Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เจ้าสาวไปรษณีย์ (ตอนที่ ๑)[นิยาย] vote ติดต่อทีมงาน

สถานีรถไฟหาดใหญ่คลาคล่ำไปด้วยผู้คนหลากเชื้อชาติ เนื่องด้วยเพราะเป็นชุมทางใหญ่ทางภาคใต้ ลัลภัทร นิไธสง ยืนปรับสายตากับภาพที่เห็น  เธอเพิ่งตื่นนอนก่อนรถไฟจอดเทียบท่าไม่ถึงสิบนาที หน้ายังไม่ได้ล้างเลยด้วยซ้ำ นี่เป็นการเดินทางมาอยู่ต่างจัดหวัดเพียงลำพังเป็นครั้งแรกในชีวิต
ลัลภัทรได้งานเป็นเลขานุการที่สวนยางพาราขนาดใหญ่แห่งหนึ่งตามคำชักชวนของเพื่อน
“เจ้าของสวนยางพารา ลูกเพื่อนแม่ฉัน เขาอยากได้เลขานุการส่วนตัว ฉันเองติดสัญญาจ้างงาน ไปไม่ได้ เจ้าของรวยมากมีโรงงานแปรรูปยางพาราและปาล์มน้ำมัน
ตอนเด็กๆ ฉันเคยไปเที่ยวครั้งสองครั้งล่ะมั้ง หน้าตาเขาเป็นยังไงฉันก็จำไม่ได้ ฉันเห็นเธอไม่สบายใจ คิดว่าน่าจะไปจากกรุงเทพฯ สักพัก สัญญาจ้างหนึ่งปี บางทีเธออาจได้สอนหนังสือลูกหลานคนงานในไร่ เงินดีด้วยนะ ที่อยู่ที่กินพร้อม ฉันแจ้งทางโน้นไปแล้วว่าไปไม่ได้ จะให้เพื่อนไปแทน พอเธอไปถึงหาดใหญ่ จะมีคนมารับเอง  ” ตอนนั้นลัลภัทรตกปากรับคำอย่างง่ายดาย
ตอนนี้ ลัลภัทร ยืนรออยู่หน้าสถานี เธอไม่แน่ใจว่าคนที่มารับรู้หรือยังว่าศิริพร เพื่อนของเธอไม่ได้รับงานนี้แล้ว
“คุณศิริพร เออ ไม่ใช่สิ คุณอะไรน้า จำชื่อไม่ได้สักที” ชายร่างผอมสูง ผิวสีแทนแบบคนพื้นที่  เขาสวมเสื้อเชิ้ตกลางเก่ากลางใหม่ กางเกงยีน มีผ้าขนหนูพันรอบคอ สวมหมวกฟาง
“ดิฉันคือคนที่มาแทนศิริพรค่ะ ชื่อลัลภัทร”
“อ้อ ใช่ๆ ผมลืมอีกแล้ว ชื่อคุณเรียกยากจังครับ”
“ค่ะ ใครๆ ก็พูดแบบนั้น”
“มีสัมภาระแค่นี้หรือครับ”
ลัลภัทรมองดูตัวเอง เธอสะพายกระเป๋า มีกระเป๋าเสื้อผ้าล้อลากหนึ่งใบกับกระเป๋าหิ้วอีกหนึ่งใบ นี่คือทั้งหมดของชีวิตเธอ เธอมาตายดาบหน้าที่นี่
“ค่ะ”
“โอ๊ะ เกือบลืมไป ผมชื่อ แช่ม นะครับ เป็นหัวหน้าคนงานในสวน”
“ค่ะ ลุงแช่ม เออ หรือจะให้หนูเรียกว่า น้าแช่มคะ”
“อืม น้าดีกว่าครับ ผมยังไม่แก่พอจะเป็นลุง”
“ค่ะ น้าแช่ม”
แช่ม ถือกระเป๋าเดินทางทั้งสองใบของลัลภัทร แม้หญิงสาวจะโต้แย้งว่า แบ่งให้เธอถือบ้างก็ได้
“ไม่เป็นไรครับ ผมถือไหว แค่นี้สบายมาก”
รถที่น้าแช่มขับมารับเธอ เป็นรถกระบะคันใหม่เอี่ยม สีเทา แช่มยกกระเป๋าเธอขึ้นไปบนกระบะหลัง
หญิงสาวขึ้นไปนั่งข้างคนขับ
“คุณลัลภัทร เคยมาหาดใหญ่หรือเปล่าครับ” แช่มออกเสียงชื่อเธอด้วยความยากลำบาก
“เรียกหนูว่า ภัทร ก็ได้ค่ะ ตอนเด็กๆ เคยมาเที่ยวค่ะ ที่นี่เปลี่ยนไปเยอะนะคะ”
“ครับ เจริญขึ้นมาก มีทุกอย่างแทบจะเหมือนกรุงเทพฯ อยู่แล้ว สวนของเราอยู่ห่างออกไปประมาณชั่วโมงหนึ่ง คุณภัทรนอนพักก่อนก็ได้ครับ”
รถเคลื่อนตัวออกจากสถานีรถไฟ ลัลภัทร ซึ่งนอนเต็มอิ่มมาแล้ว นั่งมองวิวทิวทัศน์สองข้างทาง เธอไม่รู้ว่าจะเจออะไรที่นี่บ้าง ถึงกระนั้นเธอก็เตรียมใจไว้แล้ว การมาทำงานแทนเพื่อนครั้งนี้ เหมือนการหนีกลายๆ หลังจากพ่อแม่เสียชีวิต หญิงสาวทำงานเป็นติวเตอร์ที่สถาบันกวดวิชาชื่อดัง หากแต่การแข่งขันที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เธอเริ่มเบื่องานที่ทำ  เรื่องสำคัญที่สุดที่ทำให้เธอตัดสินใจมาตายดาบหน้าที่นี่คือ การถูกนอกใจจากแฟนหนุ่ม
หลังจากมีเพื่อนผู้หวังดีเตือนทั้งทางตรงและทางอ้อม หญิงสาวก็ไม่เชื่อ จนกระทั่งเธอได้เห็นด้วยตัวเอง  เธอไม่เห็นหน้าผู้หญิงคนนั้น แค่เปิดประตูคอนโดฯ และเห็นแฟนหนุ่มนุ่งแค่ผ้าขนหนูผืนเดียว มีเสื้อผ้ารองเท้าของผู้หญิงวางเกลื่อนพื้น เธอก็เข้าใจได้ทันที
ศิริพร เพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย เสนองานนี้ให้ พวกเธอไม่ได้สนิทกันมาก ศิริพรคงได้ยินเรื่องของเธอจากเพื่อนคนอื่น นับว่าเป็นระฆังช่วยชีวิตเธอเลยทีเดียว

**********************
รถยนต์จอดอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่ง เป็นบ้านปูนชั้นเดียว ยกพื้นสูง
“คุณภัทร คงยังไม่ได้รับประทานข้าวเช้า  แวะทานข้าวที่บ้านผมก่อนนะครับ ผมมีงานที่ต้องทำให้นายหัวก่อนเข้าสวน”
“ค่ะ”
หญิงสาวลงจากรถ เดินตามน้าแช่ม หน้าบ้านมีโต๊ะหินอ่อนตัวใหญ่วางอยู่ ใต้ถุนทำเป็นครัว และที่รับแขกคนสนิท ครัวไทยเปิดโล่งอยู่ด้านหลังบ้าน หญิงสาววัยรุ่นราวคราวเดียวกับน้าแช่มเดินยิ้มแย้มออกมาต้อนรับ
“คุณคงเป็นคนที่จะมาอยู่ที่บ้านนายหัวสินะคะ”
“ใช่ค่ะ”
“นี่ ช้อย เมียน้าเอง ต่อไปเขาจะเป็นคนคอยดูแลคุณภัทร ช้อย นี่คุณภัทร จะมาทำงานให้คุณกานต์”
“มาแทนคุณนุ่นนี่เอง อันที่จริงน้าก็จำคุณนุ่นไม่ได้เหมือนกันค่ะ” นุ่น คือชื่อเล่นของศิริพร เพื่อนเธอ
“นุ่น ติดสัญญาของบริษัทมาไม่ได้ค่ะ หนูเลยมาแทน”
“อย่าเพิ่งชวนคุณภัทรคุยเลย แม่ช้อย เตรียมข้าวเช้าให้คุณภัทรเถอะ เดินทางมาหลายชั่วโมง” แช่มเตือนเมียตัวเองที่ยังยืนจ้องลัลภัทรไม่วางตา
“โอ๊ะ ขอโทษทีจ้ะ มาๆ หนู นั่งพักก่อน น้าจะยกข้าวมาให้”
“คุณภัทรครับ ห้องน้ำอยู่ด้านบนครับ เชิญตามสบาย” แช่มถอดหมวกชี้ทางไปห้องน้ำซึ่งอยู่บนบ้าน
“ขอบคุณค่ะ” ลัลภัทรหยิบกระเป๋าถือเพื่อที่จะไปห้องน้ำ
เมื่อลัลภัทรคล้อยหลังไป ช้อยดึงตัวแช่มไปใกล้
“นี่มันอะไรกันน่ะพ่อ มีการส่งเพื่อนมาแทน แล้วแม่หนูภัทร แกรู้จุดประสงค์ที่แท้จริงของงานนี้หรือเปล่า” ช้อยกำแขนแช่มแน่น จนแช่มต้องร้อง “โอ๊ย แหม แม่ก็บีบซะแรงเชียว พ่อคิดว่าไม่รู้นะ ดูคุณคนนี้เธอเรียบร้อย ซื่อๆ ดี พ่อเองก็ตกใจเหมือนกัน”
“นายหัวเขารู้รึยังว่า ทางโน้นเล่นแง่ ส่งเพื่อนมาแทน”
“คิดว่ายังนะ พ่อล่ะชักหวั่นใจจริงๆ ถ้านายหัวคิดว่าที่เสียไปแค่เศษเงิน แล้วส่งคุณภัทรกลับบ้าน คงดี แต่ก็นะ เราเดาใจนายหัวไม่ถูกหรอก”
*****************************

ศิวกานต์ จงสิริ หรือนายหัวของชาวสวน ขับรถจิ๊บด้วยความเร็วสูง มาจอดหน้าบ้านเรือนไทยซึ่งสร้างตามแบบสถาปัตยกรรมทางภาคใต้อายุกว่าร้อยปี ด้านข้างที่สร้างต่อออกมาคือส่วนที่เป็นสำนักงาน นายหัวกานต์เดินลงส้นเท้าเข้าไปในส่วนของสำนักงาน
“ของ มาส่งหรือยัง” ศิวกานต์สะบัดเสียงถามไข่นุ้ย เด็กรับใช้ประจำตัว
“ครับ ของ อะไรครับนายหัว”
“ของจากกรุงเทพฯ ไง แช่มไปรับมารึยัง”
“อ๋อ เลขาฯ คนใหม่ คนนี่ครับนาย ไม่ใช่ของสักหน่อย”
“เอ๊ะ ไอ้นี่ ถามแล้วยังมาต่อปากต่อคำ”
“ผมจะโทรศัพท์ถามลุงแช่มให้แล้วกันครับ”
“ไม่ต้อง มาเมื่อไหร่ก็รู้เอง”
พูดจบ ศิวกานต์ก็เดินเข้าไปที่ห้องทำงาน ปิดประตูดังปัง ไข่นุ้ยเกาหัวแกรกๆ “อะไรของเขาวะ ตอนเช้าออกไปตรวจงาน ยังดีๆ อยู่ กลับมาอารมณ์เสียซะได้ แถมเรียก คนเป็น ของ นั่นน่ะ ว่าที่เมียเชียวนะ”

ลัลภัทรทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำเรียบร้อย จึงเดินลงมาข้างล่าง สำรับกับข้าวพร้อมแล้ว ช้อยหันมายิ้มรับ
“อาหารพร้อมแล้วค่ะ คุณภัทรดื่มกาแฟหรือเปล่าคะ น้าจะได้ชงมาให้”
“ดื่มค่ะ แต่น้าไม่ต้องลำบากหรอก”
“ไม่เป็นไรคะ น้าเองก็ยังไม่ได้ดื่ม นั่งทานข้าวไปก่อน น้าจะไปชงมาให้นะคะ”
“ค่ะ”
“คุณดื่มกาแฟดำหรือกาแฟใส่นมคะ”
“กาแฟใส่นม แต่ไม่หวานค่ะ”
“แหม ดีจัง รสเดียวกับน้าเลย อ้อ อาหารมีแต่รสจัดๆ ถ้าทานไม่ได้ป้าจะทอดไข่ให้”
“หนูทานได้ค่ะ”
ลัลภัทรนั่งลงบนเก้าอี้ม้าหินซึ่งใช้เป็นโต๊ะกินข้าว อาหารน่าทานทุกอย่าง ชีวิตประจำวันเธอมักพึ่งอาหารสำเร็จรูป นานครั้งจะได้กินอาหารรสจัดจ้านถูกปากเช่นนี้ หญิงสาวตักข้าวเข้าปากได้ไม่กี่คำ ช้อยก็ยกกาแฟมาให้เธอ
“ขอบคุณค่ะ น้าไม่ทานด้วยกันหรือคะ”
“ตามสบายเถอะค่ะ น้าเรียบร้อยแล้ว”
“สวนที่นี่ใหญ่เหมือนกันนะคะ”
“ค่ะ กินพื้นที่เกือบทั้งตำบลแน่ะ”
“ทำสวนยางพาราอย่างเดียวหรือค่ะ”
“ส่วนใหญ่เป็นยางพาราค่ะ มีสวนปาล์มด้วย นายหัวยังมีสัมปทานรังนกบนเกาะอีก”
“ทั้งหมดนี่ เป็นของคนคนเดียวหรือคะ”
“ค่ะ นายหัวเป็นเจ้าของทั้งหมด เพราะเป็นลูกชายคนเดียวของนายหญิงค่ะ”
“นายหัวของน้าดุไหมคะ”
“เวลางานก็ดุแหละค่ะ ถ้านอกเวลางานก็ใจดีเป็นกันเอง บางทีก็ยังนั่งกินเหล้ากับคนงานในสวน นายหัวจะเข้มงวดเรื่องงานมากนะคะ คุณภัทรเคยพบกับนายหัวมาก่อนไหมคะ”
“ไม่เคยค่ะ ขนาดรูป ภัทรยังไม่เคยเห็นเลยค่ะ”
“คุณภัทรนี่ใจกล้านะคะ มาทำงานต่างจังหวัดตัวคนเดียว นายจ้างก็ไม่เคยรู้จัก”
ลัลภัทรยิ้มแทนคำตอบ “ก็ฉันไม่มีอะไรจะเสียแล้วนี่” เธอคิดในใจ แวบหนึ่งเธอคิดว่าเธอเห็นแววตา “สงสาร” จากช้อย
ลัลภัทรรับประทานข้าวเช้า ดื่มกาแฟหมดแก้ว ช้อยก็ขับรถกลับมา
“เป็นยังไงบ้างครับ อาหารถูกปากหรือเปล่าครับ”
“น้าช้อยทำอาหารอร่อยมากค่ะ อยากทานฝีมือน้าทุกมื้อเลย” ช้อยยิ้มแก้มแทบปริ
“คุณภัทรอย่าไปยอแม่ช้อยนักเลย อยู่ที่นี่คงได้กินฝีมือแม่ช้อยทุกมื้อ เพราะต้องทำกับข้าวส่งเข้าไปให้นายหัว อย่าเบื่อซะก่อนล่ะครับ”
“ไม่หรอกค่ะ”
“มาครับ คุณภัทรขึ้นรถเถอะ ผมจะพาไปส่งที่บ้านพัก คุณภัทรจะได้พักผ่อน”
“หนูไปก่อนนะคะ น้าช้อย ขอบคุณสำหรับอาหารค่ะ”
“ไม่ต้องขอบคุณหรอกค่ะ คุณภัทรชอบทานอะไรเป็นพิเศษไหมคะ ป้าจะได้ทำให้”
“หนูทานง่ายค่ะ อะไรก็ได้”
“นี่เบอร์โทรศัพท์ที่บ้านป้านะคะ มีอะไรก็โทร.มาแล้วกัน เพราะระยะทางจากบ้านนายหัวออกมาที่นี่มันไกล”
“ขอบคุณค่ะ”
ลัลภัทรขึ้นรถกระบะ แช่มขับรถเข้าไปในสวน ด้วยความที่สวนกินพื้นที่กว้างใหญ่ จึงมีการตัดถนนในสวนให้กว้างพอสำหรับรถวิ่งสวนกัน อากาศเย็นสบายทำให้ลัลภัทรเกือบเคลิ้มหลับ เธอไม่รู้เลยว่า ช่วงเวลาแห่งความสงบสุขจะเหลืออีกไม่ถึงครึ่งวัน

**************************

ศิวกานต์รับโทรศัพท์มือถือซึ่งส่งเสียงเรียกเข้ามาได้สักพัก
“ครับ”
“จะ “สวัสดี” แม่สักคำ มันลำบากมากหรือยังไง”
“สวัสดีครับ นายแม่”
“ไม่ต้องมาประชดแม่เลยนะ” ศิวกานต์ ถอนหายใจ
“นายแม่โทร.มา มีอะไรหรือครับ”
“วันนี้ลูกสาวคนรักเก่าพ่อแกมาไม่ใช่รึ”
“ครับ ตอนนี้ยังมาไม่ถึง”
“แม่ล่ะอยากเห็นหน้าจริงเชียว”
“ผมว่าที่นายแม่เสียไป มันแค่ “เศษเงิน” สำหรับนายแม่นะครับ”
“ใช่ มันแค่เศษเงิน แต่ทางโน้นยื่นข้อเสนอมาให้เองเลยนี่ แม่เองก็เห็นว่ามันไม่ได้ทำให้เราเสียเปรียบ  แกเองก็ยังไม่คิดจะแต่งกับแม่เชอรี่นั่นไม่ใช่หรือ”
“ครับ แต่ผม “คบ” กับเชอรี่อยู่นะครับ นายแม่จะให้ผมแต่งงานกับผู้หญิงอื่นที่ผมไม่ได้รักได้ยังไง”
“สัญญาแค่หนึ่งปี เวลามันเร็วจะตาย ถ้าแม่เชอรี่รักแกจริงก็ต้องรอได้สิ”
“ผมไม่เข้าใจนายแม่เลยนะครับ นายแม่ก็ต้องเจ็บมามากกับเรื่องผู้หญิงคนนั้น นายแม่น่าจะเข้าใจความรู้สึกของเชอรี่”
“ทำไมฉันจะไม่เข้าใจ แกคิดว่าหรือว่า แฟนแกคนนี้รักที่ตัวแกจริงๆ ไม่ใช่ที่เงินแก”
“เราคบกันมานานแล้วนะครับ ผมรู้จักเชอรี่ดี”
“เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ทุกอย่าง แม่เองก็อยากเห็นหน้าเด็กคนนั้นเหมือนกัน ไม่ได้เห็นมายี่สิบปีแล้วมั้ง”
“ผมขอตัวทำงานก่อนนะครับ”
“ได้ แม่ไม่กวนแล้ว”
ศิวกานต์ วางสายจากมารดา ก็หันมาทำงานตรงหน้าต่อ แต่สมาธิของเขาหายไปหมดแล้ว ชายหนุ่มไม่เคยคิดว่าชีวิตของเขาจะเหมือนกับในละครน้ำเน่า เขาต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่แม่ของสาวเจ้านำมาขัดดอก ชายหนุ่มรู้สึกเห็นใจผู้หญิงที่เขาจำไม่ได้ว่าเคยเห็นหน้ามาก่อนหรือเปล่า
ศิวกานต์ หยิบซองจดหมายสีน้ำตาลขึ้นมา มันถูกส่งมาเมื่อหลายวันก่อน ชายหนุ่มยังไม่ได้เปิดดู มันเป็นสัญญาแต่งงานระหว่างเขา ศิวกานต์ จงสิริ กับ ศิริพร กุลวาณิช ชายหนุ่มเอื้อมมือไปหยิบมีดตัดซองจดหมาย ไข่นุ้ยเปิดประตูห้องทำงานเข้ามา
“เกิดเรื่องใหญ่แล้วครับนาย”
“มีอะไร”
“เออ ระเบิดที่สวนปาล์มครับ”
“มีคนเจ็บหรือเปล่า”
“มีครับนาย สามคน ทางโน้นกำลังพาส่งโรงพยาบาล”
“เตรียมรถให้ฉันด้วย”
“ครับ” พูดจบ ไข่นุ้ยวิ่งออกไปสตาร์ทรถให้ศิวกานต์
ศิวกานต์ หยิบเสื้อแจ็กเก็ต แว่นตากันแดด สวมหมวก และไม่ลืมที่จะหยิบปืนพกไปด้วย ช่วงหลังมีเหตุการณ์ระเบิดเกิดขึ้นหลายครั้ง นี่เป็นครั้งแรกที่มีระเบิดขึ้นในอาณาจักรของเขา
     ***************************
รถกระบะของแช่ม แล่นมาจอดหน้าบ้านของนายใหญ่ ลัลภัทรลงจากรถ หญิงสาวมองดูเรือนไทยด้วยความทึ่ง เธอไม่เคยเห็นเรือนไทยแบบภาคใต้มาก่อน นอกจากรูปในหนังสือ เดี๋ยวนี้คงไม่มีใครสร้างบ้านแบบนี้อีกแล้ว
“ที่พักของคุณภัทรอยู่ด้านหลังครับ เดินตามผมมาทางนี้ครับ” แช่มเดินถือกระเป๋าของลัลภัทรขึ้นไปบนเรือน หญิงสาวเดินตาม เรือนหลังนี้สร้างเป็นเรือนแฝด ไม่มีชานบ้านตรงกลางอย่างที่นิยมกัน หากเป็นเพียงทางเดิน สุดทายมีบันไดสามขั้น ตรงไปที่เรือนเล็กด้านหลัง ตัวเรือนคล้ายย่อส่วนจากเรือนใหญ่ มีห้องน้ำและแพนทรี่ขนาดกะทัดรัด
“ถึงแล้วครับ ที่พักของคุณภัทร”
“ใครอยู่เรือนใหญ่หรือคะ”
“นายหัวครับ แต่ส่วนใหญ่นายหัวจะอยู่ออฟฟิศมากกว่า เรือนปูนตรงนั้นคือออฟฟิศน่ะครับ” แช่มชี้ไปที่เรือนปูนชั้นเดียวที่อยู่ด้านหน้า
“ที่นี่จะมีเจ้าไข่นุ้ยคอยดูแลนายหัว นายหัวสั่งให้เนียน เด็กรับใช้จากบ้านนายหญิงมาคอยดูแลคุณภัทร อีกวันสองวันคงเดินทางมาครับ”
“ไม่ต้องลำบากหรอกค่ะ ภัทรดูแลตัวเองได้”
“นายหัวสั่งไว้ครับ แล้วอีกอย่างคุณภัทรเพิ่งมาอยู่ ให้คนที่รู้งานมาอยู่เป็นเพื่อนดีกว่า เพราะนายหัวไม่ค่อยอยู่ติดบ้าน”
ลัลภัทรรู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆ ทำไมน้าแช่มพูดถึงแต่นายหัว และต้องคอยมาดูแลเธอด้วย เธอมาที่นี่เพื่อมาทำงาน ความจริงน่าจะจัดให้เธอไปอยู่ที่พักของพนักงานโรงงาน ไม่เห็นจะต้องมาอยู่ร่วมบ้านกับนายใหญ่ของสวนเลย
“น้าแช่มคะ แล้วเลขาฯ คนก่อนหน้าภัทร ไปไหนซะล่ะค่ะ”
“เลขาฯ คนก่อน” แช่มทำหน้างงเป็นไก่ตาแตก
“ค่ะ เลขาฯ เก่าของคุณศิวกานต์น่ะค่ะ”
“อ้อ นายหัวไม่เคยมีเลขาฯ หรอกครับ”
“ไม่เคยมีเลขาฯ หรือคะ”
“ครับ คุณภัทรเป็นคนแรก” แช่มแอบถอนหายใจ
เสียงคนวิ่งขึ้นบันไดดังตึงตัง ทั้งสองหันไปมอง พบผู้มาใหม่ยืนหอบหายใจตรงหน้า
“อ้าว ไข่นุ้ยหายไปไหนมา”
“มีระเบิดที่สวนปาล์มของเรา น้า” ไข่นุ้ยพูดด้วยเสียงหอบ
“ระเบิดเหรอ มีคนเจ็บหรือเปล่า”
“มีจ้ะ สามคน ตอนนี้นายหัวไปดูที่สวนแล้ว”
“อือ เดี๋ยวเอ็งดูแลคุณภัทรก่อนนะ นี่คุณภัทร เลขาฯ คนใหม่ของนายหัว”
ไข่นุ้ยยกมือไหว้ลัลภัทร หญิงสาวรับไหว้
“คุณภัทร พักผ่อนก่อนนะครับ กว่านายหัวจะกลับคงมืด ผมขอตัวไปที่สวนปาล์มก่อน”
“ค่ะ”
“ข้าไปก่อนนะ ดูแลคุณเขาให้ดีล่ะ”
“จ้า น้า ขับรถระวังนะ”
แม้แช่มจะรู้สึกเป็นกังวลกับข่าวที่เพิ่งได้ยิน แต่อีกใจ เขาก็รู้สึกโล่งอกที่ไม่ต้องคอยตอบคำถามลัลภัทร
ลัลภัทรมองตามหลังแช่มไป ก่อนจะหันมาเห็นว่า ไข่นุ้ยมองเธอไม่วางตา
“มีอะไรติดที่หน้าฉันหรือจ๊ะ” ลัลภัทรเอามือแตะหน้าตัวเอง
“ไม่มีครับ” ไข่นุ้ยก้มลงมองสัมภาระของลัลภัทร
“มีเท่านี้หรือครับคุณ”
“จ้ะ”
“ผมจะยกกระเป๋าเข้าไปเก็บในห้องให้ครับ”
ไข่นุ้ยยกกระเป๋าของลัลภัทรเข้าไปเก็บในห้อง ภายในห้องแบ่งส่วนเป็นห้องนั่งเล่นกับห้องนอน ในส่วนของห้องนอน ยกระดับจากห้องนั่งเล่น มีราวเหล็กดัดสีขาวกั้น ภายในห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่างเช่นที่เธอเคยมีในบ้านที่กรุงเทพฯ โทรทัศน์จอแอลซีดีทันสมัยติดกับกำแพง  ด้านล่างคือเครื่องเล่นดีวีดีรุ่นใหม่ล่าสุดพร้อมลำโพง คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ควางอยู่บนโต๊ะทำงาน เครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่เพื่อกระจายความเย็นได้อย่างทั่วถึง ตู้เย็นขนาดใหญ่อยู่ในห้องแพนทรี่ ส่วนห้องน้ำก็มีเครื่องทำน้ำอุ่น หญิงสาวรู้สึกแปลกใจว่า เหตุใดถึงต้องดูแลเลขาฯ ดีซะขนาดนี้
ไข่นุ้ยมองหญิงสาวสำรวจรอบห้อง จึงรีบบอกว่า
“ห้องนี้เมื่อก่อนเป็นห้องเก็บของครับ พอคุณจะมา นายหัวเลยสั่งให้คนทำห้องนี้ใหม่ทั้งหมด เฟอร์นิเจอร์ก็สั่งมาใหม่ด้วยครับ ถ้าคุณไม่ชอบ จะจัดหรือจะแต่งอะไรเพิ่มก็บอกได้นะครับ” ไข่นุ้ยอธิบายด้วยสำเนียงพื้นถิ่น คิดอยู่ว่าลัลภัทรจะฟังรู้เรื่องหรือเปล่า
“นี่ดีกว่าห้องพักของฉันที่กรุงเทพฯ อีกนะจ๊ะ นายหัวต้องเป็นคนใจดีมากแน่ๆ”
“ครับ”
“วันนี้หยุดหรือ ฉันไม่เห็นพนักงานหรือคนงานสักคน”
“ครับ คนงานสวนก็ทำงานในสวน ส่วนโรงงานอยู่อีกด้านหนึ่งนะครับ ต้องขับรถไปอีกไกล ปกตินายหัวจะนั่งทำงานที่เรือนเล็ก เข้าโรงงานเฉพาะวันจันทร์กับวันศุกร์” ไข่นุ้ยเริ่มงงว่า ทำไม ลัลภัทรต้องถามเรื่องงานของนายหัว
ลัลภัทรฟังที่ไข่นุ้ยเล่า พลางขมวดคิ้ว  น่าแปลก ให้เธอไปพักที่โรงงานก็ได้ ทำไมต้องมาพักกับเจ้าของบ้านด้วย หญิงสาวถามต่อว่า
“ที่นี่อยู่กันกี่คนจ๊ะ”
“อยู่กันสองคนครับ มีผมกับนายหัว ตอนนี้ก็มีคุณเพิ่มมาอีกคน”
“แถวนี้ไม่มีคนอื่นอยู่เลยหรือจ๊ะ”
“ระยะทางห้ากิโลเมตรนี้ไม่มีหรอกครับ บ้านพักคนงานกรีดยางอยู่กระจายทั่วสวนครับ สวนปาล์มก็อยู่อีกไกล”
“อ้อ ใช่ เมื่อสักครู่เธอบอกว่ามีระเบิดนี่”
“ครับ ระเบิดครั้งแรกเลย ผมไม่คิดว่าสวนเราจะโดนด้วย”
“พวกไหนหรือ”
        “ผมว่าไม่ใช่พวกผู้ก่อการร้ายหรอกครับ คุณไม่ต้องกลัว คิดว่าน่าจะเป็นพวกป่วนเมืองมากกว่าครับ
คุณพักผ่อนก่อนดีกว่าครับ นายหัวคงกลับมาดึก ในตู้เย็นมีแต่น้ำดื่มครับ ในครัวมีกาต้มน้ำไฟฟ้า กับพวกกาแฟ ชา โกโก้ หากคุณต้องการอะไรเพิ่มเติมเรียกผมได้ครับ หรือจะเดินไปที่เรือนใหญ่ก็ได้ มีครัวอยู่”
“ขอบใจจ้ะ แค่นี้ก็มากเกินพอแล้ว”
“ตอนเย็นน้าช้อยจะทำอาหารเข้ามาให้ครับ มีอะไรก็เรียกผมได้นะครับ ผมอยู่แถวนี้แหละ”
“จ้ะ ขอบใจ เธอไปทำงานเถอะ”
ไข่นุ้ยออกไปแล้ว หญิงสาวหยิบผ้าเช็ดตัว เสื้อผ้าใหม่สำหรับเปลี่ยนชุดเข้าห้องน้ำ เธอเห็นว่าห้องน้ำตกแต่งด้วยสุขภัณฑ์ชั้นดีราคาแพง ของใช้สำหรับอาบน้ำ เป็นสินค้านำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน หญิงสาวตัดสินใจใช้ของที่อยู่ในห้องน้ำ ไม่ใช้ของที่เธอนำติดตัวมาด้วย
พอได้อาบน้ำแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าชุดใหม่ ลัลภัทรก็รู้สึกตื่นเต็มตา  เธอเดินไปเปิดตู้เย็น “ใหญ่กว่าที่บ้านเราอีกแหะ” ในตู้เย็นมีน้ำดื่มบรรจุขวดเรียงรายเต็มตู้ หญิงสาวหยิบน้ำมาหนึ่งขวด มองหาแก้ว เจอแก้วสารพัดแบบวางเรียงอยู่บนถาดแก้ว เธอหยิบแก้วกระเบื้องเนื้อดีมารินน้ำจากขวด
หญิงสาวเดินกลับเข้าห้อง เธอหยิบโทรศัพท์มือถือจากแท่นชาร์จแบตเตอรี่ โทรศัพท์บอกศิริพรว่าเธอมาถึงอย่างปลอดภัยแล้ว เมื่อวานมีเพื่อนสนิทสามคน รวมถึงศิริพร มาส่งที่สถานีรถไฟหัวลำโพง หญิงสาวนึกถึงบทสนทากับเพื่อนๆ เมื่อเย็นวาน
“ภัทร แน่ใจนะว่าจะไปทำงานที่นั่น ตัดสินใจเร็วเกินไปหรือเปล่า” กระแต เพื่อนซึ่งเป็นครูที่โรงเรียนกวดวิชาชื่อแห่งเดียวกับลัลภัทรถาม
“นั่นสิ ไม่เห็นต้องไปไกลขนาดนั้นนี่ ไปเที่ยวต่างประเทศสักพักให้สบายใจ กลับมาแล้วค่อยเริ่มงานใหม่ก็ได้” ติ๋มเพื่อนซึ่งเป็นเอเจนต์ขายตั๋วเครื่องบิน เสนอทางเลือกนี้ให้กับเธอหลายครั้งแล้ว
“นุ่น นายจ้างคนนี้ไว้ใจได้แน่นะ” โอ๋ อาจารย์มัธยมร่างอวบ ถามศิริพรซึ่งยืนอยู่ข้างลัลภัทร
“ไว้ใจได้สิ เขาเป็นนักธุรกิจดังทางปักษ์ใต้เลยนะ เพียงแต่เขาไม่ชอบออกสื่อ พวกเธอก็เลยไม่รู้จัก”
“ถ้ามันเป็นการตัดสินใจของภัทร พวกเราก็ต้องยอมรับ หากภัทรไปถึงที่นั่นแล้ว งานหนักหรือไม่ชอบ กลับมาเลยนะภัทร” กระแตกุมมือลัลภัทรแน่น
“จ้ะ ขอบใจพวกเธอมากที่มาส่ง”
“เดินทางโดยสวัสดิภาพนะภัทร” เพื่อนทั้งสามพูดพร้อมกัน
“ขอบใจพวกเธอทุกคนที่มาส่ง” ลัลภัทรรู้สึกว่ามีน้ำเออบนเบ้าตา
“ต้องมาส่งสิ เพื่อน นุ่นจะกลับพร้อมกันไหม” โอ๋ถามศิริพร ที่ยังยืนอยู่ข้างลัลภัทร
“พวกเธอกลับไปก่อนเถอะ ฉันมีธุระแถวนี้”
“งั้นพวกเราไปก่อนนะ  ภัทร ถึงที่โน่นแล้วโทร.หาด้วยนะ” ติ๋มโบกมือให้ลัลภัทร
เมื่อเพื่อนทั้งสามคนเดินจากไป ศิริพรพูดกับลัลภัทรว่า
“ความจริง ฉันควรไปส่งเธอด้วยตัวเองเลย” ศิริพรทำสีหน้ารู้สึกผิด
“ไม่เป็นไรหรอก นุ่นเองก็มีงานต้องทำนี่ นุ่นคุยกับทางโน้นเรียบร้อยแล้วใช่ไหม เรื่องที่ภัทรไปทำงานแทนนุ่น”
“จ้ะ” อันที่จริง ศิริพรไม่ได้ติดต่อกับนายหัวโดยตรง เธอส่งเอกสารสัญญากลับทางไปรษณีย์ และโทรศัพท์แจ้งน้าแช่มซึ่งเป็นผู้ที่จะมารับลัลภัทรเท่านั้น หากทางโน้นไม่พอใจ จะมาทำอะไรเธอได้ นอกจากส่งลัลภัทรกลับแค่นั้น
“นุ่น เหมือนระฆังช่วยชีวิตภัทรเลยนะ ตอนนั้นภัทรคิดอะไรไม่ออก”
“เรื่องมันผ่านไปแล้วก็ปล่อยมันไปเถอะ ช่างหัวผู้ชายเฮงซวยคนนั้น ไม่แน่นะ ไปที่โน่น ภัทรอาจะได้เจอคนดีๆ ก็ได้”
“ไม่หรอก และอีกอย่างภัทรก็ยังไม่พร้อม”
เสียงประกาศรถไฟสายใต้ กรุงเทพฯ-หาดใหญ่ จอดเทียบชานชาลา ผู้โดยสารร่วมขบวนกับลัลภัทรเริ่มเดินไปที่ประตูรถไฟ
“รถไฟมาแล้ว นุ่นจะช่วยยกของขึ้นไปให้”
“ขอบใจจ้ะนุ่น”
ขบวนของหญิงสาวเป็นรถปรับอากาศชั้นหนึ่ง ตอนแรกทางโน้นจะส่งตั๋วเครื่องบินมาให้ แต่เธออยากเดินทางด้วยรถไฟมากกว่า
“ขึ้นเครื่องสบายกว่านะภัทร นั่งรถไฟตั้งหลายชั่วโมง” ศิริพรถามย้ำกับลัลภัทร เมื่อเธอบอกว่าขอนั่งรถไฟแทน
“ภัทรไม่ได้นั่งรถไฟไกลๆ แบบนี้มานานแล้ว”
“ตามใจ ฉันจะแจ้งทางโน้นให้เอง ภัทรคงต้องเดินทางล่วงหน้าหนึ่งวัน”
“จ้ะ ขอบใจนะ”
หญิงสาวขนกระเป๋าขึ้นรถไฟเรียบร้อยแล้ว เธอเปิดหน้าต่างเพราะอยากลาเพื่อนเป็นครั้งสุดท้าย แต่ศิริพรไม่อยู่เสียแล้ว
ลัลภัทร กดหาเบอร์ของศิริพร หากแต่เธอต้องผิดหวัง เพราะปลายสายเป็นเสียงจากเครื่องตอบรับอัตโนมัติ
“หมายเลขที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้”
“คงทำงานอยู่ล่ะมั้ง เดี๋ยวส่งเมล์ไปหาแทนแล้วกัน”
หญิงสาวโทรศัพท์หาเพื่อนสนิททั้งสาม กระแต ติ๋ม โอ๋ ทุกคนดีใจที่ลัลภัทรเดินทางปลอดภัยดี พวกเธอทั้งสี่เป็นเด็กที่เติบโตมาในกรุงเทพฯ นั่นย่อมเป็นอะไรที่น่าหวั่นใจ เมื่อต้องเดินทางมาทำงานต่างเมืองที่ไม่คุ้นเคย
ลัลภัทรเปิดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค  เครื่องส่วนตัวของเธอที่กรุงเทพฯ เธอขายไปแล้ว คิดว่าทางนี้คงเตรียมเครื่องสำหรับทำงานไว้ให้ ไม่คิดมาก่อนเลยว่า จะมีคอมพิวเตอร์ที่ห้องพักให้ด้วย นอกจากนี้ยังมีเล้าท์เตอร์ส่วนตัวสำหรับสัญญาณอินเทอร์เน็ต
เธออยากเห็นหน้านายจ้างของเธอ ลัลภัทรเคยขอดูรูปถ่ายของศิวกานต์จากศิริพร แต่ศิริพรบอกว่า ศิวกานต์ไม่ชอบออกงานสังคม เก็บตัว สันโดษ รูปก็ไม่ชอบให้ถ่าย ศิริพรเคยเจอตอนเธอยังเป็นเด็ก แต่ก็จำอะไรไม่ได้
เมื่อต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ตได้ ลัลภัทรก็พิมพ์จดหมายอิเล็คทรอนิคส์แจ้งไปว่าเธอมาถึงสวนโดยสวัสดิภาพ คนที่นี่ดูแลเธออย่างดี แต่ยังไม่เจอนายจ้างของเธอ หญิงสาวส่งจดหมายที่พิมพ์เสร็จ ขณะที่หญิงสาวกำลังจะปิดเครื่อง จดหมายที่เธอส่งไปก็เด้งกลับมา
“น่าแปลกจัง ปกติก็ส่งได้ไม่มีปัญหานี่ หรือว่าที่อยู่ติดต่อนี้เลิกใช้ไปแล้ว” หญิงสาวรำพึงกับตัวเอง
“บางทีอาจจะเป็นเพราะจดหมายเยอะ เลยถูกเด้งกลับ” หญิงสาวพยายามมองโลกในแง่ดี
เธอมองดูนาฬิกาแขวนผนัง นาฬิกาบอกเวลา บ่ายสองโมงสิบห้านาที
“บ่ายสองแล้วหรือนี่ เร็วจัง”
หญิงสาวนำเสื้อผ้าในกระเป๋าออกมาจัดเรียบในตู้ ตู้เสื้อผ้าสีครีมสลักลวดลายดอกไอริส เข้าชุดกับโต๊ะเครื่องแป้งสีครีมเช่นเดียวกัน เธอนำของใช้กระจุกระจิกมาวางบนโต๊ะเครื่องแป้ง ส่วนหนังสือที่กินพื้นที่เกือบครึ่งของกระเป๋าอีกใบ เธอนำมาวางบนโต๊ะทำงาน บางส่วนก็วางบนชั้นวางของด้านล่างโทรทัศน์
ลัลภัทรคิดว่าเธอคงไม่ง่วง เพราะนอนเต็มอิ่มมาจากรถไฟ หากแต่เมื่อได้นั่งบนโซฟาตัวเล็กขนาดพอผู้ใหญ่สองคนนั่ง เธอก็รู้สึกง่วงทันที สักพักก็นั่งหลับบนโซฟา โดยที่มือยังถือของที่ยังจัดไม่เสร็จ
++++++++++++++++

จากคุณ : Josephine March
เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 20:57:00




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com