Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
กลรัก เสน่ห์ลวง บทที่ 2 vote ติดต่อทีมงาน

เสียงแตรของรถจักรยานยนต์ดังไล่มาตามถนนลูกรัง ทำให้อาศิรพิศหยุดวิ่งและเหลียวหลังกลับไปมอง จากนั้นก็ต้องเท้าสะเอวเมื่อเห็น ผดุงกิจ คู่ปรับตัวฉกาจฉีกยิ้มกว้างขวาง มือข้างหนึ่งของเขาถือแก้วน้ำอัดลมปั่นพะยี่ห้อร้านสะดวกซื้อ ท่าทางเหมือนจะเตรียมสาดใส่เธอ

“ห้ามสาดนะไอ้กิจ ไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่าแก”

เด็กหนุ่มหัวเราะก่อนจะลดมือที่ถือแก้วน้ำอัดลมปั่นลง เมื่อแน่ใจว่าอาศิรพิศคลายความระมัดระวังตัวลง เขาก็ยกแก้วขึ้นสาดใส่เธอ แต่เด็กสาวเตรียมตัวไว้อยู่แล้ว เท้าข้างหนึ่งก้าวเบี่ยงไปด้านข้าง หลบสายน้ำสีแดงพ้นอย่างสบาย ๆ ขณะที่เท้าอีกข้างบิดหมุน ตวัดฟาดใส่คนที่ขี่รถจักรยานยนต์ตรง ๆ เท้าของเจ้าหล่อนเฉี่ยวหน้าของผดุงกิจไปเท่านั้น แต่ก็เพียงพอให้รถแฉลบออกข้างทาง

“อะ...ไอ้เขียว ! มันอันตรายนะเว้ย ถ้ารถฉันล้มไปจะทำยังไงวะ”

“ฉันเตือนแกแล้ว อยากไม่ฟังเอง” อาศิรพิศพูดพลางยักไหล่ ท่าทางไม่ยี่หระทำให้ผดุงกิจกัดฟันกรอด

“ยายทอมบอยอสรพิษ ! เพราะแบบนี้แหละ แกถึงแพ้การแข่งขันหนก่อน !”

สีหน้าของเด็กสาวตึงขึ้นทันตา “อย่ามาทำปากดี แกจะสาดสเลอปี้ใส่ฉันก่อนนะ”

“แค่สาดสเลอปี้ใส่ ไม่ตายหรอกว่ะ แต่ที่แกเอาเท้าฟาดหน้าฉันสิ ฉันจะตายเอา !”

“ไม่ใช่ข้ออ้างของการกลั่นแกล้ง” เด็กสาวกอดอก “จำไว้นะไอ้กิจ ถ้าแกจะแกล้งใคร ให้เตรียมตัวรับผลตอบแทนที่สาหัสกว่าไว้ด้วย เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะจบเรื่องโดยแค่เอาสเลอปี้สาดใส่แกหรอก”

ผดุงกิจยกมุมปากและทำเสียงเหอะในลำคอ ก่อนจะบิดคันเร่งเพื่อเตรียมจากไป ตอนนั้นเองที่น้องชายฝาแฝดของอาศิรพิศขับจักรยานสวนมา

“เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ” อาศิรวิษถาม ผดุงกิจมองเขาและแลเลยไปยังด้านหลังของเด็กหนุ่มซึ่งมีจักรยานอีกคันขับตามมาด้วย แต่พราวพิชาหยุดแค่กลางทาง ไม่ได้เข้ามาใกล้ทั้งสาม

ผดุงกิจทำเสียงเหอะอีกครั้ง “พี่ก็ทอม น้องก็ตุ๊ด แถมยังมียายหน้าจืดขี้ขลาดลูกพีชอีก พวกแกนี่มันรวมพลคนไม่เต็มบาทจริง ๆ ว่ะ” พูดจบก็หัวเราะดังลั่น แต่แล้วเด็กหนุ่มกลับผงะหงายหลังร่วงลงจากรถ เพราะเจอแข้งของคนที่เขากล่าวหาว่าเป็นตุ๊ด

“ดีกว่าคนปากเสีย ไม่เอาไหนอย่างแกแหละ ไอ้กิจ” อาศิรวิษซึ่งกระโดดลงจากรถจักรยานของตัวเองตั้งแต่ได้ยินคำว่า ‘ยายหน้าจืด’ พูด จากนั้นเขาก็สะบัดผมที่ยาวถึงกลางหลังของตัวเองไปไว้ด้านหลังด้วยท่วงท่าของนางแบบโฆษณาแชมพูสระผม

“ไปกันเถอะค่ะพีชชี่จ๋า อยู่ตรงนี้เดี๋ยวเชื้อคนไม่เอาไหนจะติดพวกเรานะ” จากนั้นเขาก็ก้าวไปที่จักรยานและดึงมันขึ้น หลังจากขึ้นคร่อมเรียบร้อยแล้ว อาศิรพิศก็ถามน้องชาย

“จะไปไหนกันเหรอ”

“ไปตลาด เก็บค่าเช่าแผง” อาศิรวิษบอก “อ้อ อาจารย์เมฆโทร.มาบอกว่าเย็นนี้ให้เข้าไปที่โรงเรียนด้วยนะ ผังการซ้อมชุดใหม่มาแล้ว เห็นว่าจะเคี่ยวเธอให้หนักกว่าเดิมเพราะหนนี้อาจารย์จะส่งเธอไปคัดเลือกเพื่อเข้าร่วมแข่งขันกีฬาซีเกมส์ปีหน้าล่ะ”

“จริงเหรอ” อาศิรพิศยิ้มกว้าง ก่อนจะกระโดดขึ้นลงสองสามครั้ง ทั้งแทนอาการดีใจและเพื่อเตรียมตัวออกวิ่ง “ขอบใจนะกระดิ่ง แล้วเจอกันที่บ้าน ไปนะพีชชี่”

จากนั้นเด็กสาวก็วิ่งเต็มฝีเท้าจากไปโดยไม่รอให้พราวพิชาขานรับ ท่าทางดีใจเหมือนผู้ชายของพี่สาวทำให้อาศิรวิษส่ายศีรษะ

“เฮ้อ ยายเขียวเอ๊ย เพราะแมนแบบนี้ไงถึงไม่มีใครมาจีบ”

“กระดิ่งกับพี่เขียวเพิ่งจะสิบห้าเอง จะรีบมีแฟนไปทำไม” เด็กสาวพูดด้วยรอยยิ้ม

“พีชชี่จ๋าไม่รู้อะไร เด็กสมัยนี้อายุแค่สิบห้าก็ถือว่าเป็นผู้ใหญ่แล้วค่ะ”

พราวพิชาหัวเราะ “ทั้งที่เมื่อวานนี้กระดิ่งเพิ่งตัดชุดน้องตุ๊กตาให้พีชชี่อยู่เลยนะเหรอ”

“แหม พีชชี่จ๋ารู้หรือเปล่าว่าตอนนี้การตัดเย็บชุดตุ๊กตาก็ทำเงินให้ได้นะ เบลล่าลองโพสต์เล่น ๆ ในเฟสบุ๊ก มีคนมาถาม บอกว่าอยากจะสั่งซื้อด้วยล่ะ”

ชื่อแทนตัวเองของอีกฝ่ายทำให้พราวพิชาเลิกคิ้ว “เบลล่า ?”

“ก็เบลล่าในนิยายรักของต่างประเทศที่เอามาทำเป็นหนังไง กระดิ่งชอบเรื่องนี้ ชื่อเบลล่าเข้ากับกระดิ่งดีด้วย ว่ามะ”

“แต่พีชชี่ชอบชื่อกระดิ่งมากกว่านี่นา”

“โถ พีชชี่จ๋าก็ เบลล่ายอมให้พีชชี่จ๋าสักคนก็ได้”

“แล้วพี่เขียวล่ะ พ่อแม่กับน้าเกดล่ะ กระดิ่งจะให้เรียกว่าเบลล่าหมดเลยเหรอ”

“ใช่แล้วจ้า” อาศิรวิษบอกพร้อมกับยกสองมือขึ้นโบกไปมา “รีบไปกันดีกว่าพีชชี่จ๋า เบลล่าอยากกินกล้วยทอดร้านป้าละไม ไปช้าเดี๋ยวหมดนะ เร้ว”

พราวพิชาหัวเราะพลางส่ายศีรษะกับท่าทางและคำพูดของเพื่อนรัก จากนั้นทั้งสองก็ขับจักรยานมุ่งหน้าเข้าสู่ตลาดเพื่อทำตามแผนที่วางไว้ ทิ้งให้ผดุงกิจที่นั่งตัวลีบตัวห่อด้วยความกลัว มองเส้นทางที่คู่แฝดอสรพิษใช้กลับไปกลับมา

จะตรงไปหรือกลับเส้นทางเดิมก็ไม่ปลอดภัยทั้งนั้น สู้นั่งอยู่ตรงนี้อีกสักพักจนกว่าจะแน่ใจว่าสองงูคู่แฝดจะไม่ย้อนกลับมาฉกเขาด้วยหน้าแข้งจนสลบเหมือดดีกว่า ก็อย่างที่เจ้าทอมงูเขียวพูดไว้นั่นแหละ ถ้าคิดจะแกล้งใครก็ให้เตรียมตัวรับผลตอบแทนที่สาหัสกว่าไว้ด้วย เพราะเขาคิดแผนการเอาคืนสองงูตัวแสบไว้เรียบร้อยแล้ว และขอรับรองเลยว่ามันจะเจ็บแสบไปจนถึงกระดูกสันหลังเลยทีเดียว



ระหว่างที่อยู่ในเส้นทางการวิ่ง อาศิรพิศเพิ่งนึกออกว่าเธอควรจะโทรศัพท์ไปหาอาจารย์เมฆเพื่อสอบถามท่านว่าอยู่ที่โรงเรียนหรือไม่ เธอจะได้วิ่งไปรับตารางการฝึกซ้อมโดยไม่ต้องย้อนกลับไปกลับมา ถึงแม้ว่าบ้าน โรงเรียน กับจุดที่เธอยืนอยู่ตอนนี้จะห่างกันเอาการ แต่หนึ่งในแผนออกกำลังกายประจำวันก็คือวิ่งวันละหลายกิโลเมตรอยู่แล้ว และเด็กสาวก็ทำทุกวันโดยไม่เว้นวันหยุด เธอจึงไม่ยี่หระถ้าจะต้องวิ่งเพิ่มในเส้นทางที่วกวนกว่าเดิม

อาศิรพิศหยิบโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตัวเองออกมากดโทร.หาอาจารย์เมฆ และก็ได้ทราบว่าตอนนี้ท่านอยู่ที่โรงเรียน กำลังฝึกซ้อมนักกีฬาอีกคนที่จะได้เข้ารับการคัดเลือกเช่นกัน

“เดี๋ยวหนูจะไปหาค่ะ” อาศิรพิศบอกเท่านั้น ก่อนจะวางสายและวิ่งเต็มฝีเท้าเพื่อไปยังโรงเรียน

โรงเรียนที่คู่แฝดทั้งสองเรียนอยู่เป็นโรงเรียนประจำจังหวัดและมีชื่อเสียงด้านกิจกรรม มีนักกีฬาของโรงเรียนสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศหลายคน หนึ่งในนั้นไปไกลถึงระดับโอลิมปิกแม้ว่าจะยังไม่ได้รับเหรียญใด ๆ กลับมา แต่นั่นก็เพียงพอที่จะให้สมาคมกีฬาพิจารณานักกีฬาทุกรุ่นที่มาจากโรงเรียนแห่งนี้ แน่นอนว่าอาศิรพิศที่มีผลงานระดับจังหวัดมาแล้วมากมายเป็นรายชื่อลำดับต้น ๆ ที่ทุกคนให้ความสนใจ

“ไง เจ้าเขียว มาไวดีนี่” อาจารย์พละที่ชื่อเมฆพูดด้วยรอยยิ้มเมื่อเห็นศิษย์รักยิ้มแก้มปริเดินเข้ามาหาเขาในอาคารพละ จากนั้นชายหนุ่มก็ดึงเอกสารชุดหนึ่งออกมาจากแฟ้มผลการประเมินนักกีฬา

“นี่เป็นตารางอาหารและการฝึกซ้อม สองเดือนข้างหน้าจะมีการคัดเลือกนักกีฬาไปเข้าร่วมแข่งขันกีฬาซีเกมส์ อาจารย์คิดว่าเธอควรจะทำน้ำหนักให้มากกว่านี้นะ จะได้เข้าแข่งในรุ่นที่เหมาะกับอายุได้”

อาศิรพิศยิ้มเจื่อน “เขียวก็กินเก่งนะคะอาจารย์ แต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงยังผอมอยู่สิน่า” พูดจบเธอก็พยายามดึงหนังท้องของตัวเองทั้งช่วงบนและล่าง แต่ปรากฏว่าไม่มีเนื้อขึ้นเลยแม้แต่นิดเดียว

“ร่างกายเผาผลาญดีเกินไปหรือไม่ก็ออกกำลังกายหนักมากเกินไป” อาจารย์เมฆสันนิษฐาน “เธอไม่ได้เล่นแค่เทควันโดนี่ ใช่ไหม กลับบ้านไปยังซ้อมมวยไทยต่ออีกสินะ”

“ตอนนี้เขียวกำลังหัดเต้นคาโปเอร่าอยู่ด้วยค่ะ คิดว่ามันก็คล้ายกับเทควันโดนั่นแหละแต่แค่ขยับขาให้เข้ากับจังหวะเพลง สนุกมากเลยค่ะ แถมช่วยผ่อนคลายความเครียดได้ดีอีกด้วย”

ได้ยินแล้วอาจารย์เมฆก็ส่ายศีรษะอย่างเหนื่อยใจ อาศิรพิศไม่เหมือนเด็กสาวทั่วไปก็ตรงที่หายใจเข้าหายใจออกก็เป็นศิลปะการต่อสู้ไปเสียทุกเรื่องนี่แหละ ไม่รู้ว่าเธอพบหนทางของตัวเองเร็วหรือว่ามีจิตใจฝักใฝ่ทางด้านนี้อยู่แล้วกันแน่

“เรื่องแก้เครียดน่ะ ไม่คิดจะหานิยายหรือการ์ตูนอ่านบ้างหรือ อาจารย์เห็นอาจารย์ไฉนริบการ์ตูนจากเด็กผู้หญิงคนอื่นได้เป็นตั้ง ๆ”

เด็กสาวทำหน้าเหมือนตัวเองเพิ่งเห็นอะไรสักอย่างที่น่ารังเกียจมาก ๆ “ไม่เอาหรอกค่ะ เขียวไม่ชอบอ่านหนังสือ อาจารย์ก็รู้นี่ว่านอกจากเรื่องกีฬาแล้วเขียวไม่เอาอ่าวอะไรเลย”

จากคุณ : g_maru
เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 09:28:59




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com