Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
สาปกณิการ์ :: งามชบา - บทที่ 29 vote ติดต่อทีมงาน

http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W13054084/W13054084.html

บทที่ 29

แม่นางแพรยังรู้สึกตะครั่นตะครอกับกลิ่นไอของไสยเวทย์ที่ขลังคั่งทั่วโถงบูชาเจ้าฟ้าจนไม่กล้าพลิ้วร่างส่งเดช เมื่อเข้ามาแล้วก็ได้แต่ซุกกายโปร่งใสตรงมุมหนึ่ง ทอดตาไร้แววไปจับความเพลี่ยงพล้ำของแม่นางกณิการ์ผู้อหังการด้วยจิตอันสาแก่ใจพยาบาท

"ไม่นึกเลยว่าแม่นางผู้เกรียงไกรจะมีวันอัปยศเช่นนั้นได้" นางผีกล่าวเย้ยหยันพลางแสยะยิ้มสมน้ำหน้า

"แต่เรากลับคาดเดาชะตาของแม่นางแพรได้ว่าต้องตกต่ำเป็นผีเปรตเช่นนั้น"

"แม่นาง" นางผีตวาด โกรธที่โดนยอกย้อนซ้ำเติม ร่างชั่วโผพลิ้วมาหยุดลอยเหนือร่างแม่นางเจ้าฟ้า

"บังอาจ"

แม่นางเจ้าฟ้ากำราบด้วยเสียงก้อง โบกมือขึ้นตวัดหนักหน่วง กายผีก็ปลิวละลิ่วไปกระแทกผนังทึบ บังเกิดประกายหลากสีแตกกระจายคล้ายพลุจ้าเพียงวูบ แม่นางแพรก็พลันแผดเสียงร้องโหยหวนเจ็บปวด

ทันทีที่กายรูดลงนั่งคร่อมแท่นเสาเตี้ยที่ก่อเรียงรายรอบโถง แม่นางกณิการ์ก็สลัดความเพลี่ยงพล้ำ ร่ายมนตราขนนกไหลร่างออกจากปลอกแขนชั่ว ไม่ได้ไหลไปเฉยๆ เสียด้วย ยังอุตส่าห์ฝากรอยเท้าประทับไว้บนยอดอกซาตานอย่างหนักหน่วง

เสียงทึบหนักสร้างความเดือดดาลมหาศาลสู่ซาตานอมตะยิ่ง มันกู่ร้องยืดยาวจน เสียงโหยหวนเย็นเยียบนั้นทะลุผนังมนตราสี่ทิศ ฝ่ากำแพงประตูบานหนาออกมากระทบถึงโสตคนข้างนอก




พระครูลาพุชลอบกลืนน้ำลายหวั่นวิตก ท่านไม่เคยทำนายดวงชะตาผิดพลาดไม่ว่าจะบ้านเมืองหรือผู้คน

แต่การปรากฏตัวของซาตานวจามันอยู่เหนือความคาดหมายและไม่เคยมีปรากฏเป็นเค้าเป็นลางบนกระดานชนวนมาก่อน ความมั่นใจในความแม่นยำจึงลดทอนลงตามระดับของความหวั่นวิตกนั่นเอง

องครักษ์ศมะผู้บอบช้ำก็ยิ่งกระวนกระวาย อยากดึงดันขัดบัญชาแม่นางเจ้าฟ้ายอดดวงใจเสียก็หลายครั้ง

ยิ่งมาได้ยินเสียงชั่วช้าของซาตานแผดลั่นอย่างอวดอำนาจ ก็ยิ่งรุ่มร้อนพลุ่งพล่าน หลายครั้งที่ทำท่าโผพุ่ง หากแต่บิดาก็ยุดยื้อแขนใหญ่ขึงตาส่ายหน้าปรามกันแบบสุดฤทธิ์

ไม่ยกเว้นแม้แต่เจ้าฟ้าธุวชินที่ลืมเรื่องฉวยโอกาสไปชั่วขณะ เพราะใจระทึกกับการแปรเปลี่ยนชะตาชีวิตของแม่นางกณิการ์ผู้อหังการ

เขาไม่รักแม่นางสักน้อยนิด ยังเคืองระคายในทรวงไม่หายที่โดนลบหลู่ศักดิ์แห่งหน่อเนื้อเจ้าฟ้า โดนกดขี่เกียรติแห่งความเป็นชายชาตินักรบ

ด้วยแรงคับแค้นที่ไม่มีวันลืมเช่นนี้ เขาจึงหมายมั่นอธิษฐานขอให้แม่นางเหิมเกริมจงพ่ายแพ้แก่ศัตรู กลับออกมาเพียงร่าง เลือดชโลมแค่ไหนก็ไม่เกี่ยง แค่ขอให้ดวงวิญญาณดับสูญเป็นพอ

"ไม่ต้องห่วงหรอกเจ้าน้อง เจ้าพี่จะสืบทอดภาระหนักอึ้งต่อให้เอง จะปกครองคามดารกะให้อยู่เย็นเป็นสุข เลี้ยงดูและอบรมแม่นางหน่อเนื้อของเราให้เป็นหญิงงามเพียบพร้อม จงกลับสู่สวรรค์อย่างวางใจเถอะ"

"ท่าน" องครักษ์ประเดใจสะท้านกับเสียงพึมพำมาดหมายของเจ้าชีวิต "ทำไมกล่าวเช่นนั้นเล่าเจ้าข้า"

"จะให้เรากล่าวยังไงหรือท่านประเด กล่าวว่าเสียใจยิ่งที่แม่นางกณิการ์ต้องกลับสู่สวรรค์โดยไม่มีผู้สืบทอดตำแหน่งเจ้าฟ้าแห่งคามดารกะหรือ"

"แต่ว่า.. "

"จงเงียบไปเถอะ รอดูผลลัพธ์ที่เราอยากให้เกิดขึ้นดีกว่า เจ้าเองก็เหมือนกันนะท่านประเด จงช่วยเราภาวนาอธิษฐานขอให้สิ่งที่เราใฝ่ฝันเป็นจริงภายในโมงยามที่ใกล้เข้ามานี้เถอะ"

"เราน่าจะฉวยโอกาสนี้ แอบพาแม่นางมัลลิกาหนีออกจากคามเงียบๆ นะเจ้าข้า ถ้าเจ้าคนประหลาดคนนั้นกำชัยได้จริง มันก็คงไม่ปล่อยให้ใครในเขตโถงคามมีชีวิตรอดแน่ๆ "

"ไม่ต้องห่วงหรอก เรื่องนั้นเราก็คิดเตรียมการณ์ไว้แล้ว พาหน่อเนื้อน่าเอ็นดูหนีไปทำเมื่อไหร่ก็ได้ แต่โมงยามที่จะได้เห็นกายดับสูญของแม่นางกณิการ์ ถ้าพลาดแล้วก็อาจพลาดเลยตลอดกาล ไม่เป็นที่น่าเสียดายหรอกหรือท่านประเด"

องครักษ์ประเดถอนใจยาว เขาคิดตัดบทง่ายๆ เพื่อให้ตนสบายใจทำนองว่า 'เจ้าชีวิตว่ายังไง องครักษ์นักรบก็ต้องว่าตามกัน'

ทั้งสองเคลื่อนตัวไปเกาะติดสถานการณ์เยื้องห่างสองร่างพ่อลูกผู้ภักดีแห่งคามดารกะไม่ไกลนัก ยังดีว่าการสนทนาที่เพิ่งจบลงเป็นเพียงเสียงกระซิบกระซาบ ถ้าโฉ่งฉ่างฟังถนัดละก้ องครักษ์ศมะคงไม่อยู่เฉยให้สนทนาจบความอย่างราบรื่นเป็นแน่




หลายความคิดต่อสู้ขัดแย้งกันหน้าประตูบานกุมชะตา หากแต่สองศัตรูเบื้องหลังกลับปะทะกำลังกันอย่างปราดเปรียวและฮึกเหิม

แม่นางกณิการ์เพ่งจับแท่นบูชาสูงกลางโถงเป็นเป้าหมาย หากสิ่งที่พระครูลาพุชกล่าวย้ำเป็นความจริง ซาตานวจาจะต้องเพลี่ยงพล้ำตรงนั้น

แม่นางจะพันธนาการและปิดตายโถงบูชาเจ้าฟ้าตลอดกาล หรือไม่ก็จนกว่าจะหาวิธีทำลายความเป็นอมตะของซาตานชั่วจนเจอเสียก่อน

"อย่าดิ้นรนให้เหนื่อยกำลังเลยแม่นางน่าชังเอ๋ย เจ้าไม่มีวันเอาชนะซาตานอมตะอย่างข้าได้ ไม่มีวัน"

"ใช่ เจ้าไม่มีวันเอาชนะเราได้ ซาตานวจาสันดานหยาบ"

พอสิ้นคำ แม่นางพลันตวัดมีดอาคมกระแทกยอดอก คลื่นลมร้อนฝ่าแสงอันสลัวที่ส่องจากเปลวเทียนมุ่งจู่โจมเป้าหมาย หากแต่เสียงเคร้งสดใสประหนึ่งวัตถุทึบกลวงปะทะกันเองแล้วต่างฝ่ายต่างร่วงก็ดังกังวานไม่แพ้เสียงหัวเราะเยาะหยามของเจ้าซาตาน

"ข้าจะบอกให้เจ้าได้ตาสว่าง เนื้อหนังทุกอณูของข้ามันแข็งดุจหินแกร่ง ไม่มีอาวุธใดๆ ฟันแทงได้ มีดสั้นเจ้าก็นับว่าดี มีอาคมชั้นเลิศ แต่ยังไม่ใช่คู่ต่อกรแห่งข้า แม่นางชั่ว"

เสียงหยาบหยามพ่นพรูพร้อมกับร่างใหญ่ยักษ์กระโจนมาประชิด ยื่นมือใหญ่หมายตบหน้าแม่นางเจ้าฟ้าให้สมแค้น แต่มีหรือที่แม่นางจะอ่อนข้อให้สมดั่งใจ ร่างอ้อนแอ้นหมุนคว้างแล้วดีดปลายเท้าปาดปลายคางแข็งว่องไว

แม่นางชาญฉลาด นึกรู้อยู่แล้วว่าทำร้ายด้วยกำลังหรืออาวุธก็คงยาก จึงเพียงแต่อาศัยเนื้อแข็งตรงนั้นส่งกำลังให้ตนพุ่งหนีโดยไม่ต้องเหนื่อยมาก

ซาตานคำรามคลั่ง ร้องสบถว่า 'แม่นางชั่ว' ซ้ำแล้วซ้ำอีก หากแต่ร่างใหญ่ยักษ์ก็ไม่หยุดนิ่ง มีแต่จะพุ่งปราดตามติดศัตรูหมายพิฆาตให้แหลกยับ

มือใหญ่ก็หมั่นปัดกวาดสิ่งของเกะกะขวางตาทั้งแท่งเสากลมสูงประดับเทียนไข ทั้งแท่นเตี้ยวางเครื่องบูชา กลีบบัวมากล้นอาคม ทุกสิ่งอย่างหักโค่นล้มกลิ้ง บังเกิดเสียงโครมครามทึบเคร้งดังสนั่นปะปนกับม่านฝุ่นหนาฟุ้งตลบต่อเนื่อง

บันไดกว้างทอดสู่กลางลานบูชา บนนั้นคับคั่งด้วยถาดดอกไม้สด หอยสังข์ปริ่มน้ำมันตั้งเรียงราย เปลวเทียนสีส้มสีเหลืองกำลังพลิ้วไหวเป็นเส้นตรงเส้นหงิก มันเห็นแล้วหงุดหงิดก็เตะแท่งเสากลมที่หักข้างขาปลิววืดขึ้นไปกระแทกทำลายเสียสิ้น

ราวพวงมาลัยที่ประดับเชื่อมเสาสูงสี่ทิศรอบลานบูชาก็กระชากขาดติดมือมา แล้วเหวี่ยงไปรัดเอวอ้อนแอ้น กระชากอีกวืดร่างแม่นางศัตรูก็พลันลอยคว้างเข้าหาให้มันแสยะยิ้มกระหยิ่ม

"ข้าจะคายรสจูบอันหอมหวานของข้าให้เจ้ากลืนกิน เชื่อเถอะเจ้า เพียงอึดใจเท่านั้น เจ้าก็จะระทวยแดดิ้นไม่ต่างไปจากแม่นางจงอรของเจ้าหรอก"

พอได้ยินศัตรูพาดพิงชะตาอดสูของแม่นางเจ้าพี่บนสวรรค์ แม่นางผู้น้องก็พลันสะท้านด้วยคลื่นแค้น ฝ่ามือร้อนและแดงจัดไปด้วยมนตราอัคคีจึงพลิกแล้วยื่นพุ่งฝ่าอากาศอับมุ่งกระแทกหน้าผากใหญ่ให้ทะลุ

ซาตานวจาเลิกคิ้วโกรธๆ รับรู้ได้ถึงกระแสลี้ลับคมกริบ มันรีบหงายร่างเปิดทางให้แม่นางคู่อริพลิ้วกายอ้อนแอ้นหมุนเป็นวง ชายกระโปรงกรีดกระจายงดงาม หากรังสีเข่นฆ่าที่ซ่านสีแดงเจือเขียวรายล้อมกลับแลลี้ลับน่าสะพรึงกลัวยิ่ง

"เจ้า แม่นางเลว"

ซาตานวจาเพิ่งสบถไม่ทันขาดคำ ซอกคอก็ปะทะกับเท้าเล็กที่อัดหนักแล้วยันถีบอำมหิต มันไม่ก่อความเจ็บปวดใดๆ หากแต่ร่างอมตะก็กระเด็นวืดไปกระแทกผนังดังโครมสนั่นทีเดียว

แม่นางแพรอ้าปากค้าง ด้วยความเป็นห่วงพี่ชาย จึงลืมตัวกลัวบารมีแม่นางเจ้าฟ้าชั่วขณะ ร่างผีโผเข้าไปขวาง ถลึงตาไร้แววแดงก่ำ อ้าปากแล้วพ่นน้ำเลือดน้ำหนองสกัดไม่ให้ศัตรูเข้าถึงและซ้ำเติมพี่ชายที่ยังนั่งอัดกับหมู่เสาหักโค่น

"บังอาจ นางผีชั้นต่ำ สันดานหยาบและบาปหนาของเจ้าไม่คู่ควรให้เราแลกฝีมือด้วย จงถอยไป"

"หมดยุคอันรุ่งเรืองของท่านแล้วแม่นางกณิการ์ จงยอมปราชัยแต่โดยดีเถอะ"

"ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงโดยแท้นะเจ้า"

แม่นางเค้นเสียงตวาดดุร้าย แล้วหมุนคว้างไปด้านข้าง ไม่ตบให้เสียมือแต่ตวัดปลายเท้ากระแทกหน้านางผีได้สาแก่ใจแท้ ร่างโปร่งใสลอยละลิ่วไปชนเสากลมฝังรัตนชาติสีแดงเหลืองต้นหนึ่ง ก่อนจะกระดอนกระเด้งไปปะทะกับอีกต้นที่วูบวาบด้วยสีม่วงสีคราม

แม่นางกณิการ์ไม่รอให้ลุกให้ลอย ก็รีบพุ่งปราดมาซ้ำ ซัดมีดอาคมคราเดียวก็ปักทะลุยอดอก เลือดดำพุ่งฉีดแล้วกระจายเป็นแพผืน นางผีกรีดร้องโหยหวน ดิ้นพล่านเจ็บปวด น้ำตาเลือดสีดำไหลทะลัก ร่ำร้องขอความช่วยเหลือจากพี่ชายด้วยคลื่นโหยหวนสยดสยอง

เสียงแหลมลึกของนางผีมันก้องระคายหูเกินไป แม่นางเจ้าฟ้าก็รำคาญยิ่ง จึงดีดนิ้วปล่อยมนตราอัคคีคมกริบเฉือนคอ ปัดศีรษะหลุดจากตัว แล้วปราดไปเตะลอยโด่งกระทบผนัง

ไม่รอให้หล่นสู่พื้น ก็ลอยคว้างคว้ากระชากซากสายพวงมาลัยไปรัดร้อย แล้วเหวี่ยงไปห้อยค้างบนยอดเสากลมฝังรัตนชาติสีมุกอมเหลือง

"น้องพี่ เจ้า แม่นางน่าชังแสนชั่ว เจ้าช่างอำมหิตนัก แม่นางแพร แม่นางน้องพี่"

ซาตานวจาเพิ่งลุกยืนมั่นคง มันเบิกตาโพลง สองมือรัวกำปั้นทุบอกแข็งอย่างคลุ้มคลั่ง พลางกระโจนลอยขึ้นไปกระชากสายพวงมาลัยขาดกระจุย รับศีรษะนางผีมาถนอมไว้ในมือ แสนสงสารน้ำตาแม่นางน้อง คงเจ็บปวดสาหัสด้วยไฟอาคมอันแสนร้อน

"จงอย่ากลัวไปนะเจ้า พี่จะไม่ยอมให้เจ้าดับสูญ เจ้าต้องอยู่กับพี่ ร่วมเสพสุขในชะตาอันรุ่งเรืองด้วยกันตลอดกาล เสร็จสิ้นจากกำราบแม่นางชั่ว พี่จะพาเจ้าไปชุบร่างเป็นอมตะ จงอดทนอีกนิดเถอะแม่นางแพร"

มันกล่าวปลอบประโลม น้ำตาเลือดดำไหลอย่างผูกพัน ก่อนจะหันขวับถลึงตาอาฆาตสู่แม่นางกณิการ์ที่หย่อนยืนอหังการกลางลานบูชา เท้าสะเอวอวดมาดนางพญาแสนผยอง วงหน้าสง่าและเปี่ยมวาสนาเชิดสูงทระนง ตาเรียวทรงอำนาจจ้องเขม็งเปล่งประกายบารมีเจิดจ้า
ท่วงท่าองอาจหาญกล้าเช่นนั้น ช่างกลบเกลื่อนพิรุธแห่งกำลังอันสร่างซาได้แนบเนียนยิ่ง ใช่แล้ว แม่นางเริ่มเหนื่อย พลังเริ่มถดถอย อากาศในนี้มันน้อยเกินไป หากยังไม่รีบกำราบซาตานชั่วให้ยอมสยบ ไม่นานช้านี้ แม่นางอาจสิ้นแรงและเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำเสียเอง




นานเกินไปหรือเปล่า ทำไมประตูถึงไม่ขยับอ้าเสียที เกิดอะไรขึ้นข้างในบ้าง แม่นางเจ้าฟ้ายอดดวงใจจะประสบเคราะห์ดีเคราะห์ร้ายยังไงบ้าง มันช่างเป็นช่วงเวลาที่แสนทารุณจิตใจยิ่ง แทบจะทานทนยืนรอกับจ้องเขม็งไม่ไหวอยู่แล้ว

ถ้าอีกอึดใจยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เขาจะบุกเข้าไป ไม่เกรงใจบัญชาแม่นางเจ้าฟ้าอีกแล้ว องครักษ์ศมะสืบเท้าเข้าไปใกล้ แตะมือสัมผัสเนื้อไม้หนาและอุ่นจัด เขาหลับตาสะกดความพลุ่งพล่านท่วมทรวง รู้สึกเหมือนมีไฟปะทุและคุโชนตลอดเวลา

"แม่นางเจ้าข้า ได้ยินเสียงเราร้องเรียกหรือเปล่าเจ้าข้า โปรดขานรับให้เราสบายใจสักเล็กน้อยเถอะ"

"ท่านศมะ" พระครูตามมาดึงแขน ขึงเสียงเอ็ดเข้ม "เจ้าทำอะไร เหลวไหลยิ่ง ตะโกนแบบนั้นก็เท่ากับรบกวนสมาธิแม่นางน่ะสิ เจ้าไตร่ตรองไม่ได้หรอกหรือว่าตอนนี้มันเป็นช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน"

"ลูกรู้ ลูกไตร่ตรองได้ แต่ลูกกระวนกระวาย ท่านพ่อไม่รู้สึกบ้างเลยหรือว่าแม่นางหายเข้าไปนานมากแล้ว ปกติแล้ว นิสัยแม่นางจะไม่พิรี้พิไรยืดเยื้อไม่ใช่หรือ แต่คราวนี้.. "

"จงใจเย็นลงหน่อยเถอะท่านศมะ" พระครูปลอบโยน "เจ้าก็ต้องไม่ลืมด้วยว่าแม่นางกำลังต่อสู้อยู่กับซาตานอมตะ มันจำเป็นต้องอาศัยเวลาเนิ่นนานไปสักหน่อย จงเชื่อมั่นในวาสนาและบารมีของแม่นางเถอะเจ้า"

เจ้าฟ้าธุวชินได้ยินสองพ่อลูกปลุกปลอบเรียกขวัญกันอย่างชัดเจน เขาเบะปากดูแคลน ยักไหล่คล้ายหมิ่นในความโง่เขลา ในเมื่อพระครูเอ่ยอ้างเต็มเสียงว่าคนประหลาดตัวใหญ่ยักษ์เป็นซาตานอมตะ ก็ย่อมแสดงว่าเป็นคนกึ่งผีน่ะสิ

เอาเถอะ สู้รบต่อกรกับคนด้วยกัน และแม้ว่าจะเป็นเพศบุรุษด้วย แม่นางกณิการ์ก็ห้าวหาญองอาจควรให้ครั่นคร้ามนัก

แต่ก็อย่างที่พระครูชราว่ามานั่นล่ะ คู่ต่อสู้ของแม่นางในวันนี้ไม่ใช่คนโดยแท้นี่ ซ้ำยังอมตะฆ่าไม่ดับสูญเสียอีก จะให้รวบรัดเพียงหนึ่งดาบหนึ่งมีด มันก็จะดูเป็นการลบหลู่ศักดิ์ศัตรูเกินไปไม่ใช่หรือเล่า

"ดีแล้ว ยิ่งนานไป อากาศก็จะยิ่งน้อยลง คนกึ่งผีคงไม่มีปัญหาเรื่องการสูดหายใจ แต่แม่นางผู้เกรียงไกรคงต่างออกไป จริงไหมท่านประเด ช่างดียิ่ง สวรรค์กำลังเปิดทางให้เรามุ่งไปสู่ความรุ่งเรืองแทนที่แล้ว"

องครักษ์ประเดยิ้มแห้งๆ ไม่สะดวกจะขัดวาจาครึกครื้นแกมโอหังของเจ้าชีวิต เพราะเขายังมีความเชื่อมั่นว่าแม่นางกณิการ์จะไม่เพลี่ยงพล้ำศัตรูโดยง่าย หรือต่อให้เพลี่ยงพล้ำจริง การโค่นบารมีของแม่นางลงมันก็ต้องใช้เวลานานกว่าหนึ่งวันขึ้นไปเป็นแน่




สำหรับแม่นางกณิการ์ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะยืดเยื้อเวลาให้นานไปกว่าวันนี้ แม่นางหรี่ตาดุร้ายทอดมองกำไลข้อเท้าฉลุลวดลายอ่อนช้อยฝังรัตนชาติหลากสี มรกตเม็ดโตส่องแสงเขียวใสบดบังตะขอเกี่ยวที่ซ่อนข้างหลัง

ทรวงกระเพื่อมด้วยแรงเดือดดาลระคนเคียดแค้นลึกล้ำ เพราะเพียงเห็นปราดแรกก็จดจำได้เป็นอย่างดีว่ามันคือเครื่องประดับแสนหวงของ 'แม่ครูยานี'

"เจ้าซาตานแสนเลว นี่เจ้า.. "

"จดจำได้ดีใช่ไหมเล่าแม่นางกณิการ์ แม่นางกล่าวย้ำเสมอไม่ใช่หรือว่าตนเป็นผู้ปกครองคามดารกะที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกร เป็นยังไงเล่าผู้ยิ่งใหญ่เกรียงไกร ลำพังแค่กำไลข้อเท้าของแม่ครูคนโปรดก็ไร้ปัญญาจะเก็บรักษา ต้องเดือดร้อนข้าซาตานอมตะแบกภาระแทนที่ ไม่รู้หรอกหรือว่าข้าเหนื่อยนัก"

"เจ้าสารเลว"

แม่นางตวาดเกรี้ยวกราด โผร่างร้อนด้วยไฟแค้นลอยเหนือลานบูชาพลางร่ายมนตราผนึกธาตุ ดูดดึงซากเชิงเทียนแก้วเคลื่อนมารายล้อม

นางกำหนดแล้วว่าตรงนั้นคือที่ที่ซาตานสารเลวจะถูกพันธนาการและกักขังชั่วกัปชั่วกัลป์ จากนั้น จึงค่อยพุ่งปราดเข้าหาศัตรูหมายแย่งชิงสมบัติล้ำค่าในมือสกปรก

"มันไม่ง่ายหรอกเจ้า แม่ครูปากเปราะก่อการร้ายต่อข้า สาระแนป่าวประกาศอุบายโค่นอำนาจเจ้าฟ้าจ่างสู่เจ้า แค่ตายง่ายดายเพียงนั้น มันไม่สาแก่ใจแค้นของข้าเลยแม่นางเอ๋ย"

"ชั่วช้า"

แม่นางร้องด่า หมุนกายอ้อนแอ้นเป็นเกลียว ระดมมนตราสี่ธาตุบังคับให้วัตถุเกลื่อนกลาดลอยพุ่งเข้าใส่ศัตรู มันกระแทกร่างใหญ่ยักษ์อย่างอำมหิต

ได้ยินเสียงทึบเคร้งโครมดังสนั่นหวั่นไหว เส้นผมพลิ้วสยายกรีดกระจายเป็นแพยามหมุนคว้างบ่ายหลบพลังสะท้อนที่ดีดกลับมาอย่างถาโถม

มือว่องไวคว้ากระชากซากราวพวงมาลัยแล้วเหวี่ยงด้วยมนตราศาตราวุธพุ่งเป็นเส้นตรงกรีดฝ่าม่านอากาศอันน้อยนิดคละเคล้ากับผงฝุ่นตลบแล้วฟาดลำตัวหนาของศัตรูชั่วก่อเกิดเสียงหนักดังทึบ แม่นางเกร็งข้อมือตวัดสายร้อยรัดรอบเอวใหญ่ แล้วพุ่งพลังบิดเหวี่ยงสุดกำลัง

ซาตานวจาก็มีอันลอยวืดหมุนคว้าง เปิดทางให้แม่นางพุ่งปราดเข้าหาตบหน้าฉาดใหญ่ แล้วถีบหนักยอดอกส่งกำลังให้ตนตีลังกากลับหลังเพื่อเหวี่ยงขาดีดปลายเท้ากระแทกศีรษะที่ปกคลุมด้วยเส้นผมหยาบแข็ง

ก่อนจะลอยคว้างอ้อมไปด้านหลัง ลากราวพวงมาลัยคมกริบด้วยมนตร์ร้อนรัดรอบลำคอ จากนั้นก็เลี้ยววนมาข้างหน้า อัดเข่ากระแทกซอกคอ เจาะจงกระเดือกใหญ่ แล้วลอยโผขึ้นเหยียบศีรษะอหังการ เหยียดสันมือตั้งตรงร่ายมนตราศาสตราวุธฟันฉับตรงท่อนแขน

เสียงทึบกับคลื่นร้าวหนักแผ่ซ่านจากตรงนั้นมาทำร้ายแขนตน แม่นางก็ค่อยประจักษ์ว่าคำเตือนของพระครูล้วนเป็นจริง

เนื้อหนังแข็งดุจหินแกร่งของซาตานจะไม่ระคายคมอาวุธและมนตราใดๆ หากคิดกำราบต้องจัดการสยบให้ตรงปาก ซึ่งแม่นางก็เชื่อตามนั้น แต่ยามนี้คงต้องขอกำไลข้อเท้าแม่ครูยานีคืนก่อนเถอะ

ร่างอ้อนแอ้นที่เหยียบยืนบนศีรษะใหญ่พลันโผลอยหมุนคว้างลงเตะข้อมือเต็มแรงจนกำไลข้อเท้าในกรงนิ้วหลุดลอยให้รีบตามตะครุบ

ในจังหวะนั้นเองที่ซาตานวจามีหนทางตอบโต้เอาคืน มันคำรามก้องจนโถงสั่น ฝุ่นทรายปริร่วงจากร่องหลืบตลบหนาดั่งม่านหมอก แม้แต่คนข้างนอกก็ยังรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนอันน่าสะพรึงกลัวนั้นได้

สองแขนใหญ่อ้าออกแล้วกวาดวัตถุใกล้ตัวด้วยมนตร์ดำให้ลอยขึ้น ก่อนจะผลักเหวี่ยงโถมใส่แม่นางผู้เกรียงไกรอย่างบ้าคลั่ง

แม่นางกณิการ์กุมกำไลข้อเท้าวงโปรดของแม่ครูยานีไว้แน่น ได้ยินเสียงครืนครั่นของวัตถุที่ไหลโถมมาก็รีบพลิ้วตัวหนี แต่ในจังหวะอลหม่านนั้น ซากแท่นหินตั้งแจกันก็พลันลอยมากระแทกไหล่มนเต็มแรง

แม่นางอุทานเจ็บปวดแผ่วเบา ร่างที่ลอยกลางอากาศเซซวนถอยหลังไปประชิดผนัง แล้วรีบหย่อนวืดลงเลี่ยงหลบแจกันหินสลักลวดลายท้องฟ้าและก้อนเมฆที่ซาตานศัตรูจงใจผลักมาอีกชิ้นหวังทำร้ายด้วยไสยเวทย์ดำ

แต่แม้ว่าจะบ่ายหลบว่องไวแค่ไหนก็ตาม สุดท้ายอาวุธชั่วก็กระแทกลงกลางหลังบางจนได้

แม่นางกระอักเลือดกองโต เจ็บร้าวทั่วทรวงก่อนจะแสบระคายด้วยมนตร์ชั้นต่ำ น้ำตาไหลพรากขณะเงยหน้าขึ้นอวดแก้มแดงก่ำ พลุ่งพล่านชิงชังเสียงคำรามหัวเราะเยาะโหยหวนของอริแสนชั่วนักหนา

"นึกไม่ถึงใช่ไหมแม่นางน่าชัง ในที่สุดเจ้าก็มีวันที่ต้องล้มลงคุกเข่าสิ้นพยศแทบเท้าของข้า กาลนี้เจ้ารู้สึกยังไงบ้าง ก็จงสำนึกไว้ว่ามันคือความรู้สึกของข้าในกาลโน้น"

"ไม่เลย ซาตานวจา เราไม่เคยสิ้นพยศต่อเจ้า จึงไม่เข้าใจความรู้สึกในกาลโน้นของเจ้าแม้แต่น้อย มีแต่เจ้าที่เราจะบัญชาให้ดับสูญซ้ำแล้วซ้ำอีก จงซึมซับความรู้สึกเดิมในกาลเก่าของเจ้าไปเถอะ"

แม่นางกล้ำกลืนความเจ็บร้าวทั่วแผ่นหลัง ประคองมือเปรอะเลือดปาดเหงื่อผุดโชกเต็มหน้าผาก แล้วพยุงกายยืนหยัดอย่างสง่างาม ขึงตาเข้มและข้นด้วยมนตราวิเศษ

อากาศเหลือน้อยลง อาการบาดเจ็บจะยิ่งทำให้อ่อนแรงได้เร็วกว่าปกติ ดังนั้น ทางเดียวที่จะล่อหลอกให้ซาตานศัตรูไหลไปตามบัญชาพันธนาการ เห็นทีว่าต้องอาศัยดวงวิญญาณแหว่งวิ่นของแม่นางแพรเป็นตัวกระตุ้นเสียแล้ว

จากคุณ : รัชนีกานต์
เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 08:31:37




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com