Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เมฆซ่อนตะวัน (ตอนที่ 6) vote ติดต่อทีมงาน

ตอนที่ 6...ความช่วยเหลือ
ผมกับผู้กองถูกส่งตัว เข้ามารักษาตัวในกรุงเทพ
เพราะผู้กองเริ่มมีอาการติดเชื้อ ส่วนผมตอนที่ผมไปยิงร่อเป้า
ก็โดนสะเก็ดกระสุน ข้าศึกเหมือนกัน ผู้กองได้รับการยกย่องจากหนังสือพิมพ์
และสื่อของรัฐต่างๆ จนได้ชื่อผู้กองกระดูกเหล็ก
ผมเองก็ได้รับการตอบแทนจากกองทัพพอสมควร เวลาผ่านไป
ผมถูกส่งมาพักฟื้นที่บ้านผู้กอง เพราะผู้กอง แจ้งความต้องการไว้
บ้านผู้กองใหญ่กว้างขวาง ผมอาศัยอยู่ในห้องรับรองมีคนคอยอำนวยความสะดวก
ในเช้าวันนั้น
"เป็นไงบ้าง ที่นี่พออยู่ได้มั๊ย... "
ผมมองไปตามเสียง

"ผู้กองหายแล้วหรือครับ..."
ผู้กองอดุลย์ เดินโดยมีไม้เท้าค้ำอยู่

"ยังไม่หายแต่เบื่อ วันๆอยู่ แต่โรงพยาบาล อยากกลับบ้านแล้ว"
พอผู้กองนั่งที่เก้าอี้หวาย ก็ตีหน้าขรึม
"ฉันรู้น่ะว่าแกไม่มีบ้านอยู่ที่กรุงเทพ เลยให้มาอยู่ที่นี่....อีกอย่าง ฉันอยากขอบใจ แกด้วย ทั้งที่แกเป็นคนช่วยฉันไว้ แต่คนได้หน้ากลับกลายเป็น..."
"ผู้กองจะรู้สึกอย่างนั้นทำไม ที่ผมรอดมาได้ ก็เพราะผู้กอง เพราะถ้าผู้กองไม่จัดการ
กับพวกมัน ผมก็คงไม่รอดเหมือนกัน"
ผมตัดบทก่อน
"นี่แกคิดอย่างนั้นจริงๆ..."
ผู้กองขอความแน่ใจ
"ผมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ อีกอย่างที่ผมรู้สึกอีกอย่างก็คือ..."
ผมทิ้งช่วง
"นายทหารคนนี้ช่างมีความอดทนมากเหลือเกิน..ถ้าเป็นคนทั่วไปก็คงไม่มีทางทำได้ถึง
ขนาดนั้น ผมดีใจครับ ที่ได้รบเคียงไหล่ผู้กอง"
ผมพูดอย่างจริงใจ ผู้กองอดุลย์ยิ้ม
"ถึงแกจะยกยอฉันจนเกินจริงไปหน่อยแต่....ฉันก็ดีใจน่ะที่ได้รบกับแก"
แล้วเราก็หัวเราะให้กัน

ผู้กองได้เลื่อนตำแหน่งอย่างรวดเร็ว ผมไม่ได้เลื่อนตำแหน่ง เพราะประวัติ
ความเป็นมาของผมไม่ชัดแจ้ง ไม่มีเอกสารในทะเบียนราษฎร์ชัดเจน
ทั้งที่ผู้กองพยายามยื่นขอไปก็ตาม ผมเองก็ไม่ได้ใส่ใจในเรื่องนี้ ความจริง
ก็ไม่คาดหวังไว้แต่แรก.. ผมกลับไปประจำการที่เดิมอีกครั้ง
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วเพียงพริบตา ผมก็ต้องปลดประจำการ
ถึงผมจะสมัครเป็นทหาร แต่ทางกองทัพก็มี ข้อบังคับชัดเจน
จะไม่รับคนที่ไม่มีเชื้อชาติไทย สัญชาติไทย รับราชการทหารในตำแหน่งสำคัญ
ผู้กองอดุลย์ เดินมาส่งผมที่หน้าประตู
"วันอาทิตย์นี้แกไปเจอฉันที่บ้าน มีเรื่องจะคุยด้วย"
ผมสงสัยแต่ไม่ถามเหตุผล
แล้ววันอาทิตย์ก็มาถึง เด็กรับใช้ พาผมไปหาผู้กอง หลังจากทักทายกันพอควร
ผู้กองก็เริ่มมอบข้อเสนอ
"ที่เป็นทหารไม่ได้ ก็เพราะเชื้อชาติของแก มันไม่ชัดเจน ...ฉันช่วยแกได้แต่...."
ผมสงสัย
"มันใช้กับการทำการอย่างอื่น แต่ไม่ใช่การทหาร... หรือง่ายๆ ต่อไปนี้แกจะมีตัวตน
นี่เป็นข้อเสนอของ ทางการ ที่ฉันไปวิ่งเต้นมาให้"

ผมอึ้งกับการที่ผู้กองช่วยผมในเรื่องนี้ แน่นอนมันไม่มีอะไรที่ดีไปกว่าการมีตัวตน
ถึงผมมีหนังสือรับรองบุตร จากพ่อซา แต่มันถูกทำลาย หลังจากที่ถูกไล่ออกจากบ้าน
ของตัวเอง และกลับไปไม่ได้อีก ตอนที่ผมมาสมัครทหาร
ถ้าเพราะไม่มีเหตุการณ์คับขัน ผมมีหรือจะได้เป็นทหารตามที่ตั้งใจ
"แกต้องตั้งชื่อใหม่ ที่ไม่ใช่ชื่อที่ใช้สมัครทหาร รวมทั้งนามสกุลด้วย"
ผมรับฟังอย่างตั้งใจ
"แกจะมีสิทธิทุกอย่างที่เป็นคนไทย..."
ผมอดสงสัยไม่ได้ การทำประวัติขนาดนี้ มันจะเป็นไปได้ยังไง ผู้กองยิ้ม
เหมือนจะอ่านความคิดผมได้
"ทุกอย่างที่ฉันพูด เป็นเรื่องจริง วันนี้แกนอนที่นี่ แล้วพรุ่งนี้ ผู้ช่วยของฉัน
จะพาแกไป ทำตามขั้นตอน...อืม! แกเตรียมหาชื่อ นามสกุลได้เลย คิดให้หมดเลยน่ะ  
ทั้งวันเกิด ปี พ.ศ. ปีนักษัตร วันในสัปดาห์ต้องสอดคล้อง  เวลาเกิด โอ้ยเยอะแยะ
แกไปคิดเองก็แล้วกัน.... "
แล้วผู้กองก็จะเดินไป
"ผู้กอง...."
ผมเรียกอย่างลืมตัว เขาหันกลับมา
"ขี้เกียจฟังคำขอบคุณแล้ว"
ผมไม่กล่าวอะไร แต่ผมก้มลงไปกราบ ผู้กองตะโกนทันที
"เฮ้ย! ไม่ใช่พระจะมากราบทำไม..ไม่ต้อง...เอางี้ ถ้ารู้สึกขนาดนี้
แกมาช่วยงาน..ฉันมีอะไรที่ต้อง ให้แกช่วยเยอะไปหมด แต่ถ้าไม่ทำ
ก็ไม่เป็นอะไร..ถือว่าเราหายกัน"  
คงไม่ต้องบอกว่าผมตอบว่าอะไร เพราะตอนนั้นผู้กองบอกให้ผมถอดเสื้อหมดทั้ง
ตัวแล้ววิ่งรอบบ้านผมก็ทำอย่างเต็มใจ
แล้ววันรุ่งขึ้นผมก็ได้ชื่อใหม่ นามสกุลใหม่ วันเกิดใหม่ ปีเกิดใหม่ ผมชื่อ นายภาคี 
อิสระชน เกิด ๒๓ สิงหาคม ๒๔๖๖.....เป็นบุตรของ
นายหวังฮันชิง..ชาวสิงคโปร์กับ  นางสมใจ อิสระชน.
ภูมิลำเนา กรุงเทพ พ่อกับแม่ เสียชีวิตหมดแล้ว
แถมด้วยวุฒิการศึกษา จบมัธยมแห่งหนึ่ง ข้อสำคัญมันเป็นของจริงทั้งหมด
ทั้งหมดนี้ใช้เวลา หนึ่งเดือน จึงเสร็จสมบูรณ์
ในระหว่างนั้น ผู้กองก็ให้ทำความเข้าใจกับประวัติ ความเป็นมาของตัวเอง
โดยให้ผมเป็นลูกครึ่งไทยจีน เกิดที่ไทย จึงต้องใช้นามสกุลของแม่
แต่ไปโตที่สิงคโปร์ สลับกัน จึงมีเพื่อนไม่มากนัก ส่วนที่เป็นหลักฐาน
ที่ประเทศสิงคโปร์จะทำให้ภายหลัง แต่ที่ต้องเรียนรู้ ก็คือภาษาจีน
สำเนียงฮกเกี้ยน ซึ่งที่นั่นจะใช้กันมาก รวมทั้ง ภาษาอังกฤษ
ผู้กองจึงได้แนะนำ ให้ผมไปพบ ครูสอนพิเศษ
สาวชาวสิงคโปร์ชื่อ  
มาเรียหยาง มาสอนวิชาต่างๆ เพื่อจะได้เรียน ในสิ่งที่ควรรู้
เพราะเธอเป็นผู้เชี่ยวชาญ ในสายงานนี้ ทั้งเรื่องการใช้ภาษา
การวางตัวในสังคม เนื่องจากอดุลย์ได้เคยเรียน
การสนทนาภาษาอังกฤษ คอร์สพิเศษกับเธอ
เพื่อเข้าสอบชิงทุนนักเรียนนายทหาร ระหว่างประเทศ
ซึ่งเขาได้คะแนนดีเยี่ยมแต่ อดุลย์เอง กลับสละสิทธินั้น
เพราะอยาก เข้าร่วมรบที่ภาคอีสานแทน ผมเองก็ยังสงสัยว่า
ผู้กองลงทุนกับผมถึงขนาดนี้ มันต้องมีอะไรมากกว่าที่เห็น ...
แล้วผู้กอง ก็ไขข้อข้องใจให้ผมฟัง
"แกเคยฟังเรื่องจิ๋นซีฮ่องเต้มั๊ย? ที่เศรษฐีที่ชื่อ...อะไรน๊า! อ๋อ! หลี่ปู้เวย ที่บอกว่า
การลงทุนที่ดีที่สุด คือการลงทุนกับมนุษย์ ที่สมควรลงทุน ....และฉันเห็นว่า
แกเป็นคนที่น่าลงทุนที่สุด... อีกอย่างน่ะ แกทำให้ฉันนึกถึง เพื่อนเก่าสมัยเด็ก...."
สายตาที่ผู้กอง มีอะไรบางอย่าง
"แล้วตอนนี้เค้าอยู่ที่สิงคโปร์หรือครับ"  
เขาถอนหายใจ
"ตายไปแล้ว... รู้สึกว่าจะรถตกเหวที่เชียงใหม่ ตายทั้งรถ..
ฉันเองก็จำอะไรไม่ค่อยมาก... อย่าพูดถึงเลย"
ผู้กองตัดบทแล้วก็บอกจุดประสงค์ต่อ
"ฉันเคยหวังเอาไว้ ในตอนเด็กอยากทำอะไรที่มัน...เออ! .. ใหญ่ๆ ทำให้ชื่อของเรา
เป็นที่จดจำไปตลอด.. มันอาจฟังดูบ้า แต่นี่แหละ! คือสิ่งที่จริงที่สุด แกลองคิดถึง
ความจริงในโลกนี้ ก็คือทุกคนอยากมีอำนาจ ทำให้เกิดเรื่องมากมาย เกิดสงคราม
ที่ขยายวงกว้าง ก็เพราะไอ้อำนาจนี่แหละ! แต่เราจะคืนให้ประชาชนทุกคน.." 
"นี่หมายถึงอะไร?.."
ผมถาม 
"เปลี่ยนแปลงไง!!... แต่เราทำคนเดียว ไม่ได้ ต้องอาศัยแก แล้วสายตาฉัน มองไม่ผิดแน่
แกเป็นคนมีความคิดอ่านที่เกินคนปกติ เรียนรู้อะไรเร็ว อย่างไม่น่าเชื่อ..."  
ผมเองก็สงสัย ในบางอย่าง
"เรื่องนี้เออ!!.. มันใหญ่กว่าที่ผมคิดน่ะ ผมคิดว่าเราสองคน ก็ไม่น่าที่จะทำการนี้
ประสบผลได้ ถ้าไม่มีแนวร่วมอื่น มาร่วมด้วย..."
ผู้กองยิ้ม พร้อมกับตบเข่าผม
"นี่แหละที่ฉันชอบแก รู้จักอ่านแผน... ฉันบอกแกก็ได้ เรื่องนี้เราไม่ทำตามลำพัง
ยังมีคนร่วมด้วย แต่ฉันบอกแกไม่ได้ แต่ฉันรับรองว่า ในประเทศแห่งนี้
เขามีอิทธิพลมาก จนแกคาดไม่ถึงเชียวล่ะ!.. อีกอย่างน่ะ!
ในชีวิตเรา ถ้าไม่ทำอะไรสุดๆ จะรู้กำลังตัวเองได้ยังไง.."
ตอนนี้เอง ผมรู้จุดประสงค์ของผู้กอง อาจจะฟังดูเพี้ยน
แต่มันก็เป็นความจริง ถ้าเราไม่ลองทำอะไร
แล้วเราจะรู้ว่าไม่สำเร็จได้อย่างไร??....
"ตกลงครับ เราจะมาทำทุกอย่างเพื่อวันพรุ่งนี้"
ผมก็ลุกขึ้น จับมือกับผู้กอง ใหัสัญญาณว่า เราจะเข้าสู่สงครามเต็มรูปแบบ จะเป็นสงครามแบบไหน ผมก็พร้อมเผชิญ อาจเป็นเพราะว่า
ผมกับผู้กอง ได้ผ่านสงครามจริงมาแล้ว ถึงแม้ไม่เข้าขั้นสงครามขนาดใหญ่
แต่ก็เป็นสงคราม ที่เราเสี่ยงชีวิตด้วยกัน ......


ผู้กองให้ผม ไปติดต่อเธอโดยตรง เพื่อขอให้เธอ
สอนวิชาทั้งหมดที่กำหนด  ซึ่งผู้กองนำเงิน จำนวนหนึ่ง
เป็นค่าสัญญามาให้ผม เพื่อไปยื่นเสนอกับเธอเอง ข้อสำคัญผมต้องไป
อยู่ที่สิงคโปร์ เพื่อทำความคุ้นเคย ผมจึงไปพบมาเรียหยาง ในวันรุ่งขึ้น
เมื่อพบกันในครั้งแรก ผมก็รู้สึกแปลกใจ เพราะผมคิดว่า
จะได้พบผู้หญิงสูงวัย แว่นหนา แต่มาเรียหยาง แตกต่างจากที่ผมคิดไว้
ไกลลิบ... เมื่อผมแจ้งเงื่อนไขให้เธอทราบ ตอนแรกเธอเอง
ก็ไม่วางใจนัก เพราะเงื่อนไขนั้น มันยากที่เธอจะเชื่อว่า
ไม่มีอะไรแอบแฝง แต่อัตราค่าจ้าง มันทำให้เธอมองข้ามสิ่งเหล่านั้นไป
ก่อนที่ผมจะกลับ เธอถามว่า
"คุณภาคี พอจะบอกได้มั๊ย? ว่าใครเป็นคนแนะนำให้มาเรียนกับฉัน.."
ผมยิ้ม และตอบว่า
"เรื่องนี้ ผมคงต้องเก็บเป็นความลับ เพราะผมรับปากเขาไว้ จะไม่บอกเรื่องนี้กับใคร
แต่คุณมาเรีย ไม่ต้องเป็นกังวล เพราะค่าเล่าเรียนในคอร์สนี้ ผมจะจ่ายให้หมด
ถ้าคุณรับปากในตอนนี้ แล้วคุณจะได้รับเงิน เป็นรายเดือนต่อจากนี้ จนครบสัญญา"
มาเรียหยางยิ้มให้ผม
"ถ้าฉันรับเงินคุณมาแล้ว แต่คุณไม่สามารถ เรียนวิชาที่ฉันถ่ายทอดทั้งหมด
คุณจะไม่เสียเปรียบหรือ? เพราะฉันเอง ก็ไม่สามารถ  จะออกใบรับรอง
เพื่อใช้ในเรื่องใดได้.."
ผมยิ้มตอบ
"ถ้าผมเอง ไม่สามารถที่จะรับความรู้จากคุณได้ นั่นก็หมายถึง คุณได้เงินก้อนนี้ไป
โดยที่คุณไม่ต้องกลัวการผูกมัดใดๆ เพราะมันเป็นความผิดของผมเอง
ที่ไม่มีความสามารถ จะไม่โทษคุณเด็ดขาด ส่วนที่ผมจะไปสิงคโปร์นั้น
คุณไม่ต้องกังวล เพราะผม ได้ติดต่อที่อยู่ ที่นั่นไว้แล้ว เราก็พบกันเหมือนที่นี่
ตามเวลาที่กำหนด รับรองว่าผมจะไม่เอาเปรียบคุณเด็ดขาด"
มาเรียหยางคิดไตร่ตรอง แล้วที่สุดเธอก็เอ่ยขึ้น
"ตกลง ดิฉันจะเป็นพี่เลี้ยงให้คุณเอง ต่อจากนี้ เราจะเป็น หุ้นส่วนกัน"
เธอยื่นมือ พร้อมกับยิ้มอย่างมีเสน่ห์  ผมจับมือเธอยิ้มตอบ นี่คือวันนั้นที่ผมไปพบเธอที่
สำนักงานของเธอในช่วงเย็น และเธอจึงไปลาออกจากงาน ที่สถานฑูต
เพื่อมาสอนผมอย่างจริงจัง ....

จากคุณ : kasareev
เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 19:07:09




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com