Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
กับดักรักสองโลก 19. vote ติดต่อทีมงาน

.

.


19.


แสงไฟหลากหลายสีสันวิ่งสลับเปลี่ยนทิศทางไปมาดูน่าเวียนหัวหากจงใจมอง แต่เนื่องจากไฟที่ว่ากำลังวิ่งวนในบรรยากาศมืดสลัวของสถานความบันเทิงมันกลับสร้างชีวิตชีวาที่เต็มไปด้วยความตระการตา พาเหล่านักท่องราตรีทั้งหลายสนุกสนานครื้นเครงไปพร้อมกับเสียงเพลงที่กำลังบรรเลงไม่ขาดสาย ทว่ามนุษย์บางคนกลับไม่เป็นเช่นนั้น แก้วเหล้าสีชาถูกหยิบดื่มรวดเดียวหมด แก้วแล้วแก้วเล่าไม่มีพักยก ไม่ว่าความสนุกสนานรอบกายจะมากมายเพียงใด เสียงดนตรีจะกระหึ่มดังจนจิตใจเต้นโครมครามแค่ไหน กลับไม่มีผลใดต่อบุรุษหนุ่มที่กำลังสับสน เสมือนเขากำลังสร้างโลกส่วนตัวจมปลักกับความคิดของตนเอง


กันยวัฒน์กลับมาเป็นคนเก่าที่เอาแต่ดื่มเหล้าเมามายอีกครั้ง สาเหตุอาจแตกต่างจากเมื่ออดีตอย่างสิ้นเชิงเนื่องจากเวลานี้เขาไม่ได้เป็นมนุษย์อกหัก แต่กลับตกอยู่ในอาการปางตายยิ่งกว่า คล้ายกำลังถูกดึงหัวใจออกจากร่างกาย ความรู้สึกย่ำแย่ถาโถมอารมณ์ กันยวัฒน์ได้แต่คิดไม่ตก พอจะมีหนทางใดบ้างที่จะช่วยแก้ไขความหนักอกหนักใจในเวลานี้ให้บรรเทา เนื่องจากเขากำลังจะสูญเสียหญิงสาวที่ตนเองเพิ่งรู้ตัวว่ารักนางเข้าแล้วเต็มเปา นางผู้ซึ่งไม่ใช่แม้แต่มนุษย์ นางที่พร้อมจะกลายร่างเป็นปีศาจทำร้ายเขาได้ทุกเวลา เขากำลังจะสูญเสียนีลาของเขาไป


ขวดสุราทรงสูงถูกหยิบเทน้ำเมาสีชาลงแก้วต่อเนื่อง เขารู้ดีว่าแอลกอฮอล์ไม่ได้ช่วยอะไรเลยนอกเสียจากสร้างความมึนเมา แต่ ณ ขณะนี้คงเป็นทางออกเดียวที่เขานึกถึง จากที่ใครต่อใครว่าไว้ ดื่มเพื่อลืม คงเชื่อถืออะไรไม่ได้อีกแล้ว เพราะสำหรับกันยวัฒน์ ยิ่งดื่มกลับยิ่งจำภาพเวลาดีๆ ยิ่งอยากลืมกลับยิ่งคิดถึงหญิงสาวที่อยู่ในดวงใจ ยิ่งทำใจลบภาพนางพรายออกจากความทรงจำมากเท่าไหร่ ทุกเรื่องราวตั้งแต่วันแรกที่ได้เจอกันกลับวิ่งวนซ้ำซากในจิตใจ คล้ายภาพหนังที่กำลังฉายขึ้นในสมอง แล้วอย่างนี้เขาจะลืมนางได้อย่างไร


“ไอ้กันย์.. นี่เอ็งเป็นไรไป นั่งกินเหล้าคนเดียวไม่ชวนเพื่อนฝูง เอ็งมีอะไรหนักอกหนักใจวะ”


“...”


“เงียบ.. เออ.. ดีเว้ย! ถามไรก็ไม่ตอบ ข้าไม่ใช่ผู้วิเศษนะจะได้รู้ใจเอ็ง มีไรก็ระบายบ้างเว้ยเพื่อน ว่าแต่มัวมานั่งกินเหล้าแบบนี้ เด็กที่บ้านไม่รอเหรอ ข้าว่าเอ็งรีบกลับดีกว่ามั้ง ป่านนี้นีลาของเองคงชะเง้อคอยาวรอเอ็งกลับไปหาแล้วล่ะ”


ยิ่งพยายามไม่นึกถึงกลับโดนตอกย้ำ สะกิดหัวใจบอบช้ำให้เจ็บแปลบขึ้นมา ‘ไอ้เพื่อนเฮงซวย’ กันยวัฒน์สบถในใจ จะว่าไปน้ำเมาที่กำลังดื่มกินก็ไม่ได้ช่วยเหลือ หรือทำอะไรให้รู้สึกดีขึ้น ทางที่ดีเขาควรจะปฎิบัติตามคำแนะนำของเพื่อน คือมุ่งหน้ากลับที่พัก เนื่องจากเวลานี้อาจมีใครบางคนรอคอยเขาอยู่ดังเพื่อนว่าไว้ หรือหากไม่มีใครรอคอยเขาจะเป็นฝ่ายกลับไปหาเองตามแต่จิตใจเรียกร้องโหยหา


“เออ.. ขอบใจ งั้นข้าเช็คบิลกลับเลยแล้วกัน”


“อ้าวเห้ย!! ไอ้นี่.. นึกอยากเมาก็เมา นึกอยากกลับก็กลับ เอ็งบ้าหรือเปล่า ไม่คิดจะชวนข้ากินแถมจะกลับหนีข้าซะงั้น เอ็งนี่บ้าชัวร์”


จิตใจสับสนเวลานี้คงยากคาดเดา แม้แต่กันยวัฒน์เองยังไม่เข้าใจตนเอง นับภาษาอะไรกับคนอื่นจะมาเข้าใจ เวลานี้สมองเกิดภาวะปั่นป่วน ความคิดขัดแย้งกันเองภายใน ทั้งที่อยากหนีห่างแต่อีกใจกลับอยากเจอ ทั้งที่อยากปล่อยให้นีลาน่าจากไปแต่โดยดี ใจอีกฝ่ายกลับอยากดึงรั้งนางไว้ให้ถึงที่สุดโดยไม่สนใจโลกอีกแล้ว


“เออ.. ข้าคงบ้าไปแล้ว ไงข้ากลับก่อนนะไอ้วิณ ไว้เจอกัน”


กันยวัฒน์ลุกยืนเต็มตัว ก้าวเดินพาร่างกายโซเซออกจากสถานความบันเทิงโดยไม่ลืมวางเงินเพื่อจ่ายเป็นค่าสุรา ปล่อยให้เพื่อนสนิทยืนงงปรับอารมณ์ตามไม่ทัน พลางหันมองตามจนกันยวัฒน์เดินลับสายตาไป


ร่างสูงทรุดกายลงนั่งประจำตำแหน่งเมื่อก้าวขึ้นรถยนต์ส่วนตัวเป็นที่เรียบร้อย ความรู้สึกรับรู้ยังคงจมอยู่กับความคิดสับสน สมองคิดถึงแต่ใบหน้านวลเนียน เหตุใดนีลาของเขาจึงต้องเป็นเงือกพรายผู้มีความงดงามดั่งนางฟ้า ใยจึงไม่เป็นแค่มนุษย์เดินดินธรรมดาที่สามารถจะรักกันได้โดยไม่มีข้อแม้ใดๆ กับความเสียใจครั้งนี้กันยวัฒน์ยอมรับกับตนเองว่าหนักหนาสาหัสจนทำใจลำบาก ไม่ใช่ทำใจให้เลิกรัก แต่ต้องทำใจและจำใจกับการลาจากกันไปตลอดกาล



++++



ประตูเหล็กดัดหน้าเขตที่พักอาศัยถูกเปิดไว้เพื่อรอรับเจ้าของบ้านกลับมา นีลาน่าเดินวนเวียนอยู่ด้านหน้ากินลมชมวิวไปตามประสาเงือกพรายที่ชื่นชอบการย่างกายท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบยามค่ำคืน หากแหงนมองท้องฟ้าก็จะเห็นดวงจันทร์ส่องสะท้อนแสงสีนวลอยู่เบื้องบน บางจังหวะพรายสาวส่งดวงตากลมกลิ้งมองตามถนนที่ทอดยาว รอยานพาหนะลักษณะคุ้นเคยอย่างตั้งใจคอย


“นีลาน่า”


เสียงทรงพลังเอ่ยทักพรายสาวที่กำลังก้าวเดินอย่างเพลิดเพลินให้หยุดนิ่งอยู่กับที่ สายตากลมกลิ้งหันมองตามพรายบุรุษที่เรียกชื่อนาง เวลานี้ไฮโรเทนกลับกลายเป็นบุรุษร่างกายกำยำไม่ใช่แมวน้อยขนปุยให้ได้เห็นผ่านสายตา


“เจ้ามีสิ่งใดกับข้าอย่างนั้นหรือไฮโรเทน”


“ข้าอยากเจรจากับเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย เรื่องกลับเมืองบาดาล หากเจ้ายังยืนยันว่าจะอยู่ที่นี่ต่อไป ข้าจะไม่ขัดใจเจ้าอีกแล้ว ข้าจะปล่อยให้เจ้าอยู่ยังโลกมนุษย์แห่งนี้ต่อไปตามแต่ใจเจ้านีลาน่า”


พรายสาวสองจิตสองใจ ทบทวนความคิดก่อนจะเอ่ยตอบประโยคเจรจากับพรายบุรุษ จริงๆ แล้วนางอยากกลับเมืองบาดาลแทบขาดใจ คิดถึงทั้งผู้เป็นบิดา พี่น้องร่วมสายเลือด หรือแม้แต่ข้ารับใช้ แต่เหตุใดจึงรู้สึกไม่อยากจากที่นี่ไปเลยเช่นกัน และดูเหมือนความรู้สึกที่อยากอยู่ต่อจะมีมากกว่าอยากกลับบ้านเกิดเมืองนอนเสียด้วยซ้ำ นีลาน่ายังคงไม่เข้าใจตนเอง


“เราขอเวลาอีกหน่อยได้หรือไม่ไฮโรเทน เราสัญญากับเจ้าไว้แล้วว่าจะกลับเมืองบาดาลพร้อมเจ้า แต่เวลานี้เรายังอยากอยู่ที่นี่ อยากดูแลเจ้าโลกันต์ให้ดีกว่านี้ เพราะมนุษย์โลกผู้นั้นดีต่อข้าทุกประการ จนข้ารู้สึกว่ายังตอบแทนบุรุษผู้นั้นได้ไม่ดีพอ”


“เจ้าลองทบทวนดูดีๆ ว่าสิ่งที่เจ้าเอ่ยบอกข้ามันคือบุญคุณที่เจ้าต้องการตอบแทน หรือเพราะเจ้ามีใจให้กับมนุษย์ผู้นั้นกันแน่”


พรายสาวนิ่งคิด จิตใจเต้นเร็วราวกับกำลังเจอเรื่องตื่นเต้น ความรู้สึกเช่นนี้เรียกว่ามีใจอย่างนั้นหรือ นีลาน่าทบทวนสิ่งที่ไฮโรเทนตั้งข้อโต้แย้ง


“เรา..”


“เจ้าเริ่มลังเลแล้วใช่หรือไม่”


น้ำเสียงทุ้มต่ำเก็บกดความรู้สึก ไฮโรเทนพยายามกัดฟันระงับอารมณ์เจ็บปวดไม่ให้แสดงออกมา หากนีลาน่ารับรู้สักนิดคงมองออกว่าเวลานี้สายตารวดร้าวของพรายบุรุษเจ็บปวดเพียงใด


“ความรู้สึกเช่นนี้เรียกว่ารักอย่างนั้นหรือไฮโรเทน”


“เจ้ารักมนุษย์โลกผู้นั้น ส่วนบุรุษผู้นั้นก็รักเจ้าไม่ต่างกัน ข้าอ่านใจเจ้าทั้งคู่ออก หรือไม่จำเป็นต้องอ่านใจแค่ข้ามองผ่านสายตาก็พอเห็นอยู่บ้าง”


“...”


“แต่ข้าคงยอมให้เจ้าทั้งสองรักกันไม่ได้”


นีลาน่าปรายสายตามองไฮโรเทนเกิดคำถามขึ้นมาในใจ เหตุใดพรายบุรุษผู้นี้ถึงจงใจสั่งห้าม เหตุผลคงไม่ต่างจากที่นางรู้อยู่แก่ใจ


“เพราะข้ากับเจ้าโลกันต์อยู่ต่างโลกกันใช่หรือไม่ เราทั้งสองจึงลงเอยกันไม่ได้”


“เจ้าน่าจะรู้ดี เจ้าเป็นอมนุษย์และกำลังจะเป็นปีศาจร้ายในไม่ช้า ส่วนเจ้ามนุษย์โลกเป็นสิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอเกินกว่าจะรับมือต่อต้านไหวหากเจ้ากลายร่างขึ้นมา”


“งั้นเราจะร้องขอสิ่งใดได้อีก คงมีเพียงต่อเวลาให้ยาวนานอีกหน่อย”


“ทำไมเจ้าไม่เคยรักข้านีลาน่า! แต่เจ้ากลับมอบหัวใจภักดีต่อเจ้ามนุษย์โลกผู้นั้น”


“ข้าไม่เคยคิดบังคับจิตใจตนเองเลย หากความรู้สึกเช่นนี้มันคือความรักอย่างที่เจ้าว่าไว้ มันก็คงเกิดขึ้นเองโดยที่ข้าไม่ตั้งใจ และไม่รู้ตนเองเช่นกัน ว่ามันเกิดขึ้นมาเมื่อใด และเกิดขึ้นได้อย่างไร”


“ข้าคงปล่อยให้เจ้ารักกันไม่ได้! เงือกพรายจะรักกับมนุษย์โลกได้อย่างไร เจ้าต้องทิ้งทุกสิ่งไว้ที่นี่ แล้วกลับเมืองบาดาลโดยเร็ว อย่าปล่อยให้สิ่งต่างๆ ยืดเยื้ออีกเลยนีลาน่า”


“เจ้าไม่มีสิทธิ์ห้ามข้า ในเมื่อเอ่ยวาจาแล้วข้าไม่ขอคืนคำ ข้าจะขอต่อเวลาอีกนิด แล้วข้าจะกลับไปพร้อมกับเจ้าเมื่อถึงเวลานั้นไฮโรเทน”


เสียงเครื่องยนต์ดังแว่วมาแต่ไกลขัดจังหวะการสนทนา พาเงือกพรายทั้งสองเหลียวสายตามองตาม ไฮโรเทนแปลงกายกลับสู่สภาพแมวน้อยขนปุยจ้องมองพรายสาวด้วยสายตาอาลัยอาวรณ์ก่อนเดินหายลับไป


รถหรูคันคุ้นเคยจอดสนิทยังหน้าที่พักอาศัย เสียงเครื่องยนต์ดับลงพร้อมเจ้าของรถเปิดประตูลงมายืนยังพื้นถนน ร่างสูงเดินโซเซ ใบหน้าขึ้นสีแดงระเรื่อเจือจาง บ่งบอกถึงอาการไม่ปกติ นีลาน่าสังเกตเห็นจึงเดินเข้าหาพร้อมช่วยประคองจับแขนกันยวัฒน์ยึดไว้


“คุณมาทำอะไรอยู่ตรงนี้”


“เรามารอเจ้ากลับบ้าน”


“มายืนคนเดียวค่ำมืด รู้หรือเปล่าว่าอันตราย ผมบอกคุณตั้งหลายครั้งแล้วนี่”


“เรายืนกับ..”


พูดพลางหันสายตามองหาพรายบุรุษที่เมื่อครู่ยังมีตัวตนอยู่ตรงนี้ แต่เวลานี้เขาหายตัวไปแล้วอย่างไร้ร่องรอย นีลาน่าจึงหันกลับมาสนใจยังบุรุษด้านข้างดังเดิม


“คราวหน้าคุณไม่ต้องมารอผมอย่างนี้นะ ผมจะไปไหนมาไหน ก็ไม่ต้องรอผมกลับมา”


“เราเต็มใจ..”


“ก็บอกว่าไม่ต้องไงเล่า!”


กันยวัฒน์ตะคอกเสียงดุดันใส่ พาพรายสาวถึงกับนิ่งอึ้งจ้องมองยังดวงตาคมกริบที่แสดงอารมณ์คุกรุ่นโกรธเคือง กันยวัฒน์นิ่วคิ้วขมวดจนยุ่งเหยิง


“เราขอแค่ดูแลเจ้าจนกว่าเราจะกลับเมืองบาดาลไม่ได้แล้วอย่างนั้นหรือ”


มือแข็งแรงกำหมัดแน่นข่มอารมณ์สั่นไหว ไม่ให้จิตใจอ่อนแอไปมากกว่านี้ แค่เห็นสายตาเศร้าหมองของหญิงสาวที่ยืนอยู่เบื้องหน้าก็พาเขาใจแทบสลาย นีลาน่าค่อยๆ คลายมือออกจากการกุมแขนกันยวัฒน์จนหลุดพ้น ในเมื่อไม่มีเสียงตอบรับใดๆ จากเจ้าโลกันต์ นั้นแสดงว่าเขาคงไม่อนุญาตให้นางได้ดูแลอย่างตั้งใจ สองเท้าค่อยๆ หันกลับพลางเดินเชื่องช้าเข้าเขตที่พักอาศัยด้วยรู้สึกหดหู่และเสียใจหนักหนา


“นีลา..”


ความเข้มแข็งแพ้หัวใจตนเองราบคาบ ขอได้ไหมอีกแค่ครั้งสุดท้ายก่อนที่จะไม่มีสิ่งดีๆ ให้จดจำ กันยวัฒน์คว้าแขนนีลาน่าไว้พร้อมก้าวเดินหยุดยืนเบื้องหลัง สองมือโอบกอดร่างบอบบางไว้เต็มวงแขน บุรุษหนุ่มกระชับอ้อมกอดแนบแน่น สัมผัสความอบอุ่นที่โหยหา


“...”


“ผมขอโทษ..”


คำกล่าวขอโทษหลุดลอดออกจากลำคอเพียงเท่านั้น แต่ความในใจยังระบายสิ่งที่ต้องการไม่หยุดหย่อน ‘ผมขอโทษที่ต้องเสียงดังใส่คุณ ผมจำเป็นต้องตัดคุณออกจากใจ ผมต้องเลิกรักคุณให้ได้ ได้โปรดอย่าดีกับผมอีกเลย’


“...”


“ช่วยกอดผมหน่อยได้ไหม..”


นีลาน่ายืนแน่นิ่งในอ้อมแขนชั่วครู่ พอได้สติกลับคืนร่างอ้อนแอ้นค่อยๆ เคลื่อนกายเข้าหาอกแกร่ง สองมือยกกอดรอบเอวร่างสูงไว้ตามแต่เขาต้องการ ความเจ็บปวดหลั่งไหล ช่างทรมานเหลือเกิน กันยวัฒน์พยายามฝืนทนสะกดน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา แรงกอดยิ่งแนบแน่นพร้อมร่างกายสั่นเทา ครั้งสุดท้ายแล้วใช่ไหมกับการได้รับสัมผัสอบอุ่นเช่นนี้


“...”


“ผมขอให้คุณโชคดียังโลกของคุณ”


อ้อมกอดค่อยๆ คลายออกจนหลุดพ้นพันธนาการ กันย์วัฒน์รีบรุดก้าวเดินขึ้นยังรถยนต์ส่วนตัวอีกครั้ง กุญแจถูกบิดสตาร์ทพร้อมล้อรถเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็ว


“โลกันต์! เจ้าจะไปไหน อย่างทิ้งเราไป กลับมาก่อน!”


“เจ้าโลกันต์!!”


นีลาน่าวิ่งตามรถที่ทยานออกไป แต่ไม่มีทีท่าว่าจะชะลอความเร็วลงเลย ต่อให้นางพรายก้าวเท้ารวดเร็วเพียงใดรถยนต์ก็ยิ่งห่างไกลออกไปทุกที จนในที่สุดนางก็หมดแรงล้มลงกับพื้นถนน พร้อมส่งสายตามองดูรถยนต์คันดังกล่าววิ่งลับหายไป


“เราคงน่ารังเกียจมากใช่หรือไม่ที่เป็นได้แค่ปีศาจร้าย เจ้าจึงพยายามหนีห่างเราไปเช่นนี้”


เสียงพึมพำแผ่วเบาพร้อมกับใจที่บอบช้ำเต็มที แมวน้อยขนปุยเดินขนาบข้างจ้องมองอย่างเวทนา พลางแนบหน้าหนุนไกล่เกลี่ยเข้าที่ข้างแขนบอบบางคล้ายปลอบใจให้นีลาน่าเลิกโศกเศร้าเสียใจ พรายสาวอุ้มแมวน้อยขึ้นประคองกอดไว้


‘เจ้าจงตัดใจเสียเถิดนีลาน่า’


“ข้าจะรอเจ้าโลกันต์จนกว่าจะเจรจากันรู้เรื่อง แล้วข้าจะกลับเมืองบาดาลพร้อมเจ้าไฮโรเทน”



++++



แสงแดดส่องทะลุกระจกหน้าต่างรถยนต์ที่กันยวัฒน์นั่งงัวเงียอยู่ด้านใน ในมือยังคงถือกระป๋องเบียร์ที่แวะซื้อจากร้านสะดวกซื้อข้างทาง เขาไม่ได้ไปไหนไกลจากถิ่นอาศัยแม้แต่น้อย ยังคงวนเวียนขับรถผ่านไปผ่านมาหน้าที่พักของตนเองทั้งคืนจนสว่างคาตา จึงได้ขับรถมาหยุดนิ่งอยู่หน้าบ้านตนเองอีกครั้ง อยากเจอนีลาเหลือเกิน แต่เขายังไม่อาจรู้ใจตนเองว่าเวลานี้สมควรแล้วหรือไม่ที่จะเผชิญหน้าและทำเป็นไม่ใส่ใจนางอีกต่อไป


รถตู้หลังคาทรงสูงหลายคันทยอยวิ่งเข้ามาตามถนนในโครงการหมู่บ้านเดี่ยวจนหยุดแน่นิ่งยังหน้าบ้านกันยวัฒน์ ซึ่งเจ้าตัวยังไม่ทันได้ก้าวลงจากรถยนต์จึงเฝ้าดูเหตุการณ์อย่างไม่คาดสายตาเพื่อรอดูสถานการณ์ต่อไป รู้สึกถึงลางร้ายบางอย่าง ผู้คนทั้งหลายแห่ลงจากรถตู้ดังกล่าวพร้อมหยิบสัมภาระ อาทิเช่น กล้องถ่ายภาพ กล้องบันทึกเทป ไมโครโฟน วิ่งมุงรุมที่หน้าบ้านโดยไม่สนใจสิ่งใด คล้ายต้องการสัมภาษณ์หรือหาทำข่าวกันให้จ้าละหวั่น


หญิงสาวร่างบอบบางย่างก้าวจากด้านในของตัวบ้านตรงยังประตูรั้วด้วยรู้สึกประหลาดใจ เหตุใดจึงมีมนุษย์มากหน้าหลายตารุมล้อมหน้าที่พักอาศัยจนแน่นขนัด เสียงฮือฮาเริ่มส่งดังขึ้นเมื่อเห็นโฉมงามปรากฏกาย


“คุณผู้หญิงครับ จริงหรือเปล่าครับที่คุณเป็นมือที่สามแย่งคนรักของคุณพรีมาดาลูกสาวนักธุรกิจชื่อดังก่อนที่เธอจะประกาศหมั้นครับ”


“คุณใช่ผู้หญิงที่สื่อหลายๆ สำนักตามหาหรือเปล่าครับ”


“ภูมิลำเนาเดิมคุณอยู่ที่ไหนหรือค่ะ พอจะแจ้งได้หรือเปล่าค่ะ”


“มีบุคคลบางคนกล่าวอ้างว่าคุณไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา คุณจะแก้ข่าวเรื่องนี้อย่างไรครับ”


เสียงตั้งคำถามไม่ขาดสาย ส่งความวุ่นวายจนนีลาน่ารู้สึกหวาดหวั่น สายตากวาดมองมนุษย์โลกทั้งหลายโดยไม่มีหนทางแก้ไขว่าควรทำเช่นไรต่อไป กลุ่มคนมากมายต่างพยายามเปิดประตูรั้วอย่างถือวิสาสะเพื่อจะเข้าถึงนีลาน่าให้จงได้


“นี่พวกคุณต้องการอะไร ถึงจะมาพังบ้านผมแบบนี้”


ทุกสายตาเปลี่ยนจุดสนใจหันเหมองตามบุรุษหนุ่มที่เดินตรงมาอย่างเอาเรื่องพร้อมสายตาดุดัน ไม่พอใจ


“คุณคือคนรักเก่าของพรีมาดาที่ถูกมือที่สามแย่งมาจนต้องเลิกรากันไปหรือเปล่าครับ”


“พวกคุณกลับไปดีกว่า ก่อนที่ผมจะแจ้งความ และฟ้องร้องทุกสำนักข่าวที่พวกคุณอยู่”


“มีคนแจ้งข่าวว่าหญิงสาวคนนี้เป็นปีศาจ จริงหรือไม่ครับ คุณคิดเห็นอย่างไรกับข้อกล่าวหานี้”


“ผมไม่รู้พวกคุณหมายถึงอะไร และใครให้พวกคุณมาทำแบบนี้ แต่ผมขอประกาศไว้ตรงนี้ ผมไม่เคยรู้จักผู้หญิงที่ชื่อพรีมาดา ไม่เคยมีความเกี่ยวข้องแต่อย่างใด พวกคุณคงโดนใครแหกตามาแล้วล่ะครับ เพราะฉะนั้นรบกวนพวกคุณไปจัดการกันเองนะครับ แล้วเลิกยุ่งกับพวกผมซะ ก่อนที่ผมจะแจ้งความเดี๋ยวนี้”


“แล้วที่มีคนกล่าวอ้างว่าเธอคนนี้ไม่ใช่มนุษย์ล่ะครับ จริงเท็จแค่ไหน”


“นี่พวกคุณจะบ้ากันไปใหญ่แล้ว พวกคุณดูให้ดีๆ เธอคนนี้เป็นมนุษย์เหมือนพวกคุณหรือเปล่า”


“หากเธอคนนี้ไม่ใช่มือที่สามแล้วเธอมีความสัมพันธ์อะไรกับคุณครับ”


คำถามหลายๆ คำถามถูกส่งตรงจนน่าหงุดหงิดใจ กันยวัฒน์หันมองสบตากับนีลาน่าอย่างแน่วแน่พลางถอนใจหนักหน่วง


“เธอคนนี้คือคนรักของผมครับ”


“...” เสียงโหวกเหวกไม่ได้ผ่านโสตประสาทของนางพรายแต่อย่างใด มีเพียงเสียงหัวใจเต้นแรงที่นางสัมผัสรับรู้ได้ในขณะนี้ กับเสียงของเจ้าโลกันต์ที่ดังซ้ำไปซ้ำมาในจิตใจหวั่นไหว


“ผมไม่มีอะไรจะตอบพวกคุณแล้ว หวังว่าพวกคุณจะคืนความสงบสุขให้พวกผมซะที ขอตัวครับ”


กันยวัฒน์ไม่สนใจสิ่งใด ต่อให้เป็นพวกนักข่าวที่ยืนล้อมหน้าล้อมหลัง หรือสายตาหลายคู่กำลังจดจ้อง เขาพยายามเดินฝ่าด่านผู้คนเข้ายังเขตอาศัยจนสำเร็จ มือแข็งแรงคว้าแขนนีลาน่าให้เดินตามเข้าในตัวบ้านอย่างรวดเร็ว ประตูปิดลงพร้อมเสียงดังโวยวายเมื่อครู่นิ่งสนิท เกิดเป็นความเงียบมาคุรอบบริเวณทันที


“ผมเคยเตือนคุณแล้วไงว่าห้ามออกจากบ้านเวลาเจอคนแปลกหน้า วันนี้คุณขัดคำสั่งผมนะนีลา”


“เราแค่...”


“นี่ล่ะคือเหตุผลที่คุณสมควรกลับยังโลกของคุณได้แล้ว”


สายตาเย็นชา สร้างความรวดร้าวแก่พรายสาวกะทันหัน เมื่อครู่ยังอบอุ่นในใจไม่จางหาย เวลานี้กลับตกอยู่ในหลุมของความเจ็บปวด


“เราเป็นห่วงเจ้า รอคอยเจ้า...”


“ผมบอกคุณแล้วไงว่าอย่ารอผมอีกต่อไป คุณรู้ไหมผมรำคาญมาก ที่จะต้องมาคอยเจอปัญหางี่เง่าแบบเมื่อกี้”


“สิ่งที่เจ้าเอ่ยเมื่อครู่ คือ..”


“เรื่องไหนครับ ผมพูดตั้งเยอะ”


“เรื่องที่เจ้าบอกว่ารัก..”


“อ่อ.. เรื่องนั้นมันเป็นเพียงการตบตาคนอื่นเพื่อเบี่ยงประเด็นให้พวกนักข่าวเลิกซักถามซะที คุณอย่าคิดมากไปเลย ผมไม่ได้รู้สึกอะไรทั้งนั้นสบายใจได้ โลกมนุษย์ก็แบบนี้ล่ะ มีแต่เรื่องสร้างภาพหลอกลวงทั้งนั้น”


นีลาน่าหลบสายตาลงต่ำ เจ็บปวดที่อกข้างซ้ายรุนแรง ทุกสิ่งเป็นเพียงการหลอกลวงอย่างนั้นหรือ จริงๆ แล้วเจ้าโลกันต์ไม่ได้มีใจให้นางแต่อย่างใด คงมีเพียงนางเท่านั้นที่อาจมีใจให้กับมนุษย์โลกใจร้ายผู้นี้ ความเย็นชาของกันยวัฒน์แสดงออกได้รุนแรงและเจ็บปวดสาหัส ทำให้จิตใจดวงน้อยๆ ของนีลาน่ารวดร้าว แต่นางยังหวังที่จะห่วงใยและพร้อมจะยังดูแลเขาต่อไปตามแต่ที่ตั้งใจไว้แต่แรก นีลาน่าคว้าแขนแข็งแรงเมื่อเห็นกันยวัฒน์กำลังจะหันหนีและตีจากนางไป แต่เมื่อกายสัมผัสโดนกันบุรุษหนุ่มกลับสะบัดแขนทิ้งรวดเร็วไม่มีใยดีแม้เพียงนิดเดียว


“คุณมีอะไรก็ว่ามา”


ท่าทางรังเกียจรังงอนทำให้นีลาน่ารู้สึกเจ็บจุกในอก เพราะเหตุใดบุรุษผู้นี้ถึงแปรเปลี่ยนอารมณ์รวดเร็วจากหน้ามือเป็นหลังมือโดยที่นางเอกปรับตัวตามไม่ทัน และไม่อาจรับรู้เลยว่านางทำอะไรผิดหนักหนา


“เราแค่อยากบอกเจ้าว่า.. เราจะกลับเมืองบาดาล”


“อ่อ.. ดีครับ น่าจะคิดได้ตั้งนานแล้วนะ ผมจะได้ไม่ต้องกังวลเกรงว่าคุณจะกลายร่างเป็นปีศาจจ้องกินเลือดกินเนื้อผมจนตาย หรือทำร้ายร่างกายมนุษย์คนอื่นอีก”


“สิ่งที่เจ้าเคยเอ่ยกับเราว่าจะดูแลปกป้อง หลังจากนี้เจ้าคงไม่ต้องกังวลอีกต่อไป เรากำลังจะกลับยังโลกของเราตามที่เจ้าต้องการ”


“ครับ.. ผมรู้และหวังให้คุณกลับบ้านเมืองคุณโดยเร็ว ส่วนเรื่องเดินทางผมจะจัดการบอกให้แฟรงค์ไปส่งคุณ โชคดีนะครับ”


กันยวัฒน์พลิกกายเดินจากเมื่อสิ้นสุดการสนทนา ทิ้งความเย็นชาทำร้ายจิตใจบอบบางอย่างเลือดเย็น ความรู้สึกดีๆ ที่เคยมีเวลานี้แตกสลายไม่เหลืออีกแล้วชิ้นดี นีลาน่าได้แต่ตระหนักในใจสมควรแก่เวลาที่จะกลับยังที่อยู่ของตนเองเสียที



++++



“ยัยขี้เหร่ เธอต้องไปแล้วจริงๆ เหรอ ฉันใจหายนะรู้ไหม ทำไมรีบร้อนแบบนี้ล่ะ”


สมชายส่งเสียงอาลัยอาวรณ์ เมื่อทราบข่าวคราวเกี่ยวกับการเดินทางกลับบ้านเกิดเมืองนอนของนีลาน่า ถึงแม้เขาจะไม่รับรู้เรื่องราวมากเท่าใดนัก ว่าเพราะเหตุใดถึงต้องรีบเร่งเดินทางขนาดนี้ แต่ระยะเวลาที่ได้รู้จักคุ้นเคยกันมาทำให้เขากับนักเรียนในการปกครองที่สอนสั่งผูกพันแน่นแฟ้น เมื่อถึงเวลาที่ต้องไกลห่างกลับทำให้ใจหายวูบวาบ รู้สึกโศกเศร้า เสียใจ กับการจากลา


“พร้อมไหมครับ นีลาน่า”


นีลาน่าพยักหน้าส่งยิ้มเศร้าหมองให้แฟรงค์เกนสไตล์และสมชายที่ยืนตีสีหน้าสลด ตะกร้าขนาดพอเหมาะถูกเปิดฝาออก พร้อมแมวน้อยขนปุยกระโดดเข้าไปอย่างว่าง่าย นีลาน่าตกลงกับไฮโรเทนถึงการเดินทางกลับยังแดนบาดาลเพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายและยุ่งยากระหว่างเดินทาง พรายสาวจึงออกตัวให้ไฮโรเทนกลายร่างเป็นแมวน้อยขนปุยเพื่อการเดินทางที่สะดวกต่อการพาสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องบิน


“แล้วกันย์ที่รักของชายไปไหนล่ะ ตั้งแต่มาถึงชายยังไม่เจอกันย์เลยนะ”


คำถามถูกส่งตรงยังวงสนทนา พาจิตใจพรายสาวกระตุกวูบไหวอีกครั้ง เนื่องจากกันยวัฒน์หายไปตั้งแต่ได้เจรจากันครั้งสุดท้ายที่นางบอกเขาว่าจะกลับเมืองบาดาล หลังจากนั้นนางก็ไม่ได้เจอหน้าเขาอีกเลย และนางก็ไม่อาจตอบคำถามได้ว่าเขาหายไปยังที่แห่งใด นางคิดอยู่ตลอดเวลาสาเหตุที่กันยวัฒน์หายไปคงเพราะเขาไม่อยากเห็นหน้านางอีกแล้ว


“มันคงมีธุระอะไรน่ะไอ้ชาย ข้าว่าเราไปกันเถอะ ชักช้าเดี๋ยวจะตกเครื่องซะก่อน”


“ไปสิ ป่ะ ยัยขี้เหร่”


ทั้งมนุษย์และเงือกพรายพากันเดินออกจากที่พักอาศัยมุ่งหน้าสู่รถยนต์เพื่อเดินทางต่อยังสนามบิน นีลาน่าหันหลังกลับมองยังตัวบ้านอีกครั้ง คงไม่เหลือโอกาสให้เธอได้เข้าไปทำความสะอาด ปัดกวาดเช็ดถู หรือได้อยู่อาศัยยังสถานที่แห่งนี้อีกแล้ว และสิ่งสำคัญนางคงไม่ได้อยู่ร่วมกับเจ้าของบ้านอย่างเจ้าโลกันต์ของนางอีกตลอดไป เมื่อต้องจากกันไกลจนลับตา รถยนต์เคลื่อนตัวออกยังปลายทางเมื่อทุกคนขึ้นนั่งกันพร้อมเพียง นีลาน่าหันหลังกลับไปมองอย่างอาลัยอาวรณ์ยังสถานที่แห่งความทรงจำที่ครั้งหนึ่งในชีวิตของเงือกพรายเคยได้สัมผัสกับความรู้สึกดีๆ



++++



“ยัยพรีม!! นี่แกทำเรื่องอะไรไว้อีกแล้ว!!”


เสียงตวาดเอ่ยดังลั่นบ้าน ด้วยอารมณ์โกรธเคืองสุดขีดของผู้เป็นมารดา มือกำบีบหนังสือที่ถือไว้แน่นแทบจะดึงทึ้งและฉีกให้ขาดเป็นเศษเล็กเศษน้อยจนมันแหลกละเอียดคามือ


“อะไรคะคุณแม่”


พรีมาดาเดินตามเสียงเรียกที่เหมือนจะร้อนรนเป็นฝืนเป็นไฟ ดูไม่เป็นปกติเอาเสียเลย คงมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเกี่ยวกับเธออย่างแน่นอน ผู้เป็นแม่ถึงดูโกรธเคืองเช่นนั้น


“นี่แกจะสร้างความเดือดเนื้อร้อนใจอะไรให้ฉันนักหนา แกไปป่าวประกาศใครต่อใครว่าที่แกหมั้นเพราะโดนแฟนเก่าทิ้งอย่างนั้นเหรอ!!”


“โดนแฟนเก่าทิ้ง..”


พรีมาดาทวนประโยคที่ได้ยินอีกครั้งเพื่อความแน่ใจว่าสิ่งที่เธอได้ยินไม่ผิดเพี้ยน หรือผู้เป็นมารดาเข้าใจอะไรผิดไป


“แกอ่านเอาเองแล้วกันว่าข่าวเขียนถึงแกเสียหายแค่ไหน โอ๊ย!! แบบนี้ฉันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ลูกบังเกิดเกล้าทำเรื่องงามหน้าได้ไม่หยุดหย่อน คอยดูเถอะตารุธเห็นเข้าคงได้ถอนหมั้นแกจริงๆ ยัยพรีม!!”


พรีมาดาหยิบหนังสือที่ถูกเหวี่ยงลงพื้นด้วยอารมณ์คุกรุ่นของผู้เป็นมารดาขึ้นมา พลางเปิดหนังสือดูหัวข้อซุบซิบสังคมคนดัง ข้อความด้านในอ้างว่า ‘พรีมาดาลูกสาวนักธุรกิจดังโดนหักอกโผ่ซบอกคู่หมั้นหนีอายกลายเป็นรักสามเศร้า’ รายละเอียดด้านล่างกล่าวต่อว่าเธอกลับกลายเป็นมือที่สามเสียเอง ที่คิดเข้าแย่งคนรักเก่ากลับคืนมา แต่ถูกปฏิเสธลั่นว่าไม่เคยรู้จักมักคุ้น ส่วนหญิงสาวปริศนากลับกลายเป็นคนรักตัวจริงขึ้นมาเสียเฉยๆ ทำเอาพรีมาดาเกิดอารมณ์โกรธเคืองจุกอกจนหาคำพูดไม่ออกแม้ซักประโยคเดียว ความร้อนรนลุกเป็นไฟเผาผลาญจิตใจ เหตุใดเรื่องราวจึงกลับตาลปัตรอีกครั้ง สิ่งที่เธอจ้างวานให้ช่างภาพ นักข่าว ขุดคุ้ยเรื่องนางปีศาจร้ายกลับกลายเป็นเธอเสียเองที่เป็นนังมารไล่แย่งคนรักของคนอื่น ไหนจะเสียเงินเสียทองเรื่องค่าจ้าง ยังไม่พ้นต้องเสียหน้าแทบแทรกแผ่นดินหนีจากสังคมไฮโซ นับจากวันนี้เป็นต้นไปเธอและครอบครัวจะเอาหน้าไปไว้ยังที่แห่งใด


“คุณหนูพรีมคะ คุณรุธมาหาค่ะ”


เด็กรับใช้ในบ้านเดินติดตามเจ้านายสาวเมื่อมีแขกคนสำคัญมาหาพร้อมนั่งรอพอเจอเธออยู่ยังห้องรับรองแขก พรีมาดารีบรุดเดินตรงยังคู่หมั้นทันทีเมื่อทราบถึงการมาเยือน


“พี่รุธคะ ทำไมแวะมาหาพรีมไม่โทรบอกก่อนล่ะคะ จะได้ให้เด็กเตรียมอาหารไว้รอ”


“ไม่เป็นไรครับ พี่แวะมาไม่นาน พอดีมีเรื่องมาคุยกับคุณพรีมนิดหน่อย”


“พี่รุธมีอะไรกับพรีมหรือคะ”


“ว่าไงจ๊ะตารุธ มาถึงเมื่อไหร่”


ผู้เป็นมารดาเอ่ยทักทายคู่หมั้นของบุตรสาว บุคคลผู้สนิทสนมกันเป็นอย่างดี ตามมารยาทของเจ้าบ้าน ผู้มาเยือนยกมือขึ้นพนมเป็นการทักทายตอบกลับ


“สวัสดีครับ มาถึงได้สักครู่แล้วครับ ว่าแต่คุณพ่ออยู่หรือเปล่าครับ จะได้ทราบเรื่องพร้อมกัน”


“คุณพ่อติดธุระไปต่างจังหวัดน่ะค่ะ ว่าแต่พี่รุธมีอะไรด่วนหรือเปล่าคะ ถึงอยากเจอคุณพ่อพรีมด้วย”


“ครับ เรื่องด่วน แต่ไม่เป็นไรไว้คุณพ่อคุณพรีมกลับมาผมจะแจ้งท่านอีกที”


“เรื่องด่วน.. พี่รุธมีอะไรคะ”


“พี่จะมาบอกคุณแม่กับคุณพรีมว่า พี่จะขอถอนหมั้นกับคุณพรีมอย่างเป็นทางการครับ”


ประโยคกระแทกความรู้สึกให้มึนงง ราวโดนไม้ฟาดที่ศรีษะจนแน่นิ่ง พรีมาดานิ่งอึ้ง ไม่ต่างจากมารดาที่กำลังยกน้ำชาอุ่นๆ จิบดื่มเกิดชะงักกึกเมื่อได้ยินประโยคบอกเล่าแทบสำลักน้ำที่กำลังไหลลงคอเสียให้ได้


“ว่าไงนะคะพี่รุธ!”


“พี่ต้องการถอนหมั้นคุณพรีมครับ”


“ทำไมล่ะตารุธ น้องทำอะไรผิดหรือลูกถึงต้องการจะถอนหมั้น”


“ผมคงไม่ดีเองครับ ที่เป็นคนรักให้คุณพรีมไม่ได้ คุณพรีมคงยังรักแฟนเก่า แต่ผมคงทนไม่ได้หากเอาเรื่องการหมั้นมาเป็นข้ออ้างปิดบังความรู้สึกที่แท้จริง และผมคงรับไม่ไหวจริงๆ หากต้องเป็นแค่ตัวเลือกสุดท้ายของคุณพรีม”


อนิรุธเจรจาด้วยเสียงราบเรียบไม่ได้แสดงอารมณ์ฉุนเฉียวแต่อย่างใด ผิดกับสองแม่ลูกที่ดูจะร้อนรนจนกระสับกระส่ายออกอาการหวั่นใจในสีหน้าและแววตา


“พี่รุธคะ ทุกอย่างพรีมอธิบายได้ มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันนะคะ มันไม่ใช่อย่างที่พี่รุธเข้าใจซักนิดเลยค่ะ”


“พี่อยู่แวดวงสังคมข่าวมานานครับ หากข้อมูลไม่มีเค้าความจริงคงไม่น่าเอามาลงแบบนี้”


“ตารุธใจเย็นๆ ก่อนสิจ๊ะ น้องอาจทำอะไรผิดพลาดไปบ้าง อภัยให้น้องเถอะนะเพื่อเห็นแก่แม่ ยังไงฤกษ์งามยามดีวันแต่งก็จัดการเรียบร้อยหมดแล้ว”


“ผมตัดสินใจเด็ดขาดแล้วครับ ขอโทษด้วยนะครับ แล้วยังไงผมจะติดต่อกลับมาอีกครั้ง”


อนิรุธลุกยืนพร้อมก้าวเดินจากไป ปล่อยพรีมาดาแน่นิ่งพูดไม่ออกแม้ซักประโยค ส่วนผู้เป็นมารดาถึงกับเป็นลมล้มพับช็อคกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น


“คุณแม่!”


เมื่อได้สติ พรีมาดารีบเข้าประคองมารดาไว้ในอ้อมแขน หลังจากนี้เธอจะทำอย่างไรต่อไป เมื่อถูกประกาศถอนหมั้นอย่างเป็นทางการ ไม่ว่าจะเรื่องธุรกิจของครอบครัวที่กำลังจะล้มละลาย เรื่องชื่อเสียง เกียรติยศ หน้าตา หลังจากวันนี้เธอจะเอาไปมุดฝังไว้ยังส่วนไหนของแผ่นดิน สิ่งเลวร้ายแวะมาเยี่ยมเยียนเธอในที่สุด ทุกอย่างที่ต้องการและพยายามไขว่คว้าหลุดลอยหมดสิ้น ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว


++++


โปรดติดตามตอนต่อไป..

แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 55 10:26:17

แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 55 10:17:59

แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 55 10:13:23

จากคุณ : มาโซคิส
เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 09:22:20




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com