Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
จอมใจอเวจี (Psycho Hell).....บทที่ 31 (เหตุร้าย) vote ติดต่อทีมงาน

เรื่องย่อที่ผ่านมา

เฟรี่ นางฟ้าตกสวรรค์
ได้รับการช่วยเหลือจากนักรบปีศาจ ไนท์
พามายังยอดเขาสื่อสาร
เพื่อหาทางติดต่อการกลับเบื้องบน
ทุกอย่างเหมือนจะเรียบร้อย กระทั่งคืนนั้นผ่านพ้นไป
แต่.....



=================
PSYCHO HELL...จอมใจอเวจี
บทที่ 31........เหตุร้าย
=================



ยังไม่ทันสว่างดี ไนท์ก็พานางฟ้าตกสวรรค์ออกมาจากตึกสื่อสารเหมือนคนรีบร้อน ถึงใบหน้าจะปกปิดด้วยหน้ากากโลหะอันเย็นชากระด้าง หากรู้สึกได้ว่าเขามีท่าทางผ่อนคลายสบายใจมากกว่าอยู่ในชุดนอนอันแสนฝืนบุคลิกภาพส่วนตัวมากมายนัก  แน่นอนว่านักล่ามือสังหารปีศาจอยู่ในชุดสีดำสนิทเหมาะสมกว่าชุดนอนลายดอกไม้มากมายหลายเท่า

อรุณรุ่งของยอดเขาสื่อสารบรรยากาศแปลกตาพิสดาร ทางเดินเริ่มปรากฏผู้คนเดินไปมาประปราย ชีวิตของสถานที่แห่งนี้กำลังเริ่มตื่นจากการหลับใหล เสียดายไม่มีเวลาชื่นชมความงดงามมากนัก

รถม้าสีดำดูเหมือนจะรอคอยอยู่แล้วสำหรับการเดินทางกลับ ทั้งผู้โดยสารและคนขับรถม้าต่างเหมือนรู้หน้าที่กันดี ไม่ต้องพูดอะไรกันมาก เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยก็พากันมุ่งหน้าออกมาจากยอดเขาสื่อสารทันที

ผู้โดยสารทั้งสองนั่งเคียงคู่กัน และพากันนั่งเงียบมาตลอดทาง  ไนท์นั่งตัวตรง มือไม่เคยห่างจากดาบคู่ใจท่าทางเหมือนไม่สนใจรับรู้สิ่งใด ในขณะหญิงสาวแดนสรวงหันหน้ามองออกไปทางหน้าต่างอย่างเงียบงัน มองเห็นยอดเขาสูงหลายยอดสูงต่ำสลับยอดไล่เรียงรายลงไปในทะเลหมอกเหมือนอยู่ในโลกแห่งความฝันอันแสนพิสดารอย่างไม่เคยคิดไม่เคยนึกมาก่อน


อีกไม่นานแล้วสินะ...จะได้กลับเบื้องบนเสียที ทุกอย่างดูราบลื่นเรียบร้อย แต่ทำไม..ในใจกลับรู้สึกเฉยชาไม่ค่อยกระตือรือร้นต่อความคืบหน้าในการจะได้กลับบ้าน เป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก รู้แต่ว่าอาการใจหายแบบแปลกๆ วูบวาบไปมาอยู่ในอารมณ์เป็นระยะ

หลังจากนั่งเงียบมาพักหนึ่ง เฟรี่ก็เป็นฝ่ายอดรนทนไม่ได้ ชำเลืองมองด้วยหางตาก่อนเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเหมือนไม่จงใจว่า

“เจ้าคงดีใจสินะ”

ปีศาจหนุ่มทำท่าทางเหมือนหันมามองเล็กน้อย แต่ไม่เอ่ยปากโต้ตอบอะไรออกมา ราวไม่ได้ให้ความสำคัญกับคำพูดของคนนั่งข้าง ทำให้หญิงสาวรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทันที ใช้ศอกกระแทกต้นแขนอีกฝ่ายแล้วพูดด้วยเสียงค่อนข้างดังว่า

“ข้าถาม... ไม่ได้ยินหรือยังไง”

คราวนี้คู่กรณีหันมามอง พยักหน้าเหมือนเข้าใจ แล้วย้อนถามเสียงเรียบ

“แล้วยังไงล่ะ”

“ข้าถามว่าเจ้าคงดีใจแย่สินะ” เฟรี่พูดพลางชำเลียงมองด้วยหางตา

“ดีใจเรื่องอะไร”

“เรื่องที่ว่าเจ้าจะได้ไม่ต้องลำบากคอยดูแล.. ข้าจะกลับเบื้องบนแล้ว”

“แล้วเจ้าไม่ดีใจหรือยังไง” แทนที่จะตอบคำถามตรงๆ นักรบปีศาจย้อนถามอีกครั้ง นั่นทำให้คนฟังอยากกระโดดงับคอหอยคนพูดให้รู้หมดเรื่องหมดแล้วไปเสียที

“อ๋อ...แน่นอน” เฟรี่ตอบด้วยวิธีการทำเสียงสูงเหมือนกึ่งประชดประชัน แยกเขี้ยวทำจมูกย่นใส่คู่กรณี

“ข้าดีใจปางตายเลยล่ะ....จะได้กลับจากดินแดนบ้าๆนี่เสียที ไม่เป็นภาระให้ใครบางคนหนักใจมาคอยดูแลให้ลำบากด้วย ไม่ต้องมีอารมณ์เสียกับคนกวนประสาทด้วย..แล้วเจ้าล่ะดีใจไหม”

“แน่นอน..ข้าเองก็ดีใจปางตายเหมือนกัน ว่าจะได้ไม่ต้องมีตัวยุ่งมาคอยกวนใจกวนอารมณ์ จะได้ไปไหนต่อไหนอย่างสบายอกสบายใจเสียที ไม่ต้องมารับผิดชอบคนรักของคนอื่น”

“เจ้าว่าใคร”

“ก็จะว่าใครล่ะ ว่าคนขับรถม้ามั้ง..”

บทจะเงียบก็เงียบเหมือนคนไม่มีปาก ..หญิงสาวแดนสรวงคิดในใจ..บทจะกวนประสาทก็กวนประสาทได้แบบไม่น่าเชื่อ..คิดด้วยความขุ่นเคือง แต่พอคิดดูอีกทีก็เปลี่ยนจากความขุ่นเคืองมาเป็นความรู้สึกขบขันแทน...ปีศาจแบบนี้ก็มีในนรก!

“แล้วเจ้าไม่คิดถึงข้าเลยหรือ ถ้าข้ากลับเบื้องบนไปแล้ว”

คราวนี้น้ำเสียงของเฟรี่เริ่มเปลี่ยนเป็นแจ่มใส เรื่องอะไรจะขุ่นมัวไปตามการกวนประสาทของคนอื่น แบบนั้นมันเสียฟอร์มนางฟ้า...

“ทำไมข้าต้องคิดถึงเจ้าด้วย”

“เพระเจ้าจะเหงา เมื่อไม่มีข้า”

“ทำไมข้าต้องเหงาด้วย”

“เพราะเจ้าเป็นคนชอบเหงา”

ว่าแล้วก็เอามือปิดปากหัวเราะเสียงใสชอบใจในคำพูดของตนเอง ไม่ได้วิตกกังวลอะไรมากมายกับความเป็นไปของชีวิตหรือสถานการณ์อันเลวร้าย เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของนางฟ้าตกสวรรค์คนนี้

พอเห็นคนนั่งข้างไม่ตอบโต้อะไรออกมา เฟรี่ได้ทีพูดต่อไปอีกว่า

“ไม่ต้องบอกข้าก็รู้ เจ้าเป็นคน...เอ..ไม่ใช่คนสิ ต้องบอกว่าเป็นปีศาจชอบเหงา แต่ปิดบังตัวเองด้วยหน้ากากอันแสนเย็นชาไร้ชีวิต อยู่ในโลกของตัวเองจนเคยชิน..เหมือนคนลืมหัวใจของตนเอง..หรือทำหัวใจของตัวเองหล่นหาย...เลยทำให้ออกอาการกึ่งดีกึ่งบ้าและยัง..”

“ถ้าเจ้าไม่หยุดพูดข้าจะจับเจ้าโยนออกนอกรถ”

ไนท์ขัดจังหวะด้วยน้ำเสียงห้วนๆ ท่าทางจริงจัง แต่คนกำลังจะโดนจับโยนทิ้งออกนอกรถไม่ได้มีสีหน้าตกใจกลัวสักนิด ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ท้าว่า

“แน่จริงก็จับโยนเลยสิ”

ปีศาจหนุ่มส่ายหน้า พูดอะไรกับตัวเองได้ยินไม่ถนัด ในขณะนางฟ้าตกสวรรค์อมยิ้ม รู้ว่าอีกฝ่ายไม่มีทางจับโยนหรือทำร้ายตนเองอย่างแน่นอน ถึงจะเป็นปีศาจซึ่งดูแล้วเข้าใจยาก รู้จักกันมาไม่นาน แต่สิ่งหนึ่งที่แน่ใจคือไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเลวร้ายเพียงไหน ปีศาจจอมเย็นชาผู้นี้จะออกมาปกป้องคุ้มครองทันที
พอคิดได้แบบนี้ก็รู้สึกอบอุ่นใจอย่างประหลาด เป็นความรู้สึกอย่างไม่เคยเกิดขึ้นแม้แต่อยู่กับคนรักบนดินแดนแห่งเบื้องบน ทำให้เริ่มไม่แน่ใจในความรู้สึกของตนเองขึ้นมาทุกที

ขณะนั่งคิดเพลินๆ นักรบปีศาจก็โพล่งถามขึ้นกะทันหันด้วยคำถามแบบไม่ทันให้ตั้งตัวว่า

“เจ้าคงรักคิดถึงคนรักของเจ้ามากใช่ไหม”

คนบ้า........นางฟ้าตกสวรรค์ร้องในใจ บทจะถามก็เล่นถามดื้อๆแบบนี้  เพราะความตั้งตัวไม่ทันเลยนั่งอึ้งไปอึดใจใหญ่

“ก็คงไม่ต่างจากที่เจ้ารักอดีตคนรักของเจ้าหรอก”

ในที่สุดก็ทางออกกับคำถามนั่นได้ เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ซึ่งเคยพบเห็นไนท์อยู่ต่อหน้าหลุมศพของอดีตคนรักในสุสานหลังคฤหาสน์ของปีศาจขาว

“นางไม่ใช่อดีตคนรัก..เป็นคนรักของข้าเสมอ”

ไนท์แก้ต่างกับคำพูดของอีกฝ่าย พอเห็นใบหน้าทำท่าไม่เข้าใจของเฟรี่จึงอธิบายขยายความให้กระจ่างต่อไปว่า

“กับคนซึ่งเรารัก ต่อให้พลัดพรากจากลาไปไกลแสนไกลแบบไม่มีโอกาสพบเห็นกันอีก ต่อให้ห่างหายตายจากตลอดกาลก็ตาม คนรักของเราก็ไม่ได้กลายเป็นอดีต ยังคงเป็นคนรักของเรา อยู่ในใจเราเช่นเดิมไม่มีวันจางหาย..ไม่ตายไปจากหัวใจของข้า ดังนั้นนางจึงเป็นคนรักของข้าเสมอและตลอดไป”

หยุดนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนเอ่ยถามขึ้นว่า

“แล้วเจ้าล่ะ เคยคิดแบบนี้บ้างหรือไม่”

“คนรักข้ายังไม่ตายนี่” เฟรี่แย้ง หากไนท์หัวเราะในลำคอ เอ่ยว่า

“ตายไม่ตายไม่สำคัญหรอกกับความรู้สึก..คนบางคนเจอะเจอกันทุกวันก็เหมือนตายจากกันไปแล้วก็ยังมี..ลองนึกเล่นๆดูก็ได้..ว่าเขาได้ตายจากไปแล้ว..ลองถามใจตัวเองดูว่ารู้สึกอย่างไร”

“บ้า..เรื่องอะไรมาคิดแบบแช่งคนอื่นในทางลบทางไม่ดีแบบนั้น”

“มันไม่ใช่เรื่องจริง ไม่เห็นต้องกลัว”

“เรื่องไม่จริง แต่ข้าไม่ชอบเรื่องแบบนี้” หญิงสาวแดนสรวงส่ายหน้าอย่างไม่ยินยอม หากภายในใจกลับเริ่มคิดแบบนั้นเหมือนกัน ทั้งที่รู้ว่าไม่ยุติธรรมกับคนรักผู้พลัดพรากเลยสักนิด คนรักผู้แสนดี ทั้งตามใจเอาใจสารพัดเท่าที่จะทำได้ คนแบบนี้จะหาอีกกี่ชาติไม่รู้จะเจอะเจอหรือเปล่า

“คิดมากไปได้..”เสียงเรื่อยๆของไนท์แว่วมาเข้าหู

ยังไม่ทันจะได้โต้ตอบ ตัวรถม้าก็สะเทือนยวบเอียงวูบราวกับอะไรบางอย่างมากระแทกอย่างรุนแรง เฟรี่ร้องเสียงดังด้วยความตกใจ คนมีปฏิกิริยาโต้ตอบเร็วที่สุดยังคงเป็นนักรบปีศาจ ดูเผินๆ คล้ายไม่สนใจอะไรแต่พอมีสิ่งผิดปกติกลับได้สติตั้งหลักได้แบบสายฟ้า มือขวาของเขาโอบเอวของเฟรี่ก่อนกระชากตัวพากันลอยละลิ่วผ่านหน้าต่างรถม้าลอยกลางอากาศโฉบลงพื้นข้างถนนอย่างนุ่มนวลราวฝีเท้าเงียบกริบแผ่วเบาของตีนแมว

ท่ามกลางอาการตกใจยังไม่หาย นางฟ้าตกสวรรค์รู้สึกเพียงว่าทุกสิ่งทุกอย่างหมุนคว้างไปชั่ววูบ ก่อนพบว่าลงมายืนอยู่บนพื้นถนนด้วยอาการเซซวนตกตะลึง
ราวปาฏิหาริย์ หูได้ยินเสียงโครมครามแว่วมาจากด้านข้าง หันไปแบบมึนงง มองเห็นรถม้าสีดำยังคงวิ่งต่อไปตามถนนโดยไม่สนใจผู้โดยสาร

แต่แล้วตัวรถม้าพลันแยกออกเป็นสองซีกซ้ายขวาก่อนแตกหักระเบิดเป็นเศษไม้กระจัดกระจายปลิวว่อน คนขับรถม้าตอนนี้นั่งควบอยู่บนหลังม้าสีดำสนิทตัวหนึ่งพุ่งทะยานห่างออกไปทุกทีกลางฝุ่นควันแบบไม่ยอมเหลียวหลังหันมามอง

กำลังจะอ้าปากถามแต่แล้วแขนพลันถูกดึงอย่างแรงจนแทบจะปลิวไปตามแรงกระชาก รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างตัดอากาศเหนือหัวขึ้นไปดังเฟี้ยวแล้วมีเสียงโลหะกระทบกันดังสนั่น ประกายไฟแตกวาบเป็นไฟพะเนียง

ดาบเป็นประกายวาบวับเล่มหนึ่งถูกฟันมาจากด้านข้าง แต่ถูกไนท์ใช้ดาบของเขากระแทกกลับออกไปแบบหวุดหวิด

เสียงอึงอลกังวานจางหาย หญิงสาวจึงเพิ่งสังเกตว่าบนพื้นถนนห่างออกไปสามสี่วาร่างทะมึนชุดดำคลุมใบหน้าเห็นเพียงประกายตาวาววับมุ่งร้ายคู่หนึ่ง รังสีอำมหิตแผ่ซ่านออกมากระทั่งคนไม่ใช่นักรบอย่างเฟรี่ยังจับความรู้สึกแบบนั้นได้ และรู้สึกถึงความน่ากลัวและอันตรายแบบไม่ธรรมดาเลยสักนิด

ร่างนั้นยืนถือดาบชี้เฉียงลงพื้น แบบเดียวกับท่าทีของนักรบปีศาจชอบทำเวลาต่อสู้  บรรยากาศกดดันหนักอึ้งแปรปรวนไปมาไม่หยุดยั้ง จนในที่สุดเสียงแหบพร่าน่าขนลุกก็ดังออกมาจากร่างร้ายนั้นเป็นเชิงทักทายราวคนรู้จักกันมาก่อน

“ท่าทางเจ้าสบายดีนะ ไนท์”

ลองเรียกชื่อกันถูกต้องแบบนี้ไม่มีข้อสงสัย อย่างไรต้องรู้จักกันมาก่อน หญิงสาวแดนสรวงรู้สึกถึงความไม่น่าไว้ใจ รีบหลบไปทางด้านหลังของผู้คุ้มครองประจำตัวแบบไม่ต้องให้บอก เพียงแต่ยื่นหน้าโผล่มาบริเวณไหล่ของนักรบปีศาจเพื่อสังเกตการณ์ด้วยสายตาเป็นประกายอยากรู้อยากเห็น

“ภูตเหนือ .. มีธุระอะไรกับข้า”

ไนท์ยิงคำถามสำคัญโดยไม่อ้อมค้อม ผู้มาเยือนโดยไม่ได้รับเชิญแค่นเสียงหัวเราะครู่หนึ่งจึงพูดขึ้นว่า

“เบื้องล่างมีคำสั่งพิเศษมายังเจ้า”

“คำสั่งอะไร ข้ากำลังอยู่ในช่วงทำภารกิจอยู่”

“ภารกิจอยู่กับนางฟ้าตกสวรรค์นี่หรือ”

พูดจบคนลึกลับฉายาภูติเหนือก็หัวเราะครืนออกมาเหมือนขบขันเสียเต็มประดา ทั้งที่ไม่มีอะไรให้น่าขำเลยสักนิด

“ช่างเถอะเรื่องนั้น...นี่เป็นคำสั่งอย่างถูกต้องตามกฎของเบื้องล่าง เจ้ารับไป”
พูดจบมือขวาพลันโยนวัตถุบางอย่างมาให้นักรบปีศาจ ซึ่งยื่นมือออกไปรับมาดูด้วยความอยากรู้เหมือนกันว่าคำสั่งเบื้องล่างคืออะไรกันแน่

วัตถุกลมยาวประมาณคืบนั้นความจริงเป็นม้วนกระดาษแผ่นหนึ่ง เขียนด้วยอักษรของโลกเบื้องล่าง พออ่านดูครู่หนึ่งไนท์ก็โยนกลับไปให้อีกฝ่ายแล้วยืนนิ่งเงียบ

“เจ้าจะว่ายังไง”

เสียงแหบพร่าถามขึ้นอีกครั้ง ดาบในมือขยับไปมา

“ข้าทำตามไม่ได้”

“รู้หรือเปล่าว่าเจ้ากำลังคิดจะทำอะไร”

“ข้ารู้”

เฟรี่อดรนทนไม่ได้แอบกระซิบถามว่า

“มีเรื่องอะไรกันหรือ”

นักรบปีศาจนิ่งเงียบ หากคนตอบคำถามกลับเป็นคนลึกลับผู้นั้น คำตอบซึ่งฟังแล้วทำให้สะท้านไปทั้งตัว

“คำสั่งของโลกเบื้องล่างคือให้นำส่งเจ้า...” พร้อมกับอาการยกมือชี้นิ้วมายังหญิงสาวเป็นการประกอบคำอธิบาย “เจ้า..ผู้ซึ่งตกลงมาจากเบื้องบน นำตัวลงไปยังเบื้องล่างโดยเร็วที่สุด”

“จะบ้าหรือ..” พอได้สติเฟรี่ยื่นหน้าสวนคำไปด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “เรื่องอะไรข้าจะไป ไม่มีทางเสียหรอก มีสิทธิ์อะไรมาจับตัวข้า”

“ลองถามคนดูแลเจ้าอยู่สิ คำสั่งของเบื้องล่างคือคำสั่งซึ่งไม่มีนักรบปีศาจใดขัดขืนได้ เพราะการฝ่าฝืนคำสั่ง เป็นการทรยศต่อเผ่าพันธุ์ของตนเอง เป็นความผิดมหันต์ที่สุด จะต้องถูกตามล่าตามล้างจนกว่าจะถูกจับไปลงโทษในโลกเบื้องล่างหรือไม่ก็วิญญาณแตกสลายดับสูญ”

“ไนท์..เจ้าว่าไง” ดึงแขนเสื้อถามอย่างร้อนรนใจ

“ข้าไม่ส่งเจ้าลงไปแน่” ไนท์ตอบสั้นๆ

และคำพูดสั้นๆนั่นเองพลิกผันชะตากรรมของนักรบปีศาจอย่างใหญ่หลวงตั้งแต่บัดนั้น

ผู้มาเยือนส่ายหน้าเหมือนผิดหวังกับการตัดสินใจนั้น เอ่ยปากเหมือนรำพึงรำพันกับตัวเอง

“เพราะผู้หญิงคนเดียว เจ้าถึงกับกล้าทรยศเพื่อนฝูง ทรยศต่อโลกเบื้องล่าง ต่อไปนี้เจ้าจะไม่มีนรกให้อยู่แล้ว คนของโลกมืดจะตามล่าเจ้าไปจนสุดนรกทุกด้าน
เจ้าไม่ใช่คนของโลกมืดอีกต่อไป”

นั่นอย่างไรก็ไม่อาจจัดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยเด็ดขาดหากปีศาจผู้ทรยศยังคงมีท่าทีสงบเยือกเย็นอย่างไม่น่าเชื่อ

ดาบในมือของคนลึกลับถูกยกขึ้นอย่างช้าๆ ทำท่าเหมือนจะให้โอกาสตัดสินใจเป็นครั้งสุดท้าย เมื่อเห็นท่าทีของนักรบปีศาจก็เดาได้เลยว่าอีกฝ่ายตัดสินใจเด็ดขาดชัดเจนแล้ว

“น่าเสียดายนักรบฝีมือดีอย่างเจ้า..แต่ข้าเองก็ไม่มีทางเลือก เพราะคำสั่งของข้าที่ได้รับมาคือ ถ้าเจ้าขัดขืน ให้จัดการกับเจ้าได้ทันที จากนั้นนำตัวแม่สาวตกสวรรค์คนนี้ลงไปเบื้องล่าง”

พูดจบร่างของผู้มาเยือนขยับวูบเข้ามาอย่างรวดเร็วราวกับไร้น้ำหนักหรือเงาภูตพราย เฟรี่รู้สึกว่าถูกผลักไปด้านหลังจนแทบล้มคว่ำลง แว่วเสียงโลหะกระทบกันถี่ยิบจนแสบแก้วหู การเคลื่อนไหวของเงาปีศาจกับนักรบปีศาจเป็นไปอย่างรวดเร็วจนมองแทบไม่ทัน

ไม่ถึงอึดใจจากการปะทะกันอย่างรุนแรง บังเกิดเสียงกึกก้องสะท้านฟ้า ทั้งสองถูกแรงอัดมหาศาลลอยกระเด็นแยกออกจากกัน ก่อนหล่นลงมาตั้งหลักลงบนพื้นถนน บดขยี้แผ่นหินใต้ฝ่าเท้าคนทั้งคู่ระเบิดครืนกระจัดกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยฝุ่นควันคละคลุ้งก่อนจางหายไปกับสายลมอรุณรุ่ง

“ฝีมือดีขึ้นนี่”

ผู้มาเยือนลึกลับแค่นเสียงแบบกึ่งชมกึ่งเยาะเย้ย “แต่อย่าลืมว่าพวกเรา ภูตนรก มีกันสองคน เจ้าไม่คิดหรือว่าข้าคงไม่ได้มาคนเดียว เมื่อข้าภูตเหนือมาแล้ว ทำไมภูตใต้จะไม่มา”

พูดจบเฟรี่พลันร้องกรี๊ดขึ้นสุดเสียง

ไม่ได้มีใครทำร้ายหญิงสาว... อย่างน้อยภูตเหนือก็บอกเจตนาชัดเจนแล้วว่าจะจับตัวแบบเป็นๆลงไปยังโลกเบื้องล่าง แต่ภาพปรากฏต่อสายตาขณะนั้นต่างหากทำให้ใจหายวาบ

จู่ๆด้านหลังของไนท์พลันปรากฏร่างในชุดดำคลุมหน้าอีกคน ราวกับเกิดมาจากอากาศธาตุ ดาบยาวในมือแทงใส่ด้านหลังของนักรบปีศาจจนทะลุออกไปทางหน้าอก โลหิตสีดำพุ่งทะลักออกมาทันที

ดาบสีดำในมือของไนท์พลิกคมแทงลอดใต้แขนไปด้านหลังแทบในวินาทีเดียวกัน แม้ว่าถูกลอบทำร้าย แต่สัญชาตญาณมือสังหารยังอยู่เต็มเปี่ยม ภูตใต้ซึ่งลอบทำร้ายดึงดาบออกก่อนกระโดดปราดถอยหลังออกไปราวลมหอบ หลบหลีกออกไปได้แบบหวุดหวิดพร้อมกับลากสายรุ้งโลหิตสีดำยาวเป็นทางตามไปด้วย  ม้วนตัวกลางอากาศรอบหนึ่งพลิกตัวลงบนโขดหินสูงริมถนน

ภูตเหนือเหมือนจะรอจังหวะอยู่แล้ว ในขณะนักรบปีศาจหันไปสนใจผู้ลอบทำร้าย ร่างทะมึนขยับวูบเข้าหาอย่างรวดเร็วแต่ไม่เร็วไปกว่าดาบของไนท์ซึ่งพลิกคมสะบัดฟันออกไปด้านหน้าเต็มกำลัง

เสียงดังเปรี้ยงสนั่น ดาบของภูตเหนือหักสะบั้นหมุนลอยคว้างสูงขึ้นไปในอากาศ ขณะเจ้าของดาบกระเด็นลอยไปด้านหลังอัดกระแทกเข้ากับต้นไม้โบราณเก่าแก่ขนาดสองคนโอบของอีกฟากถนนจนหักสะบั้นล้มฟาดโครมกลิ้งถล่มลงไปตามแนวลาดชั้นของเนินเขา กระนั้นภูตเหนือก็ลุกขึ้นมายืนหยัดอย่างรวดเร็ว เลือดสีดำหยดไหลลงบนพื้นแสดงถึงอาการบาดเจ็บไม่น้อย ส่วนปลายของดาบซึ่งลอยกระเด็นขึ้นไปหล่นลงมาปักพื้นพื้นหินด้านหน้า สั่นไหวไปมาครู่หนึ่งราวมีชีวิต

เฟรี่ทำท่าจะวิ่งเข้าไปหานักรบปีศาจแต่อีกฝ่ายยกมือเป็นเชิงห้าม แต่หญิงสาวไม่ฟังเสียงอะไรทั้งนั้น วิ่งปราดไปประคองร่างของไนท์ผู้กำลังเซซวนไปมาหากใช้ปลายดาบปักยันพื้นฝืนทรงตัวเอาไว้

โดนแทงจนทะลุแบบนี้หนักหนาสาหัสไม่น้อยแน่นอน อาจจะถึงขั้นเสียชีวิตแตกดับก็เป็นได้ ต่อให้เข้มแข็งทนทานแค่ไหนก็ตาม

เสียงแหบพร่าของภูตเหนือแว่วเข้าหูยิ่งทำให้หัวใจตกวูบลงไปอีก

“ตัวต่อตัวเจ้ายังยากจะชนะข้า ตอนนี้พวกข้ามีสอง ท่าทางเจ้าไม่มีทางรอด”

“ไนท์..เจ้าเป็นยังไงบ้าง...”

นางฟ้าตกสวรรค์กระซิบถามเสียงร้อนรน บีบมือของอีกฝ่ายแน่นด้วยความห่วงใยสุดแสน

“เจ้าถอยไปก่อน..”

ไนท์บอกสั้นๆ เลือดสีดำไหลออกมาจากใต้หน้ากากโลหะอันเย็นชาเป็นทางลงสู่พื้น

“อย่าพยายามให้เสียเวลา เห็นๆกันอยู่ว่าเจ้าหมดกำลังแล้ว”

เสียงของภูตใต้เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาสถานการณ์เป็นต่อมากมายมหาศาล
“พวกข้ามีสอง เจ้ามีหนึ่ง แถมยังบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้ ไม่มีทางรอดรับชะตากรมโดยดีจะได้แตกดับอย่างไม่ทรมาน...”

พูดยังไม่ทันขาดคำกลางทรวงอกของภูตใต้พลันปรากฏดาบยาวแทงทะลุมาจากด้านหลัง!

ร่างทะมึนสะดุ้งเฮือกสุดตัวอย่างไม่เชื่อสิ่งที่เกิดขึ้น ความลำพองกระหยิ่มใจทำให้ขาดความระมัดระวังตัวจนสถานการณ์พลิกผัน ภูตใต้ร้องเสียงพิกลกระโดดพุ่งปราดไปด้านหน้ากระชากร่างตัวเองออกจากคมดาบสร้างธารโลหิตสีดำสายหนึ่งไปถึงกลางถนนก่อนพยายามหันหลังมามองเจ้าของดาบผู้ลอบทำร้าย

ร่างสูงแข็งแรงในชุดผ้าพื้นเมืองหยาบๆ นัยน์ตาข้างหนึ่งมีโลหะกลมเป็นประกายโยงเชือกปิดตาเอาไว้ กำลังยืนเอาดาบพาดบ่าด้วยท่าทางสบายใจ


มาร์ลาส....เทวบุตรมารตาเดียวนั่นเอง

ความจริงเขาควรรอคอยอยู่บนเรือรบโบราณ นึกไม่ถึงว่าจะมาปรากฏตัวได้จังหวะพอดี

เทวบุตรมารหัวเราะเหมือนไม่ได้ทำอะไร พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงร่าเริงว่า

“คราวนี้ก็เสมอกันแล้วนะ สองต่อสอง พวกเจ้าแทงคนข้างหลังหนึ่งครั้ง ข้าก็แทงข้างหลังพวกเจ้าหนึ่งครั้ง ถือว่าแล้วกันไป”

พูดจบก็กระโดดปราดลงมาจากโขดหิน เดินตรงมาหานักรบปีศาจโดยไม่สนใจภูตอเวจีทั้งสอง

ภูตใต้คำรามเกรี้ยวกราดขยับร่างเหมือนจะทำอะไรบางอย่าง แต่แล้วร่างเสียหลักหมุนคว้างเป็นกังหันแล้วพลิกฟาดล้มคว่ำลงประกายไฟลุกพรึบเผาไหม้ตัวเองอย่างรวดเร็วมลายสลายไปจนเหลือแต่เถ้าถ่านพัดกระจายหายไปกับสายลมในที่สุด

ดาบของมาร์ลาสมั่นคงแม่นยำ ดาบเดียวแทงทะลุทำลายจุดตายไม่ปล่อยให้มีชีวิตรอดหรือมีโอกาสแก้ตัวใดๆทั้งนั้น

ส่วนภูติเหนือหลบหนีหายไปแล้ว เพราะรู้ว่าอยู่ไปก็ทำอะไรไม่ได้แน่

สถานการณ์ร้ายผ่อนคลายลงแต่น่าเป็นห่วงคืออาการของนักรบปีศาจ พอเห็นคู่ปรับคนสำคัญปรากฏตัวก็หมดแรงทรุดลงไปกองกับพื้น

มาร์ลาสเอียงหน้ามองแล้วส่ายหน้าพูดกับดินฟ้าอากาศว่า

“ท่าทางจะลำบากข้าอีกแล้วสินะ..ทำไมข้าต้องมายุ่งกับเจ้าบ้านี่ด้วย..อยู่ดีแล้วไม่ว่าดี..แล้วนี่...เจ้าน่าจะมียารักษาอาการบาดเจ็บไม่ใช่หรือ”

ประโยคหลังหันมาพูดกับเฟรี่ หญิงสาวได้สติรีบค้นหาอะไรบางอย่างในอกเสื้อก่อนดึงขวดยาขนาดจิ๋วออกมาด้วยมือสั่นเทา ก่อนเทผงยาออกจากขวด พยายามทาไปตามบาดแผลทั้งด้านหน้าด้านหลังของนักรบปีศาจผู้สติดับวูบไปแล้ว

นักรบตาเดียวขมวดคิ้วก้มลงมองแล้วพยักหน้าอย่างพอใจ บอกว่า

“โห..ยาขั้นเทพจริงๆ เลือดเริ่มหยุดไหลแล้ว..ไม่ต้องห่วง เจ้าบ้านี่ไม่ตายง่ายๆหรอก แต่ถ้าไม่รีบรักษามีหวังตายแน่... ว่าแต่ยาแบบนี้ มีโอกาสเอามาฝากข้าบ้างนะ....แต่ตอนนี้งานหนักคงเป็นข้าอยู่ดี”

เฟรี่มองหน้าอย่างสงสัย ...งานหนักอะไรกัน มาร์ลาสก้มลงยกร่างของไนท์ขึ้นพาดบ่า นั่นเป็นคำตอบโดยไม่ต้องอธิบาย งานหนักจริงอย่างที่พูดเพราะระยะทางไปยังท่าเรือไม่ได้ใกล้ แถมเส้นทางยังลำบากอีกต่างหาก

“ขอบใจเจ้ามาก”

หญิงสาวแดนสรวงพึมพำอย่างสำนึกในบุญคุณและน้ำใจของผู้มาช่วยเหลือ

“ว่าแต่เจ้าทำไมมาที่นี่ได้”

“ข้าได้ข่าวมาสองภูตนี่ก่อนหน้านี้ รู้ว่าต้องไม่มาดีแน่ เลยแอบสะกดรอยตามพวกมันมา แล้วก็ได้เรื่องจริงๆ แหม...ไม่น่ามาเลยเรา..มาลำบากเปล่า ไม่มาป่านนี้นอนเล่นอยู่บนเรือสบายใจแล้ว”

พูดจบทำท่าเป็นสัญญาณให้ติดตามไปก่อนเดินลิ่วนำหน้าไปอย่างคล่องแคล่ว การแบกคนไว้บนบ่าดูเหมือนแทบจะไม่เป็นการลำบากอะไรเลยสำหรับนักรบผู้นี้ เฟรี่ซึ่งรับหน้าที่ถือดาบของไนท์ซึ่งน่าจะเบาแรงมากกว่ายังเดินตามแทบไม่ทัน

สองเท้าก้าวตามเทวบุตรมาร หากสายตาจับจ้องอยู่กับร่างไร้สติแบบหมดสภาพของไนท์อย่างเป็นห่วง นักรบปีศาจผู้มีพฤติกรรมยากจะเดาใจ...ได้ปกป้องตัวเธอมาหลายครั้ง ทั้งที่ความจริงแล้วไม่เห็นต้องทำแบบนั้นก็ได้...เพราะเป็นพวกปีศาจโดยธรรมชาติ





.......

จากคุณ : GTW
เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 16:18:49




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com