_____________ดอกกงในดงดาว_____________( ตอน 3 )
|
|
ตอนที่ 3
เด็กหญิงนอนเล่นอยู่ในเปลผ้าที่มัดเป็นตาข่ายอยู่ที่ใต้ต้นลิ้นจี่ มือข้างหนึ่งถือกล่องนม ขาข้างหนึ่งห้อยลงไปถีบพื้นเพื่อไกวเปล นกเอี้ยงสีดำเกาะอยู่ที่ปลายเปล นกเอี้ยงตัวนี้มักจะมาเกาะอยู่ที่ยอดเปลของหล่อนเสมอตั้งแต่หล่อนเป็นเด็กทารก เวลาที่ยายร้องเพลงกล่อม เจ้านกเอี้ยงตัวนี้ก็จะร้องเพลงตามยาย เด็กหญิงมองปากสีเหลืองๆของมันซึ่งกำลังคาบหนอนอยู่ และกลืนลงไปในที่สุด
“เอี้ยงจ๋า” เด็กหญิงเรียก “เอี้ยงจ๋า” มันพูดตาม “วันนี้วันอาทิตย์พ่อไปรษณีย์ไม่มา” “ไม่มา ไม่มา”มันพูดตาม เด็กหญิงบุ้ยปากทำหน้างอ มองดูใบไม้ที่ร่วงหล่นลงมาจากแรงไหวของเปล เสียงลำธารไหลคลอหูอยู่ข้างๆ ทำให้หล่อนผลอยหลับไป “โอ้ย” เด็กหญิงตะโกนดังลั่น ลุกออกจากเปลกระโดดเหยงๆไปมา มือน้อยก็ลูบแข้งลูบขา เกาตามเนื้อตามตัว “อะไรลูก” ยายวิ่งมาหน้าตาตื่น “มดแดงกัด”เด็กหญิงส่งเสียงดัง ยายจึงเข้ามาปัดมดแดงออกจากตัวหลานสาวคนเล็ก ยายพาหล่อนไปอาบน้ำแล้วประแป้ง แต่เจ้าหลานก็ยังคงเกาอยู่ไม่หาย ยายจึงไปหยิบยาหม่องมาทา แล้วเป่า
“เพี้ยง!” เด็กหญิงน้อยรู้สึกร้อนวูบไปบริเวณที่ถูกยาหมองทา แต่พอนานๆไปก็รู้สึกเย็นช่วยทำให้ลืมอาการคันไปได้ชั่วขณะ “ไม่เป็นไรแล้วลูก ยายเป่าคาถาให้แล้ว” เจ้าหลานพยักหน้าหงึกๆ “ดาวเรือง อยู่ไหม” เสียงอันคุ้นเคยตะโกนมาจากหน้าบ้าน “ไอ้โบ”ยายเอ่ย “อย่าไปเล่นกับมันมากนัก พ่อมันก็ทีหนึ่งละ” ยายยังพูดไม่ทันขาดคำเด็กหญิงก็วิ่งพรวดออกไปหาเด็กชายโบแล้ว
“โบ ถืออะไรมาน่ะ” เด็กหญิงสงสัย “ว่าวไง ไม่รู้จักหรอ” เด็กหญิงส่ายหน้า “ไปที่นากันเถอะ เดี๋ยวเค้าจะเล่นให้ดาวดู” เด็กชายพุงพรุ้ยวิ่งนำไปก่อน เด็กหญิงแก้มยุ้ยวิ่งตามกันไปไม่ห่าง มือก็ยังแกะๆเกาๆร่างกายอยู่บ้าง ทุ่งนาที่เหลือแต่ตอต้นข้าวสีเหลือง เด็กชายพาเด็กหญิงไปเดินไปตามคันนาจนถึงลานกว้างข้างบ่อน้ำ ใกล้ๆสวนผักของป้าคำอ้าย
“คอยดูเค้าดีๆนะดาว” เจ้าอ้วนพุงพรุ้ยวิ่งตุ๊ตะ คลายสายป่านออกประมาณสองเมตร วิ่งต้านลม ให้ว่าวกระดาษค่อยๆลอยขึ้น ลอยขึ้นจนติดลมบน “โอ้โห บินได้แล้ว”ว่าวลอยไปมาอยู่บนท้องฟ้า เด็กหญิงทำท่ากางปีกแล้ววิ่งไปมาล้อกับว่าวที่อยู่ด้านบน “โบ ขอเค้าเล่นบ้างสิ” เด็กชายโบส่งกระป๋องแป้งที่ถูกพันด้วยสายป่านให้กับเด็กหญิง เมื่อหล่อนได้มาก็ดีใจใหญ่โตกระโดดโลดเต้น เหมือนกับว่าตัวหล่อนเองนั้นบินได้ ลมพัดแรงขึ้นเรื่อยๆ ปุยดอกหญ้ากลับมาล่องลอยในอากาศ เด็กหญิงเกิดอาการคันขึ้นมาอีกครั้งเลยปล่อยมือข้างหนึ่งที่จับสายป่านไว้ออกมาเกาบริเวณต้นขา
“โอ๊ะ” แรงลมด้านบนดึงให้สายป่านที่ผูกปมต่อกันไว้ขาดจากกัน ทำให้ว่าวหลุดลอยออกไป เด็กหญิงอ้าปากหวอ “ลอยไปโน่นแล้วดาวเรือง”เจ้าพุงพรุ้ยด้านหลังรีบวิ่งตามว่าวกระดาษไป “โบ สู้ๆ วิ่งไปให้ทันนะ” เด็กหญิงแก้มยุ้ยก้มหน้าก้มตาวิ่งตาม ผมหน้าม้าแตกกระจาย วิ่งฝ่าดงข้าวโพดจนทะลุไปอีกฝั่ง มองเห็นเด็กชายโบหยุดอยู่ที่ใต้ต้นหูกวาง “โบวิ่งเร็วมาก เค้าตามโบเกือบไม่ทัน” เด็กหญิงหายใจหอบอยู่ครู่ใหญ่ “โบมายืนทำไมตรงนี้ ว่าวละ” เขาเงยมองไปด้านบนแล้วชี้ไปที่ว่าวกระดาษซึ้งติดอยู่กับกิ่งไม้ด้านบน “โห สูงมากเลยโบ ปีนขึ้นไปเอาได้ไหม” เด็กหญิงเดินไปเอาสองแขนโอบต้นหูกวางไว้ แล้วเอาเท้าเหยียบไปที่ลำต้น “ทำไมขึ้นไม่ได้นะ” เด็กชายส่ายหัว “ถอยไปเลยดาว เดี๋ยวเราจะปีนให้ดู” เด็กหญิงถอยออกมาแล้วปัดฝุ่นออกจากมือ มองดูเด็กชายกำลังโอบต้นไม้ไว้ ทำท่าเหมือนหนอนกระดึ๊บขึ้นไปบนต้นไม้ได้นิดเดียวก็หล่นแผะมากองที่พื้น เด็กหญิงหัวเราะลั่น “โบก็ปีนไม่ได้” ดาวเรืองล้อเลียน เด็กชายอมยิ้มอายๆเล็กน้อยก่อนจะวิ่งเข้าไปในสวนมะม่วงข้างๆ “โบรอเค้าด้วยสิ” “ไม่ต้องตามมา รออยู่ตรงนั้นแหละ” เด็กหญิงหยุดชะงัก แล้วเดินกลับมานั่งกอดเข่ารอที่ใต้ต้นหูกวาง นั่งหยิบใบไม้มาฉีกเล่น รอเด็กชายโบกลับมา เสียงเหยียบใบไม้ดังกอบแกบ เด็กน้อยเงยหน้ามามองเห็นเด็กชายโบแบกไม้ไผ่อันเล็กเรียวยาวเดินเข้ามาใกล้ๆ แล้วเขย่งเท้าเขี่ยว่าวกระดาษที่อยู่ด้านบน
“เขยิบมาทางนี้สิโบ” “มันไม่ถึงอ่ะดาว” “อีกนิดหนึ่งโบ” ทำเท่าไรเด็กชายก็เขี่ยไม่ถึงสักที เด็กชายโบวางไม้ลงแล้วคุกเข่าก้มลงหลังขนานกับพื้นดิน แล้วให้ดาวเรืองปีนไปยืนอยู่บนหลังเขา ใช้ไม้เขี่ยมันลงมา
“ได้หรือยังดาว เค้าปวดหลังแล้วนะ” “เดี๋ยวสิโบ เค้าเล็งอยู่” “เร็วๆเลยดาว” “โอ๊ะ ได้แล้วโบ ไชโย๊!” เด็กหญิงกระโดดลงจากหลังของเด็กชาย ว่าวร่วงตกลงมาอยู่ที่พื้น ดาวเรืองนั่งลงก้มมองอย่างเศร้าใจ “มันขาดแล้วแหละโบ” เด็กชายเดินตามมาดู สีหน้าเขาก็เศร้าลงเช่นกัน แล้วหยิบมันขึ้นมาเดินคอตกกลับบ้าน
จากคุณ |
:
ราตรีอธิษฐาน
|
เขียนเมื่อ |
:
29 ธ.ค. 55 20:13:28
|
|
|
|