Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
กับดักรักสองโลก 16. vote ติดต่อทีมงาน

.

.



16.


ดินแดนลับแลกลางท้องมหาสมุทรในส่วนที่ลึกและเยือกเย็นสุดกู่ ยังคงสับสนอลหม่านกับการสาบสูญของพรายบุรุษร่างกายกำยำ เวลาพ้นผ่านนานพอควรกับพิธีมงคลสมรสหลังจากนั้นเป็นต้นมาไฮโรเทนกลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่มีผู้ใดได้พบปะเจอะเจอเขาอีกเลย ทำเอาครอบครัวญาติสนิทต่างร้อนใจ ระดมทุกฝ่ายในแดนบาดาลออกติดตามค้นหากันจ้าละหวั่น ทั้งบริวารข้ารับใช้ หรือเหล่ามิตรสหายเพื่อนเกลอต่างไม่มีใครล่วงรู้เลยว่าไฮโรเทนนั้นระหกระเหินยังที่แห่งใด อียาน่าผู้ซึ่งเป็นภรรยาถูกต้องตามกฏประเพณีบ้านเมืองยังคงไร้ซึ่งรอยยิ้ม ขาดเสียงหัวเราะตั้งแต่วันที่พรายบุรุษจากนางไปอย่างไร้ความใยดี


หากทว่านางพรายอย่างอียาน่าคงไม่ปล่อยใครที่หมายจับตาหลุดรอดจากความสนใจไปได้ ตั้งแต่ครั้งนั้นที่ไฮโรเทนตีจาก อียาน่าก็ออกติดตามสะกดรอยพรายบุรุษกับข้ารับใช้คนสนิทในระยะห่าง จนนางรู้ทิศทางของสามีว่าเขาผ่านเข้ายังถ้ำอาถรรพ์ของภูตทำนาย จากคำบอกเล่ากล่าวไว้ว่าหากผู้ใดหลงผ่านเข้าในหลุมดำมรณะแห่งนี้คงต้องมีสิ่งใดแลกเปลี่ยนเพื่อให้ได้กลับออกมายังด้านนอกอีกครั้ง และนี่คือสิ่งที่อียาน่าเองไม่อาจรับรู้ได้ว่าไฮโรเทนยอมทำสิ่งใดเพื่อแลกกับการตามหานีลาน่าพรายผู้น้องของนาง


“อียาน่า..”


พรายสาวสะบัดร่างกายหันกลับยังน้ำเสียงทรงอำนาจที่ส่งเรียกนางตื่นจากภวังค์ความคิด พรายเฒ่าร่างกายสูงใหญ่เคลื่อนไหวเชื่องช้าตรงหาบุตรสาวที่หลงเหลือเพียงหนึ่งเดียว ด้วยสายตาเศร้าสร้อยเวทนานางพรายเบื้องหน้ายิ่งนัก


“ท่านพ่อมีเหตุอันใดพบปะข้าอย่างนั้นหรือ”


“เจ้ารู้ใช่หรือไม่ว่าสามีเจ้ากำลังติดตามนีลาน่าน้องสาวเจ้า”


“ข้ารู้ดีท่านพ่อ..”


“แล้วเจ้ารู้สึกอย่างไร โกรธเคืองหรือไม่ ที่พรายบุรุษผู้นั้นไม่ใส่ใจใยดีเจ้าอย่างที่ควรปฏิบัติต่อภรรยาที่เพิ่งผ่านพิธีสมรสมาได้เพียงไม่นาน หากนั้นเพราะไฮโรเทนออกติดตามนีลาน่า”


“ข้าไม่คิดสิ่งใดท่านพ่อ ขอให้น้องกลับมาปลอดภัย ข้าก็หมดห่วง ส่วนไฮโรเทน..”


อียาน่าอึกอัก หยุดคำพูดไว้เพียงเท่านั้น สายตาสลดวูบส่งบอกขอความเห็นใจยังไตรตรอนผู้เป็นบิดา แม้มีสามีแต่เวลานี้กลับโดดเดี่ยวเดียวดาย ไม่ต่างจากการเป็นหม้ายหย่าร้างหรือห่างหายราวตายจากกัน ไตรตรอนรู้สึกรวดร้าวโศกเศร้าแทนบุตรสาว หากเวลานี้ทำได้เพียงดึงร่างบางโอบกอดปลอบประโลม ถึงอย่างไรคงต้องอดทนรอฝืนใจต่ออีกไม่นาน เรื่องราวทุกอย่างต้องจบลงด้วยดี พรายเฒ่าหวังให้เป็นเช่นนั้น


++++


กลางตลาดสดของสังคมเมืองเกาะเต็มไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตาเดินจับจ่ายใช้สอยข้าวของเครื่องใช้ตามต้องการ เมนูอาหารสำหรับวันนี้กันยวัฒน์สรรหาพร้อมเลือกซื้อจนได้ทุกสิ่งเต็มไม้เต็มมือ สองเท้าก้าวเดินยังลานจอดรถเมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น ระหว่างทางสายตาเหลือบเห็นแผงหนังสือที่ตั้งวางบนฟุตบาทติดริมถนนใหญ่ หนังสือตัวขื่อพาดเป็นหัวข่าวเรียกจุดสนใจ ‘พบปลาประหลาดคล้ายเงือกกลางทะเลเกาะดัง’ ข้อความที่ได้อ่านดึงดูดความรู้สึกเป็นอย่างมาก ทำให้กันยวัฒน์เร่งยื่นมือหยิบหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นดูรายละเอียดอย่างรวดเร็ว หากหัวข้อที่ว่าเป็นเพียงตัวหนังสือสื่อข่าวคงไม่ทุกข์ร้อนอะไร แต่ทว่าภาพถ่ายที่ปรากฏแก่สายตาทำให้เขาถึงกับตะลึงงัน ดึงมือกลับเพื่อล้วงหยิบเงินจากกระเป๋าจ่ายแลกกับหนังสือพิมพ์ฉบับนั้น แล้วตรงดิ่งยังรถยนต์คันหรูทันที เมื่อขึ้นรถได้จุดหมายปลายทางเท่านั้นคือสิ่งที่เขาควรสนใจที่สุดในเวลานี้


ยวดยานพาหนะขับเคลื่อนด้วยความเร็วสูงจนหยุดลงตรงหน้าเขตอาศัยบ้านพักตากอากาศ กันยวัฒน์รีบรุดเดินเข้ายังด้านในไม่รอช้า


“นีลา!”


เสียงเรียกหาร้อนรนดังลั่น พาเจ้าของชื่อตื่นตระหนกเดินรวดเร็วเพื่อเปิดประตูห้องส่วนตัวออกดูสถานการณ์ทันควัน พร้อมสัตว์โลกตัวจ้อยที่เดินตามคลอเคลียพันแข้งพันขามาติดๆ


“เจ้ามีเหตุอันใดถึงเรียกเราเสียงดังเอ็ดตะโรเพียงนี้”


“คุณช่วยผมดูนี่ที ว่าสิ่งที่ผมเห็นไม่ใช่คุณ”


หนังสือพิมพ์ถูกวางลงบนโต๊ะอาหารพร้อมกับสัมภาระที่กันยวัฒน์ถือติดไม้ติดมือเข้ามา นีลาน่าก้มมองยังจุดสนใจเพ่งพินิจอย่างถี่ถ้วน


“นั่นไม่ใช่เรา”


“คุณแน่ใจงั้นเหรอ ว่าไม่ใช่ หรือคุณจะให้ผมคิดว่าที่นี่มันมีเงือกพรายแบบคุณอยู่อีกว่างั้น”


“เจ้าก็เห็นว่าเราไม่เคยได้ลงเล่นท้องน้ำในเวลากลางวันเช่นนี้”


เสียงใสตัดบทสร้างเหตุผลกลบล้างทุกความคิดที่กำลังปั่นป่วนในสมองของบุรุษหนุ่ม มันก็จริงอย่างนางว่าไว้ เพราะเขาเองเป็นผู้ตั้งกฏไม่ให้นางลงเล่นน้ำในเวลาพระอาทิตย์ยังตระหง่านอยู่บนท้องฟ้า แล้วเหตุใดจึงมีเงือกพรายออกมาเวียนว่ายอวดร่างกายจนถูกถ่ายภาพติดกล้องให้เป็นข่าวพาดหัวเช่นนี้


“แล้วคุณพอจะรู้ไหมว่าในรูปนี้คืออะไร ใช่พวกเผ่าพันธุ์เงือกพรายแบบคุณหรือเปล่า”


“...” นีลาน่าส่ายหน้าแทนคำตอบแต่ในใจกลับครุ่นคิดอย่างหนัก ความเคลือบแคลงสงสัยก่อร่างในใจ เงือกพรายตนใดที่มาปรากฏให้เห็นเช่นนี้ นางพยายามเพ่งมองยังรูปภาพอย่างละเอียดอีกครั้ง


“ผมว่า เราคงต้องรีบกลับกรุงเทพแล้วล่ะ กันไว้ก่อนดีกว่าเพราะยังไงภาพข่าวที่ออกมาแบบนี้มันคงอยู่ไม่ห่างไกลจากพวกเราเท่าไหร่ คุณรีบไปเก็บข้าวของ เดี๋ยวอีกซักพักเราคงต้องออกเดินทาง”


กันยวัฒน์ออกคำสั่ง ทำเอาพรายสาวถึงกับตั้งตัวไม่ทัน เดินกลับเข้าห้องแบบงุนงงเล็กน้อย แต่นางก็ยอมทำตามแต่โดยดีเพื่อความสบายใจทั้งสองฝ่าย


++++


“เห้ย.. ไอ้เกล้า ไอ้แฟรงค์ดูข่าวนี่ดิ ตลกสุดยอด ปลาประหลาด ประเทศเรามีนางเงือกด้วยเหรอวะ เขียนข่าวออกมาได้ นักข่าวสมัยนี้หาข่าวที่มันสร้างสรรค์กว่านี้ไม่ได้แล้วหรือไง นี่ถ้าไปเอาข่าวมนุษย์ต่างดาวบุกโลกมาลงยังน่าเชื่อซะกว่า”


ประโยคขำขันสร้างความสนใจไม่น้อยทำเอาเพื่อนทั้งสองหันตาม สายตากรอกมองยังหนังสือพิมพ์ที่ถูกวางลงบนโต๊ะ แต่มันกลับทำให้บุรุษหนุ่มบางคนถึงกับหน้าถอดสีเมื่อเห็นภาพที่ตกเป็นข่าววางอยู่เบื้องหน้า


“เอ็งเชื่อจริงๆ เหรอไอ้วิณ ว่าเป็นนางเงือก”


“ไร้สาระสิ้นดี หรือเอ็งเชื่อวะไอ้เกล้า”


“ข้าไม่เชื่อ ข่าวบ้าบอมีแต่แหกตาทั้งนั้น ว่าแต่เอ็งเป็นอะไรไอ้แฟรงค์ทำไมต้องทำหน้าซีด”


“ปละ เปล่า ไม่มีอะไร”


“อย่าบอกนะว่าเอ็งเชื่อเรื่องนางเงือก”


“เฮ้! บ้า.. ไม่เชื่อ.. มีที่ไหน.. นางเงือกอะไร ไม่มี้ เกิดมาไม่เคยพบไม่เคยเห็น ให้ตายเถอะ”


น้ำเสียงตะกุกตะกักอ่อนระทวยลง นี่เขาต้องทนโกหกเพื่อนเกลอผิดศีลข้อมุสาวาทาไปอีกนานแค่ไหน ทั้งที่เงือกพรายเดินเข้ามาอยู่ข้างกายแท้ๆ กลับต้องปล่อยความเท็จบอกไม่เคยเจอะเจอ ความอึดอัดกังวลเกิดจนปั่นป่วนในใจ แฟรงค์เกนสไตล์ไม่รอช้ามือเอื้อมคว้าเครื่องมือสื่อสารกดต่อสายยังเพื่อนสนิทอีกคนทันที เหตุใดช่วงนี้ไอ้กันย์มักทำตัวมีปัญหาพาอกสั่นขวัญแขวนได้ตลอดเวลา สองเท้าพาร่างกายก้าวเดินยังที่ลับตาผู้คนเพื่อเจรจาหาความ


“ไอ้กันย์.. เอ็งอยู่ไหน”


เสียงกระซิบกระซาบกรอกลงโทรศัพท์พกพา ตั้งคำถามเมื่อปลายทางมีผู้รับสายตอบกลับมา


“เอ็งรู้ด้วยหรือไงว่าข้าโทรมาเพราะเรื่องข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์.. แล้วสรุปภาพนั้นใช่นีลาน่าหรือเปล่า”


บทสนทนายังมีต่อเนื่องเรื่อยๆ เกี่ยวกับข่าวปลาประหลาดที่ดูอย่างไรก็คล้ายเผ่าพันธุ์เงือกพรายอย่างนีลาน่าไม่ผิดเพี้ยน


“ว่าแต่เอ็งเป็นอะไร ทำไมต้องจามเยอะแยะมากมาย.. เฮ้ย! แล้วแมวมาได้ไง ไหนเอ็งเกลียดกลัวมันนักหนาไม่ใช่หรือไง..”


แฟรงเกนสไตล์ส่งเสียงหัวเราะเยาะเย้ยใส่โทรศัพท์เมื่อรู้ว่าเพื่อนเกลอถูกหญิงสาวต่างเผ่าพันธุ์ดัดหลัง สิ่งที่เขาเคยสงสัยคงไม่ไกลเกินคาดเดา เนื่องจากกันยวัฒน์ไม่เคยยอมอะไร หรืออ่อนข้อให้ใครหน้าไหนง่ายๆ แต่นี่อะไร กลับยอมให้นีลาน่านำแมวน้อยเข้าใกล้จนตนเองทนเก็บอาการ ทั้งแพ้ ทั้งจาม อุตลุด


“สรุปเอ็งใกล้ถึงกรุงเทพแล้วใช่ไหม เดี๋ยวข้าไปหา พอดีมีเรื่องจะคุยด้วย เดี๋ยวเจอกัน..”


เรื่องราวทั้งหลายที่เป็นปัญหาคาใจคงไม่เก็บกักไว้ให้นานกว่านี้ มีหวังเขาคงอกแตกตายกันพอดี หากไม่หาทางระบายเค้นเอาความจริง


++++


“เจ้าชอบที่นี่หรือไม่ เจ้าขนปุย”


การเดินทางข้ามจังหวัดสิ้นสุดลง เมื่อกันยวัฒน์ขับรถยนต์คันหรูจอดสนิทยังหน้าที่พักอาศัย เจ้าของบ้านได้แต่มองดูพรายสาวเอ่ยคำเจรจาพูดคุยกับสัตว์โลกตัวน้อยโดยไม่ใส่ใจบุรุษร่างสูงที่ทิ้งระยะห่างเดินตามหลัง


“นีลา.. ดูคุณจะมีความสุขเวลาได้คุยกับเจ้านั่นมากนะ”


กันยวัฒน์สะบัดเสียงออกอาการคุกรุ่นเล็กๆ จริงๆ แล้วเขาไม่จำเป็นต้องใส่ใจเลยด้วยซ้ำว่าพรายสาวจะทำอย่างไรกับเจ้าสัตว์หน้าขนในเมื่อเขาเองไม่เคยคิดจะดูดำดูดีอยู่แล้ว แต่ไม่มีเหตุผลว่าเพราะเหตุใดในเมื่อทุกการกระทำปรากฏอยู่ในสายตามันจึงกลับกลายเป็นความหงุดหงิดขึ้นมาเสียเฉยๆ จากที่เคยนิ่งเงียบกลับมีปากมีเสียงขึ้นมา


“มันบอกเราว่า มันคิดถึงบ้าน ซึ่งเราก็คิดเช่นเดียวกับมัน”


เอาอีกแล้วกับประโยคสะเทือนใจ เหตุใดจึงพาใจอ่อนไหวง่ายดายเพียงนี้กับคำว่าบ้านคำเดียว พาสติเตลิดเป็นบ้าเป็นบอจนได้สิน่า


“คุณอยากกลับบ้านกลับเมืองคุณมากเลยว่างั้น”


“ใช่.. เรารอคอยวันนั้น”


คำพูดมั่นอกมั่นใจ พาความรู้สึกสลดวูบ กันยวัฒน์หลบสายตาลงต่ำ เม้มปากแน่นเก็บกดอารมณ์หวิวไหว น้อยใจ หดหู่ สารพัด


“ไว้ผมจะคิดอีกทีแล้วกัน.. กับการพาคุณนั่งเครื่องบินกลับไปส่งยังขั้วโลกที่ๆ คุณจากมา”


“จริงงั้นหรือ เจ้าจะพาเรากลับเมืองบาดาล”


“อืม..”


“ได้ยินไหมเจ้าขนปุย เราจะได้กลับบ้านกลับเมืองเราแล้ว.. เจ้าก็อยากกลับอย่างนั้นหรือ”


รอยยิ้มแสนหวานส่งให้เจ้าแมวน้อย พากันยวัฒน์รวดร้าวในอก ใยจึงเจ็บปวดเพียงนี้ ร่างสูงย่างก้าวเตรียมเดินหนีให้พ้นพรายสาวที่เวลานี้ทอดมองความงดงามเมื่อใดกลับทรมานจิตใจปางตาย


“ไอ้กันย์.. นีลาน่า..”


ผู้มาเยือนเอ่ยทักทายพลางเดินหยุดยืนเบื้องหน้าทำเอาผู้ถูกเรียกชื่อทั้งสองหันมองตามกัน แฟรงค์เกนสไตล์ยกมือโบกส่ายพร้อมส่งยิ้มกว้าง


“เออ.. ว่าไง เอ็งมีไรกับข้า”


“โห! มาถึงก็ทำเป็นเสียงเข้มเสียงแข็งใส่ข้า ใครไปทำอะไรให้เอ็งโมโหหรือไง”


แฟรงค์เกนสไตล์ส่งสายตาทะเล้นกวาดมองทางพรายสาวจึงทำให้เขาพอเดาคำตอบได้ว่าเพื่อนสนิทคงมีเรื่องเคืองใจกับศัตรูคู่อริตัวน้อยกระจ้อยร่อยที่นีลาน่าจับอุ้มอย่างเอ็นดู


“...”


“ข้ารู้แล้วไอ้กันย์.. เอ็งไม่พอใจเจ้านั่นใช่ไหม”


กันยวัฒน์ส่งสายตามองตามยังจุดสนใจของเพื่อนเกลอ รู้สึกหมั่นไส้สัตว์โลกตัวเล็กขนปุยที่ออเซาะคลอเคลียไม่คิดจะเคลื่อนย้ายไปไหน อ้อมอกเงือกพรายคงจะอบอุ่นมากเสียจนไม่อยากจะออกห่างแม้สักนาที


“พูดมากน่า! ตกลงเอ็งมีอะไรไอ้แฟรงค์”


“ก็เรื่องภาพในข่าว ถ้าเอ็งว่าไม่ใช่นีลาน่า แล้วที่โดนแอบถ่ายนั้นเงือกที่ไหนวะ”


“เอ็งถามข้า แล้วข้าต้องไปถามใครล่ะไอ้แฟรงค์”


แฟรงค์เกนสไตล์ทอดสายตายังนีลาน่าเพื่อต้องการให้นางตอบคำถามหากรู้คำตอบ


“คุณพอจะรู้หรือเปล่านีลาน่าว่าในภาพใช่เงือกแบบคุณหรือเปล่า”


“นีลาไม่รู้หรอก เราคุยกันแล้ว เอ็งจะเลิกสนใจได้หรือยังก็แค่ภาพปลาที่พิสูจน์ไม่ได้ว่าเป็นเงือกพรายหรือเปล่า ข้าว่าหยุดซะทีดีกว่าไหม”


“เออ.. เรื่องนี้หยุดก็ได้ แต่ข้ามีเรื่องอื่นอีกที่สำคัญมากด้วย”


“เรื่องอะไรที่ว่าสำคัญ”


“...” แฟรงค์เกนสไตล์เบี่ยงสายตามองทางพรายสาวที่ส่งดวงตากลมกลิ้งมองยังสองบุรุษด้วยอาการงุนงง พากันยวัฒน์พอเข้าใจความหมายของเพื่อนสนิท


“นีลาคุณพาเจ้านั้นขึ้นไปบนห้องก่อนไหม ผมเริ่มหายใจไม่ออกเพราะขนมันอีกแล้ว”


นีลาน่าพยักหน้ารับพร้อมก้าวเดินขึ้นด้านบนรวดเร็ว อย่างไม่รู้อิโหน่อิเหน่


“นี่ทำไมเอ็งยอมให้นีลาน่าเลี้ยงแมว ทั้งๆ ที่..”


“เรื่องนี้งั้นเหรอที่ว่าสำคัญ”


“เปล่า.. ข้าอยากถามให้หายข้องใจ ถามจริงเหอะไอ้กันย์เอ็งชอบนีลาน่าหรือเปล่า บอกข้ามาตรงๆ”


คำถามพุ่งตรงประเด็นพากันยวัฒน์นิ่งอึ้งทวนคำถามซ้ำๆ ในใจ หรือทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับนางพรายซึ่งมีผลกระทบต่อจิตใจของเขาเป็นเพราะเหตุผลนี้


“...”


“ทำไมต้องเงียบ เอ็งแค่ตอบมาว่าใช่หรือไม่แค่นั้นเองไอ้กันย์”


“อืม..”


“อืมอะไร ชอบหรือไม่ชอบ”


“ข้าไม่รู้.. ความรู้สึกที่เกิดตอนนี้มันคืออะไร ข้ารู้แค่ว่าอยากเจอเธอ อยากอยู่ใกล้”


“...”


“เป็นห่วง.. คิดถึง.. ความรู้สึกแบบนี้มันเรียกว่าชอบ.. หรือ.. รัก..”


“...”


“มันเกิดขึ้นมาตอนไหนข้าเองก็ไม่รู้ แต่ ณ ตอนนี้ในสมองมีเธอคนนั้นมายืนอยู่ตลอดเวลา”


“นั่นไง! ข้าคิดไม่ผิด เอ็งชอบเธอ ไม่สิ เอ็งคงรักนีลาน่าเข้าให้แล้ว”


“อย่างตอนที่คบกับพรีม ความรู้สึกมันแตกต่าง ระหว่างที่คบกับเขา ข้ารู้สึกแค่อยากตามใจ พรีมอยากได้อะไรก็ต้องหามาให้เท่านั้น ข้ามีความรู้สึกว่าต้องรับผิดชอบกับทุกสิ่งทุกอย่างที่ข้าทำกับเขาเอาไว้ มันถึงเสียความรู้สึกมากไงที่เขาเลือกทิ้งข้าไปหาคนอื่นง่ายดาย ไม่คิดถึงความสัมพันธ์หรือความผูกพันที่มีต่อกันมาหลายปี”  


“เออ! พูดถึงพรีม เอ็งรู้ไหมว่าตอนนี้เธอกำลังจะถูกถอนหมั้น”


กันยวัฒน์วาดสายตาคมกริบมองเพื่อนสนิทด้วยสีหน้าประหลาดใจ เหตุใดจึงมีข่าวคราวเช่นนั้นออกมา


“เพราะอะไร..”


“ข้าถึงมาถามเอ็งนี่ไง ว่าเมื่อวันก่อนมันเกิดอะไรขึ้น ทำไมเอ็งไม่ได้ไปหาพรีม กลับกลายเป็นคู่หมั้นของเธอไปแทน”


“ก็ตามที่ข้าบอกไงไอ้แฟรงค์ ตั้งแต่พรีมเลือกที่จะเลิกกันไป มันก็ไม่ใช่หน้าที่ของข้าอีกแล้ว หน้าที่ทุกอย่างมันสมควรเป็นของคู่หมั้นเขา เอ็งว่าไม่ถูกเหรอ”


“มันก็ถูก.. แต่ทำไมคู่หมั้นเธอถึงอยากถอนหมั้นกับพรีมล่ะ”


“เรื่องนั้นมันคงเป็นเหตุผลของเขาสองคน คงไม่น่าเกี่ยวกับพวกเรา ข้าว่าเอ็งเลิกสนใจดีกว่านะ”


“อ๊ายยยยย!! กันย์ที่รักของสมชายกลับมาแล้ว”


เสียงระริกขัดจังหวะการสนทนาของสองบุรุษคู่ซี้ สมชายวิ่งถลากอดแขนกันยวัฒน์ด้วยแรงคิดถึงพามนุษย์ผู้ถูกโอบกอดถึงกับเอี่ยวกายหนี แต่ไม่อาจหลุดรอดมือปลาหมึกอย่างบุรุษใจหญิงไปได้


“ไอ้สมชาย! เอ็งอยากโดนไอ้กันย์เตะโดดออกนอกบ้านหรือไง กอดซะแนบแน่นเชียวนะเอ็ง”


“ก็ชายคิดถึงกันย์นิไม่เจอตั้งหลายวัน ว่าแต่.. ยัยขี้เหร่อยู่ไหน นี่กันย์ถอยโทรศัพท์ให้ยัยขี้เหร่ได้แล้วนะ ชายจะได้ติดต่อกับยัยขี้เหร่ได้สะดวกไม่ต้องโทรศัพท์เข้าเครื่องกันย์ไงล่ะ ดีไหม”


ข้อเสนอแนะของสมชายวิ่งผ่านความคิดของกันย์วัฒน์ คงจะดีไม่ใช่น้อยหากเขาเองจะสามารถติดต่อนางได้สะดวกมากขึ้นเช่นกัน ไม่ต้องทนรอจนกว่าจะได้กลับมาเจอกันเฉพาะเวลาถึงบ้าน คราวนี้ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดยังโทรหาถามไถ่ความเป็นอยู่หรือได้ยินเสียงนางได้ทันที คงไม่ต้องคอยเป็นห่วงอย่างเช่นที่ผ่านมา


“อืม เดี๋ยวจัดการให้”


++++


บรรยากาศช่วงเช้าของวันใหม่ ความอบอุ่นของแสงแดดอ่อนยังไม่ช่วยกลบความเย็นเยือกของกลุ่มหมอกจางๆ ที่ยังลอยคว้างอยู่ในอากาศ แม้รอบกายจะรู้สึกเย็นฉ่ำสักเพียงใดหากทว่าในใจมนุษย์บางคนกลับร้อนรุ่มดังไฟสุ่มทรวง มือบีบกำหนังสือแวดวงบันเทิงแน่นจนเส้นเลือดปูดขึ้นด้านหลังมือเป็นแนวเส้นราวโกรธจัดกับสิ่งที่ได้อ่านผ่านสายตา


“คุณแม่.. วันนี้ตื่นเช้าจังนะคะ พรีมว่าพรีมตื่นเช้าแล้วนะ คุณแม่ตื่นลงมานั่งข้างล่างก่อนพรีมอีก”


“ยัยพรีม.. นี่มันหมายความว่ายังไง!”


หนังสือในมือถูกโยนลงโต๊ะกระจกรับแขกอย่างแรง โชว์หน้ากระดาษที่ตกเป็นหัวข้อข่าวซุบซิบยังวงสังคมไฮโซ


“อะไรคะคุณแม่.. มีอะไรทำให้คุณแม่ต้องโมโหขนาดนั้นด้วย”


“แกดูเอาเอง! ว่าทำไมฉันถึงต้องโมโหขนาดนี้!”


“...” พรีมาดายื่นมือจับหนังสือขึ้นอ่านตามผู้เป็นมารดาบอกกล่าวทำเอาใจหายวาบ เหตุใดข่าววงในถึงรั่วไหลรวดเร็วเพียงนี้ ทั้งที่เรื่องถูกถอนหมั้นเป็นเพียงการกล่าวลอยขึ้นมา ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการแม้แต่น้อย หรือเธอเองจะถูกเพื่อนสนิทที่เคยปรึกษาพูดคุยหักหลัง นำข่าวไปลงหนังสือแวดวงคนดังสร้างความอับอายให้แก่เธอและวงศ์ตระกูลเช่นนี้


“นี่แกกำลังทำอะไร! ทำไมคุณรุธเขาถึงต้องการถอนหมั้นกับแก แกรู้หรือเปล่าถ้าแกทำให้เขาหลุดมือไป ครอบครัวเราจะเป็นยังไงบ้าง จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน แล้วไหนจะธุรกิจพ่อแกอีกล่ะ ใกล้จะล้มละลายเต็มที ถ้าแกไม่จับเขาไว้ให้อยู่ ครอบครัวเราจะอยู่กันยังไง แกคิดบ้างหรือเปล่ายัยพรีม!”


“คุณแม่.. อย่าเพิ่งตีโพยตีพายไปเลยค่ะ พี่รุธยังไม่ได้บอกซักหน่อยค่ะว่าเขาจะถอนหมั้นพรีม แค่มีเรื่องเข้าใจผิดกันนิดหน่อยเท่านั้นเอง”


“ไม่มีอะไรแล้วมีข่าวแบบนี้ออกมาได้ยังไง แกอธิบายฉันมาสิ!”



“ต้องมีใครแกล้งพรีม สร้างกระแสปล่อยข่าวลือมากกว่า คุณแม่ไม่ต้องกลัวค่ะ พรีมจะจัดการเรื่องนี้เอง”


“ถ้าแกทำให้ฉันผิดหวัง ฉันจะตัดแม่ตัดลูกกับแก จำไว้!”


ผู้เป็นมารดากระแทกร่างกายยืนพร้อมสะบัดใบหน้าเชิด เดินหนีบุตรสาวด้วยอารมณ์โกรธเคืองถึงที่สุด เรื่องเลวร้ายสำหรับเธอเมื่อไหร่จะหมดสิ้นเสียที ความเคียดแค้นทวีคูณหนักหนา พรีมาดาคาดโทษหญิงสาวที่ทำให้เธอมีชีวิตตกต่ำถึงเพียงนี้ คงปล่อยไว้ไม่ได้อีกแล้ว  


++++


“อ้าวเห้ย! ไอ้กันย์ไหนโทรมาบอกว่า วันนี้ไม่มาเล่นดนตรีไง แวะมาทำไมวะ”


ช่วงพลบค่ำพระอาทิตย์เพิ่งลาลับขอบฟ้าได้ไม่นาน กันย์วัฒน์เดินเข้าห้องพักนักดนตรีแวะพบปะเพื่อนสนิทร่วมวงที่นั่งรวมกลุ่มคุยกันสนุกสนานตามภาษาบุรุษเพศ


“พอดีเป็นทางผ่าน เลยแวะเข้ามาเฉยๆ ไปซื้อไอ้นี่มา”


ถุงกระดาษในมือบ่งบอกโลโก้ของยี่ห้อเครื่องมือสื่อสารถูกยื่นส่งให้เพื่อนดูก่อนวางลงบนโต๊ะ ทำให้เกิดเสียงหัวเราะร่วนเกรียวกราวตามวงสนทนา


“เห้!! ซื้อโทรศัพท์ ให้ใครวะ แหม๋ๆ ลงทุนนะเว้ย จะจีบสาวทั้งที ว่าแต่เด็กเอ็งเป็นใบ้ไม่ใช่หรือไงวะ เอาโทรศัพท์ไปจะทำอะไรได้ หรือใช้กดส่งข้อความเอาเหรอ”


เสียงแซวพร้อมกลั้วหัวเราะ ยังคงดังต่อเนื่อง พาเอากันยวัฒน์อยากมุดดินหนีไปเสียให้พ้น


“ไอ้วิณ ไปแซวมันทำไม ดูมันเขินหน้าแดงแล้วโว้ย”


“ไร้สาระน่า”


บุรุษผู้ถูกแซวพยายามหาข้อแก้ต่างให้ตนเอง ความอุ่นร้อนวูบขึ้นบนใบหน้าคมคาย กันยวัฒน์คว้าถุงกระดาษลุกหนีเสียงแซวที่เป่าปากหยอกล้อสนุกสนาน


“เห้ย! หนีไปไหนวะ กลับไปหาเด็กแล้วเหรอ กลับไปบอกรักได้แล้ว เดี๋ยวโดนไอ้แฟรงค์ตัดหน้านะโว้ย”


เสียงโหวกเหวกตะโกนไล่หลัง พากันยวัฒน์ระบายยิ้มจางๆ บนใบหน้า ระหว่างเดินกลับไปขึ้นรถยนต์คันหรูเพื่อเดินทางกลับไปหาหัวใจที่เขารอคอยพบเจอใจจดจ่อ


++++


กลางดึกของค่ำคืนที่ยาวนาน นีลาน่าจัดเก็บทำความสะอาดบ้านตามปกติของผู้อาศัย อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดายแต่ให้นางพรายปั้นวัวปั้นควายคงทำไม่ไหว เพราะสิ่งที่นางทำได้คงมีแค่การทำความสะอาดง่ายๆ ที่ทำไปอย่างทุลักทุเล อาศัยความเคยชินที่เจ้าของบ้านเคยลงมือสอนสั่งเอาไว้ วันนี้ความรู้สึกลึกๆ ข้างในดูพิลึก ภายในร่างกายเกิดอาการแปลกๆ ร้อนรุ่ม กระวนกระวาย จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว


เสียงไขลูกบิดพร้อมประตูถูกเปิดกระชากออกอย่างรวดเร็วและรุนแรง เจ้าโลกันต์กลับถึงบ้านแล้วอย่างนั้นหรือ ทำไมวันนี้ถึงผิดเวลาเล่า นีลาน่าได้แต่สุ่มเดาอยู่ในใจ สองเท้าค่อยๆ เคลื่อนที่พาร่างกายอ้อนแอ้นเดินยังประตูหน้าห้องนอนที่นางกำลังจัดทำภารกิจจนใกล้เรียบร้อยเต็มที


“อ่อ.. อยู่นี่เองเหรอแม่ตัวดี”


กลิ่นแอลกอฮอล์คละคลุ้ง พาอารมณ์ปั่นป่วน งุนงง น้ำเสียงจัดจ้านจนปวดแก้วหู พาความรู้สึกจี๊ดแล่นขึ้นสมอง กลับยิ่งเพิ่มทวีคูณความร้อนในกายรุนแรงดังไฟรนจนใกล้สุกเต็มที จิตใจดวงน้อยของนีลาน่าสั่นไหวไม่เป็นจังหวะ เหงื่อผุดบนใบหน้าซีดขาวไร้เลือดฝาด นางพรายไม่เข้าใจตนเองทำไมถึงมีอาการผิดปกติเกิดขึ้นกับร่างกายเช่นนี้


“อย่า.. เข้า.. ใกล้ข้า..”


เสียงพูดขาดห้วง ติดขัด จนฟังไม่ค่อยเป็นภาษาเท่าใดนัก มารยาเสแสร้งคือสิ่งที่พรีมาดายัดเยียดให้นีลาน่าอย่างจงใจหาเรื่องกระทบกระเทียบเต็มที่ สายตาจิกกัด ตวัดค้อน จ้องมองราวแค้นเคืองสาหัส


“หน็อย!! นี่แกไม่ได้เป็นใบ้หรอกเหรอ เรียกร้องความสงสารเห็นใจ คงจะยั่วกันย์อย่างนี้สินะ เขาถึงไม่ยอมกลับมาคืนดีกับฉัน นังแพศยา! เพราะแกอิเด็กบ้าทำให้ชีวิตฉันพังพินาศหมดแล้ว!! กันย์ไม่สนใจฉัน ส่วนพี่รุธก็จะถอนหมั้นฉันอีก แกรู้ไหมเพราะแกคนเดียว!!”


พรีมาดาตวาดเสียงใส่นีลาน่าที่พยายามควบคุมตนเองอย่างหนัก เนื่องจากเวลานี้ร่างกายเกิดความผิดปกติอย่างแรงโดยไม่ทราบสาเหตุ เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหนาว ความรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองคล้ายมึนเบลอ ขาดสติบางช่วง


“ออก.. ไป..”


“อย่ามาทำสำออยเหมือนคนใกล้จะตายหน่อยเลยแม่ตัวดี ขอตบสั่งสอนสักทีสองทีให้หายแค้นหน่อยแล้วกัน!!”


แรงกระชากทำให้นีลาน่าปลิวตาม ฝ่ามือเคียดแค้นยกฟาดลงบนใบหน้านวลเนียนจนรอยฝ่ามือขึ้นแดงเต็มทั้งห้านิ้ว ความเจ็บปวดไม่ได้ครึ่งของความรู้สึกโทสะ มีสิทธิ์อะไรถึงกล้าตบตีบุตรสุดท้องของจ้าวสมุทรยังโลกบาดาล เวลานี้คล้ายในร่างกายนางพรายมีสิ่งขัดแย้งระหว่างความชั่วร้ายและความดีต่อต้านกันเอง


“อย่า.. ยุ่งกับข้า!”


“ไม่กล้าสู้ฉันงั้นเหรอ เก่งจริงก็สู้สิ!”


อีกครั้งที่ฝ่ามือวาดง้างเต็มแรง ทว่ากลับหยุดกึกเมื่อนีลาน่าไม่ยอมปล่อยให้ตนเองเป็นฝ่ายถูกกระทำอีกต่อไป ความชั่วร้ายครอบงำจิตใจ นัยน์ตาสีฟ้ามรกตแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงเพลิงลุกโชนแผดเผาจนคนมองถึงกับตกตะลึงสุดขีด นีลาน่าพยายามฝืนบังคับจิตใจให้สงบแต่สิ่งเลวร้ายกลับมีอำนาจมากกว่าจนไม่สามารถควบคุมไหว นางฝืนต้านทานอย่างถึงที่สุดกับเวลานี้ ความอดทนใกล้ขาดผึ่ง


“ออกไป!!”


“นี่แก.. เป็นตัวบ้าอะไร กรี๊ดดดดดดด”


สติสุดท้ายเลือนหาย ความดีหลุดลอย สิ่งชั่วร้ายควบคุมความรู้สึกเต็มเปี่ยม จากเรี่ยวแรงเมื่อครู่ที่คล้ายไร้ทางสู้ เวลานี้กลับมีเพิ่มเติมมากมายมหาศาล กำบีบข้อแขนพรีมาดาที่คว้าไว้จนเธอส่งเสียงร้องโอดครวญด้วยความทุรนทุราย เขี้ยวยาวค่อยๆ งอกออกมา เส้นเลือดสีเขียวเข้มวิ่งขึ้นเป็นสายบนใบหน้านวลเนียนจนน่าตกใจยิ่ง


“ปล่อยฉันสิ อีบ้า แกมันบ้าไปแล้ว ปล่อยฉัน!!”


แรงบีบรุนแรงขึ้น กรงเล็บค่อยๆ โผล่ยาวขึ้น กดจิกลงบนผิวหนังขาวๆ ของพรีมาดาจนเริ่มแดงก่ำ


“นีลา!!”


กันยวัฒน์วิ่งปรี่ถึงสองสาวอย่างรวดเร็ว ข้าวของในมือเวลานี้ถูกเหวี่ยงกระจัดกระจาย เขามาได้ทันเวลา หรือไม่สมควรกลับมาเวลานี่กันแน่ มือแข็งแรงกระชากร่างบางทั้งสองออกจากกัน พรีมาดาสะบัดแขนทิ้งวิ่งหลบแผ่นหลังกว้างเพื่อหาเกาะกำบัง ใจหายใจคว่ำ นีลาน่าตวัดสายตาเหี้ยมเกรียมมองยังบุรุษร่างสูงที่เข้าขวางทาง ทว่าเวลานี้นางพรายกลับจำใครหน้าไหนไม่ได้ทั้งนั้น เหมือนมีปีศาจร้ายแฝงกาย


“อีนังนี่มันบ้าไปแล้ว กันย์อย่าไปยุ่งกับมันนะ!!”


กันยวัฒน์พยายามจ้องยังนัยน์ตาสีไฟเพลิงเพื่อให้นีลาน่าสงบจิตสงบใจ ภาพฝันเมื่อครั้งที่เคยเจอระหว่างอยู่อาศัยที่เกาะผุดขึ้นในใจหรือคืนนั้นทุกสิ่งเป็นลางบอกเหตุเตือนให้ล่วงรู้ถึงสิ่งเลวร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้น มือไม้ทั้งสองพยายามดึงรั้งกันสุดแรงต้านทาน


“นีลามองผม! คุณต้องตั้งสติ เข้าใจไหม!!”


“กันย์! พรีมบอกอย่าไปยุ่งกับมัน อีนังนี่มันบ้าไปแล้ว!!”


“ออกไป..”


“ว่าอะไรนะกันย์.. พรีมได้ยินไม่ถนัด!”


“ผมบอกให้คุณออกไป!!”


น้ำเสียงดุดันเกรี้ยวกราดตะคอกใส่คนยืนเบื้องหลัง จนเธอช็อคขั้นโคม่า มองตะลึงลืมสิ่งชั่วร้ายที่กำลังเผชิญไปชั่วขณะ


“นี่กันย์กล้าไล่พรีมงั้นเหรอ!!”


“ออกไปให้พ้น!!”


ร่างบางวิ่งหนีออกจากห้องอย่างรวดเร็ว ระหว่างยื้ดยุดฉุดกระชาก นีลาน่าอาศัยเรี่ยวแรงมหาศาลกระชากแขนแข็งแรงกักขังหน่วงเหนี่ยวก่อนฝังเขี้ยวแทงผ่านทะลุผิวหนังจมมิด เลือดสีแดงฉานค่อยๆ ไหลหยดลงพื้น สายตาเจ็บปวดมองร่างบางก้มดูดดื่มเลือดจากร่างกาย ทนข่มความรู้สึกเอาไว้


“ผมจะยกเลือดในร่างกายให้คุณกินมันจนหมดเลยก็ได้ ถ้ามันช่วยให้คุณกลับมาเป็นนีลาคนเดิม”


รสชาติของเลือดคงเอร็ดอร่อยถูกใจเงือกพราย กันยวัฒน์ปล่อยให้อมนุษย์ที่จำไม่ได้แม้แต่ความทรงจำดีๆ ดูดดื่มของเหลวในร่างกายจนเหือดหาย ค่อยๆ หมดจากร่างกายทีละน้อย


“คุณต้องกลับมาเป็นคนเดิม.. เพื่อที่ผมจะได้บอกว่าผมรักคุณ..”


เวลานี้เขาเชื่อมั่นต่อจิตใจตนเองแล้วว่า ที่จิตใจปั่นป่วน เต้นแรงเวลาอยู่ใกล้ชิดกับนาง ความรู้สึกทั้งหลายเหล่านั้นเป็นเพราะคำว่ารัก ภาพรอบกายที่ผ่านเข้าในสายตาเริ่มเลือนราง พร่าเบลอ สติรับรู้ดับวูบ..    


++++

โปรดติดตามตอนต่อไป..

แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 55 18:56:14

แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 55 13:33:55

แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 55 13:26:42

แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 55 13:21:38

แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 55 13:21:20

แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 55 13:15:36

แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 55 12:58:33

แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 55 12:50:28

แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 55 11:44:56

แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 55 11:39:47

แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 55 11:35:26

แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 55 11:27:51

แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 55 11:22:15

แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 55 11:15:28

แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 55 11:11:41

จากคุณ : มาโซคิส
เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 10:51:41




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com