Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เจ้าสาวไปรษณีย์ (ตอนที่ ๓) vote ติดต่อทีมงาน

เจ้าสาวไปรษณีย์  ตอนที่ ๓

ลัลภัทรเงยหน้าขึ้นมอง  ศิวกานต์ดึงร่างนั้นเข้ามาแนบอก ลูกมะพร้าวตกห่างจากทั้งคู่ไปไม่ไกล ลัลภัทรเงยหน้าขึ้นมองพร้อมกับที่ศิวกานต์ก้มลงมองหน้าคนที่เขาเพิ่งช่วยไว้ ลัลภัทรเห็นใบ
หน้าคล้ำแดด อันที่จริงเจ้าตัวต้องเป็นคนผิวขาวบ่มแดดจนมีผิวสีแทนธรรมชาติ ถึงกระนั้นผิวก็ดูดีกว่าผู้ชายส่วนใหญ่ ใบหน้าคมเข้ม เธอเห็นไรหนวดที่เพิ่งโกน แขนอันแข็งแรงเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อประคองร่างเธอไว้

ศิวกานต์มองผู้หญิงในอ้อมแขน วงหน้ารูปไข่ขาวเนียนใต้แสงไฟ ดวงตากลมโตมองตอบเขา ก่อนที่เขาจะได้เก็บรายละเอียดมากกว่านี้ หญิงสาวก็เบี่ยงตัวออก

“คุณคงเป็นนายหัวของที่นี่ คุณศิวกานต์ใช่ไหมคะ”
“งั้นคุณคือ ศิริพรสินะ”
“ศิริพร” หญิงสาวทวนคำ “ไม่ใช่ค่ะ ดิฉันชื่อลัลภัทร มาทำงานแทนศิริพรค่ะ”
“ทำงาน งานอะไร” ศิวกานต์ถามด้วยน้ำเสียงคลางแคลง พร้อมขมวดคิ้ว
“ตำแหน่งเลขานุการ ที่คุณแจ้งไปทางคุณแม่ของศิริพรไงคะ”
“ผมว่าคงมีการเข้าใจผิดกันแล้วล่ะ”
“เข้าใจผิด ทางคุณเองส่งเอกสารสัญญาจ้างงานไปเองนี่คะ ศิริพรก็ส่งกลับมาให้แล้วด้วย”

ได้ฟังดังนั้น ศิวกานต์ก็ด่าตัวเองในใจ “เวรเอ๊ย เอกสารบ้านั่น ไม่ได้ตรวจสักที” เขามองหน้าคู่สนทนา เธอเองก็ดูงุนงงไม่แพ้กัน เสียงใบไม้ดังสวบสาบ ทั้งสองหันไปมองพร้อมกัน ไข่นุ้ยเดินมาหาคนทั้งสอง

“นายหัวกลับมาแล้ว”
“ใช่ นายไปเปิดห้องทำงานฉันด้วยนะ ชงชามาด้วย คุณอยากดื่มอะไรหรือเปล่า” ศิวกานต์หันไปถามลัลภัทรที่ยังยืนงงอยู่
“ชาก็ได้ค่ะ”
“ได้ยินแล้วก็รีบไปสิ  ส่วนคุณตามผมมา เรามีเรื่องต้องเคลียร์กัน”

ศิวกานต์เดินไปที่สำนักงานข้างเรือนใหญ่ ลัลภัทรเดินตาม “นี่มันอะไรกันนี่ ฉันงงไปหมดแล้ว ถ้าไม่ใช่ต้องการเลขานุการมาทำงานให้ จุดประสงค์ที่แท้จริงของเขาคืออะไร” ลัลภัทรพยายามคิดหาเหตุผล

สำนักงานเปิดไฟสว่าง เครื่องปรับอากาศเริ่มทำงาน ศิวกานต์ถอดแจ็กเก็ตแขวนบนราว หยิบปืนพกวางบนโต๊ะ วัตถุสีดำสะท้อนแสงเข้าตาของลัลภัทร

“คุณ มานั่งนี่” ศิวกานต์ชี้ไปที่เก้าอี้ท้าวแขน ส่วนตัวเขานั่งลงบนโซฟา ชายหนุ่มเปิดซองเอกสารสีน้ำตาล หยิบสัญญาออกมาพลิกดูผ่านๆ ก่อนยื่นส่งให้ลัลภัทร
“อ่านดูอีกรอบสิคุณ สัญญามันเขียนว่าอย่างไร” ศิวกานต์ผายมือเชื้อเชิญ

ลัลภัทรอ่านสัญญาชุดแรก มีสัญญา ๒ ชุด ชุดแรกเป็นสัญญากู้ยืมเงินระหว่างศิริรัตน์  กุลวาณิช กับ ภัสมล จงสิริ จำนวนเงิน ๕ ล้านบาท มีโฉนดที่ดินในจังหวัดนนทบุรี จำนวน ๗ ไร่ ค้ำประกัน หากไม่ชำระเงินกู้ภายใน ๑ ปี ให้โฉนดที่ดินดังกล่าวตกเป็นของ ภัสมล จงสิริ ส่วนอีกฉบับเป็นหนังสือรับสภาพหนี้ รายละเอียดมีดังนี้

เนื่องจากนาง ศิริรัตน์ กุลวาณิช ได้กู้เงินจากนาง ภัสมล จงสิริ เป็นจำนวนเงิน ๕ ล้านบาท มีโฉนดที่ดินค้ำประกัน แต่โฉนดที่ดินยังติดจำนองกับธนาคารพาณิชย์ จึงได้ทำหนังสือรับสภาพหนี้เงินกู้  โดยยินยอมให้ นางสาว ศิริพร  กุลวาณิช แต่งงานกับนาย ศิวกานต์ จงสิริ เป็นเวลา ๑ ปี การแต่งงานของทั้งคู่จะไม่ได้รับการเปิดเผยต่อบุคคลภายนอก เมื่อใดที่ปรากฏตัวต่อสาธารณชน นางสาวศิริพร กุลวาณิช จะถูกรับรู้ในฐานะ “เลขานุการของนายศิวกานต์ จงสิริ”
โดยในระหว่างนี้ หากนางสาวศิริพร ให้กำเนิดทายาท สิทธิการเลี้ยงดูทายาทจะตกเป็นของนาย ศิวกานต์ จงสิริ แต่เพียงผู้เดียว ระยะเวลา ๑ ปี เริ่มนับตั้งแต่วันที่นางสาว ศิริพร กุลวาณิช เดินทางมาถึงสวนจงสิริ

“ไม่จริง” ลัลภัทรคิดในใจ อ่านเอกสารอีกหลายรอบ ซึ่งก็ไม่ได้ทำให้เนื้อหาในสัญญาเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด ไม่มีบรรทัดใดเอ่ยถึงการจ้างงานเป็นเลขานุการเลย แล้วสัญญาที่เธอเซ็นไปไหน เธอเห็นกับตาตัวเองถึงรายละเอียดในสัญญาฉบับที่เธอเซ็น คือสัญญาการว่าจ้างงาน หญิงสาวแขนตก ไหล่ห่อ เมื่อรู้แล้วว่าเธอถูกเพื่อนหลอกให้มาแต่งงานแทน ไม่สิ การแต่งงานเป็นสิทธิเฉพาะตัว เธอไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับครอบครัวของศิริพรเลย  ลายเซ็นในสัญญารับสภาพหนี้ก็เป็นลายเซ็นของศิริพร ไม่ใช่ของเธอ  เพราะฉะนั้น เธอจะกลับกรุงเทพฯ

ลัลภัทรเงยหน้ามองอีกฝ่าย ศิวกานต์กำลังมองเธอด้วยสายตายิ้มเยาะ
“ไง สาวน้อย คุณโดนหลอกแล้วล่ะ คุณคิดหรือว่าถ้าผมจะจ้างเลขาฯ ทำไมผมจะต้องจ้างคนจากกรุงเทพฯด้วย คนในพื้นที่มีความสามารถเยอะแยะ เลขาฯ ที่ไหนจะมาอยู่ร่วมบ้านกับนายจ้าง นอกเสียจากว่า...” ชายหนุ่มไม่ต่อให้จบประโยค เป็นครั้งแรกของวันที่ศิวกานต์อยากจะหัวเราะดังๆ
 
“ผมลงทุนตกแต่งห้องใหม่ หวังจะใช้เป็นเรือนหอเชียวนะ น่าเสียดาย ว่าที่เจ้าสาวผมดันเป็นเจ้าสาวกลัวฝน ถึงขนาดลงทุนหลอกเพื่อนให้มาแต่งงานแทน”

ลัลภัทร เม้มริมฝีปากแน่น  โกรธทั้งเพื่อนและชายหนุ่มตรงหน้าด้วย เธอเห็นได้เลยว่า เขาพยายามกลั้นหัวเราะเต็มที่

“คุณคิดของคุณเองคนเดียว ว่าเพื่อนดิฉันส่งดิฉันมาแต่งงานแทน ดิฉันคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของครอบครัวคุณสองคน ดิฉันไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง พวกคุณควรจะคุยกันเองให้รู้เรื่อง กรุณาอย่าคิดเองเออเอง” ลัลภัทรพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น เธอต้องเข้มแข็งเข้าไว้ หญิงสาวบอกกับตัวเอง

“วันนี้คุณติดต่อเพื่อนคุณได้หรือเปล่า” ศิวกานต์เลิกคิ้วถาม ลัลภัทรอึ้งไปเล็กน้อย ใช่สิ วันนี้เธอยังติดต่อเพื่อนเธอไม่ได้เลย ศิวกานต์เห็นสีหน้าของลัลภัทรก็เดาได้ทันที

“คงติดต่อไม่ได้ มือถือปิด อีเมล์ที่ส่งไปเด้งกลับ เบอร์บ้านไม่มีใครรับสาย ที่ทำงานบอกลาพักร้อน หรืออาจจะลาออกไปแล้วก็ได้”

ลัลภัทรพูดไม่ออก เธอโทรศัพท์ไปที่ทำงานของศิริพร ปลายสายแจ้งว่า ลาพักร้อน ติดต่อไม่ได้
“ในหนังสือรับสภาพหนี้ ศิริพรเป็นคนเซ็นสัญญาเองนี่คะ ว่าจะแต่งงานกับคุณ ไม่ใช่ดิฉันที่เซ็นสัญญาฉบับนี้ คุณคงต้องรอคุยกับทางครอบครัวศิริพรเอง ส่วนดิฉันจะกลับกรุงเทพฯ พรุ่งนี้” ลัลภัทร เถียงกลับด้วยความมั่นใจ

“คุณนี่ยังไม่รู้ตัวอีกหรือว่าโดนสองแม่ลูกนั่นลอยแพ เห็นชัดอยู่แล้วว่า จงใจเชิดเงินที่ยืมแม่ผมไป ส่งคุณมารับเคราะห์แทน ถามจริงเถอะ แม่ศิริพรอะไรนี่ คุณสนิทกันมากแค่ไหน”

“สนิทกันมากแค่ไหนหรือ” ลัลภัทรทวนคำถามของศิวกานต์ในใจ เพื่อนร่วมชั้นเรียนสมัยมหาวิทยาลัย เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน แต่ก็ไม่ได้สนิทถึงขั้นที่จะปรึกษาเรื่องส่วนตัวกันทุกเรื่อง

“ผมว่า เพื่อนกันจริงคงไม่ทำกันแบบนี้หรอก หรือคุณเคยไปทำอะไรไม่ดีไว้หรือเปล่า เขาเลยทำกับคุณแบบนี้”

หญิงสาวนิ่งคิด เท่าที่เธอรู้ ไม่มีนี่นา เธอรู้ดีว่าไม่ใช่คนดีสมบูรณ์แบบ แต่เธอก็ไม่เลวพอที่จะทำร้ายใครได้

“ดิฉันขอยืนยันคำเดิมค่ะ พรุ่งนี้ดิฉันจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ เรื่องของคุณ คุณจัดการเอาเองแล้วกัน”
“กลับกรุงเทพฯ คุณคิดหรือว่า อ้อยเข้าปากช้างแล้วจะคายออกมาง่ายๆ”

ลัลภัทรกำลังจะอ้าปากเถียง เสียงประตูเลื่อนสำนักงานทำให้หญิงสาวหันไปมอง ไข่นุ้ยถือถาดน้ำชาเข้ามาพร้อมกับของว่าง ไข่นุ้ย มองเห็นทั้งสองคน ก็เดาสถานการณ์ได้ทันทีว่า ต้องมีอะไรเกิดขึ้นแน่นอน เขานึกถึงคำพูดของน้าช้อยว่า ถ้ามีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นให้รีบโทร.ไปรายงานทันที ไข่นุ้ย นึกคันปากอยากเล่าให้น้าช้อยฟัง ติดตรงที่ว่า เกิดเรื่องอะไรขึ้นนี่สิ

“ไข่นุ้ย ชงชาตั้งนาน ฉันคอแห้งจะตายอยู่แล้ว” ศิวกานต์ถามเสียงดัง
“คือผมเลือกชาอยู่น่ะครับ นายหัวไม่ได้บอกว่าอยากดื่มชาอะไร ผมเลยตัดสินใจอยู่ตั้งนาน”  ไข่นุ้ยวางถาดน้ำชาบนโต๊ะ พร้อมกับคุกกี้ของว่าง
“ฉันคงผิดเองสินะ คราวหน้าฉันจะสั่งให้ละเอียดกว่านี้ ไปได้แล้ว”
“นายหัวจะทานข้าวเย็นไหมครับ ผมจะได้เตรียมให้เลย”
“ไม่ต้อง ฉันกินมาแล้ว จะไปไหนก็ไป”
“ครับ” ไข่นุ้ยเดินจากมาอย่างเสียดาย

ศิวกานต์รินน้ำชาใส่ถ้วยทั้งสองใบ ชายหนุ่มถามลัลภัทรว่า “นมหรือน้ำตาล”
“ไม่ต้องค่ะ ขอบคุณ”
“ไม่ต้องใส่หรือว่าไม่ต้องการดื่มครับ” ศิวกานต์ถาม ลัลภัทรมองหน้าเขา “นี่ถามกวนใช่มั้ย” หญิงสาวคิดในใจ ก่อนพูดกระแทกเสียงว่า “ไม่ต้องใส่นมหรือน้ำตาลค่ะ”

ศิวกานต์ยื่นถ้วยน้ำชาให้หญิงสาว พร้อมมองหน้าคนพูด “จะมาโกรธอะไรฉันล่ะ เธอทำตัวเองเธอเองแท้ๆ” ชายหนุ่มคิดในใจ

ลัลภัทร ดื่มชาโดยลืมไปว่ามันยังร้อนอยู่ หญิงสาวรู้สึกว่าลิ้นของเธอพอง ศิวกานต์เห็นลัลภัทรทำหน้านิ่ว ชายหนุ่มแอบยิ้ม พร้อมคิดในใจ “เป็นไงล่ะ โกรธจนทำอะไรไม่ถูกเลย”

“นี่ก็ดึกมากแล้ว ผมมีงานอีกหลายอย่างต้องทำ พรุ่งนี้เราค่อยคิดแก้ปัญหาแล้วกัน วันนี้คุณเองก็คงเหนื่อย เพราะเดินทางไกลมา”

ลัลภัทร มองหน้าศิวกานต์ “เมื่อกี๊ ยังพยายามกวนประสาทเราอยู่เลย นี่มาทำพูดดีใส่ มีแผนอะไรหรือเปล่า”

หญิงสาววางถ้วยชา รู้สึกได้ว่าลิ้นยังพองอยู่ “ก็ดีค่ะ แต่ยังไงพรุ่งนี้ดิฉันก็จะกลับกรุงเทพฯ”
ศิวกานต์ถอนใจ “ยัยคนนี้คิดอะไรไม่ได้แล้วรึไง นอกจากจะกลับกรุงเทพฯ”

“กรุงเทพฯ มันไม่หนีคุณไปไหนหรอก”
“ดิฉันขอตัวก่อนนะคะ” หญิงสาวลุกขึ้น กำลังจะเดินออกไป ศิวกานต์ถามขึ้นมาว่า
“คุณชื่ออะไรนะ ผมยังไม่รู้ชื่อคุณเลย”
“ลัลภัทรค่ะ” ลัลภัทร หันมาตอบ เธอเพิ่งสังเกตว่าเขาสูงกว่าเธอมาก รูปร่างสันทัดเหมือนคนออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ ไม่ก็ทำงานใช้แรงมากกว่าทำงานนั่งโต๊ะ “ลัลภัทร นิไธสง”
“ผมไม่กวนคุณแล้ว ไปพักผ่อนเถอะ”

ลัลภัทรเดินกลับออกมา เธอเดินขึ้นเรือนเล็กด้วยความรู้สึกขุ่นมัว เมื่อเช้าชีวิตเธอยังดูสดใส มีความหวังกับงานใหม่ สถานที่ใหม่ แต่ตอนนี้ทุกอย่างดูกลับตาลปัตร หญิงสาวกลับถึงห้องนอน เธอรีบโทรศัพท์หาศิริพร ผลลัพธ์เหมือนเดิม ติดต่อไม่ได้ หญิงสาวลองโทรศัพท์หาเพื่อนคนอื่นๆ ทุกคนตอบเหมือนกันหมดคือ ไม่รู้ว่าศิริพรไปไหน หญิงสาวโทรศัพท์หาติ๋ม เอเจนต์ขายตั๋วเครื่องบินเป็นคนสุดท้าย

“ที่นั่นเป็นไงบ้าง ภัทร อยู่สบายดีมั้ย” พอรู้ว่าลัลภัทรโทรศัพท์มา ก็ดีใจ
“จ้ะ ดีมากเลย” เธอไม่ได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้เพื่อนคนใดฟัง
“เริ่มงานเมื่อไหร่ล่ะภัทร ถ้าเข้าที่เข้าทาง พวกเราจะไปเยี่ยมนะ”
“สัปดาห์หน้าจ้ะ ติ๋ม ได้คุยกับนุ่นครั้งล่าสุดเมื่อไหร่”
“อือ ล่าสุดก็เมื่อวานที่ไปส่งภัทรที่สถานีรถไฟไง พวกเรากลับมาก่อน”
“ตั้งแต่เมื่อวานหรือ”
“อือ ใช่ ภัทรมีอะไรจะคุยกับนุ่นหรือ”
“ไม่หรอก แค่อยากจะบอกนุ่นว่าภัทรมาถึงเรียบร้อยแล้ว”
“อ้าว นุ่นไม่ได้โทรศัพท์หาภัทรหรอกหรือ ตัวเองติดต่องานให้ภัทรแท้ๆ” ติ๋มเริ่มมีน้ำเสียงไม่พอใจ
“นุ่นคงงานยุ่งล่ะมั้ง ภัทรไม่กวนแล้ว ติ๋มไปนอนเถอะ”
“ภัทร ติ๋มมีเรื่องอยากจะบอก”
“เรื่องอะไรจ๊ะ”
“พี่ตั้ม มาซื้อตั๋วเครื่องบินไปอังกฤษ สองที่นั่ง ติ๋มเพิ่งรู้วันนี้แหละ เครื่องออกวันนี้ตอนเช้า”
ลัลภัทร เงียบไป ตั้ม คือแฟนเก่าเธอ แฟนคนแรกและคนเดียว ก่อนพ่อแม่เธอจะเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุเรือสำราญ   “พี่ตั้ม” คนนี้แหละ ที่สัญญากับพ่อแม่เธอว่าจะดูแลเธอไปตลอดชีวิต
“ภัทร เป็นอะไรรึเปล่า ติ๋มขอโทษ คิดอยู่นานเหมือนกันว่าจะบอกภัทรดีมั้ย”
“ภัทรไม่เป็นไร” ลัลภัทรทำน้ำเสียงร่าเริง “ภัทรลืมเรื่องคนคนนั้นไปหมดแล้ว”
หญิงสาวลืมหมดแล้วจริงๆ สิ่งที่เหลืออยู่คือความแค้น แต่เธอก็ไม่ได้คิดจะแก้แค้นผู้ชายคนนี้ แค่ชาตินี้ไม่ต้องพบประสบพักตร์อีกเป็นพอ
“ภัทร พักผ่อนเถอะ ว่างๆ หรือเหงาๆ ก็โทร.มาหาติ๋มได้นะ ช่วงนี้งานติ๋มไม่ยุ่ง”
“จ้ะ กู้ดไนท์”
“ไนท์จ้ะ ภัทร”
ลัลภัทร วางหูโทรศัพท์ คิดว่าจะเก็บของใส่กระเป๋าดีไหม พรุ่งนี้เธอจะได้ออกเดินทาง ทำไงดี ตั๋วรถไฟก็ไม่ได้จอง ตั๋วเครื่องบินก็ไม่แน่ใจว่ามีไฟล์ทหรือเปล่า เธออาจขอให้น้าแช่มขับรถไปส่งที่โรงแรม มีเรื่องให้เธอเป็นกังวลอีก บ้านที่กรุงเทพฯ เธอปล่อยเช่าไปแล้ว ถ้ากลับไปเธอจะไปพักอยู่ที่ไหน หญิงสาวคิดวกวนอยู่ในหัวจนกระทั่งหลับไป

ลัลภัทรคล้อยหลังไปได้สักพัก ศิวกานต์หยิบโทรศัพท์มือถือ กดหาเบอร์บดินทร์ ปลายสายรับทันท่วงที
“โทร.หาเพื่อนทำไมตอนนี้วะ แทนที่จะไปใช้เวลากับเจ้าสาว”
“มะเหงกแน่ะ แกก็รู้ว่าฉันมีแต่เชอรี่คนเดียว”
“เออ พ่อคนรักเดียวใจเดียว มีผู้หญิงอยู่ร่วมชายคา จะใจแข็งเป็นพระอิฐพระปูนไปได้สักเท่าไหร่เชียว”
“ฉันก็แค่ทำตามที่นายแม่สั่ง แต่งงานแต่ในนาม ต่างคนต่างอยู่จนครบปี แล้วก็แยกย้ายกันไป”
“ขอให้ทำได้จริงๆ เถอะเพื่อน โทร.มามีอะไรหรือ”
“มีเรื่องให้ช่วย”
“ว่ามา”
“นายช่วยสืบประวัติของผู้หญิงชื่อลัลภัทรให้หน่อย ขอด่วน”
“สืบประวัติ ผู้หญิง ชื่ออะไรนะ ฟังไม่ทัน”
“ลัลภัทร ลอลิง ไม้หันอากาศ ลอลิง ภ สำเภา ทอ ทหาร ร รอเรือ นามสกุล นิไธสง”
“อือ ลัลภัทร ชื่อแปลกดีนะ สืบไปทำไมวะเพื่อน”
“เอาน่า ช่วยหน่อยแล้วกัน”
“ด่วนเลยหรือ” ปลายสายถามย้ำ
“ใช่ ถ้าฉันไม่รู้ คืนนี้ฉันคงนอนไม่หลับ”
“อย่างนั้นเชียว ไม่รับปากนะ เพื่อนแกไม่ได้มีอำนาจมากขนาดจะจิ้มคอมพิวเตอร์ปุ๊บ รู้ประวัติพลเรือนปั๊บนะโว้ย”
“ช้าสุด ตอนเช้าก็ได้”
“ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร”
“เรื่องมันยาว เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง”
“ได้ ไปนอนไป๊ ดึกแล้ว”
“ไอ้บ้า จะไล่ให้ไปนอนท่าเดียว เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้มีเบาะแสอะไรบ้างหรือยัง”  ศิวกานต์หยิบแฟ้มบัญชีของโรงงานมาตรวจ
“ลืมบอก ได้แล้ว พบผู้ต้องสงสัยแล้ว พรุ่งนี้จะเชิญมาสอบปากคำ นายจะแวะเข้ามาก็ได้นะ”
“ขอบใจมากเพื่อน”

ศิวกานต์วางโทรศัพท์ แล้วทำงานต่อ ทำไมเรื่องร้ายมาเกิดขึ้นพร้อมกันในวันเดียว เขาจำศิริพรและแม่ของเธอไม่ได้เลย รู้แค่ว่าสองแม่ลูกเคยมาเที่ยวและมาขอให้พ่อของเขาช่วยเหลือเรื่องเงินครั้งหนึ่ง นั่นก็นานมาแล้ว ล่าสุดก็เมื่อหนึ่งปีก่อน แม่ของศิริพร เดินทางมาหาพ่อของเขาเพื่อขอกู้เงิน  แต่เธอไม่รู้ว่าพ่อเขาเสียชีวิตแล้ว ภัสมล แม่ของศิวกานต์ยอมให้ยืมเงินจำนวน ๕ ล้านบาท
ชายหนุ่มไม่เข้าใจแม่ของเขาเช่นกันว่า ทำไมต้องให้ศิริรัตน์ยืมเงิน เขาเคยท้วง แม่ของเขากลับบอกว่า “แค่เศษเงิน แม่ถือว่าทำบุญแล้วกัน”

เมื่อถึงกำหนดชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ย ศิริรัตน์ไม่สามารถหาเงินมาคืนได้ นางยื่นขอเสอนว่าจะให้ศิริพร ลูกสาวเพียงคนเดียวมาแต่งงานใช้หนี้กับศิวกานต์ ภัสมลรับข้อเสนอ ทั้งที่รู้ว่าศิวกานต์มีคนรักอยู่แล้ว และเขาก็กำลังคิดจะแต่งงานกับเธอด้วย

“เขาเสนอลูกสาวมาให้ แกไม่รับข้อเสนอนี้ก็บ้าแล้ว”
“ทำไมนายแม่ให้ยืมเงินไปตั้งแต่แรกล่ะครับ คุณพ่อก็เสียแล้ว”
“แม่ทำเพราะความสะใจ ผู้หญิงคนนั้นไม่เหลือศักดิ์ศรี หรือความภาคภูมิใจใดๆ ในชีวิตอีกแล้ว”
“เขายืมเงินไปทำอะไรตั้งมากมายครับ นายแม่”
“แม่คนนั้นบอกว่า นำเงินไปขยายธุรกิจ แต่แม่ว่าเอาเงินไปถลุงมากกว่า”
“รู้อย่างนี้แล้ว นายแม่ก็ยังจะให้ไป”
“ใช่ และแม่ก็รู้ด้วยว่าไม่มีทางใช้คืนแน่ๆ และก็ต้องมาไม้นี่ เอาลูกสาวมาขาย”
“นายแม่ทำไปเพื่ออะไรครับ เพื่อแก้แค้น หรือเพื่อความสะใจ นายแม่ก็รู้นี่ครับ คุณพ่อรักนายแม่คนเดียว”
“แม่ก็ไม่รู้เหตุผลที่แท้จริงของตัวเองเหมือนกัน แค่ปีเดียว ถ้าแม่เชอรี่รักลูกจริง และลูกมั่นคง ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงนี่ แต่งตามสัญญา ไม่ต้องจัดงานแต่ง ไม่ต้องพาออกงาน ให้คนภายนอกรับรู้แค่ว่าเป็นเลขาฯ ของแก จดแต่ทะเบียนสมรส พอครบกำหนด ๑ ปีก็หย่า”

ศิวกานต์ถอนหายใจ ตัวเขาเองไม่อยากไปยุ่งเกี่ยวกับปัญหาของผู้ใหญ่ ยังไงก็หนีไม่พ้น ถ้าเป็นความต้องการของนายแม่ ชายหนุ่มเริ่มรู้สึกสงสารผู้หญิงที่อยู่บนเรือนเล็กจับใจ เขาคงต้องหาทางแก้ปัญหา อีกใจนึง ชายหนุ่มก็อยากเดินไปเขกหัวลัลภัทรสักโป๊ก “ยัยโง่เอ๊ย คบเพื่อนภาษาอะไร ให้เพื่อนหลอกซะได้”

ชายหนุ่มนั่งทำงานไปได้สักพัก เสียงโทรศัพ์มือถือก็ดัง บดินทร์โทร.เข้ามา ชายหนุ่มรับสาย
“ได้เรื่องยังไงบ้างเพื่อน”
“ลัลภัทร นิไธสง จบอักษรศาสตร์ จุฬาฯ เอกภาษาอังกฤษ เป็นติวเตอร์อยู่ที่โรงเรียนกวดวิชาชื่อดัง เพิ่งลาออกจากงานมาได้สองสัปดาห์ พ่อแม่เสียชีวิตระหว่างล่องเรือท่องเที่ยว เรือล่มน่ะ เป็นข่าวดังเมื่อสักปีที่ผ่านมา”
“มีแค่นี้”
“เออ แค่นี้ ผู้หญิงคนนี้ประวัติขาวสะอาด ไร้มลทิน”
“ขอบใจเพื่อน”
“พรุ่งนี้เจอกัน ฉันอยากรู้ว่าเจ้าสาวของแกเป็นไงมั่ง และก็อยากฟังเรื่องของผู้หญิงคนนี้ด้วย”
ศิวกานต์ คิดออกแล้วว่าจะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไร
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เจ้าสาวไปรษณีย์ โดย กัณฐมาศ

จากคุณ : Josephine March
เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 55 22:13:39




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com