Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เลขาเนื้อทอง :: ยอแสงแข - 22 vote ติดต่อทีมงาน

http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W13054435/W13054435.html

บทที่ 22

สี่ทุ่มกว่าแล้ว แต่งานเอกสารด่วนของตรงฉัตรยังไม่เสร็จเลย เขาร่างสัญญาฉบับล่าสุดอย่างระมัดระวัง และทุกเงื่อนไขที่พ่อค้าฮ่องกงเสนอมา เขาจะพิจารณาอย่างรอบคอบ อ่านทุกตัวอักษรแบบละเอียดยิบทีเดียว

ตามประวัติที่หามาได้ พ่อค้ารายนี้ค่อนข้างทรงอิทธิพล มีภรรยาสองคนซึ่งดุมากและรวยมากเป็นผู้สนับสนุนเบื้องหลัง ดังนั้น จึงหายห่วงเรื่องขี้หลีไปได้เลย แม้จะมีนิสัยนั้นเต็มเปี่ยมก็เถอะ

นอกจากนี้ เจ้าตัวเองก็ยังเป็นผู้ให้การสนับสนุนนักการเมืองเด่นๆ หลายคน มีกิจการหลายอย่างในอเมริกา เป็นเพื่อนกับนักการเมืองทางโน้นโขยงใหญ่ด้วย จึงไม่แปลกที่ณพนาจะลิงโลดคึกคัก เพราะถ้าได้ร่วมงานกันจริง ก็เชื่อว่าเงินลงทุนคงเยอะกับยาว

"นึกแล้วว่าถ้าแวะมาต้องเจอพี่ตรง แสดงว่าอาหารที่ซื้อมาด้วยก็ไม่เป็นหมันแล้วสิคะ"

พลิ้วแพรโผล่มาอวดยิ้มเจ้าชู้ หล่อนหิ้งถุงพลาสติกมาสองสามถุง ในนั้นเป็นอาหาร แต่ตาเป็นประกายอยากกลืนกินผู้ชายนั่นแหละที่พ่อหนุ่มเลขาสบแวบเดียวก็รู้เลยว่ามันเป็นข้ออ้างบังหน้า

"คุณนากลับบ้านแล้วครับ สักชั่วโมงแล้ว น่าจะถึงแล้วล่ะ"

"ก็ช่างพี่นาสิ มาบอกพลิ้วทำไม นี่ หยุดทำงานแล้วมากินของว่างอร่อยๆ ด้วยกัน พลิ้วตระเวนซื้อเป็นชั่วโมง หยุดทำงาน ได้ยินไหม"

หล่อนเสียงเข้ม แย่งปากกาในมือไปแหมะทับกองเอกสาร ดึงแขนใหญ่บังคับให้พ่อหนุ่มลุกจากเก้าอี้ แล้วควงฉับพาเดินลิ่วๆ มานั่งเบียดสะโพกกันบนโซฟา

"กินเสร็จแล้ว เราจะคุยกัน"

"ปล่อยแขนสิ กอดไว้แบบนี้ จะกินยังไง"

"ไม่อยากปล่อย หวง"

"เหลวไหล อุ๊บ"

ตรงฉัตรอุทานตกใจ สาวใจแตกยั่วโมโหอีกแล้ว หล่อนถือดีได้ใจว่าตอนนี้ไม่มีใคร จู่ๆ ก็เลื่อนมานั่งตักคล้องคอฉับ ยื่นหน้ากับปากมาทำท่าจะจูบ

เขาเบี่ยงหนี ใจก็อึดอัดรำคาญ ไม่ชอบการแนบชิดแบบจู่โจมแบบนี้เลยจริงๆ ให้ตายเถอะ นี่ถ้าเปลี่ยนเป็นปัญปัทม์ละก็ เขาจะไม่บ่นสักคำ

แล้วทันใดนั้น ใจอึดอัดรำคาญก็พลันสะท้านขึ้น กระแสคลื่นวาบหวามซัดสาดรุนแรงเพียงแค่นึกถึงทนายสาวนิสัยทะเล้นแวบเดียวเท่านั้นเอง

มันไม่ควรเกิดปฏิกิริยาแบบนี้บ่อยเกินไป แต่มันก็เกิดแล้วจริงๆ คิดถึงก็บ่อยด้วยนะ สมองว่างเมื่อไหร่ เงาของเธอจะกระจ่างขึ้นมาเลย เขาไม่โทษเธอหรอก นิสัยบ้าๆ บอๆ ก็ไม่โทษ เพราะต้นตอความผิดจริงๆ มันอยู่ที่ 'จูบโจร'

"ถ้าไม่ลงจากตักผมเดี๋ยวนี้ ระวังผมจะด่า"

"ก็ด่าสิ พลิ้วชินแล้ว พี่ตรงด่าเก่งกว่าพี่นาอีก ในสายตาของพี่ตรง เหมือนพลิ้วไม่มีอะไรดี เข้าข่ายสู่รู้ทั้งที่ไม่เคยลองนะนี่"

"ให้ใครลองไปบ้างแล้วละครับ ลงไป รำคาญจริง"

พลิ้วแพรหัวเราะร่วน ไม่โกรธที่โดนผลักหยาบจนร่างร่วง เขาลุกย้ายไปนั่งเก้าอี้ตัวโน้น มันช่วยอะไรได้หรือ แค่ว่าหล่อนลุกตามไปนั่งคร่อม ทุกอย่างก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม

นึกแล้วก็น้อยใจเป็นบ้า ทำไมเขาชอบขัดใจขัดขืนก็ไม่รู้สิ หนุ่มฝรั่งทางโน้นไม่ต้องรอให้หล่อนนั่งตักก็รี่เข้ามาเสนอตัวเป็นทาสพิศวาสแล้ว

ตรงฉัตรทำให้หล่อนเข้าใจสำนวนไทยบางสำนวนที่ว่า 'ไก่ได้พลอย' หรือไม่ก็ 'ใกล้เกลือกินด่าง' ผู้หญิงเพียบพร้อมอย่างพลิ้วแพรคนนี้ มันมีให้เจอเยอะเสียที่ไหน

"คุณพลิ้ว จะกินไหม ถ้าไม่กินก็โยนทิ้ง แล้วคุณก็กลับบ้านไปเลย กลับไปนั่งคุยนอนคุยกับคุณนาบ้าง เธอคิดถึงคุณมาก และผมกล้ารับรองเลยว่ามากกว่าใครทั้งหมด"

พลิ้วแพรทำหน้าเมื่อย หล่อนเพิ่งลุกขึ้น ไม่ทันได้ก้าวขาเลย เขาก็โพล่งดักคอตาแข็งขึ้นมาเชียว หวงตัวไม่เข้าท่า จูบขยี้ของหล่อนเมื่อหลายปีก่อน เขาคงลืมไปแล้วละสิว่ามันเร่าร้อนน่าประทับใจแค่ไหน หล่อนก็แค่จะรื้อฟื้นสักนิดหน่อย

"ยกเว้นพี่พันศิลป์" หล่อนนั่งลงแล้วเถียง "เขาดีที่สุด รักและเอ็นดูพลิ้ว ตามใจพลิ้ว ไม่ว่าพลิ้วอยากได้อะไร ก็ไม่เคยขัด ขอเงินไปสิ เท่าไหร่ก็เท่ากัน ไม่เคยถามเลยว่าพลิ้วจะเอาไปทำอะไร แต่พี่นา.. "

"ผมยืนยันและยื่นคอให้ตัดได้เลย ในโลกนี้ไม่มีใครรักและหวังดีต่อคุณพลิ้วเท่ากับคุณนา"

หนุ่มสาวสบตากันอย่างท้าทาย ตรงฉัตรสะดุดใจนิดหน่อย ประกายแปลกๆ มันส่องวูบวาบออกมาจากตาเจ้าชู้ เขาไม่แน่ใจว่าพลิ้วแพรกำลังคิดอะไรอยู่ หล่อนคงเดาใจถูกกระมัง ถึงได้เฉลยข้อกังขาด้วยเสียงต่ำๆ กึ่งจับผิดว่า

"ออกหน้ารับประกันเสียงมั่นเสียงแข็งแบบนี้ จะให้เข้าใจว่ายังไง เป็นชู้กันจริงตามข่าวที่ลือหรือ"

"คุณรู้เหมือนกันหรือ"

"รู้สิ พลิ้วไม่ใช่คนหูหนวกตาบอดนะ ก็ไม่ใช่เพราะเหตุผลนี้หรือ พลิ้วถึงร้อนใจอยากให้เราแต่งงานกันเร็วๆ นี่เกรงใจพี่พันศิลป์หรอกนะ เขาให้ชะลอๆ ไว้ก่อน"

"ถ้าคุณเชื่อคำแนะนำของเขา ก็ควรเชื่อให้ตลอดไป ไม่ควรพาตัวมาคลอเคลียใกล้ชิดจนเกินงาม ผมผู้ชายไม่เสียหาย แต่คุณพลิ้วจะถูกมองว่า.. "

"ไม่สนย่ะ"

ตรงฉัตรเงยหน้า วูบหนึ่งก็รู้สึกเหมือนโดนเงาประหลาดเคลื่อนลงทับว่องไว เขาสะดุ้งนิดหน่อยแต่ปากสวยก็สูญเสียไปให้กับจูบขโมยเรียบร้อยแล้ว

ดูแล้วตลกมากที่ฝ่ายชายดิ้นรนฮึดฮัด ทำท่าขัดขืนเหมือนว่าตนถูกลวนลาม ส่วนฝ่ายหญิงก็ฮึกเหิมว่าตนใจกล้าสวนกระแสหญิงไทย

ไม่เพียงปราดมานั่งคร่อมตักใหญ่ จูบขยี้ในอดีตก็ประกบฉับแบบไม่ให้ฝ่ายชายได้ทันตั้งตัวปัดป้องกันเลยทีเดียว มือไม้ก็ว่องไวด้วยนะ ไม่ทันไรก็ปลดกระดุมเสื้อพ่อหนุ่มได้ตั้งสองสามเม็ด

"บ้าชัดๆ " ตรงฉัตรสบถหัวเสีย เขาผลักสาวใจแตกไปหล่นตุบบนโซฟา เช็ดปากแรงๆ สะอิดสะเอียนจูบร้อนๆ ที่ยังแผ่ไอฉ่าๆ

"เราจะแต่งงานกันในอีกสามเดือนข้างหน้าอยู่แล้ว ทำเป็นหวง เอ๊ะ หรือถ้าหากว่าพี่ตรงอยากพิสูจน์ว่าข่าวลือมันไม่จริง เราก็แต่งให้เร็วขึ้นดีไหมคะ อ้าว พี่ตรง พี่ตรงจะไปไหนน่ะ พี่ตรง"

พี่ตรงไม่สนใจฟังอะไรอีกแล้วล่ะ อยากตะโกนอะไรก็เชิญตามสบาย กระชากประตูเปิดได้ก็พรวดออกไปจ้ำอ้าวไม่เหลียวหลัง

เขาจะกลับบ้าน ถ้าไม่เจอณพนาในห้องโถงหรือห้องทำงานก็แล้วไป แต่ถ้าเจอแล้วเจ้าตัวเจรจายียวนละก็ เขาจะระเบิดอารมณ์ใส่ให้สาแก่ใจ ถ้าไฟโกรธไม่ดับ เขาจะไม่หยุด

ใช่ พ่อเลขาเนื้อทองโกรธมากเลยที่สาวใจแตกฉวยโอกาส เขาเกลียดจูบสกปรกและทุกสัมผัสหื่นที่สารภาพแรงกระหายในกาม พลิ้วแพรเป็นผู้หญิงไวไฟน่ารังเกียจ เขาไม่เคยชอบหล่อนเลย รักและเอ็นดูอย่างน้องนุ่งก็ไม่เคย

มันน่าเสียดายและน่าแค้นใจฟ้าชะมัดว่าทำไมไม่ดลใจให้พันศิลป์หลงรักแม่หนูดัดจริตในวันวานแทนการหลงใหลและอยากเอาชนะคนเป็นพี่ที่ไม่ว่าจะวันวานหรือวันนี้ก็ยังเป็นฝ่ายครองความสวยและสง่างามดั่งนางพญาตลอดกาล

เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น เกมรักแกมแค้นระหว่างสามีภรรยาก็จะไม่เริ่มต้นขึ้น ซ้ำยังยาวนานจนเดาไม่ได้ว่าคู่เล่นจะเลิกราหรือคว่ำกระดานกันเมื่อไหร่ แล้วเขาก็ไม่ต้องมาตกที่นั่งเป็นเหยื่อกระหายกามของสาวใจแตกในคืนโน้นกับคืนนี้ด้วย




ระหว่างทางกลับบ้าน บนถนนสายหลัวและโล่ง รถยนต์คันเก่งของตรงฉัตรพุ่งทะยานฉิวๆ ตามแรงโทสะของคนเหยียบคันเร่ง เขาอยากเฉือนปากทิ้ง สะอิดสะเอียนว่าโดนประทับด้วยจูบสกปรก

พลิ้วแพรเป็นสาวใจแตก ตอนอยู่เมืองนอกก็ไม่แน่ว่ามั่วหนุ่มฝรั่งนับหน้าถ้วนหรือเปล่า ใจมันปวดยังไงก็ไม่รู้เพียงแค่จินตนาการว่าพี่สาวเสียใจจนฟุบลง ณพนาต้องอ่อนแรงและอยากตายทีเดียวถ้ารู้ความจริงว่าแม่ยอดชู้เรียนไม่จบ ส่วนเหตุผลก็สวะสิ้นดีคือ 'ไม่เรียน'

รถจอดพรืดข้างทางเรียกฝุ่นตลบเล็กน้อยยามวิกาล อ้อ เสียงเอี๊ยดพอประมาณด้วย ตรงฉัตรถอนใจแรงๆ เขาอารมณ์ไม่ดี แต่ปัญปัทม์ก็จำเพาะต้องโทรมากวนประสาท

อันที่จริง เขาจะไม่รับสายก็ได้นะ แต่ระดับของความฉุนเฉียวมันพุ่งปรี๊ดก็เพราะเหตุผลนี้แหละ เขาเป็นอะไรก็ไม่รู้ 'ตัดใจไม่ได้'

"สวัสดีครับคุณปัญปัทม์ ก่อนที่คุณจะพล่ามน้ำท่วมทุ่งตามปกติ ผมต้องแจ้งให้ทราบก่อนว่าผมอารมณ์ไม่ดีมาก ความอดทนในการฟังจะลดลง ผมอาจเสียมารยาทตัดสายก่อนคุณพูดจบก็ได้"

"ฉันมีเรื่องสำคัญค่ะ สำคัญมาก ระดับสุดยอดของความซับซ้อนที่ฉันเองก็นึกไม่ถึงว่าจะได้มาเจอ มันมหัศจรรย์มากเลยคุณตรงฉัตร ฉันขอเอาชีวิตเป็นประกัน คุณต้อง.. "

"คุณปัญปัทม์"

"คุณต้องตื่นเต้นมากยิ่งกว่าฉัน แต่ก็หนีไม่พ้นภาวะจำเลย คุณต้องอธิบาย ต้องชี้แจง ต้อง อ้าว เอ๊ะ ทำไมสายหลุด คุณตรงฉัตร คุณตรงฉัตร เฮ้ย นี่มันบ้าชัดๆ เลย คุณตัดสายตอนเข้าด้ายเข้าเข็มไม่ได้นะ"

ความล้มเหลวเกิดขึ้นแบบถาวรไปจนเช้าแน่แล้ว เพราะตรงฉัตรปิดเครื่องไปเลย เธอโรคประสาทและกวนโมโห เขาอุตส่าห์แจ้งก่อนแล้วไม่ใช่หรือว่าเขาอยู่ในอารมณ์ไหน แต่เธอก็ยังยืนกรานพิสมัยพล่ามน้ำท่วมทุ่งไม่เปลี่ยนเลย

หลายๆ ประโยคพวกนั้นมันบอกจุดประสงค์อะไรได้บ้างหรือ ไม่มีหรอก เขาต้องรอจนเธอพล่ามจบลงเสียก่อน ซึ่งเขาก็แจ้งไปแล้วเช่นกันว่ายังมีอยู่ แต่มันจะ 'ลดลง'

รถที่จอดนิ่งไม่ถึงสิบนาทีเคลื่อนตัวเนิบช้าและทิ้งถนนสายนั้นไว้กับความวังเวงต่อไป โทรศัพท์อีกเครื่องดังขึ้นเมื่อเขาชะลอจอดตรงสี่แยกและรอสัญญาณไฟ เขาเสยผมแล้วค่อยๆ ผ่อนลมหายใจ หลับตานิ่งๆ

เขาเคยโกรธมากแบบนี้ตอนถูกจูบครั้งแรก โกรธนานเป็นเดือนกว่าจะสลัดความทรงจำบัดซบออกไปได้ หรืออาจเป็นเพราะว่าเจ้านายสาวใหญ่กำลังเจอมรสุมหนัก เขาจึงลืมมันไปเลยอย่างไม่รู้ตัว

แต่คืนนี้ พลิ้วแพรก็ช่างร้ายกาจที่มารื้อฟื้น ทำให้เขาต้องเห็นภาพเพลี่ยงพล้ำเก่าๆ ในซอกมืดและอยู่ห่างจากบริเวณงานเลี้ยงส่งคืนนั้นไม่ไกลนัก

"ทะเลาะอะไรกับแม่ยอดชู้ของฉันยะ อาหารที่ซื้อเข้าไปก็ไม่ยอมแตะ นายทำแบบนี้หักหน้าน้องของฉันนะ นึกถึงตอนที่น้องตระเวนขับรถหาซื้อของโปรดตั้งหลายอย่างของนายบ้างสิ น้องเหนื่อยนะ"

เจ้านายสาวใหญ่กรอกเสียงแว้ดๆ เขานิ่วหน้าและเบนออก พลิ้วแพรโกหกเก่ง ปั้นน้ำเป็นตัวก็เก่ง พันศิลป์รู้ทันหล่อน แต่เพราะหล่อนคือเครื่องประหารพี่สาวได้ คนเลวจึงทำทีเป็นพี่เขยหน้าโง่ยอมควักกระเป๋าแจกเงินให้น้องสาวภรรยาถลุงเล่นอย่างเปรม

อีกคนหนึ่งที่รู้ทันหล่อนก็คือเขา แต่จะให้ทำยังไง ในเมื่อเขาพยายามจะบอกแล้ว แต่พี่สาวคนดีก็ปิดหูปิดตาอย่างดื้อรั้นเสียขนาดนั้น แล้วนี่ยังไงล่ะ ผลของความพยายาม โดนเสียงแว้ดๆ กระแทกแก้วหูแทบแตก

"คุณนา ถ้ายังไม่เลิกแผดเสียง ผมจะปิดเครื่อง"

"ก็ลองดูสิ ถ้านายกล้ากำแหง ฉันจะขับรถออกไปหานาย จะพุ่งเข้าชนสั่งสอนให้รู้เสียบ้างว่าอย่ามากำเริบ"

"เอ.. ผมกำเริบอะไร ผมแค่ขอความร่วมมือ ผมปวดหู"

"เป็นอะไร"

"เอ้า ก็บอกว่าปวดหู"

"นายตรง"

"เอาละครับ นี่ผมกำลังเลี้ยวเข้าซอยบ้านแล้ว คุณนารอในห้องโถง"

"ไม่ต้องมาสั่ง ฉันจะไปรอในห้องทำงานย่ะ"

แล้วเขาก็หัวเราะระอาออกมาจนได้ ณพนาน่าเวทนาจัง หล่อนไม่มีทางออกของปัญหา ความเครียดมากมายทับถมและสุมอยู่ในสมองเล็กๆ เขาต้องเป็นฝ่ายยอมเพื่อให้หล่อนระบายอารมณ์ไหนก็ได้ ขอแค่ว่ามันจะช่วยให้หล่อนปลอดโปร่งใจขึ้นสักเล็กน้อย

การต่อสู้อย่างโดดเดี่ยวมันอาจทำให้ณพนาถูกมองว่าเก่งและแกร่ง แต่สิ่งที่หล่อนปรารถนามากที่สุดก็คือมีใครสักคนรู้ความจริงว่าหล่อนเป็นผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่ฟ้าไม่ได้ให้อะไรมามากนักตอนส่งลงมาเกิด นอกจาก 'อาภัพ' กับ 'น่าสงสาร'

มันอาจจะเป็นความรู้สึกส่วนตัวของตรงฉัตรฝ่ายเดียวก็ได้ เพราะในสายตาคนอื่นมองเจ้านายสาวใหญ่ของเขาต่างออกไป

ณพนาโชคดีมากเลย เกิดมาบนกองเงินกองทอง บิดาเป็นนักธุรกิจมีชื่อเสียง หล่อนสวยมาก สง่างามเหมือนนางพญา มีชายมากมายปรารถนาเป็นคู่ชีวิต แต่ก็อกหักยับเยินเพราะหล่อนไม่เล่นด้วย

ทุกคนอิจฉาพันศิลป์ว่าเขาเป็นชายคนเดียวที่สมหวัง โดยไม่เคยรู้เลยว่าจริงๆ แล้วหล่อนก็ไม่เล่นด้วยกับสามีคนนั้นเช่นกัน

แต่นี่แน่ะ ในขณะที่เขาหัวเราะระอา ขับรถช้าลงเพราะเข้าซอยใหญ่และมีรถวิ่งสวนมาสองสามคัน เขาจะไม่เห็นหรอกว่าในโรงแรมแห่งหนึ่งกลางเมืองประจวบ สาวทนายจอมห้าวกำลังเดินงุ่นง่านฉุนเฉียว

เธอเคืองจัดเลยที่เขาทำลายโอกาสเข้าด้ายเข้าเข็ม เธอพูดไม่ผิดหรอก มันเป็นโอกาสสำคัญมากที่เขาน่าจะได้รับรู้ แต่ก็ 'ไม่รู้'

"แล้วนี่เราจะเอายังไงดีวะ"

อย่างประโยคนี้ ปัญปัทม์งึมงำหน้ากระจก เธอถลึงตาใส่เงาตัวเองในนั้น แล้วสุดท้ายก็นั่งพรืดลงกลางพื้นที่เดินย่ำไปย่ำมานั่นแหละ ตรงฉัตรไม่เห็นภาพพวกนี้หรอก ถ้าเห็นก็อาจมียิ้มเอ็นดูตามด้วยวาบหวามในร่างกายนิดๆ  

"หรือว่าจะลองลุยดู ไอ้ปัทม์มันเคยลุยหลายงานแล้วนี่หว่า ก็รอดตัวมาได้ทุกครั้งนี่"

ประโยคนี้ ตรงฉัตรก็ไม่ได้ยินอีก มีอยู่เหตุผลหนึ่งล่ะ ที่ทำให้สาวทนายจอมห้าวลังเลก็คือสถานที่ เมืองประจวบไม่ใช่ตรอกซอยในบ้านที่เธอคุ้นเคยมาตั้งแต่เกิด ผู้คนมากมายก็ไม่ใช่คนที่เคยรู้จักและเข้าใจนิสัยประหลาดๆ ของเธอ

หากผลีผลามส่งเดช เธออาจกลายเป็นผีไร้ญาติที่นี่ แล้วถ้าตกอยู่ในสภาพนั้นจริงๆ มันก็คงไม่ต่างอะไรกับใครบางคนที่เธอเจออย่างไม่คาดฝัน นี่ล่ะ ตรงนี้ล่ะ ที่เธอใช้คำว่าเข้าด้ายเข้าเข็ม และตรงฉัตรก็ตัดโอกาสตัวเอง

มันน่าเสียดายมากเลยใช่ไหม ถ้าปัญปัทม์จะโทรมาให้เร็วขึ้น อย่างน้อยก็ก่อนที่เขาจะโดนลวนลาม เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น ป่านนี้ เขาก็คงตกตะลึงอึ้งทึ่งแต่เสียวหรือเปล่าอันนี้เดายาก เพราะความหมายของคำว่าเข้าด้ายเข้าเข็ม มันมีชื่อว่า 'เชิญจุฑา'




ในห้องอาหารที่เคยสงบทุกเมื่อเชื่อวัน มีเพียงเจ้านายเลขาดื่มกาแฟกันไปเงียบๆ โจ๊กรสเลิศแค่ไหนก็มักจะถูกเมิน อาหารเช้าจัดมาอย่างสวยแค่ไหน บางวันก็แทบไม่ได้เฉียดเข้าไปในเงาตา คนสองคนดื่มกาแฟหมดถ้วยก็ทิ้งมันไป

สำหรับเช้าวันนี้มันต่างออกไปโดยสิ้นเชิงด้วยฝีมืออาละวาดของพลิ้วแพร หล่อนตบโต๊ะปังจนแก้วกระดอนช้อนกระเด้ง เสียงเคร้งกริ๊กครืนดังพร้อมเพรียง ไม่ต้องแยกเสียงนะ เพราะแยกหรือไม่แยกมันก็คือเสียงที่ดังโดยไม่จำเป็น

"เราต้องคุยกันให้รู้เรื่อง ไม่อย่างนั้นวันนี้ทั้งพี่นาพี่ตรงไม่ต้องไปทำงาน"

"คุณนาไม่ไปไม่เป็นไรหรอกครับ"

"พี่ตรงไม่ไปก็ไม่เป็นไรค่ะ"

พลิ้วแพรปราดไปประจันขวางหนุ่มในดวงใจ เขาลุกขึ้นเลย กาแฟแตะถึงปากแล้วก็ไม่ดื่ม วางลงเหมือนประกาศตัวว่าขอท้าทายความปรารถนา

หล่อนยอมเขามาหลายปีแล้วนะ ตอนเรียนอยู่เมืองนอก โทรมาทีไร เขารับสายแกนๆ บางทีก็ต้องเข้าทางพี่สาวให้ช่วยบังคับ คุยกันสักประโยคสองประโยค เขาก็ดีแต่สอนนั่นสอนนี่ ติโน่นตินั่น หล่อนไม่เคยดีในสายตาเขา แต่เขาก็รับปากว่าจะแต่งงานหล่อนแล้วไม่ใช่หรือ
 
"เป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า ไม่เข้าใจหรือคำว่ารักษาสัจจะน่ะ"

"น้อง กินอะไรก่อนดีไหม" ณพนาไม่อยากออมชอมหรอก แต่จำเป็น "เมื่อคืนน้องกลับมาตอนตีสามแล้วนะ พี่ได้ยินน้องบ่นว่าหิว อาหารที่ซื้อไปกินกับนายตรงก็เป็นหมันไม่ใช่หรือ"

"ใช่" น้องก็แว้ดมาตาดุตาวาวเลย "สั่งสอนอบรมลูกน้องยังไงล่ะ ถึงได้ก้าวร้าวกับน้องสาวเจ้านายได้ขนาดนี้ ฟังให้ดี พลิ้วต้องการหมั้น ต้องประกาศให้ชาวบ้านรู้ว่าเราเป็นคู่หมั้นกันแล้ว พี่พันแนะนำมาบอกว่าตัดไฟแต่ต้นลม"

เจ้านายเลขามองตากันแวบหนึ่ง พันศิลป์เล่นเกมอะไรอีกหรือ พลิกฉับไวไล่ไม่ค่อยทัน ณพนาลอบกำหมัดอยู่บนตัก เลขาเนื้อทองสาวเท้าหนีทันที เขาเบื่อจะทะเลาะกับพลิ้วแพร แต่ก็น้อยกว่าเมื่อนึกว่าตนต้องไหลไปตามเกมเลวของฝ่ายตรงข้าม

"อย่าเพิ่งไป" พลิ้วแพรแหว แล้วปราดไปลากแขน ดึงกลับมานั่งแหมะข้างพี่สาว "พลิ้วยังไม่ได้คำตอบ นี่ถ้าไม่เกรงใจว่ารับปากพี่พันไปแล้วละก็ พลิ้วจะเจาะคอหอยให้คายออกมาให้ได้เลยว่านังลึกลับนั่นเป็นใคร มันกล้าดียังไงถึงได้คิดจะเป็นคู่แข่งกับพลิ้ว แย่งพี่ตรงของพลิ้วไป"

"หรือครับ แล้วพี่พันเขาอ้ำอึ้งไว้ทำอะไร อยากวัดกึ๋นคุณพลิ้วหรือยังไง"

"พี่ตรง"

"แหกปากแบบนี้ กลบเกลื่อนว่าไม่เข้าใจความหมายของคำว่ากึ๋นใช่ไหม หมายถึงระดับสติปัญญาน่ะ"

"นายตรง จะมากไปแล้วนะ น้องฉันโง่ตรงไหนยะ จบนอกนะยะขอบอก" พี่สาวแหวเถียงช่วยแม่ยอดชู้

"ไปหยิบใบปริญญามาซิคุณพลิ้ว ผมจะช่วยขยายมันให้ใหญ่ๆ สั่งทำกรอบเป็นพิเศษ แล้วตั้งให้เด่นๆ ตรงปากทางเข้าบริษัท อาจต้องจ้างยามเพิ่มอีกคนมาช่วยดูแล เกรงว่าจะมีคนมาปล้น ความรู้จากเมืองนอก มันหาไม่ได้ง่ายๆ "

"พี่ตรง"

"นายตรง"

"ผมจะไปทำงาน" ตรงฉัตรตัดบทเสียงเข้มและเฉียบ "พี่น้องกันแข่งกันเองเถอะ ให้เด็กๆ ในบ้านช่วยกันตัดสินว่าใครเสียงดังกว่า รู้ผลแพ้ชนะแล้วโทรบอกทางโทรศัพท์ก็ได้ อยากได้ของขวัญรางวัลอะไรก็ระบุไป ผมจะไหว้วานคนที่บริษัทช่วยออกไปซื้อหามาให้ พอใจในการจัดการของผมก็ปรบมือ ไม่พอใจก็กรี๊ดได้ เริ่มเลย"

เด็กๆ ในบ้านสองสามคนซุ่มหลบสงครามอยู่ตรงมุมหนึ่ง พอสิ้นเสียงทุ้มเข้มเท่านั้นแหละ เสียงแว้ดแผดแปดหลอดก็ดังพร้อมเพรียงทันอกทันใจทีเดียว

ส่วนพ่อหนุ่มผู้จุดชนวนคลื่นเสียงน่ะหรือ โน่นแน่ะ ปลิวลิ่วๆ ไปขึ้นรถสบายใจเฉิบแล้ว ไม่ได้สำนึกเลยว่าตนทิ้งปัญหาใหญ่ให้เด็กๆ ต้องหาทางสะสางกันเอง ด้วยวิธีเกี่ยงกันไปเกี่ยงกันมา ทำนองว่า 'เธอนั่นแหละ เธอเข้าไปก่อนสิ'

จากคุณ : รัชนีกานต์
เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 09:10:33




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com