Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เจ้าสาวไปรษณีย์ ตอนที่ ๖ vote ติดต่อทีมงาน

ตอนที่ ๑ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W13108811/W13108811.html
ตอนที่ ๒http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W13112742/W13112742.html
ตอนที่ ๓http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W13116981/W13116981.html
ตอนที่ ๔ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W13121077/W13121077.html
ตอนที่ ๕ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W13122663/W13122663.html

ลัลภัทร เริ่มปรับตัวเข้ากับบ้านสวนได้แล้ว เธอตื่นแต่เช้า แต่ก็ยังสายกว่าคนอื่นในบ้าน หญิงสาวช่วยงานศิวกานต์ ส่วนตอนเย็น นินนาทมักจะมานั่งกินข้าวเป็นเพื่อน บางวันก็ขับรถพาเธอไปซื้อของในเมือง ส่วนนายหัวเจ้าของบ้านมักจะออกจากบ้านแต่เช้า กลับก็ค่ำมืด ถ้าเขาจะสั่งงานเธอก็เขียนโน้ตวางบนโต๊ะทำงานหรือไม่ก็ส่งอีเมล์

แต่วันนี้เธอพบเขานั่งรอเธอที่โต๊ะอาหาร นั่งอ่านหนังสือพิมพ์ อาหารเช้าบนโต๊ะดูเหมือนว่ายังไม่ได้แตะ ลัลภัทรเลื่อนเก้าอี้นั่งประจำที่ของเธอ

“วันนี้จะมีเจ้าหน้าที่จากอำเภอ มาจดทะเบียนสมรส” ศิวกานต์พูดลอยๆ

“ค่ะ” ลัลภัทรเองก็เพิ่งนึกได้ว่า เธออยู่มาเกือบสองสัปดาห์ ลืมเรื่องนี้ไปเลย

ศิวกานต์พับหนังสือพิมพ์ ดื่มกาแฟ แล้วลุกไป ลัลภัทรมองตาม ใจคอเขาจะไม่ชวนเธอคุยหรือถามสารทุกข์สุกดิบบ้างหรืออย่างไรนะ หญิงสาวคิดพลางถอนหายใจ มองอาหารบนโต๊ะ วันนี้มีอาหารฝรั่ง

“วันนี้อาหารแปลกตาจัง”

“น้าช้อย กลัวคุณภัทรจะเบื่อน่ะค่ะ” เนียนรินน้ำส้มให้เธอ

“น่ากินจัง” ลัลภัทรตักไข่ดาว ไส้กรอก แฮม ใส่จานตัวเอง เธอหยิบขนมปังปิ้งซึ่งยังดูกรอบอยู่ ก่อนจะเลือกแยมที่วางขวดเรียงกันอยู่ในตะกร้าสีเหลี่ยม มีแยมหน้าตาแปลกๆ ที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน
“เนียน นี่แยมอะไรจ๊ะ ฉันไม่เคยเห็นมาก่อนเลย”

“อ๋อ แยมพวกนี้น้าช้อยทำเองค่ะ เอาผลไม้ในสวนเรามาทำ ตอนที่ออกมาเยอะจนกินไม่ทัน”

“สวนของนายหัวน่ะเหรอ ฉันไม่รู้มาก่อนว่ามีสวนผลไม้ด้วย”

“มีค่ะ แต่อยู่อีกอำเภอ  แต่นายหัวไม่ค่อยไปดูหรอกค่ะ น้าช้อยจะเป็นคนไปดูแลซะมากกว่า” ลัลภัทรพยักหน้ารับรู้ เธอหยิบแยมสีอ่อนที่สุดมา ถามเนียนว่า

“นี่แยมอะไรหรือ”

“แยมมังคุดค่ะ อร่อยนะคะ”

ลัลภัทรเปิดฝา ทาแยมลงบนขนมปัง กัดชิม “อือ อร่อยจัง น้าช้อยน่าจะทำขายนะ เป็นสินค้าโอท็อปได้เลย”

“น้าช้อยก็เคยบอกแบบนั้นค่ะ แต่นายหัวห้ามไว้ เพราะกลัวจะขายดี เดี๋ยวนายหัวจะไม่มีทาน นายหญิงเองก็ชอบมากค่ะ”

ลัลภัทรทานอาหารเช้าต่อ เธอได้ยินศิวกานต์เรียกแม่ของเขาว่า “นายแม่” ส่วนคนอื่นๆ จะเรียก “นายหญิง” เธอยังไม่เคยพบแม่ของศิวกานต์เลย

ลัลภัทรทานอาหารเช้าเรียบร้อยก็เดินลงไปที่ออฟฟิศ ศิวกานต์นั่งทำงานอยู่ก่อนแล้ว เธอได้ยินว่า “แฟน” เขากลับมาจากมาเลเซีย ที่เธอไม่ค่อยเห็นหน้าเขา คงเป็นเพราะว่าอยู่กับแฟนล่ะมั้ง

“นายหญิง ไม่ค่อยชอบแฟนนายหัวหรอกค่ะ” เนียนเล่าให้เธอฟังวันหนึ่งขณะที่ทั้งสองช่วยกันรดน้ำต้นไม้

“เนียนรู้ได้ไงล่ะ”

“เนียนทำงานที่บ้านนายหญิงค่ะ ที่มาอยู่นี่ เพราะนายหัวขอไป”

“งั้นหรือ” ลัลภัทรเพิ่งได้ข้อมูลใหม่

“นายหญิง หวงนายหัวมากเลยนะคะ เพราะเป็นลูกชายคนเดียว นายหัวเองก็ไม่เคยขัดใจนายหญิง มีก็แต่เรื่องคุณเชอรี่นี่ล่ะค่ะ”

“บ้านนายหญิงอยู่ที่ไหนหรือ”

“อยู่ในเมืองค่ะ”

“นายหญิงมาที่นี่บ้างหรือเปล่า ฉันไม่เคยเห็นเลย”

“นายหญิงไม่ค่อยมาหรอกค่ะ บ้านสวนนี้เป็นของนายหัวคนก่อน คุณพ่อนายหัวน่ะค่ะ ท่านมาสร้างไว้ เพราะจะได้ดูแลงานในสวนง่ายๆ แต่สุดท้ายก็ไม่ค่อยได้มาอยู่  เพราะนายหญิงไม่ชอบ”

“งั้นหรือ” ลัลภัทรเริ่มเข้าใจแล้วว่า ทำไมจนป่านนี้เธอยังไม่พบนายหญิงของบ้าน หญิงสาวช่วยเนียนรดน้ำต้นไม้บ้าง ใส่ปุ๋ยบ้าง แรกๆ เนียนก็ห้าม แต่พอได้เห็นลัลภัทรสนใจถามเรื่องต้นไม้ใบหญ้า เนียนก็เลยใจอ่อน สอนเธอเรื่องไม้ดอกที่ปลูกอยู่ทั่วบริเวณ พร้อมกำชับว่า ถ้านายหัวอยู่บ้าน ลัลภัทรห้ามมายุ่งเรื่องงานบ้านเด็ดขาด

เนียนกับไข่นุ้ยเองก็แปลกใจกับพฤติกรรมของเจ้านายทั้งสอง นายหัวเองไม่เคยเฉียดกรายไปที่เรือนหลังเล็กเลย ส่วนคุณภัทรก็ไม่เคยเข้าไปในส่วนที่พักของนายหัว อันที่จริง ตามความคิดของบ่าวทั้ง คุณภัทร น่าจะมีสถานะเป็น “นายหญิง” ของบ้านสวนนี้ แต่นายหัวก็ไม่เคยพาคุณภัทรออกงาน ปล่อยให้คุณภัทรติดอยู่บ้านสวน ส่วนตัวเองพาคุณเชอรี่ออกหน้าออกตา

ภารกิจของเนียน นอกจากจะดูแลลัลภัทรตามคำสั่งของศิวกานต์แล้ว ยังต้องคอยโทรศัพท์รายงานความเคลื่อนไหวของลัลภัทรให้นายหญิงทราบด้วย ศิวกานต์เองก็รู้เรื่องนี้ จึงกำชับเนียนไว้ว่า

“ไม่ต้องเอ่ยชื่อคุณภัทร เข้าใจไหม แม่ฉันถามอะไรก็เออออไป”

“ค่ะ” เนียนรับคำอย่างงๆ

ลัลภัทรนั่งลงที่โต๊ะทำงน โต๊ะทำงานเป็นไม้สักอย่างดี เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากที่เธอมาถึง มันก็ตั้งอยู่ที่นี่แล้ว พร้อมเก้าอี้ตัวใหญ่พนักสูง นั่งสบาย จอคอมพิวเตอร์แม็คอินทอชบังหน้าเธอจนมิด แต่ก็ดี เธอจะได้ไม่รู้สึกอึดอัด เวลาอยู่กับศิวกานต์สองคน

“เบื่อหรือเปล่า” จู่ๆ ศิวกานต์ก็ถามขึ้นมา ลัลภัทรตั้งตัวไม่ถูก

“คะ”

ศิวกานต์พ่นลมหายใจก่อนจะถามอีกครั้ง “ผมถามว่าเบื่อหรือเปล่า”

“ไม่ค่ะ”

ทั้งสองไม่รู้จะคุยอะไรกันอีก ต่างคนต่างทำงานของตน ไข่นุ้ยเองก็รู้สึกแปลกๆ เมื่อยกเครื่องดื่มเข้ามาให้คนทั้งคู่

“ผมฟังเพลงได้หรือเปล่า”

“คะ ตามสบายค่ะ”

ศิวกานต์เปิดลำโพงคอมพิวเตอร์ เสียงเพลงแจ๊สของหลุยส์ อาร์มสตรองบรรเลงพริ้วไหว ลัลภัทรคิดว่า อย่างน้อยเธอกับเขาก็ฟังเพลงแบบเดียวกัน

ลัลภัทรฮัมทำนองเพลงเบาๆ คิดว่าศิวกานต์คงไม่ได้ยิน เธอคิดผิด เขาได้ยินเธอฮัมเพลง ชายหนุ่มอมยิ้ม มือเอื้อมไปหมุนลำโพงให้เสียงดังอีกนิด

ผ่านไปสักพัก มีเสียงรถแล่นเข้ามาจอดหน้าบ้าน ศิวกานต์กับลัลภัทรมองหน้ากัน ชายหนุ่มลุกขึ้น พร้อมกับบอกเธอว่า

“คงมากันแล้วล่ะ”

นินนาท บดินทร์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากอำเภอ มาถึงบ้านสวน นินนาทกับบดินทร์มาเป็นพยานในการจดทะเบียนสมรสของคนทั้งคู่

การจดทะเบียนเสร็จสิ้นลงในช่วงเวลาสั้น ลัลภัทรรู้สึกใจหาย ตอนนี้เธอเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว แม้จะเป็นการแต่งงานทางนิตินัยก็เถอะ นินนาทเองก็รู้สึกเสียดายเล็กๆ เขาเองคัดค้านเรื่องนี้อย่างเต็มที่ แต่บดินทร์เตือนสติว่า

“นายก็รู้ว่าเป็นการแต่งงานทางนิตินัย สัญญาก็แค่ปีเดียว แล้วนายก็ยังไม่ได้เป็นอะไรกับคุณภัทร ใจกว้างหน่อยสิเพื่อน”

ลัลภัทรกับศิวกานต์ถือทะเบียนสมรสคนละฉบับ ทั้งคู่รู้สึกแปลกๆ กับสถานะใหม่ แม้จะรู้กันเพียงแค่ไม่กี่คนก็ตาม เธอกับเขาตกลงกันแล้วว่าจะไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัวของกันและกัน

นินนาท บดินทร์ และเจ้าหน้าที่อำเภอกลับไปแล้ว ลัลภัทรทำงานต่อ ส่วนศิวกานต์เข้าโรงงาน นินนาทบอกว่า ตอนเย็นจะพาเธอไปดูหนัง
ลัลภัทรเองก็พอจะรู้ว่านินนาทคิดอย่างไรกับเธอ แต่เธอยังไม่พร้อมที่จะมีใคร บาดแผลจากคนรักเก่ายังฝังใจเธออยู่ แม้เธอจะบอกอ้อมๆ หลายครั้ง ดูเหมือนนินนาทจะไม่ใส่ใจ
ตอนเย็น หญิงสาวนั่งรอนินนาทอยู่ที่ห้องรับแขกของเรือนใหญ่ ศิวกานต์กลับมาบ้าน เพื่อจะเปลี่ยนเสื้อผ้าออกไปข้างนอกอีก

“คุณจะไปไหน”

“คุณเต้จะพาไปดูหนังในเมืองค่ะ”

“ดีนะ จดทะเบียนสมรสกับผู้ชายคนหนึ่งตอนเช้า ตอนเย็นก็ออกไปกับผู้ชายอีกคน” ลัลภัทรได้ยินแล้วอยากจะตอกกลับ แต่คนพูดหายเข้าห้องไปแล้ว

นินนาทแปลกใจที่เห็นลัลภัทรหน้าบึ้งตึงแต่ออกจากบ้านสวน วันนี้หญิงสาวสวมเดรสลูกไม้สีเทาควันบุหรี่ ผมที่มักจะรวบหางม้า ปล่อยยาวสลวย แต่งหน้าอ่อนๆ “ยิ่งมองยิ่งสวย” นินนาทคิดในใจ

ลัลภัทรค่อยรู้สึกดีขึ้น เมื่อได้ออกมาเที่ยวในเมือง ถ้างานไม่เยอะ หญิงสาวคงรู้สึกอยากกลับกรุงเทพฯ วันละหลายครั้งแน่ๆ นินนาทพาเธอไปทานข้าวที่ร้านอาหารชื่อดังในเมือง ดูหนังที่กำลังอยู่ในโปรแกรมฉาย พาเธอไปซื้อของใช้ส่วนตัว อันที่จริง ของใช้ประจำวัน ที่ศิวกานต์นำมาให้ ของส่วนใหญ่เป็นสินค้านำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน เธอหยิบมาใช้เป็นบางอย่างเท่านั้น

นินนาทขับรถมาส่งลัลภัทร เธอมองไม่เห็นรถของศิวกานต์ แสดงว่าเขายังไม่กลับ ดีเหมือนกัน ต่างคนต่างอยู่น่ะดีแล้ว เจอหน้ากันให้น้อยที่สุด

“พรุ่งนี้ผมจะมารับคุณภัทรตอนสิบโมงนะครับ”

“ค่ะ เจอกันพรุ่งนี้ค่ะ”

“ราตรีสวัสดิ์ครับ”

“ค่ะ ขับรถดีๆ นะคะ”

ลัลภัทรโบกมือให้นินนาท หญิงสาวรอจนรถของนินนาทลับสายตา จึงเดินขึ้นเรือน เนียนนั่งดูโทรทัศน์อยู่ที่ห้องรับแขก ส่วนไข่นุ้ยนั่งดูโทรทัศน์อีกเครื่องที่ห้องกินข้าว

“คุณภัทรกลับมาแล้วหรือคะ”

“จ้ะ นายหัวล่ะ”

“ไปงานอะไรสักอย่างกับคุณเชอรี่ค่ะ”

“นี่จ้ะ ขนม แบ่งกันกินกับไข่นุ้ยนะ” ลัลภัทรยื่นถุงขนมส่งให้

“ขอบคุณค่ะ” เนียนรับมาอย่างดีใจ

“นายหัวบอกว่า ถ้าคุณภัทรกลับมาแล้ว อย่าเพิ่งเข้านอนนะคะ นายหัวมีเรื่องจะคุยด้วย”

“จ้ะ”

ลัลภัทรกลับเข้าห้อง วางของที่ซื้อมา เปิดโทรทัศน์ เธอรู้สึกโมโหขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ

“เชอะ มาว่าคนอื่น ตัวเองก็เหมือนกันนั่นแหละ ตอนเช้าจดทะเบียนกับผู้หญิง พอตอนเย็นก็พาผู้หญิงอีกคนออกงาน อยากรู้จริงๆ ว่าแฟนอีตานั่นจะรู้หรือเปล่านะ ว่าเขาเพิ่งแต่งงานเมื่อเช้า แล้วนี่จะให้เรามานั่งรออีก”

ลัลภัทรนั่งหน้างอหน้าจอโทรทัศน์ หญิงสาวรู้สึกอยากกินอะไรหวานๆ จึงเดินไปที่ห้องแพนทรี่ นอกจากผลไม้ที่ศิวกานต์สั่งให้เนียนนำมาให้ทุกวันแล้ว ก็มีพวกขนมต่างๆ วางเต็มตู้เก็บของ ส่วนใหญ่เธอจะแบ่งให้เนียนกับไข่นุ้ย เพราะจำนวนมันเยอะเกินกว่าเธอจะกินหมด หญิงสาวเคยคิดเล่นๆ ว่า ศิวกานต์อาจจะขุนเธอให้อ้วนท้วน พอถึงเวลาก็เชือดทิ้งซะ

หญิงสาวหยิบขนม เปิดตู้เย็นเพื่อจะหยิบน้ำ แต่มีอะไรดลใจให้เธอเปิดช่องแช่แข็งด้วย ในช่องฟรีซ มีไอศกรีมยี่ห้อที่แพงหูฉี่ ลัลภัทรเอง ตอนอยู่กรุงเทพฯ ก็ใช่ว่าจะกินบ่อยๆ แต่ที่บ้านกลางสวนกลางป่าแห่งนี้ มีไอศกรีมบรรจุถ้วย วางอัดเรียงเป็นระเบียบ สารพัดรส หญิงสาวหยิบมาหนึ่งถ้วย มันมาอยู่ในตู้เย็นของเธอตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ

หญิงสาวยืนกินไอศกรีมในห้องแพนทรี่ กินจนเกือบหมดถ้วย เนียนก็เดินมาหาพอดี

“นายหัวกลับมาแล้วค่ะ เชิญคุณภัทรไปที่ห้อง”

“จ้ะ เนียน ไอศกรีมพวกนี้มาจากไหน”

“ไอศกรีม อ้อ มันอยู่ในตู้เย็นมาเป็นสัปดาห์แล้วค่ะ เนียนคิดว่าคุณภัทรเห็นแล้ว เลยไม่ได้บอก คุณภัทรเพิ่งเจอหรือคะ”

“ใช่ เต็มช่องฟรีซเลย”

“นายหัวซื้อมาให้ค่ะ บอกว่าถ้าหมดเมื่อไหร่ให้ไปบอกจะได้เอามาให้อีก”

“เนียนจะเอาไปกินก็ได้นะ”

“ไม่ล่ะคะ ไอศกรีมแบบนี้ เนียนว่ามันไม่อร่อย”

ลัลภัทรอมยิ้ม เธอทิ้งถ้วยไอศกรีมในถังขยะ ดื่มน้ำแล้วไปที่ห้องของศิวกานต์ ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ เธอไม่เคยย่างกรายมาที่ห้องของเขาเลย หญิงสาวเปิดประตูเลื่อน ภายในห้องแบ่งเป็นห้องนอน ห้องทำงาน และห้องนั่งเล่น สิ่งที่สะดุดตาเธอที่สุดคือ จอโทรทัศน์ขนาดใหญ่ เครื่องเล่นเกมวางระเกะระกะอยู่หน้าโทรทัศน์

หญิงสาวมองหาหนังสือการ์ตูน ฟิกเกอร์ โมเดล เพราะคิดว่าบางทีเขาอาจเป็นพวก “โอตาคุ” แต่ก็ไม่เจอสิ่งเหล่านั้น หญิงสาวนั่งที่เก้าอี้ท้าวแขนสีเหลืองอ่อน สายตาเหลือบไปเห็นชั้นวางหนังสือที่อยู่ด้านหลัง เธอลุกไปยืนดู มีหนังสือนวนิยายภาษาอังกฤษ วางอัดแน่นอยู่บนชั้น ส่วนใหญ่เป็นหนังสือใหม่ หญิงสาวเขย่งเท้าหยิบหนังสือที่อยู่ชั้นบนสุด พยายามเอื้อมเท่าไหร่ก็ไม่ถึง

เธอรู้สึกว่ามีคนมายืนข้างหลัง ศิวกานต์นั่นเอง ชายหนุ่มหยิบหนังสือบนชั้นให้เธอ เธอได้กลิ่นโคโลญจ์สำหรับผู้ชาย เขามาตั้งแต่เมื่อไหร่นะ เธอไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าเลย หญิงสาวได้กลิ่นลมหายใจรดผมเธอ เธอรู้สึกหัวใจเต้นแรง

“อยากอ่านอะไรก็มาหยิบไปได้”

“ค่ะ” เธอถอนใจเบาๆ ก่อนหันมา วันนี้ศิวกานต์แต่งตัวเต็มยศ สูทเนื้อดี มองก็รู้ว่าเป็นของแบรนด์เนมจากอิตาลี นาฬิการาคาแพง ผมหวีเรียบสนิท หนวดเคราโกนเรียบร้อย ใบหน้าดูเกลี้ยงเกลากว่าทุกวันที่เธอเห็น ลัลภัทรรู้สึกว่าแก้มของเธอร้อนผ่าว

“หน้าผมมีอะไรติดเหรอ” ศิวกานต์เอามือลูบหน้าตัวเอง

“ไม่มีค่ะ”

ศิวกานต์ก็คิดว่าลัลภัทรดูแปลกตากว่าเคย น่าจะเพราะชุดเดรสสีเทาช่วยขับผิวของหญิงสาว เธอปล่อยผมยาวเคลียไหล่ ดวงตาเปล่งประกาย ชายหนุ่มรีบเสไปมองทางอื่น

“นั่งลงสิ” ศิวกานต์สั่ง ลัลภัทรคิดในใจว่า “ผู้ชายคนนี้ แต่งตัวดี แต่นิสัยก็ยังเหมือนเดิม ชอบสั่ง” ลัลภัทรนั่งลง

ศิวกานต์หายเข้าห้องนอน ออกมาพร้อมกล่องกำมะหยี่สีดำ เขายื่นส่งให้หญิงสาว

“ของขวัญ” ศิวกานต์บอกห้วนๆ

“ของขวัญ เนื่องในโอกาสอะไรคะ”

“เปิดดูก่อนสิ”

ลัลภัทรเปิดกล่อง ภายในคือเครื่องเพชรชุดใหญ่ มีตุ้มหู สร้อย จี้ กำไลข้อมือครบชุด

“ให้ฉันทำไมคะ”

“คนส่วนใหญ่เวลาแต่งงาน เขาก็มีของหมั้นสินสอดให้กันนี่”

“แต่คุณกับฉัน ไม่เหมือนคู่แต่งงานคนอื่นๆ นี่คะ”

“รับไว้เถอะ พอถึงเวลาหย่า คุณจะเอาไปขายก็ได้”

“ไปขาย”

“ใช่ อยากจะทำอะไรกับมันก็ได้”

ลัลภัทร ปิดกล่อง เธอรู้สึกว่าศิวกานต์ให้เพราะเป็นหน้าที่ต้องให้ ไม่ใช่ให้เพราะความเสน่หา เธอลุกขึ้นเตรียมจะกลับเข้าห้อง

“พรุ่งนี้ไปไหนหรือเปล่า”

“ไปโรงพยาบาลของคุณเต้ค่ะ”

“ไปทำไม”

“คุณเต้ของให้ฉันไปสอนหนังสือเด็กที่ป่วยอยู่ในโรงพยาบาล”

“งั้นหรือ”

“คุณมีอะไรจะให้ฉันทำหรือเปล่าคะ”

“ไม่มี วันหยุดคุณนี่ ผมจะใช้ให้คุณทำงานอะไรได้ล่ะ”

ลัลภัทรเดินออกจากห้อง ถือกล่องเครื่องเพชรแน่น กลับถึงห้อง เธอเปิดลิ้นชักหัวนอน โยนกล่องกำมะหยี่สีดำแล้วปิดลิ้นชักลั่นกุญแจ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เจ้าสาวไปรษณีย์ โดย กัณฐมาศ

จากคุณ : Josephine March
เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 15:17:32




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com