หมายเหตุ ผมเคยพบกับผึ้งป่าแบบใกล้ชิดสามครั้งคือ
ครั้งแรก ตอนเด็ก ๆ ผึ้งป่าย้ายรัง มาเกาะรออยุ่ที่ต้นน้อยหน่าหลังบ้าน เป็นกลุ่มก้อนใหญ่ ไม่นาน มีเด็กอีกคนเอาหินปาใส่ ฝูงผึ้งทั้งฝูงบินโฉบหนีไปทีอื่น ปรากฎว่าผมถูกผึ้งหลงตัวหนึ่ง(ตัวเล็กมาก) ต่อยเข้าที่ใบหน้าหนึ่งครั้ง (ไม่เจ็บมากนัก)
ครั้งที่สอง ที่วัดปากน้ำภาษีเจริญ หาดใหญ่ ฝูงผึ้งมาทำรังบนชายคาศาลาอุโบสถวัด ไม่นานผึ้งตกลงมาตายเรื่อย ๆ จนสุดท้ายกลายเป็นรังผึ้งร้าง ถามพระภิกษุหลังจากผมสึกไปไม่นานนัก ทราบว่าน่าจะตายกับยาฆ่าแมลง หรือยาฆ่ายุงของเทศบาล ที่ใส่เครื่องพ่นแบบหมอกควันมีควันสีเหลือง กลิ่นค่อนข้างฉุนเฉียวมากเวลาสูดดม เพราะขนาดแมลงสาบที่หลบซ่อน อยู่ตามท่อยังบินออกมาตายจำนวนมากเลย
ครั้งที่สาม ที่กงสียางพาราแถวบ้านในคลองแงะ เห็นทั้งฝูงเกาะตรงกันกรอบหน้าต่างบ้านที่เป็นที่เก็บของ ยืนดูใกล้ ๆ ก็ไม่มีอาการดุร้ายหรือไล่ต่อยแต่อย่างใด
ส่วนที่เลี้ยงผึ้งขายที่ฟาร์มผึ้งแคแมรอน-มาเลย์ เคยไปเยี่ยมชมหลายครั้งแล้ว เพราะทัวร์มักจะพาเข้าไปชมเป็นประจำ จะเน้นการขายน้ำผึ้งและส่วนผสมอื่น ๆ มากกว่าการแสดงโชว์หรือสาธิต มีภาพต่าง ๆ นำเสนอมากกว่า
แถวบ้านเพ็ดน้อย อำเภอประทาย สมัยก่อนกันดารมาก ร้านชำในหมู่บ้านก็ไม่มี เซ่เว่นส์ยังไม่มีต้องไปที่ตัวอำเภอ อาหารก็กินแบบชาวบ้าน ทางเข้าออกหมู่บ้านยังเป็นดินลูงรักฝุ่นตลบ มีรถยนต์กะบะหลังคาไม้เข้าออกเมือง ไปกลับวันละหนึ่งเที่ยวเท่านั้น
ออกแต่เช้าถึงอำเภอเกือบสิบเอ็ดโมง กลับเข้าหมู่บ้านประมาณบ่ายโมงเศษถึงบ่ายสองโมงเศษ กว่าจะถึงหมู่บ้านถ้าหน้าแล้งก็ก่อนห้าโมงเย็น แต่ถ้าหน้าฝนถนนลื่นเข้าออกลำบาก ชาวบ้านบอกว่าเผลอ ๆ นอนกินข้าวลิงกัน หมายถึง หาอาหารการกินข้างทางมากิน หรือกินเสบียงอาหารที่ตระเตรียมมาแทน เพราะรถยนต์วิ่งไม่ไหวฝนตกถนนลื่นเป็นหลุมเป็นบ่อมาก
ยังจำได้ว่าหน้าแล้ง ตามท้องทุ่งนาจะมีสีขาว ๆ โผล่ขึ้นเป็นหย่อม ๆ ชาวบ้านบอกเอาไปละลายน้ำ แล้วกรองสิ่งสกปรกออกมา ตากให้แห้งจะได้เกลือสินเธาว์มาใช้งาน
ส่วนที่สะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา จะมีผึ้งอีกประเภทหนึ่งเรียกว่า อุง หรือบางแห่งเรียกว่า ชันโรง มีขี้ผึ้งเหมือนกับประเภทชันยาไม้ สามารถใช้ประโยชน์ได้ มีน้ำผึ้งจำนวนหนึ่งแต่น้อยมาก ใช้ประโยชน์มากคือ ขี้ผึ้งส่วนนี้
ลุงลัภย์เล่าให้ฟังตอบจบหลักสูตรว่า อาจารยประดับ แจ่มแสง ต่างให้ทุกคนหาดอกไม้ธูปเทียน ทุกคนต่างต้องเข้าไปในวิหาร กราบไหว้พระประธานวัดเทพชุมนุม ที่บ้านพรุ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พร้อมกับท่องคำสาบานว่า ข้าพเจ้าขอสาบานกับหลวงพ่อว่า จะไม่ค้าขายหรือปลอมปนน้ำผึ้งขายโดยเด็ดขาด ถ้าทำการดังกล่าวขอให้ไม่เจริญรุ่งเรือง มีอันเป็นไปในสามวันเจ็ดวันเทอญ
เพราะการปลอมปนขายน้ำผึ้งทำได้ง่ายที่สุด ด้วยการเคี่ยวน้ำหวานให้เข้มข้น ผสมพวกแบ๊ะแซหรือสีผสมอาหาร ให้ออกดำหรือเหนียว ๆ ข้นมาก ใส่ขวดขายตามบ้านหรือมีการแปะรังผึ้งไว้โชว์
มีเถ้าแก่เจ้าหนึ่งในหาดใหญ่ ที่มีคนเล่าให้ลุงลัภย์ แล้วแกมาเล่าต่อให้ฟังว่า เถ้าแก่คนนี้จะว่าจ้างกลุ่มคนอีสาณสมัยก่อน ทำตัวแบบชาวบ้านที่รับจ้างตัดปาล์มแถวควนกาหลง หรืออยู่ในนิคมควนกาหลง
ให้จัดอีเวนส์ Event เพื่อสร้างการขายขึ้นมา ทำเป็นเดินเป็นกลุ่ม ๆ สามสี่คน เดินออกมาจากป่าเขาแถวสตูล มาขายน้ำผึ้งในตลาดหรือบนถนนสายใหญ่ ที่มีรถยนต์วิ่งผ่านไปมา พร้อมกับอุปกรณ์รังผึ้งป่าประดับส่วนหนึ่ง
ส่วนน้ำผึ้งก็เคี่ยวมาจากน้ำตาลทราย หรือน้ำตาลขี้ม้า (น้ำตาลก้อนที่มีเม็ดสีน้ำตาลจำนวนมาก) ผสมกับแบะแซให้เหนียวข้นกว่าปกติ พร้อมกับเติมกลิ่นหรือผสมน้ำผึ้งบางส่วนลงไป เวลาเทน้ำผึ้งจะไหลย้อยช้ามาก แม้ว่าบางทฤษฏีอ้างว่าใช้กระดาษทิซซู่ หรือการเทลงในน้ำเปล่าทดสอบได้
แต่ลุงลัภย์บอกไม่มีทาง เว้นแต่มืออาชีพจริง ๆ ระดับเทพมารอสูรของวงการแล้ว จึงจะดูออกหรือชิมได้ว่าแท้หรือปลอมปน คนทั่ว ๆ ไป ต่อให้ชิมให้หมดขวด หรือเททดสอบให้หมดขวด ไม่มีทางรู้เลยว่าจริงหรือปลอม
เหมือนกับที่ชาวบ้านมักจะพูดกันว่า ทางใครทางมัน อาชีพใครอาชีพมัน วงการใครวงการมัน อย่าล้ำเส้นกัน ความเก่งกาจสามารถกับการเรียนรู้ต่างกัน ตัวอย่าง การดูพระเท้หรือพระปลอม ต่อให้ใช้กล้องส่องทั้งวันยังยากแยกแยะ ว่าองค์ไหนจริงองค์ไหนปลอมมา ต้องหลงใหลและศรัทธาอย่างลึกซึ้ง จึงจะเข้าใจถึงความแตกต่างเรื่องนี้ได้
ลุงลัภย์ยังเคยไปเอารังผึ้งหลวง ที่ไปทำในชายคาบ้านของเพื่อนแก ที่หาดใหญ่ได้น้ำผึ้งจำนวนหกขวด พอได้เสร็จบอกเสียดายรู้อย่างนี้ปล่อยไว้ดีกว่า แต่สุดท้่ายต้องยอมเปลี่ยนใจ เพราะเกรงว่าจะมีอันตรายกับเด็กและคนแถวบ้าน
ส่วนเมื่อสองอาทิตย์ก่อน ผมเข้าไปเยี่ยมเพื่อนช่างไม้ที่ มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งแรกของภาคใต้ แกเล่าให้ฟังว่าสองวันก่อนพึ่งจะถูกผึ้งหลวงต่อย ตอนแกไปตัดหญ้าด้วยเครื่องตัดหญ้า ด้านล่างต้นไม้ที่ผึ้งหลวงมาทำรังอยู่ ไม่มีเหตุการณ์ผิดปกติแต่อย่างใด
แต่ทันใดนั้นโชคร้ายกิ่งไม้หักหล่นใส่รังผึ้งหลวง ผึ้งเลยไล่ต่อยแกไปตลอดทาง ครั้งแรกแกกะจะวิ่งเข้าไปที่ตึกหลังหนึ่ง ให้ยามช่วยฉีดน้ำยาดับเพลิงใส่ตัวแก แต่ยามไม่ทราบว่าไปไหน
เลยต้องวิ่งพลางเดินพลางปัดหน้าไปพลาง เพราะเ่ริ่มไร้เรีี่ยวแรงในการป้องกันตัวแล้ว จนถึงอีกหน้าอาคารประมาณร้อยกว่าเมตร นักศึกษาและคนงานวิ่งหนีกันหมด เพราะเห็นฝูงผึ้งบินห้อมล้อมไล่ต่อยแก
จนไม่นานลูกชายแกที่ทำงานที่เดียวกัน ขับมอเตอร์ไซด์พาแกนั่งแล้ว ขับหนีฝูงผึ้งไปอีกตึกหนึ่ง ผลต้องส่งโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ระหว่างทางถึงเหล็กไนของผึ้งได้ร้อยกว่าเข็ม ไปถึงโรงพยาบาลอีกร้อยกว่าเข็ม
หลังจากฉีดยาแก้แพ้หนึ่งเข็ม แล้วให้นอนโรงพยาบาลหนึ่งคืน วันรุ่งขึ้นหน้าตาค่อยหายบวมเป่ง กลับบ้านพักผ่อนได้อีกหนึี่่งวัน ดีทีแกไม่แพ้ไม่นั้นคงตายแล้ว
ไม่เหมือนคนแพ้พวกตัวต่อป่าหรือต่อหลุม ถ้าถูกเหล็กไนพวกนี้ต่อยใส่ โดนสองสามเข็มก็มักจะปวดแสบปวดร้อน บางคนที่แพ้อาจตายได้ง่าย ๆ หมายเหตุ ตัวอ่อนของต่อพวกนี้ รสชาติอร่อยมาก หากินยาแล้วตอนนี้ ร้านอาหารนาน ๆ จะมีมาขายสักที ราคาต่อจานค่อนข้างแพงเช่นกัน
มีข้อสังเกตจากคนที่ถูกตัวต่อต่อย ถ้าถูกบริเวณหนังศีรษะ บริเวณนั้นประมาณเหรียญบาท มักจะมีผมสีขาวขึ้นแทนผมสีดำ
สุดท้าย รังผึ้งหลวงในมหาวิทยาลัย ทางผู้บริหารตกลงกันว่า ให้ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ด้วยการจุดไฟรมควันไล่ แล้วทำลายทิ้งทั้งรัง ตัวอ่อนกับน้ำผึ้งพวกคนงานเอาำไปแบ่งกันกิน เพราะเกรงว่าจะทำร้ายกับนักศึกษาหรือคนงานภายหลัง
เขียนขึ้นจากความทรงจำเก่า ๆ ร่วมกันกับลุงลัภย์ ก่อนที่จะเลือนหายไปเหมือนฝูงผึ้งป่าในเมือง
ภาพประกอบจาก internet ผึ้งป่าที่ทำรังแถวชายคาบ้าน
แก้ไขเมื่อ 23 ธ.ค. 55 18:30:05
จากคุณ |
:
ravio
|
เขียนเมื่อ |
:
23 ธ.ค. 55 13:30:28
|
|
|
|