และแล้วรถก็พาผมมาส่งที่โรงแรม ชื่อเอลโดราโดโคสท์ ธันย์บอกให้ผมพักที่นี่ก่อนหนึ่งคืน และพรุ่งนี้เราจะเดินทางไปสถานที่ที่เป็นจุดมุ่งหมายของเรากัน ..ลาสเวกัส ธันย์บอก ก่อนที่จะช่วยผมขนกระเป๋าหลายใบของผมลงจากรถพร้อมๆกับการ์ด แกก็กะจะย้ายบ้านเลยสินะธันย์ขนกระเป๋าลงมาวางที่พื้น ผมหัวเราะแฮะๆ ก็ของมันเยอะเลยเอามาหลายใบไปหน่อยเท่านั้น พรุ่งนี้เราจะบินจากแอลเอไปลาสเวกัสกัน.. เครื่องจะออกตอนค่ำๆ ระหว่างนี้นายมีเวลาเที่ยวในแอลเออยู่บ้างนะ ผมพยักหน้ารับทราบ เที่ยวตามสบายนะพวก แล้วเจอกันพรุ่งนี้เย็น ชั้นจะมารับ.. พอดีมีธุระต้องทำหน่อยน่ะไปก่อนนะ แล้วไอ้ธันย์เพื่อนสุดเลิฟของผมมันก็ขึ้นรถหายไปเลย ปล่อยผมยืนงงอยู่หน้าโรงแรม ไหนตอนแรกบอกว่าจะคุยเกี่ยวกับการแข่งขันให้ฟังไงฟ่ะ อะไรของมัน
เอ่อ.. ช่างเถอะ อย่างน้อยก็แลกเงินดอลล่าห์ติดตัวมาพอสมควร ผมคิด.. ผมเดินมาที่ล๊อบบี้ของโรงแรม เห็นชายฝรั่งคนหนึ่งรูปร่างสูงผอม มีเงินอยู่แค่ 40 ดอลล่าห์ยืนอยู่ใกล้ๆเคาเตอร์ แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไร ผมเช็คอินแล้วให้บริกรมาขนของเรียบร้อยก็ขยับตัวลงนอนแผ่หลาอยู่บนเตียงในห้องพักของผม อาการเจ็ตแล๊กเริ่มกลับมาอีกครั้ง ผมผล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อน ...ที่นี่มันที่ไหนกันนะ บรรยากาศดูหม่นหมอง อ๋อ ก็โรงแรมที่เราพักนี่หว่า ตอนกลางคืนแล้วเหรอเนี่ย บรรยากาศมืดสลัว เอ๊ะ มีเด็กฝรั่งผมทองยืนอยู่ที่ปลายเตียง มายังไงว้า เฮ้ บอย ผมเรียก แต่เจ้าหนูนั่นก็ไม่ได้สนใจอะไร วิ่งเล่นไปเรื่อยเปื่อย สักพัก มันก็หันหน้ามามองผม ดวงตาแดงกล่ำ My Brother is coming ( อีกเดี๋ยว พี่ชายผมกำลังจะมา ) เจ้าหนูผมทองพูด สักพักไม่นาน เด็กฝรั่งที่ตัวใหญ่กว่าก็เปิดประตูห้องเข้ามาเล่นกับมัน ผมรู้สึกพิกลๆยังไงแล้วล่ะ มองๆไป เอ๊ะ..ทำไมเด็กพวกนี้มันไม่มีตัวเลขลอยอยู่บนหัวนะ พอมาคิดอีกที ชิปหอย ไม่ใช่คนนี่หว่า... ขนเริ่มลุกแล้วเบสท์เอ๊ย.. อยู่เมืองไทยไม่เคยเจอ มาเจอดีเอาที่แอลเอนี่แหละวะ แต่ก็ยังง่วงๆอยู่ หรือจะปล่อยเลยตามเลยดีล่ะ อาจจะไม่ได้มากวนอะไรมากก็ได้ ผมนอนต่อไปสักพัก.. เด็กฝรั่งที่ตัวโต เดินมามองที่หน้าผมใกล้ๆ แทบจะเอาชิดจนผมรู้สึกถึงความเย็นที่สัมผัสมาถึง มรึงผีชัดๆ.. ผมคิดในใจ My Mother is coming( อีกเดี๋ยว แม่ผมกำลังจะมา ) เด็กผีฝรั่งกระซิบผมเบาๆ เท่านั้นล่ะคุณเอ๊ย.. กระโดดออกจากเตียง เก็บของแทบไม่ทัน มานอนกองที่ล๊อบบี้ข้างล่างโรงแรมในเวลาไม่นาน มองดูเวลา ประมาณตีสองกว่าๆ ขอพนักงานหลับตรงนี้แหละ ไอ้ธันย์ทำไมแกไม่ดูประวัติโรงแรมให้มันดีๆหน่อยว้า ผมคิดด่ามันในใจ... หลังจากที่ผมผล็อยหลับตรงล๊อบบี้ไปอีกรอบนั้น ก็ต้องตกใจตื่นเพราะเสียงโวยวายของป้าแม่บ้านคนหนึ่ง ก็โวยวายว่าเงินของโรงแรมหายไป 2000 ดอลล่าห์ ผมตื่นมามองพวกแม่บ้านคุยกัน ฉับพลันผมก็เห็นฝรั่งสูงผอมที่ผมเห็นเมื่อตอนมาโรงแรมเดินผ่านไป จำได้ว่าตอนนั้นมีเงินอยู่ 40 ดอลล่าห์นี่นา ไหงตอนนี้ผมเห็นบนหัวเขามีตัวเลข 2040 ดอลล่าห์ลอยอยู่ ผมว่าไอ้หมอนี่แน่ที่ขโมยเงินไป ผมบอกแม่บ้าน สุดท้ายก็มีการจับตัวค้น หมอนั่นก็สารภาพ ดูเหมือนจะเป็นช่างซ่อมแอร์ที่ทางโรงแรมจ้างมา ดูเหมือนทั้งขโมยและแม่บ้านจะงงๆ ว่าผมรู้ได้ยังไง แต่ก็ไม่มีใครถามอะไร แต่ผมก็เลยถูกพวกแม่บ้านถามว่าทำไมมานอนตรงนี้ ไม่เข้าห้อง I want to sleep here ( ผมอยากนอนตรงนี้แหละ ) ผมบอกพวกเขา I dont like my room ( ผมไม่ชอบห้องผมเลย ) แม่บ้านบอกว่ากว่าผมจะเช็คเอ้าท์ก็เย็นพรุ่งนี้ก่อนเครื่องบินออก ถ้าไม่มีห้องลำบากแย่ แกก็เลยจัดแจงห้องใหม่ให้ผม ผมได้นอนบนเตียงอันหนานุ่มอีกครั้ง (เย้) และก็ได้หลับสนิทโดยไม่มีอะไรมารบกวนจนถึงเช้าเลย
แก้ไขเมื่อ 13 ธ.ค. 55 11:43:03
จากคุณ |
:
Mr.Terran
|
เขียนเมื่อ |
:
13 ธ.ค. 55 11:40:48
|
|
|
|