Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เจ้าสาวไปรษณีย์ (ตอนที่ ๙,๑๐) vote ติดต่อทีมงาน

ตอนที่ ๑ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W13108811/W13108811.html
ตอนที่ ๒http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W13112742/W13112742.html
ตอนที่ ๓http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W13116981/W13116981.html
ตอนที่ ๔ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W13121077/W13121077.html
ตอนที่ ๕ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W13122663/W13122663.html
ตอนที่ ๖ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W13123125/W13123125.html
ตอนที่ ๗ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W13123675/W13123675.html
ตอนที่ ๘ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W13124248/W13124248.html

ศิริพรถือกระเป๋าเดินทางออกจากลิฟต์ของคอนโดมิเนียมชั้นบนสุด ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมือง เวลาเย็นเช่นนี้มองเห็นทิวทัศน์ยามค่ำคืนทั่วมหานคร การเดินทางไปต่างประเทศกับคนรักเกือบสองเดือน แม้จะทำให้เธอต้องตกงาน แต่เธอก็ไม่ได้ใส่ใจกับมันนัก

ศิริพร เปิดประตูคอนโดมิเนียม ด้วยการกดรหัสอัตโนมัติ หญิงสาวกลับจากสนามบินเพียงลำพัง เพราะแฟนหนุ่มมีงานด่วนต้องเข้าบริษัท เธอวางกระเป๋าเดินทาง เปิดไฟ เข้าห้องน้ำ ทุกอาณาเขตของคอนโดฯ แห่งนี้เธอคุ้นชินกับมันเป็นอย่างดี ภาพที่ฉายจากกระจกเงา คือผู้หญิงรูปร่างเล็ก  ใบหน้าสี่เหลี่ยม เครื่องหน้าบนใบหน้า แม้ไม่มีส่วนใดดูสวยงาม หากแต่เมื่อมองดูรวมๆ เธอจัดว่าเป็นคนหน้าตาดีคนหนึ่ง  ผิวขาว ผมที่แต่ก่อนเคยดำสนิท ถูกย้อมเป็นสีน้ำตาลทอง สิ่งที่ดีที่สุดของศิริพร คือบุคลิกภาพที่ถูกฝึกมาอย่างดี

ศิริพรล้างเครื่องสำอางบนใบหน้า ในใจเธอลึกๆ แล้วก็เป็นห่วงเพื่อนที่เธอส่งไปเป็นเจ้าสาวแทนตัวเอง หากแต่ความริษยาทำให้เธอไม่จมอยู่กับความรู้สึกผิดนานไปนัก เธอจำศิวกานต์ไม่ได้ ไม่รู้เรื่องหนี้สินระหว่างแม่ของเธอกับแม่ของเขา

“เจ้าของสวนยางพารากับสวนปาล์ม หึ แม่จะส่งเธอไปอยู่กลางป่ากลางเขาอย่างนั้นหรือ” เป็นไปไม่ได้เลยกับผู้หญิงที่ถูกเลี้ยงมาอย่างสุขสบายแบบศิริพร ลัลภัทรน่ะเหมาะแล้ว ผู้หญิงจืดชืดแบบนั้นก็ควรไปอยู่ในที่ที่จืดชืดแบบเดียวกัน

เสียงเปิดประตูคอนโดฯ ศิริพรเช็ดหน้าให้สะอาด แล้วเดินออกไปต้อนรับคนรัก

“พี่ตั้ม กลับมาแล้วหรือคะ”

ตั้ม วิษณุ วิศวกรยานยนต์ เดินลากกระเป๋าหลายใบเข้ามาในห้อง ใบหน้าเขาดูเครียดขึ้ง

“นุ่น ส่งภัทรไปหาดใหญ่หรือ” วิษณุถามเสียงกร้าว

“คะ ใครบอกพี่ตั้มคะ” ศิริพรถามกลับด้วยน้ำเสียงกร้าว

“ใครบอกนุ่นไม่ต้องรู้หรอก เราคุยกันแล้วนี่ ให้มันจบแบบเงียบๆ ดีกว่า นี่อะไรส่งภัทรไปทำงานถึงหาดใหญ่ นุ่นก็รู้ว่าภัทรไม่เหลือใครแล้ว”

“นี่พี่ตั้มยังอาลัยอาวรณ์ภัทรอีกหรือคะ”

“พี่ไม่ได้รู้สึกแบบนั้น แค่พี่ไม่เข้าใจว่าทำไมนุ่นต้องแนะนำงานอะไรแบบนั้นด้วย นายจ้างเป็นคนยังไงก็ไม่รู้จัก อีกอย่างนุ่นรู้จักเขาดีแค่ไหน”

“ป่านนี้ ภัทรคงอยู่สุขสบายแล้วล่ะค่ะ ไปทำงานนะคะ มีสัญญาชัดเจน ภัทรเองก็โตแล้ว ไม่ต้องให้ดูแลเหมือนเด็กๆ หรอกมั้งคะ”

“นุ่นได้ติดต่อกับภัทรหรือเปล่า”

“พี่ตั้มก็รู้ว่านุ่นกับภัทร ไม่ได้สนิทกันถึงขั้นต้องคุยปรับทุกข์กันทุกวัน หรือเป็นประจำ”

“สรุปคือไม่ได้ติดต่อกันเลย”

ศิริพรมองหน้าคนรักด้วยน้ำตาคลอเบ้า ก่อนจะกระแทกเท้าเข้าห้องนอน วิษณุเห็นดังนั้นก็ถอนหายใจ เดินตามคนรักไปห้องนอน

“พี่ขอโทษ อย่าร้องไห้เลย พี่แค่โกรธนิดหน่อยที่นุ่นส่งภัทรไปแบบนั้น”

“ถ้าพี่ตั้มรู้ก่อน พี่ตั้มจะทำยังไงคะ ห้ามนุ่นไม่ให้ส่งภัทรไป แล้วเราก็ต้องคบกันแบบหลบๆ ซ่อนๆ ไปตลอด”

วิษณุจุมพิตคนรักเบาๆ ก่อนจะพูดว่า

“กลับมาเหนื่อยๆ ไปอาบน้ำกันดีกว่า นะจ๊ะ” วิษณุโอบร่างคนรัก เดินเข้าห้องน้ำ ระหว่างทั้งคู่ตระกองกอดกันในอ่างจากุชชี่ วิษณุกำลังคิดว่าเขาจะสืบเรื่องของลัลภัทรยังไงดี

หลังจากเกิดเหตุไฟไหม้ที่สวนยางพารา ศิวกานต์ไม่ได้ไปค้างที่ไหนอีกเลย แม้จะกลับดึกเกือบทุกวัน เดี๋ยวนี้ลัลภัทรมักจะได้ร่วมโต๊ะกินข้าวเช้ากับศิวกานต์เกือบทุกวัน ตอนแรกหญิงสาวก็อึดอัด ในที่สุดก็ชิน เธอกับเขาคุยกันมากขึ้น นอกจากเรื่องงานก็คุยกันเรื่องเหตุบ้านการเมือง ภาพยนตร์ที่เพิ่งไปดูมา แผ่นเสียงที่เพิ่งซื้อมา เรื่องคอนเสิร์ตที่จะมาเปิดการแสดงที่ภาคใต้ เรื่องนิทรรศการศิลปะ

“เมื่อวานมีลูกค้ารายใหม่ต้องการติดต่อกับโรงงานค่ะ ภัทรส่งอีเมล์ให้แล้วคุณอ่านหรือยังคะ”

“อ่านแล้วครับ อันที่จริงก็ลูกค้าเก่าแก่ของเราแหละ แต่ดูเหมือนจะมีการเปลี่ยนมือเจ้าของ น่าจะเป็นนักธุรกิจจากจีนที่มาร่วมทุน สุดท้ายก็กว้านซื้อหุ้นเกือบหมด เจ้าของเก่าถือหุ้นแค่ไม่กี่เปอร์เซ็นต์”

“ทุนจากจีนเข้ามาในประเทศเราเยอะหรือคะ”

“ถ้าเทียบกับประเทศอื่นๆ อย่างอเมริกาหรือยุโรป แม้กระทั่งเพื่อนบ้านเราอย่างสิงคโปร์ ก็ไม่เยอะเท่าไหร่หรอกครับ แต่ว่าจีนมาแรงมาก และพร้อมจะใช้เงิน”

“คุณได้เจอพวกนายทุนจากจีนบ้างไหมคะ” ลัลภัทรรินน้ำส้มใส่แก้วของตัวเองและศิวกานต์ ชายหนุ่มพึมพำขอบคุณ

“ก็มีเจอกันบ้างตามงาน พวกนี้ฉลาด ไม่ออกหน้าเอง แต่จะใช้คนไทยนี่แหละเป็นตัวกลางเจรจาให้”

“มีคนอยากร่วมทุนกับโรงงานเราไหมคะ”

“มีครับ แต่ไม่แน่ใจว่าจะมาแบบไหน ใจจริงผมไม่อยากขยายโรงงานมากไปกว่านี้แล้ว”

ลัลภัทรสังเกตว่า ศิวกานต์จะไม่แตะอาหารของโปรดเธอเลย เขาจะรับประทานแต่อาหารที่เธอไม่ชอบ นินนาทยังคงคอยดูแลพาเธอไปนอกเมือง แม้เธอจะบอกเขาอ้อมๆ หลายครั้งแล้วว่า เธอยังไม่พร้อมจะเปิดใจให้ใคร

ลัลภัทรเจอแฟนสาวของศิวกานต์โดยบังเอิญหนึ่งครั้งที่ห้างสรรพสินค้าดังในตัวเมือง หญิงสาวยอมรับว่าเชอรี่เป็นผู้หญิงที่สวยมาก ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเธอถึงอยู่อย่างสบายใจ เพราะศิวกานต์ไม่มีวันมองเธอในแง่ชู้สาวแน่นอน

เสียงรถยนต์แล่นเข้ามาจอดหน้าบ้าน ทั้งคู่มองหน้ากัน ก่อนศิวกานต์จะให้เนียนลงไปดู เสียงรองเท้าส้นสูงดังเป็นจังหวะ ตามก้าวย่างที่ขึ้นบันได คุณภัสมล คือผู้มาเยือนยามเช้า

“นายแม่ มาทำอะไรครับนี่” ศิวกานต์กับลัลภัทรยกมือไหว้ภัสมลพร้อมกัน

“แม่เบื่อๆ เลยมาเที่ยวบ้างไม่ได้หรือไง อยากรู้ว่าพวกเธอสองคนอยู่สบายกันดีมั้ย” ศิวกานต์กับลัลภัทรมองหน้ากันเลิกลั่ก

“สบายดีครับคุณแม่”

“คุณแม่ทานข้าวเช้าหรือยังคะ”

“เรียบร้อยแล้ว พวกเธอทานกันเสร็จหรือยัง”

“ค่ะ ภัทรว่าคุณแม่นั่งพักที่ห้องนั่งเล่นดีกว่าค่ะ”

“ได้ กานต์แม่ขออะไรเย็นๆ ดื่มหน่อย ไปหนูภัทร”

“ทางนี้ค่ะ คุณแม่”

ลัลภัทรพาภัสมลไปที่ห้องนั่งเล่นของศิวกานต์ หญิงสาวหันไปตั้งคำถามด้วยสายตากับศิวกานต์ หากแต่ชายหนุ่มยักไหล่

ภัสมลเดินดูรอบห้องพักของลูกชาย เธอไม่เคยมาบ้านสวนแห่งนี้เลยสักครั้งเดียว สาเหตุที่เธอมาในวันนี้เพราะอยากรู้ว่าข้อมูลที่เนียนโทร.รายงานวันเว้นวันนั้นจริงเท็จอย่างไหร่
เธอเห็นเครื่องเล่นเกมของลูกชายวางอยู่ ไม่มีของใช้ของผู้หญิงวางอยู่ในห้องเลย ลัลภัทรยืนมองภัสมลเดินไปมาอย่างทำอะไรไม่ถูก

ภัสมลหันมามองลูกสะใภ้ตามกฎหมาย เด็กคนนี้สวยพิศ ต้องอาศัยคนที่ใจเย็นและสนิทคุ้นเคยเท่านั้นถึงจะเห็นความงามที่ซ่อนอยู่ ลูกชายเธอคงไม่เคยเห็น หรือไม่ก็ตาถั่วเกินไป อยู่ร่วมบ้านกันมาหลายเดือน ภัสมลถอนใจเบาๆ

“แม่คงทำให้พวกเธออึดอัด”

“ไม่หรอกค่ะ เป็นห่วงคุณแม่มากกว่า ขับรถมาตั้งไกล”

“แม่มีคนขับรถจ้ะ” ลัลภัทรได้ฟังก็ยิ้มอายๆ

“พาแม่ไปดูที่พักของหนูหน่อยสิ”

“ค่ะ” หญิงสาวพาภัสมลเดินไปที่เรือนเล็ก สวนทางกลับเนียนที่ถือถาดน้ำส้มเข้ามา

“นายหญิงไม่ดื่มน้ำแล้วหรือคะ”

“มาเนียน ฉันถือเอง เนียนไปทำงานเถอะ” ลัลภัทรรับถาดใส่แก้วน้ำจากเนียน
“ค่ะ”

“ทางนี้ค่ะคุณแม่”

ภัสมลเดินดูเรือนเล็กที่พักของหญิงสาว ตามถ้อยคำของเนียน หญิงรับใช้ไม่เคยเห็นลูกชายเธอไม่เคยย่างกรายมาที่นี่เลย ห้องพักของหญิงสาวเป็นระเบียบเรียบร้อยดี ภัสมลพยักหน้ากับตัวเอง “พ่อแม่คงเลี้ยงมาดี” เธอยิ้มขณะเดินดูรอบห้อง

“เหงาแย่สินะ ลูกชายแม่คงไม่พาไปไหนเลย”

“ไม่หรอกค่ะ คุณเต้ คอยเป็นเพื่อนพาไปโน่นไปนี่”

ภัสมลได้ยินก็คิดว่า “มิน่าล่ะ เจอกันครั้งแรกก็ที่โรงพยาบาลของตาเต้”

“ดีแล้วล่ะ ตาเต้เป็นเพื่อนกับกานต์มาตั้งแต่เด็ก หนูไว้ใจได้จ้ะ” ภัสมลกล่าว

“ค่ะ” ลัลภัทรรินน้ำส้มใส่แก้ว ยื่นส่งให้ภัสมล

“ขอบใจจ้ะ พรุ่งนี้หนูว่างมั้ย แม่มีนัดกินโต๊ะแชร์น่ะ อยากได้คนไปเป็นเพื่อน”

“ว่างค่ะ”

“ให้เต้มารับแล้วกัน เขารู้จ้ะว่างานจัดที่ไหน”

“ค่ะ คุณแม่”

“แม่ว่า แม่กลับก่อนดีกว่านะ อ้อ ถ้าลูกชายแม่ทำอะไรไม่ดี หรือทำให้หนูไม่พอใจ โทรศัพท์มาหาแม่ได้เลยนะ แม่จะจัดการให้เอง”

“ได้ค่ะ คุณแม่”

ภัสมลกลับไปแล้ว ลัลภัทรทำงานที่ค้างต่อให้เสร็จ เธอไม่เห็นศิวกานต์เลยนับแต่ภัสมลมาถึง หญิงสาวสงสัยความสัมพันธ์ระหว่างเขากับแม่ แม้จะดูห่างเหิน แต่ก็ดูทั้งคู่รักกันดี

ตอนเย็น ลัลภัทรทำงานเสร็จก็เดินกลับเรือนใหญ่ เธอเดินผ่านห้องของศิวกานต์ ได้ยินเสียงเขาตะโกนออกมาจากในห้อง

“ไข่นุ้ย หยิบเสื้อสูทให้ฉันหน่อย”

ลัลภัทรมองหาเสื้อสูท มันแขวนบนราวในห้องรับแขก หญิงสาวเดินไปหยิบให้ศิวกานต์ ชายหนุ่มเห็นเงาหญิงสาวจากในกระจก

“ไข่นุ้ยไปไหนครับ”

“ให้อาหารปลาอยู่ค่ะ”

“ขอบคุณครับ” ศิวกานต์เอื้อมมือมาหยิบเสื้อ แต่ลัลภัทรกล่าวว่า

“ฉันสวมให้ค่ะ” เธอสอดแขนเสื้อกับแขนของชายหนุ่ม เนื่องจากเธอตัวเล็กกว่าจึงต้องเขย่งเท้า หญิงสาวได้กลิ่นน้ำหอมต่างจากกลิ่นโคโลญจ์ที่เขาใส่เป็นประจำ เธอมองยืนเขาในกระจกเงา หญิงสาวช่วยศิวกานต์ติดกระดุมบนแขนเสื้อ

เธอยืนอยู่ใกล้ จนเขาได้กลิ่นแชมพูจากเส้นผม น้ำหอมกลิ่นผลไม้จางๆ ชายหนุ่มรู้สึกหัวใจเต้นเร็วกว่าปกติ เธอเงยหน้ามองเขา แววตาที่ทำให้เขาหยุดหายใจไปชั่วขณะ

“เสร็จแล้วค่ะ” ลัลภัทรมองเงาในกระจก

“ขอบคุณ คุณคงทำอะไรแบบนี้ให้แฟนเก่าเป็นประจำสินะ” พูดจบประโยคศิวกานต์ก็อยากจะกัดลิ้นตัวเอง ลัลภัทรมองหน้าเขา สายตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะสะบัดผมหางม้าอย่างแรงจนโดนหน้าชายหนุ่มแล้วเดินจากไป

ลัลภัทรโกรธจนตัวสั่น เธอเดินลงส้นเท้ากลับไปที่ห้อง พอถึงห้องก็คว้าหมอนอิงทุบกำปั้นรัว

“นึกว่าจะเลิกปากจัดกัดฉันได้แล้ว ที่ไหนได้ นิสัยเดิมยังอยู่ ไม่น่าไปทำดีด้วยเล้ย”

ลัลภัทรนั่งสงบสติอารมณ์ อยู่ครู่ใหญ่กว่าจะกลับมาเหมือนเดิม
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เจ้าสาวไปรษณีย์ โดย กัณฐมาศ

จากคุณ : Josephine March
เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 23:38:41




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com