ตั้งแต่บัดนี้... ความภูมิใจที่เคยรู้สึกแบบวันแรกที่ไปโรงเรียน ขาดหายไปสิ้น..เหลือเพียงความอับอายในปมด้อยที่เพื่อนๆ ล้อ จนต้องหนีหายจากสังคมเพื่อนนักเรียน อย่างสิ้นเชิง... .....แล้วเจ้าขุนก็เริ่มต้นบทบาทของผู้สืบสาน ด้วยการเป็นลูกมือให้กับตาฉ่อย ตั้งแต่นั้นมา...
วันแดดบ่าย ระอุร้อน... ตาฉ่อยนั่งสูบยาเส้นบนเพิงหน้ากระท่อมปลายทุ่ง..บ้านทุ่งรี..ในวันนี้เปลี่ยนแปลงไปมา ผู้คนเริ่มแปลกหน้า.. .....สำนึกในอดีต วิ่งวนเข้ามาในห้วงคำนึงคิด...
....50 ปีก่อนนั้น บ้านทุ่งรี ยังแห้งแล้งมาก พื้นถนนยังเป็นดินแข็งแห้ง และจะกลายเป็นดินโคลนไปในทันทีที่ฝนตก ผู้คนมีเพียงแค่ไม่กี่ครัวเรือน.. เจ้าฉ่อยในตอนนั้น ดำเนินชีวิตสัปเหร่อต่อจากผู้เป็นพ่อ ตั้งแต่ยังเข้าสู่รุ่นหนุ่ม ..มันคือมาดกเพียงสิ่งเดียว ที่ตกทอดมาสู่..... ชีวิตวัยหนุ่มฉกรรจ์ของเจ้าฉ่อย ดำเนินเฉกเช่นชายหนุ่มทั่วไปในหมู่บ้าน...ทั้งหล้ายา สาโท และไก่ชน... ความคะนองคึกของวัยหนุ่ม ทำให้เจ้าฉ่อยพลาดท่าทำหญิงสาว หมู่บ้านข้างเคียงท้อง..... เมื่อกำลังเป็นพ่อคน เจ้าฉ่อยก็หันหลังให้สิ่งมอมเมาทั่งปวง ตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากิน แต่การศึกษาเพียงแค่ ป. 4 ทำให้เจ้าฉ่อยมีทางเลือกไม่มากนัก วิชาชีพจากบรรพบุรุษ จึงถูกสานต่อ ตั้งแต่นั้นมา..... เมื่อเสียสุดที่รักต้องจากไป หลังคลอดลูกสาวตัวน้อยเพียงไม่กี่วัน ด้วยสาเหตุ เพราะรกค้างในท้อง....มีเพียงหมอตำแยเท่านั้นในหมู่บ้าน ที่จะพึ่งพาได้.... แต่ทุกอย่างก็สายเกินไป....
น้ำตาลูกผู้ชายชื่อไอ้ฉ่อยไหลพราก ขณะมัดตราสังข์ให้เมียรัก...ความหม่นทุกข์ ทำให้ฉ่อยต้องหันเข้าหาเหล้า เป็นเพื่อนคลายเหงา...อีกครั้ง แต่ความรักห่วงหาอาวรณ์ลูกสาวตัวน้อยมีมากล้น เจ้าฉ่อยจึงกัดฟันกระเบียดกระเสียร ส่งให้เรียนในตัวเมือง เพื่อลูกสาวตัวน้อยจะได้เล่าเรียนสูงที่สุด เท่าที่เรี่ยวแรงจะพอมี เพียงเพราะต้องการให้ลูกสาวของตน มีชีวิตใหม่ที่ดีกว่า ไม่ต้องมาจมปรักอยู่ในวังวนแคบๆ ไร้อนาคต ในบ้านทุ่งรี...เช่นตัวเอง จนกระทั่ง เด็กหญิงตัวน้อย เติบโตกลายเป็นหญิงสาวหน้าตางดงาม... แม้ว่าตำนาน..ผู้สืบสาน.. ในอาชีพสัปเหร่อ..จะขาดหาย แต่เจ้าฉ่อยก็ยินดี...
จากคุณ |
:
Mareeraya
|
เขียนเมื่อ |
:
23 ธ.ค. 55 19:49:33
|
|
|
|