Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เลขาเนื้อทอง :: ยอแสงแข - 23 vote ติดต่อทีมงาน

http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W13094568/W13094568.html

บทที่ 23

'คนดีแสนวิเศษ' ณพนาทวนวาจายกย่องของแม่ยอดชู้ด้วยใจปวด ไอ้สารเลวพันศิลป์น่ะหรือคือคนดีแสนวิเศษ ปีศาจร้าย อสุรกาย หรือปวงบัดซบสารเลวทั่วจักรวาล ก็ยังนำมาเปรียบกับชายชั่วคนนี้ไม่ได้เลย ดูเหลี่ยมคูอุบาทว์ที่คอยจิกคอยทิ่มหล่อนสิ น่าขยะแขยงที่สุด

หล่อนเสียใจจริงๆ ทำไมไม่เชื่อตรงฉัตร เขาเตือนแล้วเตือนอีกว่าไอ้ชายเลวจะใช้น้องสาวเป็นเครื่องมือ เห็นชัดๆ กันตอนนี้แหละ น้องสาวโดนล้างสมองและถูกยัดเยียดด้วยข้อมูลผิดๆ ในสายตากระด้างคู่นั้น พี่สาวคนนี้ไม่มีอะไรดีพอให้เชิดชูได้เลยจริงๆ

"ว่ายังไง ไม่ต้องมาทำเงียบนะพี่นา พลิ้วต้องการคำตอบ" แม่ยอดชู้ตะคอก ตบโต๊ะปัง

"ว่าอะไรล่ะ ดูน้องทำท่าเข้าสิ มีเค้าว่าจะเชื่อที่พี่พูดหรือ"

"ไม่ต้องยอกย้อน พลิ้วจริงจังนะ บอกมาว่าพี่กับพี่ตรงไม่มีอะไรในกอไผ่ ไอ้พวกบ้าในบริษัทมันลือกันไปเอง บอกมาว่านังปัญปัทม์อะไรนั่น มันใช้งานบังหน้าพาตัวมาใกล้ชิดหวังแย่งพี่ตรงของพลิ้วไป แล้วนังนั่นมันก็เป็นเป็นแผนอำพรางข่าวลือที่พี่นาชักใยเบื้องหลังใช่ไหม บอกมา"

"พี่ไม่มีคำตอบ พลิ้วอยากได้ก็ไปหาเอาเอง แค่นี้ใช่ไหม พี่จะไปทำงาน ไร้สาระ"

"พี่นา" พลิ้วแพรแผดเสียง

"ฟังให้ดีนะน้อง ไอ้ที่น้องทำอยู่นี่ มันมีแต่จะเสียแต้มเสียคะแนน พี่ตรงเขาไม่ชอบผู้หญิงแว้ดแหวหรอก แค่จะบอกปาวๆ ว่ารักเขาอย่างเดียว มันยังไม่พอหรอก น้องต้องรู้จักตัวตนของเขาด้วย"

"อ๋อ ตัวเองจะอวดว่ารู้จักดีละสิ ลึกซึ้งถึงเนื้อในหรือเปล่าล่ะ ไม่แน่นี่ใช่ไหม ไม่อย่างนั้นมันจะมีข่าวลือข่าวเล็ดได้ยังไง แทนที่จะมาสั่งสอนพลิ้ว สั่งสอนตัวเองเถอะ ทำอะไรก็ให้นึกถึงพี่พันให้มากๆ ได้สามีดีเหมือนเทวดา ยังจะตาถั่ว"

"เทวดา" ณพนาอยากจะอ้วกจริงๆ

"ใช่ พลิ้วสุขสบายทุกวันนี้ก็เพราะพี่พันเขาน่ารัก เขาดูแลครอบครัวเราอย่างดี หนี้สินสารพัดสารเพก็ช่วยกลบช่วยล้าง พ่อป่วยหนัก เขาก็ดูแลจนถึงวาระสุดท้าย พี่นาจะเอายังไงอีก จะหาผู้ชายดีๆ แบบนี้ได้จากที่ไหนนักหนา จะไปไหน"

น้องสาวยังเยินยอพี่เขยจอมลวงโลกไม่จบเลย พี่สาวก็มาเดินหนีไปก่อน หล่อนไม่ใช่ขยะนะ จะมาเดินทิ้งเดินขว้างไม่ได้

"ยังไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น" หล่อนเชิดหน้าตาวาว มือกดบานประตูขวางเต็มที่ "บอกในสิ่งที่พลิ้วอยากรู้มาก่อน ไม่ได้มีอะไรลึกซึ้งกับพี่ตรงเกินฐานะเจ้านายเลขาใช่ไหม แล้วนังปัญปัทม์.. "

"อยากรู้อะไรก็ไปถามพี่ตรงเอาเอง พี่จะไปทำงาน มีงานสำคัญมากรอพี่อยู่ แล้วถ้าพี่พลาดหรือล้มเหลว พี่จะถือว่าเป็นความผิดของพลิ้ว เรื่องอื่นพี่พอยอม แต่งานเสีย พี่กับพลิ้วต้องคุยกันยาว"

พอพี่สาวของขึ้นจริงจัง พลิ้วแพรก็ออกอาการอึ้งๆ ใช่ หล่อนก็รู้มานานแล้ว เรื่องอื่นพี่สาวค่อนไปทางยอมความง่ายดาย แต่ถ้าเผลอไปป่วนจนงานพลอยเสีย พี่สาวอาละวาดเข้าหน้าไม่ติดเชียว

หล่อนเคยโดนมาแล้ว แต่ตอนนั้นบิดายังอยู่ ท่านออกหน้าปกป้อง ซ้ำยังตบหน้าพี่สาวไปหนึ่งฉาด กำราบให้หยุดเกรี้ยวกราดน้องสาว วันนั้น หล่อนเห็นพี่สาวน้ำตาร่วง แต่เสียงติเตียนบิดาก็เข้มข้นติดหูหล่อนมาจนถึงวันนี้

"หลับหูหลับตาตามใจเรื่องอื่น นาไม่ว่าสักคำ เพราะน้องก็เป็นหัวใจของนาอีกดวง แต่เรื่องงาน พ่อก็รู้อยู่ว่าอะไรเป็นอะไร ไม่ต้องให้นาสาธยาย พ่อฟังให้ดีนะคะ ถ้างานวันนี้ของเราพลาดหรือล้มเหลว นาจะถือว่าเป็นความผิดของพ่อ แล้วพ่อกับนาคงต้องคุยกันยาว"

หล่อนไม่รู้หรอกว่างานในวันนั้นมันสำคัญมากแค่ไหน แต่รู้ว่าพี่สาวโกรธจัดถึงขั้นเลี้ยวเป้าหมายจากหล่อนไปเกรี้ยวกราดใส่บิดาแทนได้ก็แล้วกัน แล้วบิดาในวันนั้นก็นั่งลงถอนใจเฮือกๆ กุมขมับเหมือนกลุ้มจะตายชักอีกด้วย

ประตูปิดใส่หน้าปังใหญ่ พี่สาวดูจะเดือดๆ หรือว่าวันนี้จำเพาะต้องมีงานสำคัญจัดเหมือนวันโน้นขึ้นมาอีก แล้วประวัติศาสตร์ก็ซ้ำรอยตรงที่หล่อนวอแวเอาแต่ใจ

"โว้ย เซ็งโว้ย"

หล่อนระเบิดเสียงใส่ห้องทำงานที่เหลือเพียงตัวเองยืนหัวโด่เท้าสะเอว บนโต๊ะตัวใหญ่ทำไมมันรกรุงรังเสียขนาดนั้น งานอะไรนักหนาที่มันเยอะแยะจนทำเท่าไหร่ก็ไม่มีวันหมด

ตั้งแต่พี่สาวรับช่วงงานมาจากบิดา หล่อนไม่เคยเห็นพี่สาวหยุดพักสักวัน คร่ำเคร่งเป็นแม่แก่แม่ชี มีผู้ชายมาจีบก็ไม่สน วันๆ ก็ขลุกอยู่แต่ในห้องนี้

"มันก็ไม่เปลี่ยนเท่าไหร่เลย"

หล่อนงึมงำพลางเดินสำรวจเนิบๆ กระทั่งพักแวะนั่งชันเข่าบนโซฟา แดดนอกหน้าต่างกระจกใสเข้มขึ้นอีกนิด เห็นเนินหญ้าเขียวคมขึ้นด้วย แต่หล่อนมองแบบไร้อารมณ์มาก ดื่มด่ำซึมซาบอะไรไม่ไหวทั้งนั้นล่ะ ในหัวมันตื้อๆ ไปด้วยถ้อยคำมากมายของพันศิลป์

"พักหลังๆ นี่พี่นาเขาเครียดกับงานมาก เป็นความผิดของพี่เองที่ไปหลุดปากหลวมตัวพนันด้วย"

"พนันอะไรกันคะ"

"ก็พนันว่าสิ้นปีนี้ ใครจะทำกำไรได้มากกว่ากัน"

"แค่นั้น"

"เงื่อนไขก็คือต่างคนต่างทำ จะไม่เกื้อกูลช่วยเหลือกัน พี่น่ะปวดใจจะตาย เห็นพี่นาวุ่นวายเอาเป็นเอาตาย แต่ก็เอาเถอะ เพื่อให้ภรรยามีความสุขว่าอาจจะเอาชนะสามีได้ พี่ก็ยอม นี่ก็แอบๆ อ่อนข้ออยู่บ้าง แต่น้องอย่าไปเผลอหลุดปากบอกนะ เดี๋ยวพี่นาจะงอนเอาอีก งอนเก่งง้อยากด้วย ถ้าไม่รักหมดใจ ทนอึดแบบนี้ไม่ได้นะ"

"โถ พี่พันช่างน่าสงสาร แล้วนี่พลิ้วจะช่วยอะไรได้บ้างคะ"

"ช่วยเป็นกำลังใจให้พี่ เข้าข้างพี่ก็พอ แต่อย่าให้พี่นารู้นะ เดี๋ยวงอนอีก พี่จะแกล้งยอมแพ้สักหน่อย รู้ไหม ตอนนี้พี่นามีหนี้สินใหม่ด้วยนะ ไม่รู้เอาเงินไปหมุนอะไร ทำอะไร และกับอะไร ยิ่งมีข่าวลือๆ ออกมา พี่ก็แอบหวั่นๆ ใจอยู่บ้าง"

นั่นสิ ก็สมควรให้พี่เขยแสนดีหวั่นใจอยู่หรอก ข่าวลือมันเฮงซวยเป็นบ้า ตรงฉัตรเป็นเด็กเลี้ยงในบ้านชัดๆ อย่างพี่สาวยโสหัวสูงน่ะหรือจะเหลือบตาแล มีก็แต่หล่อนนี่สิที่หลงใหลและอยากครอบครองเนื้อทองของพ่อเลขา แล้วก็จะครอบครองให้ได้ด้วย

"ดังนั้น วิธีเดียวที่เราจะช่วยกันสยบข่าวลือไม่เข้าท่าลงได้ก็คือให้น้องรีบหมั้นกับนายตรงฉัตร ทิ้งช่วงสามเดือนอย่างที่พี่ว่า ก็ค่อยจัดงานแต่ง ระหว่างนี้ก็ทำตามที่พี่บอก ควงให้ติดหนึบ ทางหนึ่งสลายข่าวลือ อีกทาง อ้อ เรื่องนี้แหละที่พี่กำลังจะบอกอีกเรื่อง พี่หวั่นใจว่านายตรงฉัตรมีผู้หญิงมาพัวพัน"

"ใครคะ"

"ปัญปัทม์ พี่สืบมาให้แล้ว เธอเป็นทนายความ แต่ไม่รู้ว่าจะเป็นแผนสลายข่าวลือของพี่นาหรือเปล่านะ ทำทีว่าให้เธอมาเป็นทนายแก้ต่าง แต่ไม่แน่นะ เบื้องหลังก็อาจจะหมายถึงจับคู่"

"ไม่ได้" หล่อนผุดลุกแล้วเผลอแว้ดใส่หน้าพี่เขยในตอนนั้น

"ก็เพราะพี่รู้ว่าไม่ได้ พี่ถึงช่วยแก้ปัญหาอยู่นี่ไง ทำตามที่พี่บอก แล้วทุกอย่างก็จะเข้าทางน้องอย่างสวยงาม"

ใช่ หล่อนต้องทำตามทุกคำแนะนำของพี่เขยสุดประเสริฐ แล้วก็เลิกนั่งจมจ่อมอยู่ในห้องทำงานห่วยๆ ของพี่สาวเสียที ที่ควรทำก็คือต้องตามไปเค้นความจริงจากตรงฉัตรให้ได้ หรือถ้าเขาดื้อด้านปากไม่เปิด หล่อนก็จะหันไปลุยกับนังตัวดีชื่อปัญปัทม์โดยตรง

'สะเออะอยากดอดมาตีท้ายครัวใช่ไหม อย่าฝันไปเลย' หล่อนหรี่ตาเค้นแค้นอยู่ในใจ ตรงฉัตรเป็นชายที่หล่อนหมายปองแล้ว สาวหน้าไหนก็อย่าได้เสนอหน้ามาแย่ง

ถ้าห้ามปรามด้วยวาจาดีๆ แล้วไม่ฟัง หล่อนจะหยิบยืมอิทธิพลมาเฟียของพี่เขยให้จัดการเก็บกวาดเสียให้สิ้นซาก คอยดูฤทธิ์แม่สิ




คุณหลิวฮ่องกงโทรติดต่อกลับมาอีกครั้งทำให้ณพนาตื่นเต้นมาก หล่อนก้าวปราดๆ เข้าห้องทำงาน พบตรงฉัตรกำลังอ่านเอกสารขะมักเขม้น พอเงยหน้าขึ้นก็ยื่นมาให้พิจารณาอนุมัติ

"ทำไมล่ะ" หล่อนถามเมื่ออ่านจบ หลานสาวแม่บ้านถูกไล่ออกแล้วล่ะ

"จับได้ว่าเป็นสายคุณพันศิลป์ ก่อนหน้านี้ก็ประสานงานกับนายสมเกียรติ ผมเคยเห็นเขาสองคนควงกันไปควงกันมาสามสี่ครั้ง แต่เพราะว่านายสมเกียรติมีครอบครัวแล้ว ผมจึงไม่นึกระแวงอะไร อีกอย่าง มันเป็นเรื่องส่วนตัว"

"จับได้ยังไง"

"ไม่อนุมัติก็แทงลงไปว่าไม่อนุมัติ ปกติคุณนาก็ทำแบบนี้"

อารมณ์ดีที่รู้ว่าคุณหลิวฮ่องกงโทรมากร่อยลงทันทีเมื่อจับได้ว่าเลขาเนื้อทองหงุดหงิดไม่เลิก เขาเดินไปนั่งเก้าอี้ หยิบโทรศัพท์มากดๆ ไม่รู้ว่าจะโทรหาใคร

"ตรงฉัตร"

"ครับ"

"อ้าว" หล่อนอุทานเมื่อเห็นว่าเขาเปลี่ยนใจ วางเจ้าเครื่องจิ๋วไว้บนโต๊ะ "ไม่โทรแล้วหรือ" ถามแล้วนั่งเกาะไหล่

"พอ"

หล่อนหัวเราะขำๆ อยู่ด้วยกันมานานจนอ่านใจกันออกแค่มองตาหรือกิริยาเจ้าเล่ห์นิดๆ หน่อยๆ ตรงฉัตรรู้ทันเสียแล้วว่าหล่อนจะง้อ เขาปัดมือบนไหล่ แล้วกระเถิบไปนั่งชิดมุม พอหล่อนทำท่ากระเถิบตาม เขารีบบอกเลย

"อย่าลีลา อยากพูดอะไรก็พูดเลย แล้วถ้าจะเป็นภาคต่อมาจากห้องอาหารละก็ ไม่ต้อง ผมไม่อยากฟัง คุณนาแน่ะ ฟังผมดีกว่า คุณปัญปัทม์ส่งข้อความมา เธอย้ำว่าให้ผมโทรกลับ มีข่าวสำคัญมากอยากบอก เธอบอกว่าไม่มีอะไรในโลกจะสำคัญต่อผมมากไปกว่าข่าวที่เธอจะบอก แม้แต่คุณนา"

ยิ้มกรุ้มกริ่มบนปากสวยเคลือบลิปสติกสีแดงอมส้มจางลงทันที สัมผัสพิเศษบางอย่างบอกณพนาว่าปัญปัทม์คนนี้เริ่มจะมีอิทธิพลต่อจิตใจตรงฉัตรของหล่อนเข้าแล้ว ไม่เชิงว่าควบคุมแต่ก็ค่อยๆ ขยายพื้นที่

ในโลกนี้ยังจะมีข่าวอะไรสำคัญมากไปกว่าตัวหล่อนหรือ แม่คนนี้กล้าดีมาก เหลี่ยมคูดูจะแพรวพราวเหมือนนายจ้างพันธุ์เลว ถึงกับลงทุนใช้หล่อนเป็นตัวกระตุ้นให้เหยื่อรีบเดินเข้าไปหาเองเชียวหรือ

"ฉันอยากขอโทษเรื่องน้อง กลับจากฮ่องกงแล้ว ฉันจะหาเวลาจับเข่าคุยทุกประเด็น" หล่อนเอ่ยเสียงขรึม

"คุยอะไร"

ตรงฉัตรลุกไปรูดผ้าม่าน ตั้งแต่เข้ามายังไม่ได้ทำอะไรเลย ตั้งใจแค่ว่าจะมาวางแฟ้มเอกสารเสนอให้ไล่ไส้ศึกออกแล้วก็จะกลับออกไป แต่เจ้าของห้องก็มายื้อไว้เสียก่อน

"คุยทุกเรื่อง ถ้ามันจำเป็น ฉันก็อาจจะบอกน้องไปตรงๆ ว่า.. "

"ผมว่าคุณนาเดินช้าไปแล้วล่ะ คุณพันศิลป์เขาทำแต้มนำโด่งไปแล้ว" ตรงฉัตรหมุนตัวกลับ กอดอกเคร่งขรึม ตาขรึมก็จ้องวงหน้าฉายฉงน "ผมวิเคราะห์จากมุมของผม" เขาพูดต่อ "ถ้าเป็นผม เราเดินเกมกดดันจนศัตรูอึดอัดแล้ว มันเหมือนบีบคั้นให้ต้องระเบิดออกมา สิ่งที่ผมจะทำต่อไปก็คือหาที่ตั้งหลักที่ปลอดภัย เขาทำแล้ว ส่วนคุณนายังแค่มองสลัก"

"ใช่ นายพูดถูกทุกอย่าง" เจ้านายยอมรับเสียงเนือยๆ "ฉันคงโดนความเกลียดความแค้นครอบงำจนตามัวใจมัว เกมของไอ้เลวนั่นมันก็ง่ายๆ ออก ถ้าฉันมีตามีใจสักหน่อย ฉันก็ต้องเห็นทะลุแบบนาย แล้วหาทางพลิกให้เข้าทางตัวเอง"

"ก็ยังไม่เลวร้ายถึงขนาดนั้นหรอกครับ"

"ไม่ต้องให้กำลังใจหรอกนายตรง ทำไมฉันจะดูไม่ออกเล่าว่าตอนนี้ต่อให้ควักหัวใจมาพูด น้องก็ไม่เชื่ออะไรฉันอีกแล้ว ไอ้เลวนั่นมันครอบงำน้องไว้ทั้งตัวทั้งใจ ความหวังที่ฉันพอมีเหลือๆ ตอนนี้ก็คือเลือดจะข้นกว่าน้ำ"

'ก็เป็นบางคนเท่านั้น' ตรงฉัตรแย้งในใจ พลิ้วแพรรักพี่สาวนั่นแหละ แต่ก็อิจฉาด้วย ณพนาเปล่งประกายความสวยความเก่งได้ค่อนข้างชัด ทุกการปรากฏตัวและทุกย่างก้าวของหล่อนได้รับความสนใจจากคนรอบข้างเสมอ โดยเฉพาะบรรดาหนุ่มหล่อทายาทเศรษฐี

ความอิจฉาเป็นชนวนของความหมางเมินที่ค่อยๆ สะสมให้เพิ่มพูนแบบน้ำซึมบ่อทราย ณพนาในสายตาของพลิ้วแพรจึงเปรียบเสมือนคู่แข่งทางความโดดเด่น

แต่น้องสาวไม่ฉลาด จึงหาวิธีแย่งชิงอย่างผิดทาง อย่างเช่นว่าเที่ยวเตร่ คบผู้ชายเยอะๆ แอบหัดสูบบุหรี่ ดื่มเหล้า ส่วนเรื่องขึ้นเตียงกับหนุ่มๆ เขาไม่กล้าปักใจได้เท่ากับว่าแม่ตัวดีใจแตกแน่นอน ที่แย่อย่างเห็นได้ชัดก็คือ 'บิดาตามใจและลำเอียง'

แม่บ้านเคาะประตูเบาๆ แล้วเข้ามาวางถาดกาแฟกับขนมปังปิ้ง ณพนาสั่งเอง หล่อนยังหิวอยู่ แต่เพราะฤทธิ์เดชแม่ยอดชู้นั่นล่ะ ทำให้กลืนอะไรไม่ลง

ตอนขับรถมาบริษัท ท้องก็ร้องประท้วงหน่อยๆ นางเหลือบไปดูหนุ่มเลขาตัวสูงยืนกอดอกเคร่งเครียดแวบหนึ่ง ทำท่าลังเลจะพูดดีไม่พูดดี พ่อหนุ่มก็ตาแหลมตาคม โพล่งถามทะลวงใจตรงเผงออกมาเลย

"อยากขอร้องเรื่องหลานสาวหรือครับ"

"เอ้อ ค่ะ ดิฉัน.. "

"ไม่ได้หรอกครับ ถ้าเป็นความผิดอื่น ผมอะลุ่มอล่วยได้เสมอ แต่เข้าข่ายสร้างความเสียหายแก่บริษัทอย่างร้ายแรง ผมไม่ให้อภัย เพราะถ้าบริษัทปิดตัวขึ้นมา มีพนักงานอีกเป็นร้อยที่เดือดร้อนตกงานเพราะความผิดของหลานสาวป้า เข้าใจหน่อยนะครับ"

"แต่ว่ามันสำนึกผิดแล้ว" คนเป็นป้ายังไม่ย่อท้อ อ้างเหตุผลวิงวอนต่อไป

"ถ้ามันสำนึกผิด แล้วเข้ามาสารภาพก่อนที่เราจะจับได้ ฉันก็อาจพอคุยด้วยได้" ณพนาออกโรงตัดบทเอง เสียงแหลมดุเฉียบเข้มทีเดียว "แต่สำนึกผิดเพราะถูกจับได้ มันสมควรหรือ"

"คุณนาคะ คือ.. "

"อย่าพูดมาก ออกไปได้แล้ว ถ้าพูดอีกคำ ฉันจะไล่ป้าออกไปด้วยอีกคน ให้จูงมือกันไปทำงานกับไอ้พันศิลป์อย่างเปิดเผยออกนอกหน้าเสียเลย เอาไหม"

"มะ.. ไม่ค่ะ"

"ไม่ก็ออกไปสิ ฉันมีธุระระดับพันล้านต้องหารือนะยะ"

แม่บ้านเดินกลับออกไปหน้าแห้งหน้าหงอย คอตกไหล่ย้อย กลายเป็นคนแก่ที่น่าสงสารไปเลย

ตัวนางน่ะดีทุกอย่าง ทำงานที่นี่มาก็หลายปีไม่เคยมีประวัติเสียหาย แม่หลานสาวที่พามาสมัครด้วยตัวเองแท้ๆ ทำพิษให้เสื่อมเสียเสียได้ ตรงฉัตรรีรอจนนางปิดประตู ก็วกเข้าเรื่องเดิมที่ยังคุยค้าง

"เป็นไปได้ไหมครับว่าข่าวสำคัญที่คุณปัญปัทม์ย้ำมา อาจเป็นอีกเกมที่เราต้องเสี่ยง"

"ยังไง"

"เธอให้ผมไปเจอที่ประจวบ"

"ไม่ให้ไป" ณพนาลุกพรวดโพล่งพรืด

"อุ๊ย หึงออกนอกหน้าจัง" พ่อเลขาแสดงได้หลายอารมณ์ขึ้นมาเชียว "ผมไม่นอกใจหรอกน่า เจ้านายดัดจริตเก่งๆ แบบคุณนาหาได้ง่ายเสียที่ไหน"

"ไอ้เด็กบ้า"

ตรงฉัตรหรี่ตาเอียงไหล่แต่ไม่พ้น หมอนอิงกระแทกเบาๆ เจ้านายสาวใหญ่ไม่ยอมรับว่าดัดจริตเก่งจึงออกอาการอาละวาด ด่าอย่างเดียวไม่พอ ปาหมอนอิงอย่างเดียวก็ยังไม่หนำใจ ต้องตามมาตบตีข่วนหยิกครบชุด

"อะไรเล่า" เขาประท้วงแต่ก็หัวเราะไปหนีไปล่ะ "คนแก่นี่ยังไง พูดความจริงอะไรเป็นไม่ยอมรับเสียทุกอย่าง อุ๊ย คุณนา ผมเจ็บ พอแล้ว เดี๋ยวใครเข้ามาเห็น" เขาชนโต๊ะและหมดทางไปจึงต้องรีบเบรกอารมณ์

"ปากเสีย ระวังเถอะ สักวันฉันจะฉีก" ณพนาอาฆาตลอดไรฟัน ตาถลึงวาวๆ

"ผมจะไป" เขายืนยันความตั้งใจเสียงขรึมหลังจากนั้น

"ทำไมนายเชื่อแม่ทนายคนนั้นง่ายจัง" เจ้านายสาวใหญ่เท้าสะเอวเอียงหน้า แววตาข้องใจกึ่งเคลือบแคลง

"ผมไม่เชื่อหรอก แต่ผมไม่อยากพลาด ไม่อย่างนั้นจะบอกตั้งแต่แรกหรือว่าเราต้องเสี่ยง"

"หรือยะ อย่าให้จับได้นะยะว่าแอบมีนอกมีในกับแม่ทนายคนนั้น ดีแต่จับผิดคนอื่นว่าเป็นสายเป็นไส้ ระวังตัวเองจะเผลอเข้าทางฝ่ายโน้นเข้า มันจะยิ่งกว่าสายกว่าไส้นะยะ"

"นี่ถ้าไม่เกรงใจอยู่นิดหนึ่งละก็ ผมด่าเลยนะ" ตรงฉัตรชี้หน้า สวนกลับทันควัน "หมิ่นใจกันแบบนี้ ปล่อยให้ผมตายเสียตั้งแต่ตอนโน้นมันเจ็บปวดน้อยกว่ามากเลย"

"ฉันเชื่อใจนายเสมอตรงฉัตร แต่ขอเตือนในฐานะผู้หญิงสักหน่อย ร้อยเล่มเกวียนน่ะมันมารยาล้วนๆ นะยะ ผู้ชายร้อยทั้งร้อยพอเจอเข้าไปก็หน้าม่อยต่อยไม่เป็นกันทั้งนั้นแหละ แม่ทนายนั่นมันก็ผู้หญิงนะยะ ขอเตือน"

"ไม่มีผู้หญิงคนไหนหลอกผมได้ด้วยมารยาอีกแล้ว เจอคุณนาเข้าไปคนเดียว ผมก็ทั้งกลัวทั้งหลาบจำไปจนตายแล้ว จะบอกให้"

เจอเท้าความอดีตตอกหน้าเข้า ณพนาก็หัวเราะแห้งๆ หล่อนอยากจะพูดอะไรอีกหน่อย แต่คุณหลิวฮ่องกงโทรเข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน แววตาที่มองตามตรงฉัตรเดินกลับออกไปจากห้องจึงล้นความเสียดาย

เกือบจะเอ่ยขอโทษออกไปอีกแล้วเชียว รู้นั่นแหละว่าตรงฉัตรไม่รับหรอก เขาทำใจได้แล้ว อีกอย่าง เหตุการณ์คืนนั้นมันก็ผ่านไปนานแล้ว แต่ไม่ว่าจะนานแค่ไหน 'บาดแผลก็คือบาดแผล'

จากคุณ : รัชนีกานต์
เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 55 09:50:52




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com