอกไม้เยี่ยมพวกนี้มากจากไหนบ้างค่ะ พร้อมใจซื้อสีเดียวกันหมดเลย”

คราวนี้ดนุนัยยิ้มหน้าบาน “พี่ซื้อมาเองค่ะ กุหลาบขาว ดอกไม้ที่หนูโมชอบไงค่ะ”

คนได้ดอกกุหลาบขาวเต็มห้องชี้หน้าตัวเอง “ดอกไม้ที่โมชอบ เหรอค่ะ”

คิ้วเรียวสวยเลิกขึ้นสูง หัวเราะแหะๆ พร้อมกับส่ายหน้าดิก เล่นเอาคนหอบกุหลาบมาหมดร้านร้องอุทานเสียงหลง

ดนุนัยตีหน้าผากตัวเองดังเพียะ ท่าทางเหมือนอยากจะเป็นลม “อะไรมันจะขนาดนี้ว่ะเนี่ย”

“โมขอโทษค่ะ”อรพลินซึ่งรู้ตัวว่าโรคความจำเสื่อมของเธอทำพิษกับคนรอบข้างอีกแล้ว เอ่ยขอโทษเสียงแผ่ว ริมฝีปากบางสีชมพูเรื่อสั่นระริก “ขอโทษที่จำไม่ได้ แต่ว่ากุหลาบพวกนี้สวยมากจริงๆ ขอบคุณนะคะ พี่รัก”

ดนุนัยหันมาสบตา มือใหญ่ยกขึ้นลูกศรีษะน้องสาวต่างสายเลือด ที่เขาทั้งรักและเอ็นดูประหนึ่งน้องสาวแท้ๆ

“ไม่ต้องขอโทษหรอกค่ะ มันไม่ใช่ความผิดของหนูโมสักหน่อย แต่พี่รักตั้งใจไว้แล้วว่าถ้าเจอหน้าไอ้แม็ค จะขอตบกบาลมันสักทีสองที หนูโมอย่าห้ามพี่นะคะ”ชายหนุ่มยิ้มน้อยๆ นัยน์ตาวิบวับราวกับจิ้งจอกที่มั่นใจว่า จะขย้ำเหยื่อได้แน่ๆ

“หา!!” อรพลินอุทานลั่น ดวงตากลมโตเบิกกว้าง “พี่แม็คไปเกี่ยวอะไรด้วยล่ะค่ะ”

ดนุนัยกอดอก หลังตั้งตรง ท่าทางราวกับเอ่ยคำพิพากษานักโทษ “เท่าที่พี่รู้มา มันมัวแต่คุยโทรศัพท์ เลยหักหลบรถไม่พ้น จนไปเสยกับรถพ่วงไงค่ะ”

“แค่อุบัติเหตุ อย่าโทษพี่แม็คเลยนะคะ หลายวันมานี่พี่เขาก็เอาแต่โทษตัวเอง โมไม่อยากให้พี่แม็คกลับไปรู้สึกผิดอีก”หญิงสาวพยายามเจรจาหาทางรอดให้พี่ชาย ที่ตอนนี้ออกจากโรงพยาบาลกลับไปพักฟื้นที่บ้านเรียบร้อยแล้ว

“เอ้า ก็ได้ค่ะ พี่เห็นแก่หนูโมนะ”

อรพลินบอกขอบคุณ ยิ้มกว้าง ดูท่าทางคนๆ นี้จะตามใจเธอทุกอย่างๆ ที่อดิศรเคยบอกไว้จริงๆ เสียด้วย

“แล้วเจอพ่อกับแม่พี่บ้างหรือยังค่ะ”

“เจอแล้วค่ะ คุณลุงกับคุณป้ามาเยี่ยมบ่อยๆ”อรพลินตอบ พลางนึกไปถึงคุณหญิงพรพรรณกับพลโทสิทธา ที่มักหอบหิวบรรดาขนมกับผลไม้ทุกอย่างที่เธอกินได้และอยากกินมาให้ทุกครั้ง จนของเยี่ยมล้นห้อง อดิศรที่คอยอยู่ดูแลอาการน้องสาวเลยพลอยได้อนิสงไปด้วย “คุณลุงคุณป้าใจดี น่ารักมากๆ ด้วยค่ะ”

นัยน์ตาสีนิลของดนุนัยทอดมองอย่างอ่อนโยน “พ่อกับแม่พี่เห็นหนูโมเหมือนลูกสาวท่านอีกครหนึ่ง ทั้งรัก หวง ห่วง มากกว่าพี่ที่เป็นลูกแท้ๆ อีก”ประโยคหลังเสียงติดประชดนิดๆ

อรพลินนึกถึงสองสามีภรรยาโชติภูมินทร์ ที่รักเอ็นดูและคอยเป็นห่วงเธอไม้น้อยไปกว่าครอบครัวแท้ๆ ถึงจะแปลกใจอยู่บ้าง ว่าทั้งที่ตนเองก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดด้วยเลยสักนิด แต่ได้รับความรักที่อบอุ่นบริสุทธิ์ใจขนาดนั้นได้อย่างไรกัน ดูท่าก่อนความจำ เธอคงผูกพันกับครอบครัวนี้มากกระมัง

หญิงสาวหันไปยิ้มให้ดนุนัยอีกครั้ง นึกอยากถามให้หายสงสัย แต่คงเป็นเรื่องเสียมารยาทเอามากๆ

เงียบไว้ดีกว่า อีกสักพักคงจำได้เอง

“หนูโมหิวไหมค่ะ พี่จะได้ไปหาซื้ออะไรมาให้ทานลองท้องไปก่อน เพราะป้าดาบอกว่าอาจมาถึงช้าสักหน่อย เห็นว่ารถติดน่าดู”ดนุนัยถาม หลังจากที่เพิ่งกดโทรศัพท์วางสายจากผู้เป็นแม่ของอรพลิน

“ยังไม่หิวค่ะ รอกินฝีมือป้าช้อยได้ ป้าช้อยทำกับข้าวอร่อย”อรพลินว่า หลายวันที่ผ่านมา เธอติดรสชาตอาหารของป้าช้อย แม่บ้านวัยหกสิบของที่บ้านซะจนแทบจะไม้แตะอาหารจากฝีมือใครอีกเลย

“ป้าช้อยมาได้ยินเข้าคงดีใจร้องวีดว้ายเป็นสาวๆ แน่”

“ขนาดนั้นเลยเหรอค่ะ”

“ก็ใช่สิค่ะ เมื่อก่อนหนูโมติดกับข้าวฝีมือป้าช้อยมากขนาดนี้เสียที่ไหน ชอบบอกว่าทานมาจากข้างนอกแล้ว ๆ ก็วิ่งหายขึ้นไปขลุกอยู่บนห้องนอน ตอนเช้าจะไปเรียนก็ดื่มแต่นมจืด”

อรพลินหน้าเหวอกับพฤติกรรมการกินของตัวเองในสมัยก่อน แต่ก็อดดีใจไม่ได้ที่ผลพวงจากการความจำเสี่ยมของเธอ ได้มีโอกาสทำให้คนอื่นรู้สึกดีเป็นครั้งแรก

“ว้ายดาร์ลิ้ง!! กลับมาเมื่อไร มามะ ขอกอดให้หายคิดถึงทีนึง”

เสียงวีดว้ายของใครบางคนทำเอาอรพลินหลุดจากภวังค์ หันไปมองนิรชา เพื่อนสมัยเรียนมัธยนของเธอที่เพิ่งมาถึง พร้อมกับชาวแก๊งซี้ย่ำปึ๊กของเธอ (ตามคำบอกเล่าของเพื่อน) ที่แวะมาเยี่ยมเธอแทบทุกวัน

“ให้มันน้อยๆ หน่อยนังชะนีป๊อบ เกรงใจคนเจ็บบ้างสิย่ะ – มามะพี่รัก ขอน้ำผึ้งกอดที”

นี่ก็อีกคน อรพลินยิ้มให้กับท่าทีกระตุ้งกระติ้งอันสุดแสนจะน่ารักน่าหมั่นไส้ของอัครเดช ที่แม้ชื่อจริงกับรูปร่างสูงโปร่งและไสต์การแต่งตัวนั้นสุดแสนจะมาดแมน แต่กิริยาท่าทางออกชัดว่าแต๋วแตก

ดนุนัยหัวเราะร่วน เอ่ยบอกเพื่อนสนิทของน้องสาวอย่างอารมณ์ดี

“ไม่ต้องแย่งกัน พี่ให้กอดทุกคน”

เท่านั้นล่ะ สงครามแย่งชิงพื้นที่ด้านหน้าลำตัวของดนุนัยก็ปะทุขึ้น ซึ่งบทสรุปก็คืองานนี้นิรชาเป็นฝ่ายชนะ

“หล่อนก็กอดข้างหลังไปสิย่ะนังน้ำผึ้ง ชอบเข้าข้างหลังไม่ใช่เหรอ”

“ถึงน้ำผึ้งจะชอบ แต่พี่ไม่ปลื้มจ๊ะ” ดนุนัยแซว แกล้งขยัยถอยหนี ทำเอาอีกฝ่ายส่งค้อนควับจนน่าหวาดเสียวว่าคอจะหัก

“ดีเนอะ มาเยี่ยมเพื่อน แต่พอมาถึงไม่ทักเพื่อนสักคำ -- ว้าวโม กุหลาบขาวเต็มห้องเลย ชอบเลยสิท่า” เพชรตียิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้คนที่เคยชอบกุหลาบขาว ที่ได้แต่หัวเราะแหะๆ กระทบไปถึงคนซื้อที่ความรู้สึกไว ยืนทำตาละห้อยทันที

“ถ้าเมื่อก่อนล่ะใช่ แต่ตอนนี้หนูโมไม่ปลื้มกุหลาบขาวแล้วน่ะสิ”ดนุนัยว่า

สองสาวกับหนึ่งสาวเทียมหันควับมามองคนเจ็บ ดวงตาเบิกโตแทบถลน

“อีกแล้วเหรอโม”อัครเดชปราดเข้ามายืนชิดเตียงคนเจ็บ จ้องตาไม่กระพริบ เพราะตั้งแต่เพื่อนความจำเสื่อม อะไรหลายๆ อย่างก็กลับตละปัด ของที่เคยชอบกลับไม่ใช่ ส่วนอะไรที่ไม่เคยแม้แต่คิดจะแลกลับชอบขึ้นมาซะอย่างนั้น

อรพลินตอบเสียงอ้อมแอ้ม “ไม่ใช่ไม่ชอบ แค่เฉยๆ”

“นั่นแหล่ะ ก็ไม่ต่างกันเท่าไร ยังไงก็ไม่เหมือนเดิม แต่ก็นะ เธอความจำเสื่อมนี่ ไม่ต้องคิดมากหรอก”นิรชาว่า ลูบแขนเพื่อนเป็นเชิงปลอบ

“เราสามคนน่ะ มีธุระที่ไหนต้องรีบไปต่อรึเปล่า”

เพชรตีส่ายหน้า “ไม่มีค่ะ นี่ตั้งใจมาเยี่ยมโมโดยเฉพาะ”

“ถ้างั้นอยู่เป็นเพื่อนหนูโมไปก่อนนะ จนกว่าป้าดากับเจ้ามิกซ์จะมา ได้ไหมค่ะ”

“อ้าว พี่รักจะไปไหนอ่ะ”อัครเดชถาม คิ้วเลิกขึ้นสูงอย่างแปลกใจ

“กลับบ้านไปอาบน้ำเปลี่ยนชุด ต้องไปรายงานตัวที่กรมฯ เพราะพอออกจากป่ามาก็ตรงดิ่งมาหาหนูโมเลย”ดนุนัยตอบ ลุกขึ้นเดินตรงไหลูบศรีษะน้องสาว ส่งยิ้มหวาน “พี่ไปก่อนะคะ แล้วพรุ่งนี้จะมาเยี่ยมใหม่”

อรพลินพยักหน้ารับ ยกมือไหว้”

“เปลี่ยนจากกอดลาเป็นยกมือไหว้ด้วยแฮะ”

อรพลินยิ้มแหย มองอีกฝ่ายที่เดินพ้นออกไปจากห้อง ก่อนจะกลับมาส่งคำถามเอากับเพื่อน

“เมื่อก่อนฉันทำแบบนั้นจริงๆ หรือว่าถูกอำ”

“เรื่องอะไร”นิรชาถาม ร่างที่ค่อนข้างกลมหันไปคว้าของเยี่ยมที่มีล้นห้องมาใส่ปาก เคี้ยงตุ้ยๆ

“ก็...กอดลา แทนยกมือไหว้ไง”

“ไม่ใช่แค่กอดลา แต่เป็นเจอหน้าพี่รักที่ไร หล่อนน่ะโผเข้ากอดพี่เขาทุกครั้ง”อัครเดชตอบแทนอีกคน ที่ตอนนี้ของกินเต็มปาก

ใบหน้าของอรพลินร้อนผ่าวเมื่อได้รับคำตอยนั้น นี่เมื่อก่อนเธอติดดนุนัยมากขนาดนั้นเลยหรือ แปลก ทำไมตอนนี้ไม่ยักจำได้ แต่ก็อีกนั่นล่ะ ก็เธอความจำเสื่อม เสื่อมชนิดที่แทบไม่หลงเหลืออะไรเลยนี่นา

“แต่ตามปกติ ถึงแม้จะจำไม่ได้ เธอก็น่าจะรู้สึกคุ้นๆ บางนะโม ยิ่งกับพี่รักด้วยแล้ว น่าจะมีอิทธิพลมากกว่าคนอื่นนะ”เพชรตีพูด ใบหน้าเรียวราวรูปไข่ครุ่นคิด ก่อนจะเบิกตาโผลงในวินาทีถัดมา “ตายแล้วยายโม แบบนี้เธอจะจำเกี่ยวกับเรื่องเรียนได้บ้างไหมเนี่ย”

“เรียนเหรอ”

“ใช่ ไอ้ที่เรียนมาตอนปีหนึ่งน่ะ จำได้มั่งไหม”

ใบหน้าของหญิงสาวเริ่มออกอาการวิตกกังวล จนเพื่อนที่คอยจ้องเขม็งใจหายวาบ

“จะเหลือเหรอ”อัครเดชสรุปอย่างชัดเจน

“เอาเป็นว่าถ้าออกจากโรงพยาบาลเมื่อไรฉันจะช่วยไปติวเข้มให้ถึงบ้านเลยนะ เธอน่ะไอคิวตั้งร้อยแปดสิบ สอนแปปเดียวเดี๋ยวก็เข้าใจหมด”นิรชาเสนอตัว

อัครเดชปรายจามองเพื่อนอย่างรู้ทันความคิด “ต๊าย...เรียนอยู่คณะบริหาร แถมมหา’ลัยยังอยู่ภาคใต้ ริอ่านไปสอนเด็กคณะวิศวะคอมพิวเตอร์ คิดได้ไงย่ะหล่อน บอกไปตรงๆ เถอะว่าอยากไปกินของฟรีบ้านเพื่อน เห็นแก่กินจริงๆ เปลี่ยนจากชื่อป๊อบเป็นตุ่มเลยดีไหม รูปร่างใกล้เคียงเข้าไปทุกวันแล้วนี่”

“หยาบคาย ฉันก็แค่อยากช่วย ส่วนเรื่องของกิน ก็แล้วแต่ความเมตตาของเพื่อน”

“พูดไปพูดมาก็ไม่พ้นตัวเลย ยายป๊อบเอ้ย”เพชรตีส่ายหน้า หันไปมองอรพลินที่ยังไม่มีทีท่าคลายความวิตกกังวล “ไม่เอาน่าโม อย่าคิดมาก ขนาดเวลาไม่กี่วันเธอยังจำคนเป็นสิบๆ ได้เลย ก็อย่างที่ป๊อบบอก เธอน่ะไอคิวตั้งร้อบแปดสิบ เผลอๆ ฉันอาจจะสอนให้เธอแค่สัปดาห์เดียว แล้วก็จะกลับไปเป็นเหมือนเดิม คือเธอเป็นฝ่ายติวให้ฉัน”

“มันไม่ใช่แค่นั้นสิรตี แล้วคนอื่นที่ฉันยังไม่มีโอกาสได้เจอล่ะ ไหนจะชีวิตในมหา’ลับอีก ฉันควรทำไงดี”

อัครเดชทำเสียงฮึดฮัดขัดใจ “ไม่เห็นต้องทำอะไร เธอจะไปแคร์ทำไม สนใจแค่คนที่เธอรักกับคนที่รักเธอเท่านั้นก็พอแล้ว”

อรพลินพยักหน้ารับ ทั้งที่ในจิตใจยังคงรู้สึกหนักอึ้ง

                               ............................................

แก้ไขเมื่อ 08 ธ.ค. 55 19:43:24

จากคุณ : Fercianut
เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 55 16:15:37




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com