ณ ห้องส่วนพระองค์ขององค์แบน นางกำนัลคนสนิทรีบเข้ามากราบทูลองค์แบนให้ทรงทราบว่า องเลิ้งกุ๋น มอบเทียบเชิญราชวงศ์กัมพูชาให้เดินทางไปพระราชวังหลวงกรุงเว้ โดยอ้างว่าเทียบเชิญนั้นเป็นเทียบเชิญของพระเจ้ามินมาง นางกำนัลกล่าวอย่างห่วงใย
พระองค์หญิงเพคะ หม่อมฉันไม่อยากให้ทรงเสด็จเลย เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย พระองค์ทรงหาข้ออ้างที่จะอยู่ที่นี่ หรือวางแผนหนีไปเสียมก็ได้นะเพคะ
องค์แบนก้มมองหน้านางกำนัลที่กำลังหมอบราบคาบแก้วอยู่ที่พื้น เงยหน้ามองพระองค์ด้วยน้ำตาอาบแก้ม องค์แบนทรงตรัสตอบว่า
ข้าเองยังนึกไม่ออกว่าองเลิ้งกุ๋นจะมาไม้ไหน แต่ที่แน่ๆความคิดแบบนี้คงไม่ได้มาจากพระเจ้ามินมางเป็นแน่ ตามนิสัยของกษัตริย์ด่ายนามผู้นี้ ถ้าจะขุดรากถอนโคนก็น่าที่จะให้ขุนศึกยกทัพมาทำสงครามมากกว่าที่จะคิดอุบายหลอกผู้หญิงไปใส่ไว้ในกรง
นางกำนัลยังไม่สบายใจและพยายามหว่านล้อมต่อไป
ถ้าพระองค์หญิงทั้งสี่ไปถึงกรุงเว้แล้ว พวกมันอาจสังหารพระองค์ก็ได้นะเพคะ หม่อมฉันห่วงใยในพระองค์มาก พระองค์หญิงแบนเพคะ ทรงวางแผนหนีเถอะเพคะ
องค์แบนลุกขึ้นเดินไปที่ระเบียงแก้ว พระองค์มองออกไปไกล ไม่นานนักทรงหันมามองนางกำนัลที่กำลังหมอบกราบอยู่ตรงหน้า
เจ้าจะยุให้ข้าหนีไปโดยไม่สนใจใยดีน้องสาวทั้งสามคนเลยเหรอ ถึงแม้ข้าจะไม่ได้เป็นกษัตริย์ แต่ข้าก็เป็นลูกคนโตของพระอุทัยราชา เรื่องคิดหนีข้าเองไม่เคยคิด น้องข้าไปอยู่ไหน ข้าก็ต้องไปอยู่ที่นั่นด้วย ถึงแม้จะเสี่ยงอันตรายเพียงใด ข้าก็ไม่กลัว
ขณะทรงตรัสอยู่นั้น นางกำนัลหน้าห้องเข้ามากราบทูลว่าองค์มีเสด็จมาหาองค์แบน องค์แบนจึงรีบให้เข้ามา พอองค์มีเข้ามาภายในห้องแล้ว องค์แบนจึงเป็นคนพูดออกมาก่อน
เป็นเกียรติแก่ข้าพระองค์ยิ่งนักที่พระเจ้ากรุงกัมพูชาเสด็จมาหาข้าถึงห้อง
องค์มีจ้องมององค์แบน น้ำตาคลอเบ้า
วันนี้ที่น้องมาหา น้องมาในฐานะน้องสาว น้องทั้งคิดถึงพี่ เป็นห่วงพี่ ตอนนี้องเลิ้งกุ๋นไม่เข้มงวดกับน้อง น้องจึงมาหาพี่ได้ น้องคิดถึงพี่มาก และน้องไม่อยากให้พี่เดินทางไปกรุงเว้ด้วย
เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาห้ามข้า
องค์แบนพูดด้วยเสียงสั่นเครือ
เจ้ากะจะให้ข้าทิ้งให้พวกเจ้าต้องเสี่ยงอันตราย แต่ข้ากลับเอาตัวรอดกระนั้นหรือ
น้องไม่ได้คิดสิ่งใดเลย น้องรู้แค่ว่า เป้าหมายอยู่ที่ตัวน้อง ถึงแม้น้องจะโดนฆ่าตายที่กรุงเว้ นั่นก็คือหน้าที่และความรับผิดชอบของคนที่เป็นกษัตริย์ มันไม่เกี่ยวกับผู้ใดเลย
องค์แบนมีสีหน้าอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด พระนางเดินไปจับไหล่ขององค์มี
แต่ข้าคือพี่ของเจ้า เจ้าเลิกเอาความเป็นกษัตริย์มาอ้างว่าเจ้าต้องรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวเสียที มันอาจจะฟังดูดี แต่ข้าไม่เคยเข้าใจเลย ข้าห่วงเจ้านะน้องมี แม้บางครั้งข้าจะชิงชังเจ้าไปบ้าง แต่ลึกๆแล้วข้าก็ห่วงเจ้านะ ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าต้องเผชิญกับเพทภัยตามลำพังหรอก
ท่านพี่
ทั้งสองสวมกอดกัน ระหว่างสวมกอดกันอยู่นั้น องค์มีพูดออกมาว่า
ราษฏรคงเกลียดข้าที่ข้าไม่สามารถปกป้องพวกเขาได้ ข้าคงไม่มีที่ยืนในแผ่นดินผืนนี้อีก ข้าอาจไปกรุงเว้แล้วไม่ได้กลับมาอีก คงจะไม่มีใครจดจำข้าได้ ท่านพี่รู้ไหมว่าองเลิ้งกุ๋นให้ขุนนางและราษฎรทุกคนแต่งชุดของพวกไดเวียต ถ้าใครไม่ทำตามก็จะฆ่าเสีย ข้าเองพยายามห้ามปรามแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ข้ารักษาแผ่นดินแห่งนี้เอาไว้ไม่ได้
องค์แบนผละออกจากการสวมกอด แต่มือยังจับไหล่ขององค์มีไว้
ชาวเขมรเป็นเขมรด้วยหัวใจ มิใช่เครื่องแต่งกาย ถึงมันจะทำให้เราเป็นไดเวียต เราก็เป็นได้เพียงกาย แต่หัวใจของพวกเราเป็นเขมรตราบจนสิ้นลมหายใจ ต้องมีคนรู้คนเข้าใจว่าการที่เจ้าพยายามเป็นอยู่ทุกวันนี้ มันเป็นการห้ามไม่ให้พระเจ้ามินมางยกทัพมาฆ่าราษฎรของเราทั้งแผ่นดิน ถึงวันนี้จะไม่มีใครเข้าใจ แต่ถ้าตราบใดที่แผ่นดินเขมรยังอยู่ จะต้องมีใครเข้าใจเราเข้าสักวัน และต้องรับรู้ว่าหัวใจของเราไม่ใช่โดเวียต ถึงแม้ใครๆจะเรียกเจ้าว่าบากุ๋นพูก็ตาม
ทั้งสองสวมกอดกันอีกครั้ง นานแล้วที่ทั้งสองไม่ได้เปิดใจกันมากถึงขนาดนี้ การเปิดใจซึ่งกันและกันทำให้ทั้งสองเข้าใจความรู้สึกของกันและกันดี
จากคุณ |
:
ภคสิต
|
เขียนเมื่อ |
:
14 ธ.ค. 55 01:36:07
|
|
|
|