เช้าวันอาทิตย์ ดนุนัยเดินควงกุญแจรถออกมาหน้าบ้าน มองเห็นพลโทสิทธาผู้เป็นบิดากับพลโทธณกร ซึ่งกำลังนั่งก้มหน้าก้มตาจ้องกระดานมหมากรุกบนโต๊ะไม้ในซุ้มศาลาบริเวณสวนหน้าบ้าน ชายหนุ่มยิ้มกว้างให้กับหนึ่งในงานอดิเรกของสองนายทหารใหญ่ ที่นัดแนะประชันสมองกันแทบจะทุกวันหยุดสุดสัปดาห์
โหพ่อ ไม่ไหว กระดานนี้ท่าทางจะแพ้ลุงกรราบคาบแน่ๆเขาเดินเข้ามาหยุดดูหมากบนกระดานอยู่เพียงชั่วครู่ พลางส่ายหน้าไปมา
อย่าใช้แต่ปากไอ้เสือสิทธาพูดกับลูกชาย ดวงตายังคงจับจ้องอยู่บนกระดานหมากรุก สอดส่ายสายตาไปทั่ว ช่วยคิดหน่อยสิว่าพ่อมีทางชนะตานี้ไหม
อ้าวเฮ้ย เล่นโกงกันซึ่งๆ หน้าเลยรึ เจ้ารักอย่างยุ่งเชียวนะ ไม่งั้นลุงโกรธจริงๆ ด้วยพอเห็นเพื่อนขอความช่วยเหลือจากลูกชาย ธณกรจึงรีบห้าม เพราะถ้าขืนปล่อยให้อีกฝ่ายยืนมือเข้ามาช่วยล่ะก็ หมากตานี้มีหวังได้เกมส์พลิกจนเขาต้องกลายเป็นฝ่ายแพ้อย่างแน่นอน
ด้านสิทธาที่ถูกขัดใจส่งเสียงฮึดฮัดผ่านลำคอ ไม่ได้โกง แค่ให้ไอ้เสียมันช่วยสักตัวสองตัว
ตัวใครตัวมันแล้วกันครับพ่อดนุนัยหัวเราะ ยักคิ้วให้บิดาที่หันมาถลึงตาใส่
จะไปป้อสาวที่ไหนอีกแล้วล่ะ แต่งตัวซะหล่อเฟี้ยว -- วันหยุดไม่เคยอยู่ติดบ้าน
ไม่ได้ป้อ ไม่ได้หม้อ ไม่ได้หลี
แต่ไปล่อ
เฮ้ยพ่อดนุนัยอุทาน ตีหน้ายุ่งใส่บิดาที่กำลังยิ้มกว้าง โดยมีเสียงหัวเราะชอบใจของธณกรดังลั่น พูดจาน่าเกลียด ผู้หญิงเขานัดผมไปดูหนัง หลังจากนั้นก็แค่ไปกินข้าวกลางวัน แค่นั้นจริงๆ -- โธ่พ่อ คนนี้ผมเพิ่งรู้จัก ต้องค่อยๆ ดูกันไปก่อน
อ้อสิทธาลากเสียงยาว พยักหน้าตาม ขุนให้ได้ที่ก่อนแล้วค่อยเฉือด ว่างั้นเถอะ
ดนุนัยยกมือขึ้นนวดขมับ ดูท่าวันนี้เขาจะถูกต้อนเข้ามุมได้อย่างง่ายดายเสียแล้วสิ
ยังไงก็เพลาๆ ลงหน่อย รู้สึกระยะหลังจะเปลี่ยนหน้าสาวๆ บ่อยเกินไปนะเราสิทธาเปรย น้ำเสียงเรื่อยๆ แต่ก็ทำให้ลูกชายหันมามองด้วยอาการสงบนิ่งได้ อย่าคิดแต่สนุก ถ้าพลาดขึ้นมามันจะแย่ทั้งตัวและและทางฝั่งผู้หญิง ดีไม่ดีเกิดคุณหญิงพรพรรณเขาหมั่นไส้จับแกแต่งงานกับพวกลูกสาวเพื่อนๆ พ่อไม่ช่วยนะจะบอกให้
พอได้ยินว่าอาจถูกมารดาจับคลุมถุงชน ใบหน้าของนายทหารหนุ่มก็เคร่งเครียดขึ้นทันควัน เอ่ยรับปากว่าจะระวังตัวให้มากขึ้น ก่อนขอตัวออกไปตามนัด
เจ้ารักก็เจ้าชู้แบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร คงไม่พลาดง่ายๆ ไม่ต้องห่วงไปหรอกธณกรบอกเพื่อนหลังเห็นรถยรต์สีดำแล่นออกนอกรั้วบ้านไปแล้ว
มันก็จริง แต่เมื่อก่อนลูกฉันมันควงสาวเยอะขนาดนี้เสียที่ไหนคนเป็นพ่อถอนหายใจ ตั้งแต่ยายโมความจำเสื่อมนั่นล่ะ ไอ้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนฉันก็เลยได้ที
เกี่ยวอะไรกับลูกสาวฉัน
คนถูกถามเงยหน้าขึ้นจากกระดานหมากรุก นัยน์ตาหรี่เล็ก ส่ายศรีษะไปมา ไม่ได้สังเกตเลยรึไงว่าเดี๋ยวนี้ลูกสาวนายไม่ได้คอยตามติดลูกชายฉัน พอได้อิสระเจ้ารักก็ตีปีกพับๆ ออกบินร่อนไปทั่ว
อ้อ แสดงว่านายชอบให้ลูกสาวฉันคอยตามตื้อลูกชายนายงั้นสิธณกรพูด พอเห็นอีกฝ่ายพยักหน้ารับตามความจริงก็ถลึงตาดุใส่ทันที แกชอบ แต่ฉันไม่ชอบ ลูกฉันเป็นผู้หญิง ทำแบบนั้นมันดูไม่งาม เมื่อก่อนก็พยายามปราบแต่ก็ไม่ฟัง พอเปลี่ยนมาเป็นแบบนี้ฉันล่ะโล่งใจ
แต่เป็นฉันกับเมียที่หนักใจ
เจ้ารักมันโตแล้ว ฉลาดทันคน อายุก็ปาเข้าไปตั้งสามสิบสอง ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ ไม่โง่เง่าเป็นพระเอกละครหลังข่าวถูกผู้หญิงหลอกหรือเผลอไปทำใครท้องเข้าหรอกน่า
สิทธาถอนหายใจ พร้อมๆ กับกระแทกตัวขุนลงบนกระดานอย่างแรง ขอให้มันฉลาดไปตลอดรอดฝั่งก็แล้วกัน
อืม ลูกน่ะฉลาด แต่ตอนนี้พ่อมันพลาดแล้ว -- เดินแบบนี้ก็แพ้สิว่ะธณกรยยิ้ม เมื่อเกมส์แรกเขาเป็นฝ่ายรุกฆาต
..........................................
เสียงกรีดร้องของโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงวอมขายาว ทำให้อดิศรที่กำลังก้าวขึ้นบันไดบ้านพักหลังจากวิ่งออกกำลังกายตอนเช้าตรู่ต้องหยุดชะงัก พอเห็นชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอ ใบหน้าที่ผุดพรายไปด้วยเหงื่อก็ขึงตึงขึ้นเล็กน้อย ได้แต่คิดอยู่ในใจว่าคราวนี้จะได้ฟังข่าวดี หรือต้องเพิ่มเรื่องหนักใจเข้ามาอีก
ครับพี่รัก
หลังจากขานรับก็นิ่งฟังไปครู่ใหญ่ พลางก้าวขึ้นตัวบ้านเดินตรงไปเปิดตู้เย็น คว้าขวดน้ำเปล่าแล้วเดินออกมานั่งลงบนเก้าอี้ไม้หน้าบ้าน
ไม่มีอะไรคืบยหน้าเลยเหรอครับ -- หา! ยายโมเนี่ยนะขายของเก็บเงินซื้อกล้องอดิศรอุทานลั่น มือขวาที่กำลังยกผ้าขนหนูขึ้นซับเหงื่อหยุดค้างอยู่กลางอากาศ จะเล่นจริงจังหรือแค่ตามกระแส อืม...เหรอครับ ถ้ามีโอกาสกลับไปอีกคราวนี้คงต้องขอรตีให้ช่วยเป็นสายสืบเพิ่มอีกสักคน
พอได้ฟังจากสายสืบคนที่หนึ่งว่าระยะหลังไม่ค่อยได้พบปะกับอรพลินเท่าไร เพราะทางฝ่ายนั้นเองก็ไม่ได้ตามติดดนุนัยทุกฝีก้าวดังเช่นเมื่อก่อน คนเป็นพี่บวกแพทย์ประจำตัวน้องสาวจึงต้องหาตัวช่วยอื่นเพิ่ม ไม่อย่างนั้นเขาจะขาดข้อมูลที่จำเป็นในการวินิฉัยอาการความจำเสื่อมของน้องสาว
อาการยายโมแปลกประหลาดที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมาเลย หลายเดือนมาแล้วนะพี่รัก เรื่องเก่าในอดีตแค่นิดเดียวก็ไม่เคยผ่านเข้ามาในสมอง จะมีก็แต่เรื่องใหม่ๆ ที่ทำให้เราแปลกใจ ไหนจะชอบกล้วยไม้ เลิกคำนวณแคลอลี่ในอาหาร ชอบกินของหวาน ชอบยกินกับข้าวฝีมือแม่กับป้าช้อย แล้วนี่ยังจะเรื่องกล้อง ถึงขนาดลงทุนหารายได้พิเศษเก็บเงินซื้อ ผมไม่รู้จะพลิกตำราแพทย์เล่มไหนมารักษาน้องสาวแล้วเนี่ย
พอเขาจบประโยคปลายสายก็ถอนหายใจ จนปัญญาที่จะช่วยเหมือนกัน เพราะเท่าที่รับฟังมา ดนุนัยนั้นบอกว่าอรพลินจงใจทิ้งระยะห่างจากเขา และนี่เองที่ทำให้อดิศรถึงกับหลุดหัวเราะออกมา
อย่าชะล่าไปใจนะพี่รัก ถ้าพี่แม็คใช้โอกาสนี้ตีตื้นขึ้นมาล่ะก็ มีหวังได้ถูกยึดตำแหน่งพี่ชายหมายเลขหนึ่งไปแน่ๆเขาหัวเราะดังกว่าเดิมเมื่อคู่สนทนาเจริญพรใส่พี่ชายคนโตเป็นชุด แถมย้ำหนักหนาว่าไม่มีทางยอมสละตำแหน่งเด็ดขาด
ครับๆ ผมรู้ว่าพี่ทำได้ แต่ขอเตือนไว้นิดว่าน้องสาวของผมรุ่นความจำเสื่อมเนี่ย ไม่ธรรมดานะ พี่อย่าเผลอไปทำบ้าอำนาจใส่แบบไม่มีเหตุผลที่เหมาะสมเด็ดขาด ไม่งั้นที่จะได้เห็นนางสาวอรพลินผู้ดื้อเงียบ ตั้งป้อมคัดค้านไม่ยอมท่าเดียวแบบที่พี่แม็คเจอมาแล้ว ถ้าเจอะแบบนั้นเข้าจริงๆ แล้วพี่ดึงสติตัวเองกลับมาไม่ได้ล่ะก็ ผมรับรองว่าอาจได้ถึงขั้นแตกหักกันเลยอดิศรยกขวดน้ำขึ้นดื่มอึกใหญ่ ตั้งท่าจะพูดต่อ แต่ที่ปลายสายรู้สึกจะมีเสียงแหลมแทรกเข้ามา พี่รัก นั่นเสียงคุณศรุตารึเปล่า หืม...ทำไมจะจำไม่ได้ เสียงแหลมเป็นนกหวีดซะขนาดนั้น อ่ะ ที่ออกจากบ้านมาตั้งแต่เช้า อย่าบอกนะว่านัดกับกิ๊กเก่าไว้ -- อ้าว จะไปรู้รึ นึกว่าถ่านไปเก่าจะคุชายหนุ่มหัวเราะอย่างอารมณ์ดีถึงแม้จะถูกปลายสายเจริญพรเข้าให้มาหลายประโยค ก่อนจะวางสายไป เพราะถูกถ่านไฟเก่าคอยเติมเชื้อให้ลุกไหม้ขึ้นมาใหม่
คุยโทรศัพท์กับสาวคนไหนอยู่ค่ะผู้กอง หน้างี้บานเชียว
อดิศรส่งยิ้มให้ร่างตุ้ยนุ้ยของป้าจั่น เจ้าของร้านขายข้าวแกงเจ้าดังในค่ายทหาร ที่กำลังเดินขึ้นบันไดบ้านมาพร้อมกับปิ่นโตเถาใหญ่ที่เขาผูกขาดเป็นลูกค้าตั้งแต่ย้ายมาทำงานที่นี่
ผมจะคุยกับสาวที่ไหนได้ ในเมื่อกำลังรอกับข้าวฝีมือของสาวคนนี้อยู่
แหมผู้ก้อง อย่าไปพูดแบบนี้ต่อหน้าคนอื่นเชียวนะ เดี๋ยวรู้ไปถึงหูพวกสาวๆ ป้าจะโดนรุมเละ
อ้าว แล้วป้าจั่นไม่กลัวลุงเสริมหึงเหรอครับเขาแกล้งแซวไปถึงผู้เป็นสามีป้าจั่น ซึ่งช่วยกันขายข้าวแกง ที่ตอนนี้น่าจะอยู่เฝ้าร้าน
ป้าจั่นโบกไม้โบกมือลากเสียงยาว ตาเฒ่านั่นเหรอ ป้าไม่กังวลหรอก ขานั้นน่ะ ของตาย
อดิศรหัวเราะตัวงอ ผู้คนในค่ายทหารที่นี่อัธยาศัยดีและเข้ากับเขาได้ทุกคน ด้วยเหตุผลนี้ชายหนุ่มจึงไม่เคยรู้สึกเหงาเมื่อต้องอยู่ไกลบ้าน แถมอากาศก็ยังสดชื่นกว่าในกรุงเทพที่ในอากาศเต็มไปด้วยกลุ่มหมอกควันสีเทาของท่อไอเสียจากรถยนต์เป็นไหนๆ
อุ้ย ผู้กอง ป้าเกือบลืมแม่ค้าขายข้าวแกงหน้าตื่น วิ่งตุบตับขึ้นมาบนบ้านอีกครั้ง พรุ่งนี้ป้าไม่อยู่นะจ๊ะ เดี๋ยวจะให้ลูกชายไปซื้อกับข้าวเจ้าอื่นมาส่งให้ก็แล้วกัน
ไม่เป็นไรครับป้า ไม่ต้องลำบากหรอก เดี๋ยวผมขับรถออกไปหาซื้อกินเองก็ได้อดิศรบอกอย่างนึกเกรงใจที่อีกฝ่ายยังมีน้ำใจหยิบยื่นให้ ทั้งๆ ที่ติดธุระ แล้วพรุ่งนี้ไม่อยู่ทั้งวันเลยเหรอครับ
ใช่จ๊ะ ต้องไปงานศพลูกสาวนังแอ๋ว ผู้กองจำได้ไหมล่ะ
อดิศรพยักหน้ารับ ทำไมเขาจะจำไม่ได้ ก็ลูกสาวบ้านนั้นดังไปทั่วทั้งตำบล ด้วยเพราะเดี๋ยวตายเดี๋ยวฟื้นเป็นว่าเล่น ตัวเขาเองยังเคยเจอมาแล้วรอบหนึ่ง หลังพิสูจน์และลงความเห็นว่าหญิงสาวตายแล้วแน่ๆ แต่เพียงสิบห้านาทีต่อมาคนตายก็ลืมตาลุกขึ้นเดินป๋อซะอย่างนั้น
ป้าแอ๋วไม่รอดูเหมือนทุกครั้งเหรอครับ เผื่อน้องเขาจะฟื้นขึ้นมาอีก
งานนี้ไม่ต้องแล้วล่ะผู้กอง รอจนกลิ่นฟุ้งตลบไปทั่วบ้านแล้วพูดจบป้าจั่นก็ทำหน้าเบ้เหมือนได้กลิ่นอันไม่พึงประสงค์มาจ่ออยู่ที่ใต้จมูก เห็นว่าเมื่อเย็นนิมนต์ให้พระที่วัดมาดู ท่านว่าลูกสาวนังแอ๋วมันละสังขารไปแล้ว หมดเวรหมดกรรม นังแอ๋วงี้ปล่อยโฮ ป้าก็เลยว่าจะไปอยู่เป็นเพื่อนสะหน่อย มีลูกคนเดียวก็อย่างนี้ล่ะ ผู้กองเองก็เถอะ ถ้าแต่งงานไปต้องมีสักสามสี่คนนะ เผื่อไว้ก่อน
นายแพทย์ทหารยิ้มรับ มองร่างตุ้ยนุ้ยที่เดินหายไปจนสุดสายตา หากแต่เรื่องที่เพิ่งได้รับฟังกลับสะกิดใจจนเกิดเป็นข้อสันนิฐานให้ต้องคบคิดซ้ำไปซ้ำมา
งานนี้ต้องหาตัวช่วย
ชายหนุ่มคว้าโทรศัพท์มือถือ กดโทรหาตัวช่วยเดียวที่เข่ามั่นใจว่าน่าจะพอเป็นที่ปรึกษาให้ได้
ฮัลโหลฝ้าย พี่มิกซ์เอง พอมีเวลาว่างไหม ดีเลย พี่มีเรื่องปรึกษานิดหน่อย
............................................................
แก้ไขเมื่อ 26 ธ.ค. 55 18:57:52
จากคุณ |
:
Fercianut
|
เขียนเมื่อ |
:
26 ธ.ค. 55 18:39:29
|
|
|
|