หลังจากอยู่ในความมืดมานาน สามภพมองเห็นแสงสว่างอีกครั้ง เขาเริ่มเข้าใจแล้วว่าตัวเองเป็นเหมือนพลังงานอย่างหนึ่งที่สูญหายไปได้ในบางขณะ เป็นชั่วขณะที่จิตรับรู้ของเขาพลอยสูญสิ้นไปด้วย หลังจากนั้นเขาก็จะกลับมาได้อีก ทั้งหมดนั้นอยู่เหนือการควบคุมและกำหนดอะไรไม่ได้เลย
เมื่อกลับมาได้อีกครั้งสิ่งแรกที่รับรู้คือเสียงเพลง จากนั้นก็เห็นผู้เป็นภรรยานั่งเขียนอะไรบางอย่างที่โต๊ะอาหาร มีเครื่องเล่นซีดีวางอยู่ข้างๆ กองสมุดและหนังสือ เสียงเพลงมาจากที่นั่นเอง ข้างเก้าอี้ที่เธอนั่งมีสุนัขตัวใหญ่นอนหมอบอยู่กับพื้น มันผงกหัวขึ้นทันทีที่เขาปรากฏตัว หูซึ่งลู่ลงเมื่อครู่ตั้งชัน จากนั้นก็คำรามเบาๆ ในลำคอ
"มีอะไรหรือ ซูโม่" นายสาวของมันก้มลงถาม
แจน่าเป็นคนแนะนำให้เธอหาสุนัขมาเลี้ยงเพราะสัตว์มีสัมผัสละเอียดอ่อนกว่ามนุษย์
เห็นอะไรหรือ
เธอวางปากกาแล้วขยับลุก เหลียวมองความว่างเปล่ารอบตัว
"คุณหรือคะ คุณอยู่ที่นี่หรือคะ"
พอเธอถอยห่างออกมาจากโต๊ะ เขาจึงได้เห็นว่าส่วนกลางของลำตัวเธอนั้นเวลานี้นูนออกมาจนเห็นได้ชัดแล้ว นี่เธอท้องได้กี่เดือนแล้ว เวลาผ่านไปนานแค่ไหนแล้วนับแต่ครั้งหลังสุด
เขาก้มลงลูบหัวสุนัขตัวใหญ่นั้น มันครางหงิงๆ แล้วกลับลงนอนตามเดิมเมื่อรู้ว่าเขาไม่ใช่ภัยคุกคามนายสาวของมัน
มันชื่อซูโม่ค่ะ มันคงชอบคุณนะคะ
กันตาวาดมือเปะปะไปในอากาศเหมือนควานหาตัวเขา
"ได้ซูโม่มาเป็นเดือนแล้ว เพิ่งจะวันนี้เองที่มันมีอาการแบบนี้ ว่ากันว่าสัตว์มีสัมผัสที่ละเอียดอ่อนกว่าคน บางทีเห็นอะไรที่คนมองไม่เห็น ฉันก็เลยเอาซูโม่มาเลี้ยงนี่แหละค่ะ เผื่อจะได้รู้ว่าคุณอยู่ที่ไหน"
เธอเงียบเหมือนคอยคำตอบจากเขา
"เห็นลูกหรือยังคะ"
ลูกหรือ เขาตื้นตันใจเสมอเมื่อคิดถึงลูก เห็นเธอหายเข้าไปในห้องนอน กลับออกมาอีกครั้งพร้อมด้วยกระดาษแผ่นเล็กๆ เธอยืนคว้างอยู่ครู่หนึ่งเหมือนตัดสินใจไม่ถูกว่าควรทำอย่างไรดี ก่อนจะวางลงบนโต๊ะอาหาร เขาเห็นลูกตั้งแต่กระดาษแผ่นนั้นอยู่ในมือเธอแล้ว แต่ก็ยังก้มลงดูอย่างภาคภูมิใจ เป็นรูปถ่ายขาวดำสามมิติ เห็นโครงร่างของเด็กในครรภ์ชัดเจน
"ยี่สิบสองสัปดาห์แล้วค่ะ ห้าเดือนนะคะ แต่หมอยังไม่ยอมบอกว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย หมอบอกว่าต้องคอยให้ครบหกเดือนเสียก่อน ถึงจะบอกได้แน่ๆ"
เธอยังคงพูดไปเรื่อยเปื่อย ไม่ว่าเขาจะอยู่กับเธอในเวลานี้หรือไม่ เธอสบายใจเพียงแค่ได้พูด และคิดว่ากำลังพูดกับเขา
"อีกไม่นานแกคงเคลื่อนไหวให้รู้สึกได้แล้วค่ะ"
สามภพยิ้มให้ภรรยาทั้งๆ ที่รู้ดีว่าเธอมองไม่เห็นเขาและสัมผัสเขาไม่ได้
แต่แล้วก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่าง ความรู้สึกนี้รุนแรง และสิ่งนั้นมีแต่ความเคียดแค้นชิงชัง แม้มองไม่เห็นในทันที แต่เขารู้แน่ว่ามันอยู่ในมิติเดียวกับเขา
มันตามเขามาถึงที่นี่ ตามเขามาจนพบกันตา
ซูโม่ลุกตามเขาไปติดๆ เมื่อเขาตรงไปทางที่มาของความรู้สึกนั้น
กันตามองอย่างประหลาดใจในอากัปกิริยาของมัน เวสเป็นคนพาซูโม่มาให้เธอ หลังจากที่บ่นให้ได้ยินในวันหนึ่งว่าอยากได้หมาสักตัวมาเฝ้าบ้าน เที่ยงวันของวันเดียวกันนั้นเองเขาขับรถกลับมาอีกครั้งพร้อมด้วยซูโม่
แรกๆ ที่เห็นรถนายอำเภอกลับขึ้นมาในวันเดียวกัน กันตาคิดว่าเขาคงลืมอะไรทิ้งไว้ จนเมื่อเห็นสุนัขตัวใหญ่นั่งคู่มาด้วย...บนที่นั่งผู้โดยสาร จึงออกมาหยุดยืนดูที่ระเบียงบ้าน พอนายอำเภอหนุ่มเปิดประตูด้านคนขับลงจากรถ มันกระโดดลงมาจากด้านเดียวกัน วิ่งขึ้นมาบนระเบียงบ้านโดยไม่คอยให้ใครเชิญ
ส่วนคนขับอ้อมไปเปิดประตูตอนหลัง ดึงถุงใส่อาหารสุนัขใบใหญ่ออกมา แบกขึ้นบ่าแล้วเดินมาหา มือถือกระดาษอะไรบางอย่างติดมาด้วย
"ผมขอสตีฟมาให้คุณ" เขาตะโกนนำมาก่อน
"หมาของสตีฟหรือคะ" กันตาร้องถาม มองตามสุนัขตัวใหญ่ที่กำลังทำจมูกฟุดฟิด ดมโน่น ดมนี่ไปทั่วระเบียงบ้าน
"จริงๆ แล้วไม่ใช่ครับ เจ้าของเก่าของมันย้ายไปรัฐอื่น เลยทิ้งเจ้าซูโม่ไว้กับสตีฟ"
มีเสียงฝีเท้าหนักๆ ก้าวขึ้นระเบียงบ้าน
"ผมเอาอาหารของซูโม่มาให้ด้วย คุณจะได้ไม่ต้องเสียเวลาลงไปหาซื้อ จะให้ไว้ที่ไหนดี"
กันตารีบผลักประตูบ้านให้กว้างขึ้น ซูโม่วิ่งนำเข้าไปก่อน
"ในครัวดีไหมคะ" เธอถามกลับเหมือนขอความคิดเห็น
เขาไม่ตอบ แบกถุงขนาดยักษ์ใบนั้นลิ่วๆ เข้าไปในครัว มีผู้เป็นเจ้าของบ้านตามติดมาด้วย
"แล้วสตีฟไม่อยากเลี้ยงมันหรอกหรือคะ"
"สตีฟเป็นที่พักชั่วคราวของหมาแมวทั้งเมืองแหละครับ ใครจะทิ้งหมาของตัว ก็จะเอาไปทิ้งไว้กับสตีฟ ตัวไหนเจ้าของเดิมไม่กลับมาเอาคืนไปก็ยกให้คนอื่นไปเลี้ยงต่อ"
เขาทิ้งถุงอาหารลงบนพื้นครัวเสียงดังโครมเพราะความหนักของมัน ลากไปพิงมุมห้องจนแน่ใจว่าจะไม่ล้มและไม่ไปกีดขวางทางเดินของใคร
"ซูโม่มีเอกสารติดตัวมาด้วยเรียบร้อย" เขายื่นกระดาษในมือให้
เธอรับมาดูผ่านๆ
"ชื่อซูโม่หรือคะ"
"ครับ ชื่อซูโม่" ชายหนุ่มตอบ เปิดดูหม้อต้มอาหารบนเตาไปด้วย
เจ้าของบ้านสาวรู้ทัน "มื้อเที่ยงใช่ไหมคะ"
เวสยิ้ม ชี้นิ้วลงในหม้อต้มไก่ "เอานี่แหละ หอมดี"
คราวนี้กันตาจัดไก่ต้มข่าไปเผื่อผู้ช่วยของเขาด้วย
แก้ไขเมื่อ 20 ธ.ค. 55 07:27:53