Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ยุ่งนักรักคนเสื้อกาวน์ บทที่ 26 รักโรแมนติกวงการแพทย์ คริสตี้จาง กับปันนา vs วิกรมกับฮ่าวหมิง vote ติดต่อทีมงาน

เสียงบรรเลงเพลงเปียโนดังแว่วกังวานมาจากโถงกลางห้องนั่งเล่น 
ปันนาชะงักเท้าที่กำลังเดินลงบันไดมา ตั้งใจฟังอย่างสนอกสนใจ
 
ใครมาเล่นเปียโนแต่เช้า
คงไม่ใช่เจ้าของบ้านนะ คนผีเข้าผีออกแบบนั้นไม่น่าจะมีหัวทางดนตรี 
 
ฟูร์ เอลิส เพลงแนวคลาสสิกที่ป๊อบที่สุดของ บีโธเฟ่น เป็นเพลงที่ไม่ยากนักแต่ก็ไม่ถึงง่่ายเสียทีเดียว หากก็เล่นกันแพร่หลาย
ฟังเผินๆก็ใช้ได้ จังหวะเร็ว ช้า ทำได้ต่อเนื่อง แต่คนเล่นเพลงนี้ได้ตั้งแต่ยังไม่ถึงเจ็ดขวบอย่างปันนา ฟังแล้วก็รู้ทันที
ผู้บรรเลงเพิ่งฝึกเปียโนมาไม่นาน การพรมนิ้วยังไม่ลื่นไหลพริ้วไหวเท่าที่ควร จังหวะช้าเร็ว เบา แรง ยังเกาได้ไม่ดีนัก
 
หญิงสาวเดินลงมาตั้งใจจะดูเจ้าของเสียง ก็เป็นอย่างที่สงสัย
จางเหม่ยหลินนั่นเอง ข้างๆหล่อนคือเด็กแจ๋ว ลำดวนที่ยืนเกาะขอบเปียโนฟังอย่างชื่นชม 
 
แต่ที่นั่งไขว่ห้างวางมาดเต๊ะน่าหมั่นไส้คือนายเฉินฮ่าวหมิง 
กิ๊กอุตส่าห์บรรเลงเปียโนให้ฟัง แต่หมอนี่ดันอ่านหนังสือพิมพ์เฉย 
มารยาทงามจริงๆ 
 
ดูจะเป็นความเคยชินเสียแล้ว ที่เจ้าของบ้านจะผลุบๆโผล่ๆ หากปันนาก็ยังอดสงสัยไม่ได้ เขากลับมาเมื่อไหร่ เมื่อคืนหรือ ถึงโผล่มาแต่เช้าได้ หรือไม่ได้ไปไหนไกล แอบไปอยู่กับกิ๊กสองต่อสอง
 
หญิงสาวเลี่ยงหนีไปด้านหลัง ไม่อยากพบเจ้าของบ้าน 
ยังไม่หายตะขิดตะขวงใจ แม้ใจจะบอกว่าเหตุการณ์คืนนั้น เขาคงไม่รู้ตัว เพราะถ้ารู้ตัว จะปล่อยให้หล่อนประทุษร้ายตามใจชอบหรือ 
 
หญิงสาวสวนทางกับป้านิ่มที่หน้าห้องทอฝัน หล่อนจึงรีบบอกว่า
"วันนี้เช้า หมอขอกินข้าวในครัวด้วยคนนะคะ"
 
"จะดีหรือคะ คุณท่านจะถามหาอีก" ป้านิ่มทำสีหน้าลำบากใจ
"คงไม่มังคะ ก็ท่านของคุณป้านิ่มมีเพื่อนแล้ว"
 
แล้วปันนาก็ผลุบเข้าไปในห้องทอฝัน ทำหน้าที่ประจำเรียบร้อย ก่อนจะหลบแวบออกทางประตูหลัง หากยังไม่ทันไปไหนไกล เด็กแจ๋วก็วิ่งตามมาข้างหลัง เรียกอย่างเกรงๆ
"คุณหมอคะ คุณท่านให้มาตามไปร่วมโต๊ะค่ะ" 
เซ็งอะ
 
 
"นับเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ในที่สุด คุณหมอปันนาก็ยอมมานั่งรับประทานอาหารร่วมโต๊ะกับพวกเราจนได้" 
 
เสียงพูดเหน็บแนมแกมประชดประชันของบุรุษที่นั่งเด่นเป็นสง่าตรงหัวโต๊ะ ทำให้คนที่กำลังดึงเก้าอี้ออกมาเตรียมจะทรุดตัวลงนั่ง มีอันชะงักค้าง หันขวับมามอง ดวงตากระจ่างใสแวววับอย่างเคืองๆ ริมฝีปากบางเตรียมเผยอจะพูดบางสิ่งบางอย่างกลับไป แต่แล้วก็เปลี่ยนเป็นเม้มแน่นดุจจะพยายามระงับคำพูดที่ต้องการจะโต้ตอบ ลงนั่งอย่างเงียบๆ ส่งยิ้มอย่างเป็นมิตรให้กับดารานางแบบสาวที่นั่งอยู่ตรงข้าม ซึ่งก็ได้รับการยิ้มแย้มทักทายตอบทันที 
 
"เริ่มกินกันได้เสียที" ทันทีที่หัวโต๊ะออกคำสั่ง การเสิร์ฟอาหารก็เริ่มขึ้น
 
ปันนาเม้มปากแน่น รู้ว่าเขาต้องการให้หล่อนเห็นว่าทุกคน เขา แฟนของเขา รวมทั้งป้านิ่ม คนรับใช้ที่ยืนคอยให้บริการอยู่ ต่างรอหล่อนเพียงคนเดียว
 
"ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ดอกเตอร์ปันนา" เหม่ยหลินส่งเสียงภาษาอังกฤษชัดถ้อยชัดคำ ข้ามโต๊ะมาให้ ทำให้บรรยากาศคลายความตึงเครียดไปได้มาก
 
"ยินดีที่ได้รู้จักคุณจางเหม่ยหลินเช่นกันค่ะ ฉันเคยดูผลงานละครของคุณด้วยนะคะ"
 
"โอ หรือคะ เรื่องอะไรเอ่ย" นักแสดงสาวชื่อดังถามอย่างดีใจ ปากและนัยน์ตาของหล่อนสวยงาม ชวนมองจนปันนาซึ่งเป็นผู้หญิงด้วยกันยังมองเพลิน 
 
"เรื่องเกียวกับหมอน่ะค่ะ คุณเหม่ยหลินแสดงเป็นหมอศัลยกรรมด้วย เท่มากค่ะ ถ้าคุณเหม่ยหลินเป็นหมอจริง ต้องบอกว่าเป็นหมอที่สวยที่สุดในโลกเชียวค่ะ"
 
ปันนาชื่นชมอย่างจริงใจ 
คนถูกชมยิ้มรับคำชมด้วยท่าทีเก๋ไก๋ พออกพอใจ 
 
"น่าเสียดาย ฉันเป็นได้แต่หมอในละครเท่านั้น แต่คุณปันนาเป็นหมอตัวจริงที่สวยน่ารักมาก เท่าที่ฉันเคยเห็นมาเลยนะคะ" คนถูกชมส่งคำชมกลับไปบ้าง
หน้าคนถูกชมไม่มีเวลาเบ่งบานนานเพราะมีคนกระแอมเหมือนมีอะไรติดคอขัดขึ้นมาก่อน
 
เหม่ยหลินหันมามอง หล่อนคิดว่าเฉินฮ่าวหมิงต้องการเรียกร้องความสนใจ
 
"ค่ะ เรื่องนี้ต้องขอบคุณอลัน" เหม่ยหลินรีบหันมาพูดเอาใจเจ้าของเสียงกระแอม "เขาเป็นคนออกไอเดียและคิดวางแผนงานกับคนเขียนบทเอง"
ปันนาจับสีหน้าและแววตา ชื่นชมยกย่อง จนถึงขั้นหลงใหลได้เต็มเปี่ยมยามที่หญิงสาวกล่าวถึงชายหนุ่ม
 
"เรตติ้งที่เมืองจีนถล่มทลายจนต้องสร้างภาคสองต่อมาเลย แล้วยังทำให้มีละครเกี่ยวกับหมอเกี่ยวกับโรงพยาบาลตามมาอีกหลายเรื่อง" ตลอดเวลาเหม่ยหลินจับตาดูชายหนุ่มผู้เป็นทั้งเจ้านายและคู่ควงอย่างรักใคร่เปิดเผย
 
กลิ่นโจ๊กปลาร้อนๆ ควันหอมฉุยทำให้ปันนาก้มลงเอาช้อนเขี่ยเนื้อปลาก้อนโตๆขึ้นมาดู โดยไม่รู้ว่าตาคมแอบชำเลืองมองปฏิกิริยาของหล่อนอยู่ตลอดนับจากการเสิร์ฟอาหารเสร็จสิ้นลง
 
วันนี้เป็นอาหารเช้าแบบฮ่องกง นอกจากโจ๊กปลาแล้ว ยังมีหมั่นโถทอด ซาลาเปาใส้ไก่ หมู แป้งนุ่มหอมน่ากิน และเครื่องเคียงอื่นๆครบไม่ต่างจากกำลังนั่งรับประทานอาหารตามภัตตาคารหรูๆในฮ่องกงแต่อย่างใด
ดวงตากลมโตขยายขึ้นอย่างประหลาดใจ 
 
ปลาหิมะตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมขนาดกำลังพอดีคำหลายชิ้นลอยตัวปะปนกับข้าวในชามที่เคี่ยวจนเนื้อโจ๊กนุ่มน่ารับประทาน
อะไรไม่รู้ทำให้หญิงสาวเงยหน้าขึ้นหันไปมองชายหนุ่มตรงหัวโต๊ะ จึงสบตากันอย่างจัง ตาคมวาวพราวระยิบระยับเหมือนจะยิ้มนิดๆ 
 
ไม่เข้าใจอารมณ์ของเขาเลย
เมื่อกี้เพิ่งประชดคนอื่นแหมบๆ แต่ตอนนี้กลับส่งยิ้มละลายใจมาให้ทางสายตา
แต่แล้วเจ้าของตาแพรวพราวนั้นก็หันไปหาสตรีอีกคน พลางตักชิ้นปลาของเขาแบ่งให้แฟนสาว ท่าทางกระหนุงกระหนิง
 
"อ้าว ของโปรดของคุณ ต้องทานมากๆ"
อ้อ ที่แท้ปลาหิมะคืออาหารโปรดของแฟนเขานี่เอง
ไม่เกี่ยวกับเราสักหน่อย
 
จางเหม่ยลินยิ้มอย่างมีความสุข ตาของหล่อนเป็นประกายวิบวับ ดูหล่อนตื่นเต้นผิดปกติ ราวกับเพิ่งเคยได้รับการบริการนี้จากแฟนหนุ่มหน้าเข้ม
"ขอบคุณมากค่ะอลัน ขอบคุณมาก" 
 
ปันนาคิดไปเองหรือเปล่าหนอ เหมือนเห็นน้ำตารื้นๆแวบๆในหน่วยตาสวยคู่นั้น ขณะที่หล่อนย้ำขอบคุณเขาอย่างตื้นตันใจ
 
เฉินฮ่าวหมิงเองก็คงเห็นด้วยเช่นกัน สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย ท่าทางยิ้มกริ่มเสแสร้งเมื่อครู่อันตรธานหายไปทันที 
 
ชายหนุ่มเงียบไปเป็นครู่ก่อนจะหันมาทางปันนาถามเป็นงานเป็นการว่า
"อีกสองวันก็ถึงวันกีฬาแล้วนี่ ได้ซ้อมบ้างหรือยัง"
 
ปันนาที่เพิ่งตักโจ๊กและเนื้อปลาคำใหญ่เข้าปาก เงยหน้าขึ้น
 
หล่อนไม่ตอบเพราะข้าวเต็มปากและไม่เห็นเหตุผลที่จะต้องตอบ
ถามทำไมเฟ้ย ไม่ใช่ธุรกงการอะไรของนายสักหน่อย ไปจู๋จี๋กับแฟนนายต่อสิ 
 
"ซ้อมอะไรคะ" เหม่ยหลินถาม
"หมอปันนาเป็นเชียร์ลีดเดอร์ที่งานกีฬาการกุศลของโรงพยาบาล" เขาตอบเสียงขรึม
 
"สมัยเรียน ฉันก็เคยเป็นเชียร์ลีดเดอร์บ่อยๆนะคะ"
เฉินฮ่าวหมิงหันมาทันทีด้วยความสนใจ
 
"งั้นก็ดีสิ ช่วยเป็นเพื่อนซ้อมให้หมอเขาหน่อย"
 
"ไม่ต้องค่ะ ไม่ต้องรบกวนเลยค่ะ ท่าเต้นง่ายๆมีไม่กี่ท่าเอง ฉันจำได้หมดแล้ว"
ปันนารีบปฏิเสธ ลืมไปว่ายังเคี้ยวอาหารไม่หมด แก้มหล่อนจึงตุ่ยๆ ขณะที่พูด
 
เฉินฮ่าวหมิงกลับมองเพลิน 
หากจะมีมนุษย์ที่อ้าปากพูดทั้งที่ข้าวเต็มปากแล้วน่าดู ในโลกนี้คงจะมีแต่ยายกล้วยของเขาคนเดียว
 
ข้าวในปากของหล่อน หากได้ลองชิม คงเป็นอาหารที่อร่อยเลิศรสที่สุดในชีวิตเลยทีเดียว
 
แล้วภาพในอดีตก็ผุดขึ้นมาอีกครั้ง
 
ครั้งหนึ่งยายกล้วยตัวแสบ เคยเอามือเหนี่ยวคอเขา ทำหน้าเซ็กซี่ ตาปริบๆ แพขนตายาวงอนกระพือพรึบพรับ  จนชายหนุ่มอดใจไม่ได้ ก้มลงมอบจุมพิตเป็นรางวัล 
สาวน้อยในวัยสิบแปดเผยอริมฝีปากรับจูบจากเขาอย่างเต็มใจจนคนจูบก่อนเคลิ้ม แล้วก็รู้สึกว่า ลิ้นยายกล้วยกำลังดันวัตถุทรงกลมขนาดเล็กเข้ามาในปากของเขา
 
และบอกหน้าตาเฉยหลังจากถอนปากออกมาว่า
 
"แบ่งลูกอมให้พี่เตยครึ่งหนึ่ง" 
ลูกอมที่หล่อนเพิ่งซื้อมาลอง ทว่ารสชาติไม่ถูกปาก
แต่แถวนั้นไม่มีถังขยะ หล่อนจึงเอามาฝากไว้ในปากเขาแทน
 
คำสารภาพหลังจากที่เขาอมเจ้าลูกอมนั้นจนละลายหายไปหมดปาก
แสบมั้ยล่ะ
 
แต่กระนั้น ลูกอมรสหวานเฝื่อนเคล้าน้ำลายยายกล้วยที่เขาได้ลิ้มลองในวันนั้น กลับเป็นขนมหวานที่อร่อยที่สุดในโลก ที่เขายังจำรสชาติได้ดีถึงทุกวันนี้
 
จนนึกไม่ถึงว่าอีกไม่กี่อาทิตย์ต่อมา ชีวิตของเขากับยายตัวแสบจะกลายเป็นเส้นขนานจวบจนทุกวันนี้
 
"เห็นด้วยไหมคะ อลัน" เสียงเหม่ยหลินถามอะไรบางอย่าง กระชากเฉินฮ่าวหมิงกลับคืนสู่ภวังค์
"ก็แล้วแต่" เขาตอบทั้งที่ไม่รู้ว่าหล่อนถามอะไร
 
"งั้นตามนี้เลยนะคะดอกเตอร์ปันนา พรุ่งนี้เช้า ฉันกลับจากถ่ายแบบที่ภูเก็ต ฉันจะมาเป็นเพื่อนซ้อมเชียร์ลีดเดอร์ด้วย"
เหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ หล่อนบอกปันนาว่า "เรียกฉันว่าคริสตี้ก็ได้นะคะ ชื่อภาษาอังกฤษของฉันค่ะ"
 
"คุณคริสตี้เรียกฉันว่ากล้วยก็ได้ค่ะ กล้วย แบนนานาค่ะ"
 
"กล้วย แบนนานา ปันนา" คริสตี้ทวนคำช้าๆ "อ้อ ที่แท้ที่มาของชื่อปันนา มาจากคำนำหน้า แบนนานานี่เอง"
ปันนายิ้มอย่างดีใจ มีไม่กี่คนหรอกที่รู้ว่าชื่อของหล่อนไม่ได้หมายถึงแคว้นสิบสองปันนา แต่เป็นคำผันพินอินภาษาจีน ของคำว่ากล้วยในภาษาอังกฤษ
 
"ต้องขอโทษด้วยนะคะ ที่ฉันเคยพูดรุนแรงไปบ้าง"
จางเหม่ยหลินพูดย้อนไปถึงเมื่อวันแรกที่พบกัน 
 
"ไม่เป็นไรค่ะ ที่จริงเป็นฉันต่างหากที่เริ่มรุนแรงก่อน"
 
"ขอบคุณนะคะที่ไม่ถือสา" ดารานางแบบชื่อดังแสดงความสุภาพ ไม่ถือตัวชัดเจน
ปันนาเริ่มรู้สึกชอบผู้หญิงตรงหน้าเสียแล้วสิ
 
"ที่จริงสมัยเด็ก ฉันก็เคยคิดฝันจะเรียนหมอ" หล่อนชวนคุย "แถวชนบทที่ฉันเคยอยู่ มีแต่คลินิิก เครื่องมือก็ไม่ทันสมัย ฉันเห็นคนเจ็บป่วยเสียชีวิตต่อหน้าต่อตาแล้ว นึกเสียใจที่ช่วยอะไรเขาไม่ได้ ก็เลยคิดว่าต้องเป็นหมอสักวัน"
 
ระหว่างนี้ เฉินฮ่าวหมิงหันไปหาป้านิ่ม พยักหน้าเรียก สั่งเบาๆว่า "ตักข้าวให้คุณหมอเพิ่มหน่อย" 
เหม่ยหลินชำเลืองดูชามข้าวของปันนา ที่เหลืออยู่เกือบติดก้นถ้วย แล้วก็นึกสงสัย
ฮ่าวหมิงคอยสังเกตปันนาตลอดเวลากระนั้นหรือ แล้วหล่อนล่ะ 
 
ป้านิ่มกระวีกระวาดเข้ามาเติมโจ๊กและเนื้อปลาร้อนๆให้ปันนา ตามสั่ง 
"คุณจางเหม่ยหลินจะรับเพิ่มไหมคะ"
นางถามเผื่อสุภาพสตรีอีกคนด้วย
 
"ไม่หรอก เหม่ยหลินเขาต้องระวังรักษาหุ่น" เจ้าบ้านตอบแทน เหมือนจะเป็นการแก้ตัวที่เขาดูจะสนใจปันนาออกนอกหน้า
จางเหม่ยหลินเพิ่งยิ้มออก ความน้อยใจปลาสนาการไปสิ้น
 
"แล้วหมอกล้วยมีแรงบันดาลใจอะไรคะถึงเรียนแพทย์"
คนฟังอีกคนรีบกางหูบานเป็นจานเรดาร์ฟังด้วยคน
 
เขาก็สงสัยเช่นกัน ทำไมยายตัวแสบถึงกลายเป็นหมอได้
หากปันนายังไม่ทันตอบ 
 
เด็กรับใช้คนหนึ่งก็วิ่งเข้ามาในห้องหน้าตาตื่น
"คุณทอฝันชักกระตุกใหญ่แล้วค่ะ คุณแพมให้มาตามคุณหมอไปดูด่วน"
 

[ ค้นหาเว็บบอร์ดทุกโรงเรียน แวะไปล่างสุดโฮมเพจ Dek-D ]

แก้ไขเมื่อ 24 ธ.ค. 55 20:53:28

จากคุณ : mamahuhu
เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 20:49:41




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com