ถ้าไม่ลองหัดอ่านดูจะรู้หรือว่าชอบหรือไม่ชอบ พวกการ์ตูนหรือนิยายไม่เหมือนหนังสือเรียนหรอกนะเพราะมันช่วยคลายเครียดได้มากกว่า อาจารย์เองก็ชอบอ่านหนังสือแปลเหมือนกัน โดยเฉพาะพวกสืบสวนสอบสวน
อาศิรพิศเบ้ปาก อย่าดีกว่าค่ะ เสียเวลาเขียวซ้อมเปล่า ๆ อาจารย์อย่าลืมสิคะว่าเป้าหมายของเขียวคือโอลิมปิก เขียวจะไม่หยุดจนกว่าจะได้เหรียญทองโอลิมปิกแน่ พูดจบเธอก็เปิดตารางการฝึกซ้อมก่อน โดยข้ามตารางโภชนาการที่อาจารย์จัดไว้ทางด้านหน้าสุดไป เมฆส่ายศีรษะช้า ๆ ก่อนบอกอย่างปลงตก
ก็ตามใจเธอนะ แต่อย่าลืมเรื่องน้ำหนักล่ะ
รับทราบค่ะ เขียวกลับก่อนนะคะอาจารย์ เด็กสาวพนมมือไหว้อย่างนอบน้อมก่อนจะวิ่งตื๋อออกจากอาคารพละ ท่าทางกระโดกกระเดกแต่สดใสร่าเริง ทำให้อาจารย์หนุ่มสับสนว่าตนเองควรจะดีใจหรือเสียใจกับเด็กสาวที่เริ่มจะไม่เหมือนผู้หญิงมากขึ้นทุกขณะ
แม้จะตัวสูงกว่าเด็กวัยเดียวกัน แต่อาศิรพิศจัดว่าผอมมากเมื่อเทียบสรีระกับเด็กสาวทั่วไป เรียกได้ว่าถ้าดูเผิน ๆ จะนึกว่าเป็นเด็กผู้ชาย แต่ก็น่าประหลาดใจว่าร่างกายที่ไร้ไขมันอย่างสิ้นเชิงนั้นกลับมีพละกำลังอันมหาศาลซุกซ่อนอยู่ อาศิรพิศถนัดงานด้านการใช้แรงทุกประเภท ขนาดถุงน้ำตาลหนักมากกว่าน้ำหนักของตัวเอง เธอยังแบกได้สบาย ๆ
และด้วยความที่เจ้าตัวไม่เคยไว้ผมยาวเลยทำให้มีผู้หญิงมากมายเข้าใจผิดคิดว่าอาศิรพิศมีจิตใจฝักใฝ่ในเพศเดียวกัน ยิ่งเป็นแชมป์กีฬาเทควันโดระดับจังหวัดด้วยแล้ว ยิ่งทำให้เด็กสาวหลายคนถึงกับตั้งแฟนคลับ เรารักงูเขียว ขึ้น ทั้งยังเก็บภาพของอาศิรพิศขณะกำลังซ้อมแชร์ลงในเฟสบุ๊กอีกด้วย เมฆเคยเข้าไปดูครั้งหนึ่งเมื่อหลายเดือนก่อนและถึงกับตกใจว่าแฟนคลับ เรารักงูเขียว มีเกือบครึ่งหมื่น แถมส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงแทบทั้งสิ้น
แต่อาศิรพิศไม่เคยรู้เรื่องนี้เลย ด้วยเจ้าตัวไม่เสพติดโซเชียลเน็ตเวิร์ก อันที่จริงเมฆยังสงสัยว่าลูกศิษย์ของเขาคนนี้จะรู้จักอินเทอร์เน็ตหรือไม่ แต่พอคิดได้ว่าเจ้าตัวชอบดูการแข่งขันมวยสากลเก่า ๆ ทางยูทิวป์ เขาก็ตัดประเด็นเรื่องที่งูเขียวจะตามโลกไม่ทันเพราะมัวแต่สนใจศิลปะการต่อสู้ทิ้งไป
ทว่าพอคิดย้อนอีกที อาศิรพิศดูแต่การต่อสู้ผ่านทางยูทิวป์เท่านั้น เท่ากับว่าเจ้าหล่อนยังหายใจเข้าหายใจออกเป็นเรื่องใช้แรงและพละกำลังอีกอยู่ดี สำหรับเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง การใส่ใจจนถึงขั้นหมกมุ่นในเรื่องที่ไม่สมเป็นกุลสตรีถึงขนาดนั้นถือได้ว่าน่าสงสารทีเดียว
นั่นหรือครับงูเขียวคนดัง ผมเพิ่งเคยเห็นหน้าแฮะ จะว่าไปแล้วเห็นว่าเธอมีคู่แฝดอีกคนใช่ไหมครับ คำถามของลูกศิษย์อีกคนทำให้อาจารย์เมฆมองเขา ก่อนจะก้มหน้าลงต่ำเพราะเขาลืมไปว่าสั่งให้ลูกศิษย์คนนี้วิดพื้นอยู่
ครบแล้วเหรอ เมฆถาม และได้รับคำตอบเป็นการพยักหน้า
ครับ ครบแล้ว ว่าแต่คู่แฝดของงูเขียวเขาไม่สนใจจะเล่นกีฬาบ้างหรือครับ คนพี่ยังเก่งขนาดนี้ คนน้องน่าจะพอ ๆ กัน ความคิดเห็นของเขาทำให้อาจารย์เมฆยิ้มเจื่อน
ไม่รู้สิ แฝดคู่นี้เหมือนเกิดมาสลับเพศกัน คนพี่เก่งการต่อสู้ทั้งที่เป็นผู้หญิง แต่คนน้องกลับสนใจเรื่องแต่งตัวแต่งหน้าทำอาหารทั้งที่เป็นผู้ชาย
คำพูดของอาจารย์ทำให้เด็กหนุ่มอ้าปากค้าง เป็นผู้ชาย แต่สนใจการแต่งตัวแต่งหน้าทำอาหารหรือครับ เอ ผมได้ยินว่าบ้านอนันตรัยเป็นพวกผู้มีอิทธิพลนี่นา ลูกชายเขาเป็นแบบนั้นแล้วมันจะดีเหรอ
ไม่รู้สิ ครอบครัวนี้แปลกมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว อาจารย์เมฆยักไหล่ ก่อนจะเตือนเขา เธออย่าเพิ่งคิดเรื่องของคนอื่นเลย จังหวะเท้าขวาของเธอยังไม่ดี ต้องปรับปรุงอีกมากนะ วิดพื้นเสร็จแล้วก็ไปซ้อมเตะขาต่อเลยไป
ลูกศิษย์ทำหน้าเหมือนถูกบังคับให้กลืนตะปูแต่ก็ยอมลุกไปซ้อมโดยดี เพราะรู้ดีว่าการชิงชัยในเกมกีฬาเริ่มตั้งแต่การเอาชนะตัวเองเสมอ
ระหว่างที่ลูกศิษย์ซ้อมเตะขาอยู่ อาจารย์เมฆก็อดคิดถึงคู่แฝดอีกคนของอาศิรพิศไม่ได้ เด็กหนุ่มคนนั้นเด่นทางด้านเย็บปักถักร้อยและการทำอาหาร อีกทั้งยังไว้ผมยาวและแต่งตัวเหมือนเด็กผู้หญิง จริงอยู่ที่โรงเรียนมีกฎห้ามนักเรียนชายไว้ผมยาว แต่ด้วย คำขอร้อง ของบ้านอนันตรัยทำให้ไม่มีใครกล้าท้วงติงใด ๆ ทั้งสิ้น เมฆสงสัยว่าบางทีคำขอร้องนั้นอาจมาพร้อมปืนกระบอกเขื่องหรือการข่มขู่ฆ่าตามประสาผู้มีอิทธิพลที่เขาเคยเห็นในละคร หากมันก็ทำให้เขาสงสัยว่าแค่เพื่อให้ลูกชายได้แต่งหญิงตามอำเภอใจถึงกับต้องทำขนาดนั้นเลยเชียวหรือ
ซึ่งมันก็เป็นข้อสันนิษฐานแบบลอย ๆ ไร้เหตุผลอ้างอิง อาจารย์หนุ่มคิดว่าบ้านอนันตรัยที่มีทั้งชื่อเสียงและชื่อเสียคงไม่ทำอะไรเล็ก ๆ อย่างเช่นข่มขู่โรงเรียนเพื่อให้ลูกชายได้แต่งตัวเป็นผู้หญิงเท่านั้นกระมัง แต่จะด้วยเหตุผลอะไรก็สุดจะคาดคิดได้และเขาก็ไม่นึกอยากคาดเดาต่อไปอีกด้วย เพราะตอนนี้เขามีภารกิจสำคัญรอคอยอยู่ นั่นคือการทุ่มเทกำลังความสามารถของตนทั้งหมด เพื่อส่งเสริมสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัวอนันตรัยให้ก้าวเข้าสู่วงการกีฬาระดับโลก
แต่เจ้าตัวจะไปถึงจุดนั้นได้จริงหรือไม่ เป็นเรื่องที่เขาไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้เลย
ข่าวดีของอาศิรพิศสร้างความยินดีให้กับทุกคนในครอบครัวอนันตรัย มังกร ปู่ของเด็กสาวถึงกับจะสั่งโต๊ะจีนเลี้ยงฉลองคนในละแวกเดียวกัน อาศิรพิศส่ายศีรษะอย่างไม่เห็นด้วยก่อนจะปรามผู้ชราที่แม้จะสูงวัยแล้วก็ยังเลือดร้อนไม่เปลี่ยน
เอาไว้ก่อนเถอะปู่ ไว้ให้เขียวไปซีเกมส์ได้ก่อนแล้วค่อยเลี้ยง
ระดับหลานปู่ผ่านอยู่แล้ว เลี้ยงโต๊ะจีนไปเลย ถือว่าทำน้ำหนักด้วย มังกรพูดพลางยิ้มกว้างอย่างภาคภูมิใจ
โถ ปู่ขา สำหรับนักกีฬานี่น้ำหนักเกินเป็นปัญหาใหญ่กว่าน้ำหนักขาดนะคะ อาศิรวิษออกความเห็น ก่อนชำเลืองไปทางพี่สาวพลางม้วนผมยาวดัดเป็นลอนของตัวเองเล่น ได้เอาตารางโภชนาการมาด้วยหรือเปล่าล่ะ เดี๋ยวเบลล่าจะได้จัดให้
กระดิ่งจะสมัครประกวดออกแบบชุดแต่งงานของร้านป้ามิลันดาไม่ใช่หรือลูก บุษย์ค้าน เพราะเห็นใบสมัครที่กรอกข้อมูลเรียบร้อยอยู่บนโต๊ะเขียนหนังสือของลูกชาย แต่เด็กหนุ่มรีบยกมือทาบอก ดวงตาเบิกโพลงเล็กน้อยและอุทาน
ว้าย ! คุณแม่ขา ไม่เอาค่ะไม่เรียกแบบนั้น เรียกว่าเบลล่าสิคะ เพราะกว่ากันเยอะเลย
หลังจากที่กลับจากตลาด อาศิรวิษบังคับให้ทุกคนในบ้านเรียกตนเองว่า เบลล่า แทน กระดิ่ง เรียบร้อยแล้ว ทั้งยังขู่สำทับด้วยว่าถ้าไม่มีใครเรียกจะไม่ทำกับข้าวหรือทำขนมให้กิน ซึ่งก็ไม่มีใครกล้าขัด เพราะฝีมือการทำอาหารของนายน้อยบ้านอนันตรัยเรียกได้ว่า อร่อยเหลือเชื่อ แม้ว่าเจ้าตัวจะทำอาทิตย์ละสองหรือสามครั้ง ตามแต่จะได้สูตรจากอินเทอร์เน็ตเพราะไม่อยากก้าวก่ายหน้าที่แม่ครัวประจำบ้านอย่างป้ากิ่ง ป้าแก้ว และแม่บุษย์ของตน แต่ทุกครั้งที่อาศิรวิษทำอาหารหรือขนม วันนั้นทุกคนในครอบครัวรวมไปถึงคนงานจะยิ้มแก้มปริ ตั้งหน้าตั้งตารอกินตลอดทั้งวัน
ฝันเถอะไอ้กระดิ่ง อาศิรพิศไม่พูดเปล่า แต่ยังยกเท้ายันตัวน้องชายเป็นเชิงหยอก ซึ่งก็ตามคาด อาศิรวิษยันกลับมา เด็กสาวเลิกคิ้วเมื่อรับรู้น้ำหนักจากฝ่าเท้าของน้อง
วิ่งทุกวันหรือเปล่ากระดิ่ง กำลังขาเหมือนจะลดลงนะ
ขืนวิ่งน่องก็โป่งสิยะ ฉันปั่นจักรยานแล้วกลับมาซิดอัพ แล้วก็ให้ป้าเฉิดนวดขาต่อ จะได้เพรียวเรียวสวย นุ่งสั้นไม่ต้องอายใคร
แล้วถ้าพีชชี่นุ่งสั้นตามนายล่ะ เขียวถามพร้อมกับทำหน้ายิ้มเยาะ น้องชายจึงตอบด้วยการยกเท้ายันพี่สาวอีกระลอก คราวนี้แรงกว่าเดิม
มากไปไอ้เขียว ฉันไม่ยอมให้พีชชี่นุ่งสั้นหรอกย่ะ
อาการหวงก้างสาวน้อยข้างบ้านของลูกชายทำให้ทุกคนในบ้านหัวเราะ จากนั้นบุษย์จึงพูดกับอาศิรวิษ
กระ...เอ๊ย เบลล่ายังไม่ได้ตอบแม่เลยนะ คนเป็นแม่ยอมเปลี่ยนชื่อลูกโดยดีเมื่อเห็นสายตาลูกแมวออดอ้อนของอาศิรวิษ
เบลล่าก็ว่าจะสมัครอยู่ค่ะ แต่ถ้าเขียวต้องไปคัดตัวเข้าซีเกมส์ เบลล่าไม่ประกวดก็ได้ค่ะ
ไม่ได้นะไอ้กระดิ่ง กษีรพูด คติของบ้านอนันตรัยคือถ้าจะทำก็ต้องทำให้สุดฝีมือ สุดชีวิต ห้ามละทิ้งสิ่งที่ทำกลางคัน พ่อคนหนึ่งละไม่ยอม
ปู่ด้วย มังกรเสริม
แหม เบลล่ายังไม่ได้ส่งใบสมัครสักหน่อยนี่คะ พ่อ:-)็ เด็กหนุ่มทำปากยู่ ทำให้กษีรกอดอก หรี่ตาและอธิบายด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น
แค่เดินเข้าไปขอใบสมัครพ่อก็ถือว่ากระดิ่งเริ่มต้นแล้ว และเมื่อเริ่มต้นก็ต้องทำต่อไป ห้ามหยุดจนกว่าจะสำเร็จ จากนั้นเขายกนิ้วชี้ขึ้นเป็นเชิงห้ามเมื่อเห็นลูกชายอ้าปากจะค้าน พ่อจะไม่ยอมเรียกตามที่กระดิ่งขอจนกว่ากระดิ่งจะรับปากกับพ่อว่าจะเข้าประกวด และต้องทำให้สำเร็จด้วย
ประมุขตัวจริงของบ้านอนันตรัยกวาดตาไปทั่วโถงรับแขกก่อนจะหยุดที่ภรรยาของตน ฝากบุษย์ไปบอกทุกคนด้วยว่าให้เรียกกระดิ่งเหมือนเดิม จะไม่ทำกับข้าวอีกก็ตามใจ
เมื่อเห็นแม่ของตนรับปาก อาศิรวิษก็ทำหน้าม่อย เขามองพี่สาวอย่างขอความช่วยเหลือ แต่อาศิรพิศกลับเห็นด้วยกับบิดา
ถูกของพ่อเสือนะกระดิ่ง อีกอย่างป้ามิลันดาก็ชอบฝีมือกระดิ่งด้วย อย่าทำให้ป้าผิดหวังสิ
แต่เขียวจะไปซีเกมส์เชียวนะ เบลล่าเลยอยากจะช่วยทางนี้มากกว่านี่
แม่จัดการได้ ถึงจะไม่ได้ศึกษาด้านโภชนาการมาจนเก่งเหมือนกระดิ่งก็เถอะ บุษย์บอก เอาแบบนี้ดีไหม กระดิ่งก็สอนแม่บ้าง เรื่องเครื่องวัดเครื่องตวงน่ะ ถ้ากระดิ่งมีเวลาก็ลงมาช่วยดูหน่อย ดีไหมจ๊ะ
แต่คุณแม่ขาก็งานเยอะนี่คะ ไหนจะเรื่องบัญชีของบริษัท ไหนจะเงินเดือนพนักงาน แล้วยังเรื่องจุกจิกจิปาถะในไร่ในฟาร์ม... แล้วความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมา เอาแบบนี้ก็แล้วกันค่ะ เบลล่าจะทำทั้งสองอย่างพร้อมกันเลย ทั้งดูแลโภชนาการของเขียว แล้วก็เข้าประกวดชุดแต่งงานด้วย
ไหวเหรอ คำถามของอาศิรพิศทำให้เด็กหนุ่มยิ้มกว้าง
ถ้าจัดแบ่งเวลาใหม่ก็ไหวแน่ เขียวเอาตารางซ้อมกับตารางโภชนาการมาให้เบลล่าดูหน่อย เดี๋ยวจะได้ทำแผนงานประจำวันไว้เลย
อยู่ในห้องแน่ะ จะไปดูกันเลยไหม อาศิรพิศบอกพร้อมกับลุกขึ้นยืน บุษย์รีบพูด
ไหวแน่หรือกระดิ่ง แม่ช่วยได้จริง ๆ นะ
สีหน้าเป็นกังวลของแม่ทำให้ลูกชายกระถดตัวเข้าไปสวมกอด
เบลล่ารู้ค่ะว่าคุณแม่ขาช่วยได้ แต่คุณแม่ขาก็ยุ่งอยู่ทุกวันนะคะ เบลล่าอยากจะแบ่งเบาบ้างก็เท่านั้นเองค่ะ
ตามใจลูกเถอะบุษย์ กษีรเสริม และบุษย์ก็พยักหน้าเห็นด้วยอย่างเสียไม่ได้
เมื่อเห็นว่าแม่ยังมีทีท่าไม่สบายใจ อาศิรพิศจึงเข้ามากอดมารดาด้วย สามแม่ลูกกอดกันกลมอยู่พักหนึ่ง เด็กแฝดทั้งสองจึงกล่าวขอตัวเพื่อไปทำภารกิจของตนต่อไป
ปรากฏว่าตารางโภชนาการของอาศิรพิศไม่ได้ยุ่งยากมากนัก น้องชายฝาแฝดของเด็กสาวจึงมีเวลาเตรียมตัวสำหรับการประกวดออกแบบชุดแต่งงาน วันต่อมาอาศิรวิษจึงขี่จักรยานเข้าตัวเมืองเพื่อนำใบสมัครไปให้ร้านมิลันดา ร้านจำหน่ายและให้เช่าชุดแต่งงานชื่อดังของจังหวัด มิลันดาเป็นสาวใหญ่ลูกครึ่งไทยโปรตุเกสที่ใช้ชีวิตอยู่ในจังหวัดนี้ตั้งแต่เกิด เธอจึงพูดได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ทั้งยังสนิทชิดเชื้อกับครอบครัวอนันตรัยเป็นอย่างดี เนื่องจากเธอเป็นเพื่อนสนิทของเกสรี แม่บุญธรรมของงูเขียว
หลังจากส่งใบสมัครและทักทายทุกคนในร้านมิลันดา (ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการประกาศว่าตนเปลี่ยนชื่อเล่นเป็นเบลล่า) กระดิ่งก็ขี่จักรยานเข้าตลาดเพื่อแวะซื้อผัก เนื้อสัตว์และผลไม้ที่จะทำอาหารให้อาศิรพิศ ไม่มีใครในบ้านคิดตำหนิเด็กสาวว่ากินแรงคนอื่น เพราะการเป็นนักกีฬาของประเทศคือการทุ่มเทเวลาแทบทั้งหมดเพื่อฝึกซ้อม นี่ยังไม่รวมถึงว่าอาศิรพิศยังต้องเรียนหนังสืออีกด้วย แม้โควตานักกีฬาจะทำให้เธอได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยอย่างแน่นอนแล้วก็ตาม
เมื่อได้ของครบตามต้องการ เด็กหนุ่มก็ขี่จักรยานกลับบ้าน ระหว่างทางเขาพบพี่สาวฝาแฝดที่ออกวิ่งตามปกติและกำลังจะกลับพอดี ทั้งคู่จึงไปพร้อมกันโดยที่อีกคนขี่จักรยานและอีกคนวิ่งเหยาะ ๆ ตาม แล้วสองพี่น้องก็ได้ยินเสียงอู้อี้ดังมาจากข้างทางที่เป็นไร่ข้าวโพด ตอนแรกอาศิรวิษคิดว่าตนหูฝาด จนกระทั่งอาศิรพิศยกนิ้วชี้ขึ้นทาบปากเป็นเชิงบอกให้เขาเงียบ
เสียงอู้อี้ชัดเจนขึ้น อาศิรวิษจึงจอดรถจักรยานไว้ข้างทางขณะที่อาศิรพิศเดินลุยไร่ข้าวโพดไปตามเสียง ลัดเลาะไปไม่ไกลก็เห็นเพิงพักของชาวไร่ใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง ที่นั่นมีเด็กสาวรูปร่างคุ้นตาถูกมัดมือมัดเท้าและปิดปากนั่งอยู่โคนต้นไม้
เพ่งมองไม่นานอาศิรพิศก็ร้องลั่น พีชชี่ !
พราวพิชาหน้าซีดเผือดน้ำตาไหลพราก เด็กสาวอายุมากกว่าไม่กี่ปีจึงรีบโผเข้าไปใกล้เพื่อช่วยเหลือ แต่ปรากฏว่าเด็กหนุ่มกลุ่มหนึ่งกลับโผล่ออกมาจากหลังต้นไม้ ตีวงเป็นกำแพงขวางระหว่างเด็กสาวทั้งสอง
มาไวดีแท้ ยังไม่ทันส่งคนไปบอกเลย ผดุงกิจพูดพลางยิ้มเยาะ อาศิรพิศชี้หน้าเขา
ไอ้กิจ เล่นแบบนี้ไม่ขำนะ ปล่อยพีชชี่เดี๋ยวนี้
เด็กหนุ่มเหลือบมองพราวพิชา และหัวเราะลั่นเมื่อเห็นกางเกงของเธอเปียก เว้ยเฮ้ย ! พวกเราดูสิ ยายหน้าจืดนี่กลัวจนฉี่แตกเลยว่ะ
กลุ่มเด็กหนุ่มหันไปมองเด็กสาวและพากันหัวเราะลั่น บางคนถึงขนาดหยิบโทรศัพท์เคลื่อนที่ขึ้นมาบันทึกภาพ นั่นทำให้อาศิรพิศโมโหจัด เธอกำลังจะกระโจนใส่เด็กหนุ่มที่อยู่ใกล้ที่สุด แต่ก็ช้ากว่าอาศิรวิษที่พุ่งมาจากไหนไม่รู้ เขากระโดดตีเข่าคนที่ใช้มือถือส่องไปที่พราวพิชาและแย่งโทรศัพท์เครื่องนั้นมาปาลงพื้นและกระทืบซ้ำจนมันแหลกละเอียด
แกทำอะไรวะ ไอ้กะเทย ! เด็กหนุ่มคนหนึ่งชี้หน้าเขา อาศิรวิษจึงกระโจนเข้าใส่เด็กหนุ่มคนนั้นและคว้าคอเสื้อของอีกฝ่ายขยุ้มแน่น
เป็นกะเทยก็ดีกว่าไอ้พวก:-)รังแกผู้หญิงล่ะวะ ! พูดจบ เด็กหนุ่มก็ประเคนหมัดใส่หน้าชายคนนั้นไม่ยั้ง ผดุงกิจรีบบอกให้คนที่เหลือจัดการกับคู่แฝดทั้งสอง อาศิรพิศจึงเข้าร่วมตะลุมบอนด้วยอีกคน
แล้วทุกคนในที่นั้นก็ได้รู้ว่าการแต่งตัวเป็นผู้หญิงของอาศิรวิษไม่ได้ทำให้เขาดูบอบบางนุ่มนิ่มอย่างที่ตาเห็น เด็กหนุ่มต่อสู้ได้ดีเกือบทัดเทียมกับพี่สาว ท่วงท่าที่เขาใช้เป็นมวยไทยขนานแท้ แถมยังหมัดหนักเหลือเชื่อเมื่อเขาซัดเด็กหนุ่มคนหนึ่งลงไปนอนสลบเหมือดได้ในครั้งเดียว
ผดุงกิจเห็นท่าไม่ดีจึงหยิบไม้ขนาดเขื่องที่วางอยู่แถวนั้นและตรงไปยังพราวพิชา เด็กสาวกรีดร้องอย่างหวาดกลัวภายใต้ผ้าปิดปาก อาศิรพิศจึงทุ่มเด็กหนุ่มคนหนึ่งและกระโดดเอาตัวเข้าบังน้องสาวข้างบ้านไว้ ทำให้ไม้ท่อนนั้นฟาดเข้ากลางหลังของเธอเต็มแรง
เก่งนักใช่ไหมนังงูเขียว คราวนี้แหละกูจะตีแกให้หลังหักเลย ! ผดุงกิจตะคอกอย่างโมโหจัดและฟาดอาศิรพิศซ้ำอีกสองสามครั้ง แต่เขาทำได้เท่านั้นเมื่อน้องชายฝาแฝดของเด็กสาวกระโดดเตะก้านคอเขาอย่างแรง เพียงครั้งเดียว ผดุงกิจก็สลบเหมือด
ไอ้ใจเสาะ ไอ้:-)ขี้ขลาด ! อาศิรวิษบริภาษพลางเตะลำตัวของเด็กหนุ่มอีกครั้งก่อนถลาไปดูพี่สาวที่ยังไม่คลายอ้อมกอดจากพราวพิชา
เขียว เป็นยังไงบ้าง
เจ็บเล็กน้อย กระดิ่งไปดูพีชชี่เถอะ เด็กสาวคลายมือทั้งสองข้างออก และกระดิ่งก็ต้องตัวแข็งทื่อเมื่อเห็นพราวพิชาตัวสั่นงันงก ดวงตาเบิกกว้างอย่างหวาดกลัวสุดขีด
พีชชี่จ๋า พีชชี่จ๋าของกระดิ่ง ไม่กลัวนะคะไม่กลัว กระดิ่งมาแล้ว เด็กหนุ่มพูดพลางสวมกอดเด็กสาวข้างบ้าน ลูบหลังลูบไหล่อย่างปลอบประโลม
เอาไม่อยู่แน่ เรารีบพาพีชชี่กลับบ้านกันเถอะ จะได้ตามหมอมาดูอาการ เด็กสาวที่อาวุโสที่สุดบอกพร้อมกับพยักพเยิดให้น้องชายพาพราวพิชากลับบ้าน ซึ่งอาศิรวิษก็ช้อนตัวเด็กสาวขึ้นอุ้มอย่างไม่รังเกียจรังงอน อาศิรพิศลุกตามและต้องนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวดบริเวณกลางหลัง
ไหวไหม เขียว
สบายมาก เธอพูดและส่งยิ้มให้น้องชาย พาพีชชี่กลับไปก่อนนะ เดี๋ยวฉันจะจัดการกับมือถือของไอ้พวกเวรนี่ให้หมดก่อน
จากคุณ |
:
g_maru
|
เขียนเมื่อ |
:
9 ธ.ค. 55 09:30:11
|
|
|
|