ดีดี้ กุน ยังไงปลายปีนี้ต้องไปเที่ยวบ้านผมนะ คุณแม่ผมท่านจะอายุครบหกสิบปีนี้ ผมและญาติๆจะจัดปาร์ตี้ใหญ่ให้ท่าน ไปเป็นแขกของผม เที่ยวบ้านผมก่อน แล้ววันหยุดที่เหลือก็ไปเที่ยวตามใจ ดีดี้อยากไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรือ ราชสถานน่ะ
เสียงหนุ่มตาคมชวนแล้วชวนอีก คราวนี้ราชาวดีกะว่าไม่พลาดแน่
ว่าไงกุน แกปิดร้านได้กี่วัน หญิงสาวหันไปถามเพื่อนซี้ หูยังฟังหนุ่มอินเดียพูดต่อไปเรื่อยๆ
ราชเรียนจบพอดี เดี๋ยวหมอนั่นจะแวะมาเมืองไทยก่อน น่าจะสักสองสัปดาห์ แล้วไปหาคุณแม่ที่อินเดีย ก่อนจะกลับไปเนปาล หมอนั่นยังยืนยันจะไปเป็นหมอที่นั่นเหมือนเดิม
เสียงเล่าเรื่อยๆ และประโยคนี้ ก็ทำเอาแบคแพคเกอร์สาวตัดสินใจทันที
ตกลง เราไปค่ะ
หนุ่มอินเดียปรายตามอง กุนยังไม่ได้ตอบเลย ถ้ากุนไปไม่ได้ ดีดี้จะว่ายังไง
ก็เรื่องของกุนดิ ตัวไม่ได้ติดกันซะหน่อย
หมั่นไส้ยายตัวแสบเหลือเกิน พอพูดถึงราเชนทราหน่อยเดียว ก็ตกลงอย่างง่ายดาย หมอนั่นมันเป็นแม่เหล็กชั้นดี ดูดยายเตี้ยนี่ได้ชะงัด
ราเชนทราจะมาเมืองไทยครั้งนี้ ชายหนุ่มรู้ดีว่าสหายรักตั้งใจจะมาพบกับมณีกัญญาและพูดคุยกันให้เข้าใจถึงเรื่องความสัมพันธ์ว่าจะมีอนาคตเป็นอย่างไรต่อไป
......................................................................................................
จิมมี่คะ กัญญาว่าคุณใจร้ายกับเพื่อนมากเลยนะ แค่จะสละเวลาไปดื่มชากับกัญญาสักนิดไม่ได้เชียวหรือคะ
ชายหนุ่มลอบถอนใจ ไม่เข้าใจเลย ทำไมมณีกัญญาถึงเอาแต่ใจตัวนัก และไม่คิดถึงใจ คนอื่น เลย เขาแสดงออกอย่างตรงไปตรงมาหลายครั้ง ว่าไม่มีทางที่ความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเธอจะเปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่นได้ หากมณีกัญญาก็ช่างท้าทายที่จะเอาชนะ
ธันวาคม เดือนหน้า ราชจะมา คุณคงทราบแล้ว
ค่ะ แต่ไม่เกี่ยวกับที่เรื่องที่เราจะไปดื่มชากันนี่คะ หรือว่าจิมมี่อยากเปลี่ยนเป็นดินเนอร์
เธอพูดอย่างนี้ได้อย่างไรกันนะ ชายหนุ่มหนักใจ เสทำท่ายกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู
ผมไม่ว่างครับ มีนัดกับดีดี้แล้ว
พูดแล้วก็นึกภาวนาขอให้ยายตัวแสบนั่นมาเร็วๆ หากชั่วพริบตา ชายหนุ่มก็ต้องผงะน้อยๆด้วยนางแบบสาวก้าวเข้ามายืนชิด ใก้ล ใก้ลมากจนได้กลิ่นหอมเย้ายวนจากเรือนกาย มือเรียวยกขึ้นทาบไล้จากแผงอกขึ้นไปใก้ลบ่าเขา
มณีกัญญา ผมไม่ชอบให้คุณล้อเล่นอย่างนี้เลย
กัญญาก็ไม่ชอบให้คุณล้อเล่นกับกัญญาเหมือนกันค่ะ
หญิงสาวเอ่ยเสียงอ่อนหวาน เรียวปากสวยเย้ายวนอยู่ใก้ลๆ หากชายหนุ่มยังคงนิ่ง
ดูถูกกันจัง ถ้าจะเมินกัญญาแต่คว้า แบบ เอ่อ บ้านๆมาควงน่ะ กัญญารู้นะ สเปคจิมมี่น่ะ เริ่ดกว่านั้นเยอะ สองคนนั้น ไม่ใช่หรอก
เบื่อ ชายหนุ่มนึกอย่างหงุดหงิด วันนี้มณีกัญญาออกตัวแรงผิดปกติ แต่ที่เขาเบื่อยิ่งกว่าคือการก้าวล่วงมายุ่มย่ามเรื่องส่วนตัวของเขา ชายหนุ่มผละออกห่างแล้วต่อสายถึงเลขาฯหน้าห้อง
ถ้าคุณราชาวดีมาถึงแล้ว ให้เชิญเข้ามาเลยนะครับ
กำลังเดินออกจากลิฟท์มาพอดีเลยค่ะ
มาถึงแล้วหรือ ดีครับ ขอบคุณ
ผู้ชายคนนี้กล้าดียังไงที่ถอยห่างจากหล่อนเพื่อผู้หญิงที่ ที่อย่าได้คิดเอามาเปรียบกับเธอเชียว มณีกัญญาเก็บความขุ่นมัวไว้ในใจแล้วปั้นรอยยิ้มหวาน แกล้งก้าวเข้าประชิดตัวชายหนุ่มที่ยืนชิดโต๊ะทำงาน เขาไม่มีทางถอยอีกแล้ว ทางเดียวที่จะทำได้คือผลักเธอออกไป แต่เธอรู้ดี จิมมี่ไม่ใช่ผู้ชายที่จะใช้ความรุนแรงกับผู้หญิงได้แม้เพียงเล็กน้อยก็ตาม เขาก็เหมือนราเชนทรานั่นแหละ ผู้ชายสายพันธ์น่ารัก ที่คิดว่าเพศหญิงนั้นควรค่าแก่การทะนุถนอม ประเภท แม้จะโบยด้วยกลีบมาลี ก็มิควร ประมาณนั้น
ชายหนุ่มนิ่งงัน แววตาสงบหากมันดูเหมือนเจือความดูแคลนอยู่ลึกๆ และนั่นทำให้มณีกัญญาของขึ้น เสียงเคาะประตูเบาๆ ทำให้หญิงสาวตัดสินใจเขย่งร่างงระหงขึ้นน้อยๆแล้วยกแขนเรียวเหนี่ยวโน้มชายหนุ่มเพื่อจูบ....
.......................................................................................................
ราชาวดียืนหน้าชา เธอพึ่งก้าวเข้าประตูห้องทำงานจิมมี่เข้ามา และภาพตรงหน้าก็ทำให้ทำอะไรไม่ถูกเลย เลขาฯสาวใหญ่ของชายหนุ่ม เพิ่งบอกกับเธอว่าจิมมี่กำลังรอ และให้เข้ามาหาในห้องได้เลย เขาให้เข้ามาทำไมกันนะ เข้ามาดูเขาจูบกับมณีกัญญางั้นหรือ มันหมายความว่าอย่างไร ทำไมสองคนตรงหน้ายังไม่หยุด ไม่อายหรือไง ที่มีเธอยืนเป็นพยานฉากหวานอยู่ทนโท่
หญิงสาวโกรธจนหัวหมุน ดี! กล้าจูบโชว์ ก็กล้าดูวะ เอาสิ จะทนได้สักกี่นาที งานนี้เธอไม่ผิด และจะไม่ถอยให้คนไม่รู้จักกาลเทศะทั้งคู่ด้วย เอ้า จูบได้จูบไป เอาโลด!
ชายหนุ่มหนึ่งเดียวในห้องได้ยินเสียงเปิดประตูเข้ามาแล้ว และต่อจากนั้นคือความเงียบ เขามองไม่เห็นว่าผู้เข้ามาใหม่กำลังอยู่ในอาการเช่นไร หากฝ่ายหญิงสาวที่กำลังเหนี่ยวคอเขาอยู่นี่สิ ที่เป็นฝ่ายทนไม่ได้เสียเอง มณีกัญญารับรู้แล้ว ว่ามันไม่มีประโยชน์อะไรในการกระทำครั้งนี้ ชายหนุ่มยืนอย่างเฉยชา แขนสองข้างทิ้งแนบลำตัว ไม่ทำแม้แต่จะยกขึ้นแตะต้องร่างระหงสักนิด นางแบบสาวจะผลักเขาออกก็ไม่ได้เพราะเธอเป็นฝ่ายต้อนเขามาจนมุมที่โต๊ะทำงานเอง ทางออกเดียว คือก้าวถอยห่างจากตัวเขา และสะบัดหน้าจากไป
ดีดี้
หญิงสาวสะดุ้งน้อยๆ มณีกัญญาเพิ่งจะผลุนผลันจากไปด้วยอาการประหลาด ไม่มีรอยหวานฉาบบนวงหน้าสวยเลยสักนิด
มานี่หน่อยครับ เสียงเจ้าของห้องยังนุ่มนวลเหมือนเคย เขาเรียกให้เธอเดินไปหา นี่มันอะไรกันฟะเนี่ย ตาแขกนี่ยังยืนอยู่ท่าเดิม ที่เดิม
ไม่ เราว่าเรากลับก่อนดีกว่า
ดีดี้ เรียกอีกล่ะ
พลีส
เกลียดจริงโว้ย ใครฟะ บอกว่าเมจิคเวิร์ด แน่เฟ้ย เวิร์คเป็นบ้า ราชาวดีหงุดหงิดตัวเองเหลือเกิน ที่ขามันเดินไปหาเจ้าของห้องทั้งๆที่สมองยังไม่ทันสั่ง
มีอะไรก็ว่ามา
ชายหนุ่มอมยิ้ม หญิงสาวกระชากเสียงน้อยๆใส่เขา ท่าทางจะโมโหมาก ตาวาว แก้มระเรื่อ ไม่บ่อยนักหรอกที่จะเห็นยายนี่หน้าแดงน่ะ แต่งานนี้ คงเพราะโกรธ ไม่ใช่เพราะอาย มองเห็นลูกนัยน์ตาขุ่นเหลือใจ
ยังยิ้มได้อีกเหรอ เฮอะ
ทำไมล่ะ เขาชอบจังไอ้เสียง เฮอะ ของเจ้าหล่อนน่ะ ผมทำอะไรผิดหรือดีดี้ ถึงยิ้มไม่ได้
ที่ทำเมื่อกี้ ยังคิดว่าไม่ผิดอีกหรือไง คุณจิมมี่ เออ คราวนี้โกรธจัดแฮะ ลองขึ้นคุณด้วยเสียงขู่ฟ่ออย่างนี้ล่ะก็
ในความคิดของดีดี้ ผมทำอะไรผิด ช่วยบอกให้ละเอียดหน่อยได้ไหม
ก็... จูบกัน
ยังไงครับ
คราวนี้ราชาวดีเริ่มหัวหมุนด้วยฤทธิ์โมโหอีกระลอก ตาแขกบ้านี่สงสัยจะต้องเลิกคบ นิสัยแย่ ตัดเชือกกันวันนี้เลยดีกว่า ว่าแล้วก็ซัดเปรี้ยงด้วยข้อกล่าวหาร้ายแรง
คุณกับมณีกัญญาจูบกันมันคงไม่เป็นไรในความคิดคุณใช่ไหม แต่สำหรับเรา คุณเป็นเพื่อนที่คบไม่ได้ คุณจูบเธอได้ไงน่ะ ทั้งๆที่รู้ว่าเธอเป็นแฟนคุณราช คุณบอกว่าคุณราชเป็นเพื่อนรัก แต่ลับหลัง คุณมาจูบกับแฟนเพื่อนรักของคุณ ทำได้ไง หา ทำได้ไง
อยากรู้จริงๆใช่ไหมครับ ขอโอกาสผมอธิบายนะ
หนุ่มตาคมยิ้ม พลางยกมือข้างหนึ่งโอบเอวหญิงสาวแล้วดึงเบาๆให้เข้าใก้ลตัวเขาอีกนิด ส่วนมืออีกข้างก็เชยคางหญิงสาวขึ้น เห็นนัยน์ตาใสดูเหมือนจะเบิ่งโตขึ้นอีกนิด เจ้าหล่อนยืนตัวแข็งทีเดียว
คุณตัวเตี้ยนะ ไม่เหมือนมณีกัญญา มันเลยต้อง เอ่อ ปรับท่าทางนิดหน่อย
ชายหนุ่มยิ้มใส่ตาพลางก้มหน้าลงช้าๆ จมูกโด่งๆของเขาเกือบแตะใบหน้าหล่อนแล้วจึงหยุด
ถ้าอย่างนี้ เรียกว่าผมเป็นฝ่ายจูบ เสียงกระซิบอธิบายเบาๆ
แต่ถ้าอย่างนี้
เขาจับมือข้างหนึ่งของหญิงสาวขึ้นมาโอบเอวเขา ส่วนอีกข้างเขาจับยกขึ้นมาโอบคอ ก่อนจะก้มตัวลงมาจนหน้าเกือบชิด คราวนี้จมูกโด่งๆของเขาลากเฉียดผิวแก้ม ริมฝีปากพร้อมลมหายใจอุ่นๆกระซิบเสียงแผ่วอยู่ข้างหู
อย่างนี้ เรียกว่า เราจูบกัน นี่ผมสาธิตเฉพาะท่าทางการยืน ดีดี้อยากให้ผมสาธิตการจูบจริงๆไหม แต่มันต้อง เอ่อ ยืน แนบชิดกว่านี้นะ
สำเนียงเย้าแหย่นั้นปลุกให้หญิงสาวตื่นจากอะไรสักอย่างที่ทำให้เธอตัวแข็ง ตาค้าง เธอผลักชายหนุ่มเต็มแรง แต่ตัวเขาไม่ขยับเลยเพราะยืนชิดติดโต๊ะทำงานตัวใหญ่อยู่แล้ว กลับเป็นหญิงสาวเองต่างหาก ที่แรงสะท้อนส่งให้ตัวเธอแทบจะกระเด็นออก ด้วยชายหนุ่มแกล้งผ่อนแรงน้อยๆ หญิงสาวผวาคว้าตัวเขาไว้ และเขาก็ดึงตัวเธอกลับไปโอบเอาไว้เหนียวแน่นอีกครั้ง ไม่งั้นราชาวดีคงหงายหลังลงไปกองอยู่กับพื้น
ยังสาธิตไม่จบครับ
ไม่ ไม่เอาแล้ว ไม่เห็นอยากรู้
หนุ่มตาคมอมยิ้มตาพราวด้วยเห็นคนตัวเล็กออกอาการฮึดฮัดอยู่ในอ้อมแขน
ไม่ได้ ข้อกล่าวหาของดีดี้รุนแรงมาก ราชเป็นเพื่อนรักของผม และเมื่อกี้ ผมก็ไม่ได้ทรยศเพื่อนด้วย เมื่อกี้ ผมยืนอย่างนี้
ชายหนุ่มปล่อยแขนตัวเองลงข้างตัว หากราชาวดียังเผลอยืนเกาะเกี่ยวตัวชายหนุ่มอยู่
นี่ล่ะครับ มณีกัญญาก็ทำแบบ ดีดี้ล่ะ คือผมยืนเฉยๆแต่คุณกอดผมอยู่นะ ดีดี้ จะลองจูบผมด้วยไหม ผมจะได้แสดงให้ดูว่าผมไม่ได้จูบตอบเขาเลยสักนิด ผมเป็นฝ่ายถูกกระทำ
ราชาวดีดีดตัวผึงออกห่างจากหนุ่มหน้านวลทันที ตาขุ่นมองจ้องที่ปากและอกเสื้อของชายหนุ่มก่อนสะบัดเสียงใส่
รอยลิปสติก เต็มเลย ทั้งปากทั้งเสื้อ
ดีดี้ วันนี้เข้าโรงงานอาหารสัตว์อะไรมาเหรอ ชายหนุ่มถามไปคนละเรื่อง
อาหารกุ้ง ทำไมคะ
มิน่า กลิ่นวัตถุดิบติดตัวมาด้วยล่ะ ทั้งที่ผม ทั้งที่เสื้อเลย
เจ้าของห้องมองตามหญิงสาวที่เผ่นแผล็วออกไปตั้งหลักข้างนอก วันนี้ราชาวดีรับคำเชิญเขามาชิมเทศกาลอาหารแคชเมียร์ เพียงแค่แซวเรื่องกลิ่นวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่ติดตัวมา หญิงสาวก็ขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที ชายหนุ่มรู้ดี อาชีพของหญิงสาว วันไหนเข้าโรงงานลูกค้าที่ผลิตอาหารสัตว์ มันเลี่ยงไม่ได้ที่เสื้อผ้าจะติดกลิ่นแปลกๆกลับมา หากราชาวดีรอบคอบและมีเสื้อผ้าสำรองติดไว้ท้ายรถอยู่เสมอ
ตัวเขาเองก็ต้องเปลี่ยนเสื้อเช่นกัน มณีกัญญาทิ้งรอยจุมพิตไว้ที่อกเสื้อเห็นค่อนข้างชัด ชายหนุ่มอารมณ์ดีจัด ขณะยืนส่องกระจกแล้วใช้กระดาษทิชชูเช็ดริมฝีปากช้าๆ โดนมณีกัญญาจูบเสียเลอะไปหมด แต่ถ้าเป็นอีกคน คงไม่มีปัญหา เพราะเจ้าหล่อนไม่แต่งหน้าเลย
ที่หน้ากระจกมีโถแก้วใสใบน้อยปักช่อดอกไม้เล็กๆสีขาวส่งกลิ่นหอมรวยริน ต้นไม้ดอกหอมนี้ชายหนุ่มสั่งให้หามาปลูกที่สวนหย่อมของโรงแรม ดอกเล็กๆส่งกลิ่นหอมระรวยและยิ่งหอมจัดในยามค่ำคืน
ดอกไม้สีขาว ชื่อเดียวกับหญิงสาวคนที่ไม่ชอบแต่งหน้า แต่ว่าคนชื่อราชาวดีวันนี้ตัวไม่หอมเลย กลิ่นอาหารสัตว์ติดเสื้อผ้ามาชัดเชียว แต่ไปล้อเจ้าหล่อนเล่นมากไม่ได้ เดี๋ยวพาลงอนหนีกลับบ้านเขาจะไม่มีเพื่อนกินข้าวเย็นเสียเปล่าๆ
นึกไปถึงมณีกัญญาแล้วก็ขำ ที่ดูเหมือนจะรู้จักราชาวดีน้อยไป ถ้าคิดว่าเมื่อแบคแพคเกอร์สาวเข้ามาเห็นแล้วจะหุนหันวิ่งหนีจากไปละก็ เมินเสียเถอะ มีแต่ยืนจ้องสู้อย่างวันนี้นั่นแหละราชาวดีของแท้
.....................................................................................................
ราเชนทรามาถึงเมืองไทยแล้ว และวันนี้ จิมมี่ชวนสองสาวมากินข้าวเย็นร่วมกัน สองสาวมาถึงก่อนเวลาจึงพากันไปเดินเล่นที่สวนหย่อมของโรงแรม ซึ่งจัดไว้แม้มีขนาดไม่ใหญ่หากตกแต่งงดงามและทำให้ห้องน้ำชาที่กรุกระจกใสได้ใช้เป็นบรรยากาศราวกับนั่งอยู่ในสวน
ช่วงบ่ายจัดอย่างนี้ ห้องน้ำชาแทบจะร้างผู้คน หากราชาวดีและศกุนตลาเหลือบไปเห็นหนุ่มสาวคู่หนึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะติดกระจกริมสวน
หนุ่มหล่อสาวหรู ดูเป็นภาพคู่อันสมบูรณ์ แต่หากสีหน้าของคนทั้งคู่ต่างหาก ที่แม้จะชลอเอาสวนสวรรค์ลงมาก็ไม่ช่วยให้บรรยากาศดีขึ้น ชายหนุ่มสวมแว่นสายตาท่าทางนิ่งสงบขรึมเฉยกำลังเป็นฝ่ายนั่งฟังหญิงสาวตรงหน้าอย่างตั้งใจ เธอผู้นั้นจะพูดอะไรสองสาวไม่ได้ยินหรอก แต่ท่าทางอ่อนหวาน เศร้าสร้อย ชวนให้ราชาวดีอยากรู้ใจจะขาด ครู่ใหญ่ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนส่งหญิงสาวร่างระหง สีหน้าของเขาเจือแววเศร้าอย่างปิดไม่มิด หากอาการก้มศรีษะเพื่ออำลาช่างดูน่าทึ่ง ราเชนทราดูสง่างามในความสงบขรึม ในขณะที่หญิงสาวคนงามมีอาการราวกับจะผวาตามอยู่น้อยๆ แต่เธอก็หยุดยั้งอาการนั้นเอาไว้ได้ เมื่อชายหนุ่มเป็นฝ่ายก้าวถอยห่างและเดินจากไปด้วยศีรษะและหลังไหล่ที่ตั้งตรง
เขาเลิกกัน เขาเลิกกันแล้วใช่ไหม? ราชาวดีนึกชังหัวใจ ที่มันบังอาจเต้นแปลกๆ เกลียดตัวเองมาก เมื่อนึกไปถึงตอนที่ด่าจิมมี่ว่าทรยศเพื่อนตอนเห็นมณีกัญญาจูบเขา แล้วตัวเราล่ะ ดีกว่าตรงไหน ราชาวดีถามใจตัวเอง ในเมื่อหล่อนกำลังรู้สึกเหมือนจะคล้ายดีใจที่เห็นคู่รักเลิกกันน่ะ อย่างนี้ก็เข้าข่ายเพื่อนเฮงซวยเหมือนกัน ใช้ไม่ได้เลย
...............................................................................................
แก้ไขเมื่อ 13 ธ.ค. 55 11:26:29
แก้ไขเมื่อ 12 ธ.ค. 55 15:07:09
จากคุณ |
:
หนอนแบกเป้
|
เขียนเมื่อ |
:
12 ธ.ค. 55 12:44:20
|
|
|
|