มาเชียร์กีฬากันดีกว่า
วี๊ด บู๊ม ฮูลา ฮูลา ฮาเฮ ฮูเล ฮูเล ฮี้ ฮี้
แล้ววันสำคัญของปันนาก็มาถึง เฉินฮ่าวหมิงให้ซานหลงกับเด็กแจ๋วมาส่งหล่อนที่โรงเรียนเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งทีีมีสนามฟุตบอลขนาดใหญ่และอัฒจรรย์จุคนได้หลายพันคน โรงเรียนแห่งนี้ เป็นโรงเรียนในเครือเดียวกับมูลนิธิของโรงพยาบาล จึงสามารถใช้สถานที่แข่งกีฬาหาเงินเข้ามูลนิธิได้
ในห้องแต่งตัว เด็กแจ๋วลากกระเป๋าเสื้อผ้าตามปันนามาด้วย แล้วปันนาก็เผชิญปัญหาอย่างที่เฉินฮ่าวหมิงคาดไว้ไม่มีผิด เสื้อเกาะอกติดกับกระโปรงบานสีขาว มีเสื้อกั้กเอวลอยสวมทับหลวมๆ แต่เสื้อและกางเกงสวมทับชั้นในที่ปกติพอดีตามสัดส่วนที่เคยวัดไว้ก่อนไปบ้านเฉินฮ่าวหมิ บัดนี้ฟิตเปรี้ยะจนแทบจะหายใจไม่ออก แต่จะแก้ไขอะไรตอนนี้คงไม่ทันแล้ว
ทำไงดี นี่หล่อนมิต้องกลายเป็นหมูสามชั้นไปยืนส่ายสะโพกบิดตะกูดหน้าแสตนด์เชียร์ให้ใครต่อใคร หัวเราะเยาะเอาหรือ
ที่สำคัญ คนไข้หล่อน คงมีโผล่มากันหลายคน จ๊าก แล้วนี่ มะรืนนี้ก็จะได้กลับไปทำงานแล้วด้วย
เอ ทำไมถึงตรงนี้ หล่อนกลับคิดถึงนายเฉินขึ้นมาตงิดๆ ถ้าเชื่อเขา ลองชุดแต่แรกก็คงจะดี
นี่หล่อนแค่คลี่ดูว่าชุดกระโปรงเรียบร้อย ไม่โป๊เท่านั้น แพรวาที่นั่งแต่งตัวอยู่ข้างๆ ดูไม่มีปัญหาอะไร นอกจากหน้าหงิก ไม่เต็มใจ
ใครๆก็รู้ว่าแพรวาถูกผอ.รักดีขอร้องแกมบังคับให้มาเป็นเชียร์ลีดเดอร์ เพราะนายนล นันทกานต์ ซูเปอร์สตาร์แบดบอยแห่งวงการบันเทิง ที่กำลังตามเทียวไล้เทียวขื่อโรงพยาบาลเหมือนบ้านหลังที่สอง มีข้อเสนอว่า จะให้เขามาร่วมแข่งกีฬา ต้องมี แพรวาเป็นเชียร์ลีดเดอร์ และเขายังเสนอจะชวนเพื่อนดารามาอีกหลายคน จนครบทีม
นั่นเป็นเรื่องราวทั้งหมดที่ปันนาถูกดึงมาร่วมด้วยช่วยเป็นเพื่อนยายแพรวา เพราะข้อแม้ของหมอแพรวาคือ จะให้หล่อนเป็นเชียร์ลีดเดอร์ ต้องมีหมอปันนาร่วมทีมด้วย
"โห สงสัยอยู่ที่โน่น หมอคงกินเก่งล่ะสิ ต้องอาหารภัตตาคารชั้นเลิศแน่ เนื้อหมอถึงแทบจะปลิ้นออกมาขนาดนั้น" ยายกระปุกผู้สื่อข่าวฉาว หัวหน้าทีมเชียร์ลีดเดอร์ที่วันนี้แต่งหน้าทาปาก คิ้วเข้มเต็มยศเอ่ยทัก "กลายเป็นหมูหันเต้นระบำไปเลย" ปิดท้ายด้วยเสียงหัวเราะชอบอกชอบใจ
ยายนี่นี่ พูดไม่ดูตัวเลย ตัวเองกลมดิ้กจนหาอกหาเอวไม่เจอ แทบจะกลิ้งได้อยู่แล้ว ยังมีหน้ามาหาเหมาคนอื่นเป็นเพื่อนสเปซี่เดียวกันอีก คอยดูเผลอเมื่อไหร่จะเอากระดูกทิ่มซักที
"ใครเป็นหมู ยายปุ้มปุ้ย" เสียงหมอวิกรมที่แอบเข้ามาในห้องแต่งตัวสุภาพสตรีถามยายกระปุก "รัดงี้ดี จะได้รู้ว่าหมอกล้วยหุ่นดีแค่ไหน เห็นไหม พุงเพิงไม่มี หน้าท้องแบนราบ ไมเหมือนคนอื่นนี่ อุตส่าห์ใส่ซะหลวมโครก ยังเห็นหมูสามชั้นมันแผลบปลิ้นออกมา" เข้าข้างนางในดวงใจเต็มที่
"อ้อ อยากโชว์ งั้นก็ระวังล่ะ เดี๋ยวแควกกลางฝูงชนล่ะก็ ช่วยอะไรไม่ได้นะ วันนี้นักข่าวมาเยอะด้วย"
"นักข่าวเขามาทำข่าวดารา เขาจะมายุ่งอะไรกับหมอ"
หมอกล้วยบอกหน้างอ
"ก็ไม่แน่ เขาเห็นอะไรแปลกๆ เขาก็อาจจะชอบก็ได้ ดีไม่ดีได้ลงหน้าหนึ่งเลย"
แช่งชัก ดักขู่แล้ว เจ้าตัวก็เดินตัวกลมจ้ำม่ำออกไปก่อน
วันนี้สนามกีฬา คนคับคั่งเป็นพิเศษ บริเวณที่นั่งบนอัฒจรรย์เต็มเกือบทุกที่นั่งเพราะผู้เข้าร่วมแข่งขันนอกจากแพทย์ บุรุษพยาบาล เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลแล้ว ยังมีดาราชื่อดัง นักแข่งรถแชมป์โลก เอฟวันคนแรกของประเทศไทย เคลย์ รัชตะ และซูเปอร์สตาร์แบดบอยของวงการบันเทิงชื่อดัง นล นันทกานต์ มาร่วมเป็นหนึ่งในทีมดึงดูดแฟนคลับของสองผู้ยิ่งใหญ่ตามมาด้วยมืดฟ้ามัวดิน บัตรขายเกลี้ยง ตั๋วผีเกลื่อนยิ่งกว่าแมนยูแข่งกับลีเวอร์พูลเสียอีก
หลังจากประธานมูลนิธิกล่าวเปิดงานและพิธีกรแนะนำผู้ร่วมแข่งขัน
คณะเชียร์ลีดเดอร์ทั้งสองฝ่าย ก็เดินเรียงแถวหน้ากระดานออกมายืนหน้าสแตนด์เชียร์ฝั่งตรงข้ามกัน
ทีมปันนามีสุภาพสตรีทั้งหมดสี่คน เป็นพยาบาลสองหมอสอง
เสียงปรบมือ กรี๊ดลั่นของกองเชียร์ทั้งสองฝ่ายดังสนั่นหวั่นไหว เมื่อทีมเชียร์ของหล่อนเตรียมเดินขึ้นสแตนด์เชียร์ ปันนาฉีกยิ้ม ประหนึ่งนางงามกำลังเดินขึ้นเวทีเตรียมตัวฟังประกาศผู้เข้ารอบสุดท้าย หล่อนโบกมือให้ผู้เข้าชม แต่แล้วก็หุบยิ้ม หดมือลงแทบไม่ทัน เพราะไม่มีใครมองมาทางนี้สักคน
สายตาทุกคู่พุ่งตรงไปที่นักฟุตบอลที่กำลังเดินออกจากอุโมงค์เก็บตัว
พี่นล พี่เคลย์ เสียงเรียกซูเปอร์สตาร์ไฮไลท์ของงาน กลบเสียงเชียร์หมอของคนไข้ที่ซื้อตั๋วเข้าชมโดยเฉพาะเสียมิดเม้น
เออ ก็ดี จะได้ไม่มีใครสนใจพวกหล่อน ปันนาแอบจับมือกับแพรวา ก็รู้ว่าฝ่ายนั้นก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน
การแข่งขันเริ่มต้นขึ้นด้วยเสียงเป่านกหวีดจากกรรมการมืออาชีพในสโมสรกีฬาชื่อดัง คนไข้หมอโยเซฟ จากนั้นสัญญาณเริ่มเชียร์ก็ดังขึ้น พร้อมดนตรีจังหวะเร็วดังกระหึ่มไปทั้งสนาม
วี๊ด บู๊ม ฮูลา ฮูลา ฮาเฮ ฮูเล ฮูเล ฮี้ ฮี้ คณะของปันนาก็เริ่มเต้นวาดลวดลายส่ายสะโพก โยกขา สะบัดพู่สองข้าง กระโดดโหยงเหยง แอ่นหน้าแอ่นหลังด้วยลีลาน่ารักน่าชัง
แล้วยายกระปุกก็นำทีมก้าวฉับๆด้วยรองเท้าหนังส้นตึกขึ้นไปยืนบนชั้นสูงสุดของสแตนด์
จะเต้นบนพื้นไม่ไดหรือไง ขึ้นมาทำซ่าส์อะไรข้างบน เกิดพลัดตกหล่นไป มิแข้งขาหักบาดเจ็บไปตามๆหรือ เป็นพยาบาลแท้ๆ คิดท่า คิดอะไรไม่คำนึงถึงความปลอดภัยคนอื่นเล้ย หมอกล้วยแอบนึกเจริญพรในใจ
เฮ้อรำคาญจริง ทำไมถึงเคลื่อนไหวยีดยาดอย่างงี้น้า
วินาทีนั้น คนที่หมอกล้วยนึกถึงกลายเป็นเฉินฮ่าวหมิง ป่านนี้นายนั่นคงประชุมอยู่ที่ไหนสักแห่งในโลกนี้ เขาจะเป็นห่วงหล่อนบ้างหรือเปล่าน้า
"น้ำหนักหมอน่าจะเพิ่มสักสองกิโลนะผมว่า"
คำพูดเจ้าหมอนั่นแวบเข้ามาในโสตประสาทอีกละ เขาพูดจริง ทำไมหล่อนไม่รู้สึกเลยนะว่า อ้วน เอ๊ย สมบูรณ์ขึ้น
ก็เพราะนายคนเดียว ให้ฉันกินๆนอนๆ เดินไปเดินมา อย่างมากออกไปข้างนอกแวะซื้อข้าวของส่วนตัว จนจะกลายเป็นหมูบะช่ออยู่แล้ว
อ้าวคิดเพลิน คนอื่นเดินลงจากสแตนด์ไปเต้นเหยงๆข้างล่างแล้ว
ปันนารีบจ้ำตามลงไปพร้อมพู่ในมือทั้งสองข้างที่ครั้งนี้ปฏิญาณมั่นเหมาะ ลงคาถามหาระรวยไว้แล้วว่า หากเลี่ยงมิได้ จักมีอันต้องหลุดกระเด็นปลิวหวิวไปเช่นครั้งกระโน้น ก็จงหล่นไปบนศีรษะทีมดาราฝ่ายตรงข้าม ทีมที่หล่อนเป็นเชียร์ลีดเดอร์จะได้ชนะเป็นมั่ง
แล้วก็เกิดเรื่องจนได้ ความรีบบวกความฟิตเปรี้ยะของชุดกับรองเท้าหนังส้นเข็มที่ปันนาไม่เคยสวม ทำให้ลดความคล่องตัวลงไปมาก หญิงสาวสะดุดเท้าตัวเองพลิกกลิ้งตกลงมาจากสแตนด์ชั้นสอง คางเกยพื้น ขาสองข้างพาดอยู่บนขั้นบันไดชั้นบน พู่ในมือกระเด็นหล่นไปคนละทาง
หากปฏิกิริยาปันนาก็ไวพอตัว คว้าพู่ได้ หล่อนก็รีบเด้งตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ว่องไว
ไม่มีใครเห็น ไม่มีใครเห็น
แล้วก็รีบจ้ำหน้าตั้งเข้าไปเต้นรวมกลุ่มอย่างหน้าตาเฉย ประดุจไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน
แต่ แต่ว่า ตอนนี้เขาเต้นถึงท่าไหนแล้วฟะ งง ต่อไม่ติดแล้วดิ
เมื่อวานคุณคริสตี้ จางก็มาเต้นเป็นเพื่อน หล่อนก็เอาแต่ชวนคุยแล้วก็ลงเอยด้วยการไปวิ่งฟิตเนสแทน ขณะกำลังเต้น ยกขา กระโดดโหยงเหย็งท่าลิงหลอกเจ้าไม่ตรงกับชาวบ้าน
ก็มีเสียงอันไม่พึงประสงค์ดังขึ้นมา ]
แก้ไขเมื่อ 24 ธ.ค. 55 21:55:14
แก้ไขเมื่อ 24 ธ.ค. 55 21:51:12
จากคุณ |
:
mamahuhu
|
เขียนเมื่อ |
:
24 ธ.ค. 55 21:48:52
|
|
|
|