เจ้าสาวไปรษณีย์ ตอนที่ ๑๐
งานเลี้ยงประจำปีของสโมสรโรตารี่จังหวัดสงขลา คลาคล่ำไปด้วยนักธุรกิจ นายทหาร ข้าราชการระดับสูง ปกติศิวกานต์ไม่ชอบมางานแบบนี้นัก หากไม่ใช่เพราะว่าต้องการพบปะผู้คนเพื่อผลทางธุรกิจ โชคดีที่แฟนสาวของเขารู้จักคนเยอะ ชายหนุ่มจึงเป็นฝ่ายถูกลากไปคุยกับคนโน้นคนนี้
การแข่งขันทางธุรกิจทำให้ชายหนุ่มเบื่อที่จะต้องพบเจอผู้คนในแวดวงเดียวกัน จึงเป็นเหตุให้เขาไปพักที่บ้านสวน เพราะอยากมีช่วงเวลาสงบเหมือนคนอื่นบ้าง กานต์คะ เห็นหรือเปล่ามีแต่คนมองคู่ของเรา เชอรี่กระซิบบอกเบาๆ จริงอย่างที่เธอว่า คู่ของเขาเด่นที่สุดกลางฟลอร์เต้นรำ
คนมองคู่เรา เพราะเชอรี่ของผมมากกว่า
กานต์ไม่รู้อะไร พวกสาวๆ แอบปลื้มกานต์นะคะ ดูสายตาแต่ละคนสิ เชอรี่พยักเพยิดไปที่กลุ่มสาวๆ ซึ่งยืนเกาะกลุ่มกันอยู่นอกฟลอร์เต้นรำ
หึงหรือครับ
ไม่หึงหรอก เชอรี่รู้ดีว่า กานต์ไม่มีวันมองผู้หญิงอื่นนอกจากเชอรี่
ครับ เรื่องนั้นมันแน่อยู่แล้ว
เวลาอยู่ด้วยกัน ศิวกานต์และเชอรี่มักจะหลีกเลี่ยงที่จะไม่พูดถึงลัลภัทร
พรุ่งนี้เชอรี่ต้องบินไปกรุงเทพฯ แย่จังค่ะ พรุ่งนี้กานต์ต้องฉายเดี่ยวอีกแล้ว
ผมบอกแล้วไงว่าปิดบริษัท แล้วมาช่วยงานผม
เชอรี่ก็อยากทำแบบนั้น แต่ติดสัญญาน่ะสิคะ
ผมจ่ายค่าปรับให้ก็ได้
ไม่ล่ะ เชอรี่ไม่อยากเสียเครดิต
เพลงจบ ทั้งสองเดินออกจากฟลอร์ ตลอดทางมีแต่คนเข้ามาทักทาย ศิวกานต์จำคนที่คุยด้วยได้ไม่กี่คน
ศิวกานต์ขับรถมาส่งเชอรี่ที่คอนโดฯ ทั้งคู่อ้อยอิ่งไม่ยอมแยกจากกัน
ไม่ค้างหรือคะ เชอรี่ถามกระเง้ากระงอด
ผมก็อยากค้าง แต่ก็เป็นห่วงสวนด้วยครับ
ห่วงสวน หรือห่วงคนที่บ้านสวนคะ เชอรี่ถามประชด
โธ่ เชอรี่ก็น่าจะรู้เจตนาผมนี่ครับ อย่างอนเลย
พักหลังเราไม่ค่อยมีเวลาอยู่ด้วยกันเลย กานต์น่าจะหยุดงานแล้วเราไปเที่ยวกันนะคะ
ได้ครับ เชอรี่อยากไปไหนล่ะ
เชอรี่ขอคิดก่อนแล้วกันค่ะ เธอเอื้อมตัวมาหอมแก้มศิวกานต์
ครับ เดินทางปลอดภัยนะครับ
ค่ะ เชอรี่ลงจากรถ ชายหนุ่มมองคนรักเดินลับตาแล้วจึงออกรถ
ศิวกานต์ขับรถกลับบ้านสวน ใบหน้าที่ร่าเริงเมื่ออยู่กับคนรักเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด ข้อมูลที่นักสืบเพิ่งส่งมาให้เขา ทำให้ชายหนุ่มไม่สบายใจ ศิริพร เพื่อนของลัลภัทร คือคนรักใหม่ของวิษณุ แฟนเก่าลัลภัทร อันที่จริงทั้งคู่แอบคบกันมานานแล้ว โดยที่ลัลภัทรไม่รู้เรื่องด้วย เขาเข้าใจว่าลัลภัทรไม่รู้ว่าคนรักใหม่ของแฟนตัวเองคือเพื่อนสนิท ศิริรัตน์ กุลวาณิช นั่งรอบุตรสาว ณ ภัตตาคารอาหารญี่ปุ่นชื่อดังย่านสุขุมวิทอย่างร้อนรน เธอเพิ่งเดินทางกลับจากการทำธุรกิจที่เวียดนาม ลูกสาวคนดีของเธอยังอยู่ที่กรุงเทพฯ ข่าวนี้ทำให้เธอต้องรีบบินกลับมาที่นี่ การบริหารธุรกิจที่เพลี่ยงพล้ำ ทำให้เธอต้องบากหน้าไปยืมเงินจากแฟนเก่า แต่เธอหมายมั่นปั่นมือแล้วว่าจะให้ศิริพร เป็นสะใภ้ของจงสิริให้ได้ เพราะนั่นหมายถึงการได้แก้แค้น และลูกสาวเธอจะได้ยกระดับเป็นภรรยาเศรษฐี
ร่างเล็กระหงส์ของศิริพร เยื้องกรายมองหามารดา บริกรนำเธอมาที่โต๊ะซึ่งจัดไว้หลบมุมจากลูกค้าคนอื่นของร้าน
คุณแม่กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ ศิริพรยกมือไหว้มารดา
ฉันควรจะถามแกมากกว่า ทำไมยังอยู่กรุงเทพฯ แล้วทางโน้นไม่ตามหาแกหรือยังไง
หนูไม่ไปดักดานอยู่ที่สวนยางพาราหรอกคะ ตอนนี้ลัลภัทรอยู่ที่นั่นแทนหนูแล้ว
ว่าไงนะ แกส่งเพื่อนแกไปแทนอย่างนั้นหรือ
ค่ะ
นี่แกบ้าไปแล้วหรือไง สัญญาฉบับนั้นเขียนไว้ว่า แกต้องแต่งงานกับลูกชายยัยภัสมล
ก็หนูไม่อยากแต่งนี่คะ อีกอย่างหนูมีคนรักอยู่แล้ว
เหอะ คนรัก แกอย่ามาทำตัวน้ำเน่าหน่อยเลย แกรู้มั้ยว่าแกพลาดโอกาสทองแล้ว
โอกาสทอง ยังไงคะ แต่งงานกับเศรษฐีภูธรหรือคะ หนูไม่เอาหรอกค่ะ
แกรู้หรือเปล่าว่าเขารวยมาก
ไม่ทราบค่ะ แค่ทำสวนยางพารากับปาล์มน้ำมัน หนูไม่เห็นว่ามันจะทำเงินได้มากมายสักแค่ไหน
ศิริรัตน์ พยายามระงับโทสะ ส่วนศิริพรเองก็อยากจะตอกมารดากับไปว่า ถ้าคุณแม่รู้ว่าคุณลุงรวยขนาดนั้น ทำไมถึงทิ้งเขามาแต่งงานกับคุณพ่อล่ะคะ แต่เธอก็ไม่ได้พูดออกไป
แล้วแม่เพื่อนแก ติดต่อมาหรือเปล่า ไม่ใช่ตอนนี้กลายเป็นคุณนายนั่งกินนอนกินไปแล้วนะ
คงไม่หรอกมั้งคะ
นี่พวกแกไม่ได้ติดต่อกันเลยหรือ
ไม่มีอะไรต้องคุยกันแล้ว
แต่แม่มี แม่จะลงไปหาดใหญ่
ไปทำไมคะ
ไปคุยกับคุณภัสมลเรื่องแกน่ะสิ แกต้องไปกับแม่ด้วย
เพื่ออะไรคะคุณแม่ เงินที่คุณแม่ยืมมา เขาก็ไม่คิดจะทวงคืน เราก็ทำลืมๆ ไปเถอะค่ะ
ก็ไปทวงสิทธิของแกไง ยังไงแกก็เป็นเจ้าสาวตามสัญญา
หนูไม่ไป หนูมีพี่ตั้มอยู่แล้ว
ลูกชายเจ้าของโรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์น่ะหรือ
ค่ะ พี่ตั้มก็รวยไม่แพ้ใครหรอก
ใช่ รวย แต่แกคิดหรือเปล่า ว่าเขามีพี่น้องตั้งกี่คน ทรัพย์สมบัติก็ต้องแบ่งกัน แกแต่งไปก็ใช่ว่าจะสบาย
แล้วคุณศิวกานต์อะไรนี่ รวยขนาดไหนหรือคะ คุณแม่ถึงไม่ยอมปล่อย
แกก็ไปดูให้เห็นกับตาสิ คุณศิริรัตน์จิบชาร้อน ใบหน้าครุ่นคิด
ศิวกานต์คิดไม่ตกกับเรื่องที่เพิ่งรับรู้มาวันนี้ เขาควรจะบอกเธอดีไหมนะ หรือว่าจะปล่อยให้มันผ่านไป รอเวลาเยียวยาเรื่องต่างๆ เอง ศิวกานต์ยืนมองที่เรือนเล็ก มือหนึ่งถือแก้วบรั่นดี อีกมือล้วงกระเป๋ากางเกง เขากำกล่องกำมะหยี่สีน้ำเงินเอาไว้
คืนนี้นายหัวจะค้างที่เรือนเล็กหรือครับ ไข่นุ้ยถามเมื่อเห็นศิวกานต์ยืนบนบันไดที่จะไปเรือนเล็ก
ไอ้บ้า ศิวกานต์ตะโกนใส่ไข่นุ้ยแล้วเดินกลับเข้าห้อง
อะไรของเขานะ ก็เห็นอยู่ว่าจะเดินไปเรือนเล็ก แล้วทำไมไม่เข้าไปในห้อง ไข่นุ้ยเกาหัวแกรกๆ
ลัลภัทรชะงักเมื่อเห็นว่าศิวกานต์นั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร กำลังอ่านหนังสือพิมพ์ หญิงสาวเดินเลี่ยงไปด้านหลัง
จะไปไหน ไม่ทานข้าวเช้าก่อน ศิวกานต์ลดหนังสือพิมพ์ลงมองเธอ
ไปเดินเล่นค่ะ เดี๋ยวกลับมาค่อยทาน
ดี ผมไปด้วย ศิวกานต์พับหนังสือพิมพ์วางบนโต๊ะ ลัลภัทรมองหน้าเขา ก่อนจะเดินลงส้นไปข้างล่าง
ลัลภัทรเดินนำหน้าไปทางที่เธอมักจะเดินเล่นกับนินนาทเป็นประจำ เธอพบว่าไม่ไกลจากบ้านมีน้ำตกเล็กๆ ไหลลงสู่ธารน้ำธรรมชาติ ไม่รู้จะตามมาทำไม ลัลภัทรคิดในใจ
ศิวกานต์เดินห่างจากลัลภัทรไม่กี่ก้าว เขามองเห็นแต่ผมหางม้าปลิวสะบัดตามการเคลื่อนไหวของลัลภัทร เขาเคยคิดเล่นๆ ว่า จะเป็นไปได้ไหมที่เขาจะรู้สึกรักเธอขึ้นมาบ้าง ชายหนุ่มพยายามหลบเลี่ยงเวลาเห็นลัลภัทรกับนินนาทอยู่ด้วยกัน เขาแค่ไม่อยากให้เพื่อนเป็นกังวล หรือเพราะเขาเองไม่ชอบใจ
พื้นดินแถวนั้นค่อนข้างชื้น ลัลภัทรที่กำลังมองดูกระรอกบนต้นไม้ ไม่ทันมองทางสะดุดล้ม ศิวกานต์รีบวิ่งไปพยุงเธอขึ้นมา
ซุ่มซ่ามจริง เดินระวังหน่อยสิคุณ มองอะไรอยู่แทนที่จะมองทาง ศิวกานต์พูดเสียงเขียว
ปล่อยนะ ลัลภัทรพยายามเบี่ยงตัวออกจากอ้อมแขนของชายหนุ่ม
เจ็บตรงไหนหรือเปล่า
คุณไม่ต้องมาสนใจหรอก ลัลภัทรพยายามดิ้น แต่ศิวกานต์ยังกอดไม่ปล่อย
ดื้อจริง คราวหน้าคราวหลังก็เดินระวังหน่อย ดินแถวนี้ค่อนข้างลื่น ถ้าไม่มีคนมาเดินเป็นเพื่อนจะทำยังไง ศิวกานต์พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลง แต่ลัลภัทรกลับยิ่งโมโห
ฉันก็ไม่ได้ขอให้คุณมาเดินเป็นเพื่อนนี่
เดินกลับไหวหรือเปล่า
ไหว ลัลภัทรสะบัดเสียง เธอผลักศิวกานต์ออกไป แล้วเดินกลับไปที่บ้าน คุณภัทร ไปโดนอะไรมาคะ เนียนถามเมื่อเห็นขากางเกงยีนลัลภัทรเปื้อนโคลน
เดินซุ่มซ่ามจนหกล้มน่ะสิ ศิวกานต์ตอบแทน
ลัลภัทรแอบค้อนชายหนุ่มก่อนจะเดินขึ้นบ้าน ศิวกานต์สั่นหัวก่อนจะเดินตามขึ้นไป ลัลภัทรกลับเข้าห้อง ศิวกานต์นั่งลงที่โต๊ะกินข้าว
ลัลภัทรเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยอารมณ์ที่ยังขุ่นมัว หญิงสาวเปลี่ยนมาใส่เดรสที่น้ำเงินลายดอกไม้ มัดผมครึ่งหัว แต่งหน้านิดหน่อย ก่อนจะเดินออกจากห้อง
ศิวกานต์ยังนั่งรอลัลภัทรกินข้าว เขาแปลกใจที่เธอแต่งตัวแบบนี้
จะไปไหน
คุณแม่นัดให้ไปกินโต๊ะแชร์เป็นเพื่อนค่ะ
จะไปยังไง ให้ผมไปส่งไหม
ไม่ต้องค่ะ เดี๋ยวคุณเต้มารับ
ไปกินโต๊ะแชร์ ปกตินายแม่ก็ไปคนเดียวอยู่แล้ว ทำไมถึงมาชวนคุณ
ไม่ทราบค่ะ อยากรู้ก็ไปถามคุณแม่เอง
โกรธอะไรอีกล่ะ
ไม่ได้โกรธค่ะ
ลัลภัทรนั่งหน้าบึ้ง เธอแตะข้าวเช้าเพียงนิดเดียว ศิวกานต์นั่งมองหน้าหญิงสาว พลางคิดว่า นี่เราทำอะไรผิด ตัวเองเดินไม่ระวังเองแท้ๆ อุตส่าห์ช่วยก็มาโกรธ
เสียงรถยนต์แล่นเข้ามาจอด ลัลภัทรชะเง้อมอง ก่อนจะหยิบกระเป๋าเดินลงบันได ศิวกานต์มองตาม ชายหนุ่มได้ยินเสียงนินนาท จึงลุกไปข้างล่าง
ไปกันเลยไหมครับ คุณภัทร
ค่ะ ลัลภัทรขึ้นไปนั่งประจำที่ นินนาทเห็นเพื่อน จึงโบกมือให้
วันนี้อยู่บ้านหรือเพื่อน นินนาทถามเมื่อเห็นศิวกานต์
ใช่ ไม่รู้จะไปไหน
ฉันไปก่อนนะ เดี๋ยวคุณป้ารอ นินนาทเดินขึ้นรถ ชายหนุ่มหันไปมองหญิงสาว ดูเหมือนอารมณ์ไม่ดี หรือว่าทะเลาะกับไอ้กานต์ ไม่น่าจะใช่ ปกติทั้งคู่แทบไม่คุยกันเลยด้วยซ้ำ นินนาทออกรถ ศิวกานต์มองรถของนินนาทขับไปไกลแล้วจึงขึ้นบ้าน
นายหัวไม่ทานข้าวแล้วหรือครับ
ไม่ล่ะ ฉันจะออกไปตรวจสวน ศิวกานต์หยิบแจ็กเก็ต หมวก แว่นกันแดด เดินลงบันได ขับรถจิ๊บไปตามเส้นทางที่สวนยางเกิดไฟไหม้เมื่อสองเดือนก่อน
ต้นยางถูกไฟไหม้ไปบางส่วน ตอนนี้พื้นดินตรงนั้น ชายหนุ่มปล่อยทิ้งเอาไว้ ร่องรอยความเสียหายไม่เหลือให้เห็นแล้ว ชายหนุ่มเดินดูรอบบริเวณ บดินทร์พยายามหาตัวคนกระทำผิด แต่ก็คว้าน้ำเหลว ผู้ต้องสงสัยเรื่องระเบิดสวนปาล์ม สอบสวนแล้วไม่สามารถเอาผิดได้ เพราะหลักฐานอ่อนเกินไป
ถ้าลูกไม่อยากทำสวนกับโรงงานต่อ จะขายทิ้งไปก็ได้ แม่ไม่ว่า ศิริรัตน์พูดกับลูกชายหลังจากงานศพสามีผ่านไป
นายแม่จะยอมขายทุกอย่างที่คุณพ่อสร้างมากับมือหรือครับ
พ่อแกเคยบอกแม่ว่า ให้ลูกทำในสิ่งที่ลูกอยากจะทำ พ่อไม่อยากทิ้งทุกสิ่งให้เป็นภาระของลูก ของพวกนี้มันก็แค่ของนอกกาย แม่เองก็เห็นด้วยกับพ่อ แม่ไม่อยากให้ลูกรับช่วงกิจการต่อเพราะเป็นสิ่งที่ ต้องทำ
ผมจะดูแลสวนและโรงงานต่อเองครับ เวลานั้นผ่านมา ๕ ปีแล้ว กิจการดำเนินไปด้วยดี ศิวกานต์เดินจับต้นยางพาราทีละต้นๆ ที่ดินทั้งหมดเป็นของพ่อเขา ส่วนเงินทุนทั้งหมดที่พ่อเขานำมาขยายงานเป็นเงินของแม่
พ่อพบกับแม่ของลูก ในช่วงที่พ่อลำบากที่สุด ถ้าไม่มีเขา พ่อก็คงไม่มีทุกวันนี้ พ่อเล่าให้เขาฟังวันหนึ่งระหว่างพาเขานั่งรถตรวจงานในสวน ตอนนั้นชายหนุ่มยังเรียนหนังสืออยู่ที่สหรัฐอเมริกา
แม่ของลูกเลือกพ่อ ทั้งที่มีคนดีพร้อมกว่าพ่อให้เลือกตั้งมากมาย
คุณพ่อรักนายแม่หรือเปล่าครับ
รักสิ ถามได้ รักมากด้วย เพียงแต่แม่ของลูกไม่ชอบให้ใครแสดงความรักออกหน้าออกตาเท่านั้น พ่อก็หวังว่าวันหนึ่งลูกคงจะเจอคนที่ลูกสามารถรักได้อย่างเต็มหัวใจ รักโดยไม่มีเงื่อนไข อยากปกป้องดูแลเขาไปตลอดชีวิต
ศิวกานต์ขับรถกลับบ้าน งานเลี้ยงโต๊ะแชร์จัดขึ้นที่ห้องอาหารจีนชื่อดังใจกลางเมืองหาดใหญ่ ภัสมลรอลัลภัทรและนินาทอยู่ก่อนแล้ว ทั้งสามนั่งรับประทานข้าวที่โต๊ะเดียวกัน ทุกคนในงานต่างถามไถ่ว่าลัลภัทรเป็นใคร และคาดเดากันเองว่าคงเป็นคนรักของนินนาท ภัสมลเองก็ไม่ได้บอกกับใครว่า ลัลภัทรคือลูกสะใภ้ของเธอ การที่เธอให้นินนาทพาลัลภัทรออกงาน เพื่อวัตถุประสงค์บางอย่าง
กานต์อยู่บ้านหรือเปล่า ภัสมลถามเมื่อแขกร่วมโต๊ะต่างออกไปเต้นรำบ้าง ร้องคาราโอเกะบ้าง ส่วนนินนาทถูกดึงไปนั่งที่โต๊ะของผู้บริหารจากโรงพยาบาลรัฐ
อยู่ค่ะ
งั้น กานต์ก็เจอนินนาทตอนขับรถไปรับหนูพอดี
ค่ะ คุณแม่ไม่พาคุณกานต์มาด้วยล่ะค่ะ ลัลภัทรตักขนมหวานรับประทาน
แม่ไม่พามาหรอก น่าเบื่อจะตาย พาออกงานด้วยทีไรก็หน้าบูดหน้าบึ้ง เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่เด็กแล้ว ภัสมลมองลัลภัทรที่ดูเจริญอาหารดี
เชอะ ออกงานกับแม่หน้าบูดหน้าบึ้ง แต่เวลาออกงานกับแฟนตัวเองหน้าตาระรื่นเชียว ลัลภัทรคิดในใจ หญิงสาวยกแก้วน้ำอัดลมขึ้นดื่ม
คุณแม่พักอยู่บ้านคนเดียวไม่เหงาหรือคะ ลัลภัทรถามสิ่งที่อยากถามมานาน เธอไม่รู้ว่าศิวกานต์เข้าเมืองมาหาแม่ของเขาบ่อยแค่ไหน ช่วงเวลาสามสี่เดือนที่ผ่านมา เธอพบคุณภัสมลแค่สามครั้ง
ไม่เหงาหรอก ภัสมลมองที่มือของตัวเอง แววตาเหมือนกำลังคิดถึงใครบางคน แม่น่ะเพื่อนเยอะ กานต์มัวแต่เก็บหนูไว้ที่บ้านสวน เราเลยไม่ได้เจอกัน แม่เข้าไปประชุมที่บริษัทสัปดาห์ละครั้งจ้ะ แล้วไหนจะงานสังคม งานการกุศลที่แม่ทำอีก ไม่เหงาหรอก วันๆ หนึ่งวิ่งวุ่นไปโน่นมานี่ ภัสมลเงยหน้ายิ้มให้ลัลภัทร แต่แม่ก็ยอมรับตามประสาคนแก่ล่ะนะ แม่อยาก อุ้มหลาน
ภัสมลจับมือเรียวเล็กของลัลภัทร หญิงสาวไม่กล้าสบตาภัสมล ได้แต่มองถ้วยขนมหวาน เสียงร้องคาราโอเกะจบ มีการแย่งไมค์กันไปมา ก่อนจะเริ่มเพลงใหม่ได้ ภัสมลลอบมองลูกสะใภ้ เธอยังหวัง หวังอย่างเต็มหัวใจว่าลูกชายของเธอจะเห็นค่าของคนที่อยู่ใกล้ตัว เธอคิดมาตลอดนับแต่เจอลัลภัทรว่า นี่อาจเป็นพรหมลิขิตก็ได้ ที่ส่งหญิงสาวผู้นี้มาที่บ้านสวน
หนูว่า สักวันคุณแม่คงได้อุ้มหลานสมใจนะคะ
แม่ก็หวังอย่างนั้น ภัสมลพูดเสียงแผ่วเบา
นินนาทปลีกตัวจากโต๊ะของผู้บริหารโรงพยาบาลรัฐ เขาต้องนั่งฟังคุณหมอทั้งหลายบ่นเรื่องนโยบายสุขภาพของรัฐ ชายหนุ่มเข้าใจดี เพราะโรงพยาบาลของเขาก็ปวดหัวไม่น้อย แต่ใครจะอยากคุยเรื่องงานนอกเวลางานกันล่ะ ชายหนุ่มเดินมาที่โต๊ะ เห็นสตรีต่างวัยนั่งคุยกันกระหนุงกระหนิง นินนาทอมยิ้ม
ว่าไงครับ น่าอิจฉาจัง คุยกันกระหนุงกระหนิง ถ้าผมไม่รู้มาก่อนคงคิดว่าทั้งสองคนเป็นแม่ลูกที่รักกันมาก
ใช่ แม่ก็รู้สึกว่าแม่ได้ลูกสาวเพิ่มมาอีกคน ภัสมลยิ้มให้ลัลภัทร กลับกันดีกว่า อ้อ ตอนเย็นแม่มีเรื่องวานพวกเธอสองคน
ได้ค่ะ คุณแม่
เต้ คงต้องไปงานนี้อยู่แล้ว พาหนูภัทรไปแทนแม่แล้วกัน งานระดมทุนของสมาคมนักธุรกิจสตรีภาคใต้
ครับ ผมต้องไปงานแทนคุณแม่อยู่แล้ว
ตอนนี้ภัทร กลับบ้านพร้อมแม่นะลูก ส่วนเต้ค่อยมารับหนูภัทรตอนเย็นแล้วกัน
ครับ ลัลภัทรแยกกับนินนาท เธอนั่งรถกับภัสมล หญิงสาวคิดว่าคงตรงกลับบ้านเลย แต่ภัสมลสั่งให้คนขับรถแวะห้างสรรพสินค้า ไปช็อปปิ้งกันหน่อยดีกว่า ภัสมลบอกเมื่อรถเลี้ยวเข้าสู่ลานจอดรถของห้าง
ภัสมลรู้สึกอยากมีลูกสาวเป็นครั้งแรกก็ตอนพาลัลภัทรไปเลือกเสื้อผ้า เข้าสปา ทำผม แม้หญิงสาวจะคัดค้านอย่างไร ภัสมลก็ปลอบแกมบังคับ พร้อมกับอ้อนว่า นานๆ จะมีสาวต่างวัยมาทำอะไรสนุกๆ แบบนี้
หนูออกงานแทนแม่ทั้งที่ ต้องสวยที่สุดสิจ๊ะ ปกติแม่มาทำอะไรแบบนี้กับเพื่อนรุ่นเดียวกันมันก็เบื่อนะ มีเด็กสาวมาอยู่ใกล้ๆ ให้แม่จับแต่งตัวก็ดีเหมือนกัน
ภัสมลชื่นชมกับผลงานของตัวเอง ชุดราตรีสีฟ้าน้ำทะเล พอเหมาะพอดีกับรูปร่างของลัลภัทร ผมที่เคยเหยียดตรงถูกจับดัดม้วนเป็นลอน ผิวที่เพิ่งขัดนวลผ่องเป็นยองใย ใบหน้างามถูกแต่งแต้มสีสันจากมืออาชีพ ลัลภัทรก็ตะลึงกับตัวเอง เธอไม่เคยแต่งตัวเต็มที่อย่างนี้มาก่อน
ภัสมลกลับบ้าน โดยให้นินนาทมารับลัลภัทรที่ร้านเพชร แม้หญิงสาวจะปฏิเสธเครื่องประดับราคาแพง แต่ภัสมลก็ยืนกรานที่จะซื้อชุดใหม่ให้
รับไว้เถอะ แม่อยากให้
นินนาทมารับลัลภัทรตามที่ภัสมลสั่ง ชายหนุ่มเดินเข้าร้านเพชรที่คุ้นเคยดี เพราะเขาก็เป็นลูกค้าประจำ ชายหนุ่มมองไม่เห็นลัลภัทร จนหญิงสาวต้องเดินมาหาเอง ชายหนุ่มจำแทบไม่ได้
ไปกันหรือยังคะ
เอ่อ ครับ คุณภัทรสวยจัง
ชมแบบนี้ แสดงว่าปกติภัทรไม่สวย ลัลภัทรสัพยอก
ไม่ใช่ครับ ปกติก็สวย แต่วันนี้สวยเป็นพิเศษ
ไปกันเถอะค่ะ
ครับ นินนาทยื่นแขนให้ลัลภัทรเกาะ หนุ่มสาวทั้งคู่ลาเจ้าของร้านเพชร
สวยสมกันดีนะคะ พนักงานคนหนึ่งในร้านกล่าว ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย ศิวกานต์โทรศัพท์หาลัลภัทร แต่เธอไม่รับสาย ชายหนุ่มไม่อยากโทร.ไปหาแม่ของเขาหรือนินนาท จึงได้แต่นั่งหงุดหงิดอยู่คนเดียวที่ออฟฟิศ
ทำอะไรอยู่ ไม่รับโทรศัพท์ จะกลับกี่โมงก็ไม่โทร.มาบอก
ศิวกานต์ปิดคอมพิวเตอร์ ปิดไฟ ออกจากออฟฟิศ เดินขึ้นเรือนใหญ่
นายหัว จะรอคุณภัทรทานข้าวหรือเปล่าคะ เนียนถาม
ไม่ต้องรอ ศิวกานต์ตอบด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ***************************************
จากคุณ |
:
Josephine March (กัณฐมาศ) (Josephine March)
|
เขียนเมื่อ |
:
28 ธ.ค. 55 23:45:40
|
|
|
|