พิมนวลฟังแล้วอึ้งไป มองหน้าคนที่ยื่นชามาให้ก็เห็นเขาเลิกคิ้วเป็นทำนองให้รับแก้วชาเย็นนั้นไป พิมนวลก็เชิดหน้าหนี ทำท่าจะไม่ยอมรับแก้วชา แต่พอนึกอะไรขึ้นมาได้ก็ยอมรับแก้วชานั้นโดยดี ก่อนจะว่า ถ้าอย่างนั้น คนตัวดำ ก็ต้องกินกาแฟดำน่ะสิ
คำพูดของพิมนวลทำเอาพัฒน์ชะงัก หันไปมองคนพูดก็เห็นอมยิ้ม เขาก็เลยว่า นั่นไงๆ แล้วทำเหมือนจะค้อนให้ แล้วก็นิ่งไปไม่พูดอะไรอีก
เอ้า งอนๆ พิมนวลหัวเราะ ดูสิ หน้าดำจนเขียวแล้ว
พัฒน์มองหน้าคนที่หัวเราะแล้วหัวเราะ หึๆ เดี๋ยวจะโดนๆ
เอ้า พิมนวลยังไม่หยุดยิ้ม เราพูดอะไรผิดตรงไหน ยังไม่ได้เอ่ยชื่อเลย ร้อนตัวไปได้ พูดแล้วก้าวเข้ามายืนบังต้นสะเดาไว้ รีบเฉไฉ เธออ่ะ ทำอะไรเราไม่ได้หรอก
ลองดูไหมล่ะ อยากรู้ไหม ว่าทำได้หรือเปล่า ถึงตอนนี้คนตรงหน้าเป็นฝ่ายยิ้มบ้าง รอยยิ้มของเขาดูแปลกๆ ชอบกล แถมยังก้าวเท้าเข้ามา จนอีกฝ่ายต้องถอยเท้าหนี จนตอนนี้แผ่นหลังติดกับต้นสะเดาแล้ว เขาก็ยังไม่หยุดเดิน
ไม่รู้เป็นอะไรในตอนนี้ พัฒน์เกิดความรู้สึกเหมือนเวลาหมุนย้อนกลับ ความรู้สึกบางอย่างคล้ายหมุนวนกลับมาที่เดิม คนเดิม เวลาเดิม ใจดวงเดิม และมีอะไรเดิมๆ อีกมากมายนับไม่ถ้วน แตกตัวลอยวนอยู่ในอากาศ เป็นความหมายที่เขาเองก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร และทำไม
แทบจะไม่รู้ตัวว่าทำอะไรอยู่ รู้แต่ว่า ทำทุกอย่างไปตามที่ใจต้องการ
อย่าเข้ามานะ คนหลังติดต้นสะเดายังเสียงแข็ง แม้จะรู้สึกแปลกๆ ใจเต้นโครมครามขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ เดี๋ยวจะโดนเหมือนเมื่อก่อน
คิดว่าเราจะยอมโดนเหมือนเมื่อก่อนหรอ พัฒน์ตอบทันที พยายามระงับใจที่สั่นไหว เห็นคนตรงหน้าหยุดเดินเพราะหลังติดต้นสะเดาแล้ว เขากลับไม่หยุดเดิน เคลื่อนตัวเข้าไปใกล้ มองดวงตาของคนตรงหน้าแล้วนิ่งไป
พัฒน์คงไม่รู้ว่าดวงตาของเขาเองก็ซ่อนความหมายบางอย่าง มันทำให้คนที่เสียงแข็งอยู่เมื่อครู่ รู้สึกเหมือนไม่มีแรง แม้เสียงร้องห้ามจะมี แต่ก็ช่างเบาเหลือเกิน ถ้าทำอีก ครั้งนี้จะไม่ให้อภัยเธอเลย
จากคุณ |
:
ชมเช้า
|
เขียนเมื่อ |
:
16 ธ.ค. 55 23:09:18
|
|
|
|