ความคิดเห็นที่ 1 เพื่อให้เห็นภาพ ขอแสดงแผนผังของอาคารพระที่นั่งต่างๆ ในพิพิธภัณฑ์ไว้ 1. พระที่นั่งศิวโมกขพิมาน ห้องประวัติศาสตร์ไทย 2. พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ 3. อาคารมหาสุรสิงหนาท ประวัติศาสตร์ศิลปะไทยก่อนพุทธศตวรรษที่ 18 301. ศิลปะเอเซีย 302. ก่อนประวัติศาสตร์ 303. ศิลปธทวารวดี 304. ศิลปะชวา 305. ศิลปะศรีวิชัย 306. เทวรูปรุ่นเก่า 307 - 308. ศิลปะลพบุรี 4. อาคารพิพิธภัณฑ์ ประวัติศาสตร์ศิลปะไทยตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 18 401. ประติมากรรมขนาดใหญ่ 402 - 403. ศิลปะล้านนา 404. เทวรูปสุโขทัย 405. ศิลปะสุโขทัย – อยุธยา 406. ศิลปะอยุธยา 407. ศิลปะรัตนโกสินทร์ 408. ประณีตศิลป์ 409. เงินตรา – ธนบัตร 5. พระที่นั่งอิศราวินิจฉัยและหมู่พระวิมาน 501. พระที่นั่งอิศราวินิจฉัย         ห้องจัดนิทรรศการหมุนเวียน 502. มุขกระสันต์        เครื่องมหรรฆภัณฑ์ 503. พระที่นั่งภิมุขมณเฑียร   เครื่องราชยานคานหาม 504. พระที่นั่งวายุสถานอมเรศ   เครื่องทอง 505. พระที่นั่งทักษิณาภิมุข        การแสดงและการละเล่น 506. พระที่นั่งวสันตพิมาน (บน)        เครื่องงาช้าง 507. พระที่นั่งวสันตพิมาน (ล่าง)        เครื่องถ้วย 508. พระที่นั่งปฤษฎางคภิมุข        เครื่องอาวุธ 509. พระที่นั่งปัจฉิมาภิมุข        เครื่องมุก 510. มุขเด็จ        เครื่องไม้จำหลัก 511. พระที่นั่งอุตราภิมุข        ศิลาจารึก 512. พระที่นั่งพรหมเมศธาดา (ล่าง)        ผ้าและเครื่องแต่งกาย 513. พระที่นั่งพรหมเมศธาดา (บน)        เครื่องใช้ในพระพุทธศาสนา 514. พระที่นั่งบูรพาภิมุข        เครื่องดนตรี 6. พระที่นั่งอิศเรศราชานุสรณ์ 7. โรงราชรถ 8. พระตำหนักแดง 9. ศาลาสำราญมุขมาตย์ 10. พระที่นั่งมังคลาภิเษก 11. พระที่นั่งปาฏิหาริย์ทัศไนย 12. ศาลาลงสรง 13. เก๋งนุกิจราชบริหาร 14. หออนุสรณ์เจ้าพระยายมราช จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 10:10:52

ความคิดเห็นที่ 2 จากห้องจัดนิทรรศการหมุนเวียนในพระที่นั่งอิศราวินิจฉัยมาที่มุขกระสัน (502) จัดแสดงเครื่องมหรรฆภัณฑ์ เข้ามาก็เห็นกรงเหล็กติดกระจกครอบตู้กระจกไว้อีกชั้นหนึ่ง ภายในมีเครื่องทองพุทธบูชา สมัยรัตนโกสินทร์ (พุทธศตวรรษที่ 24) พบที่วัดบวรสถานสุทธาวาส (วัดพระแก้ววังหน้า) และเครื่องทองจากกรุพระปรางค์วัดราชบูรณะ อยุธยา สมัยอยุธยา พุทธศตวรรษที่ 20 จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 10:12:52

ความคิดเห็นที่ 3 ด้านหลังบานประตูพระที่นั่งอิศราวินิจฉัยเชื่อมมุขกระสันเป็นลายเขียนสีแบบจีนรูปพฤกษา หงส์และมวลหมู่แมลง จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 10:13:27

ความคิดเห็นที่ 4 มีทั้งเครื่องทองที่ใช้เป็นเครื่องประดับหรือในงานพิธี จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 10:14:14

ความคิดเห็นที่ 5 ตามไปชมต่อค่ะ  กิฟหมดแล้ว ติดไว้ก่อนนะคะ  จากคุณ : armearn เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 10:14:22

ความคิดเห็นที่ 6 และใช้ประกอบงานสถาปัตยกรรม จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 10:14:36

ความคิดเห็นที่ 7 สวัสดีครับคุณarmearn ยินดีที่เข้ามาทักทายกัน เชิญตามมาเลยครับ ......................................... พระพุทธรูปที่ทำด้วยวัสดุมีค่าต่างๆ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 10:16:20

ความคิดเห็นที่ 8 ขอตามไปเที่ยวชมต่อด้วยคนครับ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 10:16:35

ความคิดเห็นที่ 9 ห้องถัดไปเป็นพระที่นั่งภิมุขมณเฑียร (503) จัดแสดงเครื่องราชยานคานหาม จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 10:16:56

ความคิดเห็นที่ 10 ตามมาด้วยกันเลยครับคุณcold river .......................................... ยานมาศ พระราชยาน (เสลี่ยงกง) เสลี่ยงและเสลี่ยงหิ้ว จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 10:18:03

ความคิดเห็นที่ 11 เสลี่ยง ทำจากไม้ ตรงกลางถักด้วยหวาย ปลายคานหุ้มด้วยขอบทองเหลือง ใช้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ เนื่องในพิธีวันสงกรานต์เป็นประจำปี จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 10:18:41

ความคิดเห็นที่ 12 ตามมาเที่ยวด้วยคนค่ะ เดี๋ยวนี้ดีจัง พิพิธภัณฑ์ให้ถ่ายภาพได้หมดแล้ว เมื่อก่อนต้องขอกันวุ่นวายมาก จากคุณ : apple a day เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 10:18:47

ความคิดเห็นที่ 13 วอพระประเทียบ (วอพระประเวศวัง) วอพระประเทียบเป็นยานที่มีลักษณะเป็นรูปเรือนหลังคาจั่วหุ้มด้วยผ้าน้ำมัน เพื่อกันแดดและคุ้มฝน ทำจากไม้ปิดทอง ใช้คนหาม ใช้เฉพาะเจ้านายสตรีฝ่ายใน หรือพระสงฆ์ที่เป็นเชื้อพระวงศ์ แต่เดิมมิได้จำกัดว่าวอเป็นราชยานสำหรับเจ้านายทรงเท่านั้น ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 เมื่อเสด็จเถลิงถวัลย์ราชสมบัติ ได้พระราชทานวอพระประเทียบ ชื่อวอพระประเวศวังแก่วชิรญาณภิกขุ หรือ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวขณะผนวช จึงเป็นธรรมเนียมสืบมาว่า ถ้าพระองค์เจ้าตั้งกรมแล้วทรงวอ ที่ยังไม่ได้ตั้งกรม ทรงพระเสลี่ยง จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 10:20:03

ความคิดเห็นที่ 14 ใช่ครับคุณapple a day ถูกใจผมมาก หวังว่านโยบายนี้จะไม่ถูกยกเลิกไป ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตามครับ ..................................................... สัปคับงาช้าง สัปคับ (เก้าอี้บนหลังช้าง) ทำจากงาช้าง จำหลักลายกนกและลายเครือเถา พระเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ องค์ที่ 7 (พระราชบิดา พระราชชายาดารารัศมี) ส่งมาถวายพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 20 พรรษา จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 10:23:15

ความคิดเห็นที่ 15 11. (ซ้าย) พระที่นั่งพุดตานวังหน้า (ราชบัลลังก์ พระราชวังสถานมงคล) พระที่นั่งพุดตานวังหน้าเป็นพระแท่นบัลลังก์ ทำจากไม้จำหลักปิดทองประดับกระจก สำหรับประทับเวลาเสด็จออกเต็มยศ ลักษณะเป็นรูปแท่น มีเท้าแขนรูปกง คล้ายพระราชยานกงของวังหลวง (ขวา) พระที่นั่งพุดตานทอง ทำจากไม้ปิดทองประดับกระจก จำหลักลายกระจัง ลายเทพนม 23 ตัว ครุฑพนม 23 ตัว พนักและขอบเป็นงา ในเวลาปกติใช้เป็นพระที่นั่งราชบัลลังก์ และใช้เป็นพระราชยานประทับแบบห้อยพระบาทสำหรับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อเสด็จกระบวนพยุหยาตราทางสถลมารค (ทางบก) เช่นเลียบพระนคร หรือเสด็จไปในการพระราชทานผ้ากฐิน จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 10:25:46

ความคิดเห็นที่ 16 พระแท่นราชบัลลังก์เศวตฉัตร ทำจากไม้ลงรักปิดทองประดับกระจก แกะสลักเป็นรูปครุฑและเทพนม มีตราพระราชลัญจกรของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวคือ ตราจุฑามณี ตามพระนามเดิมของพระองค์คือ เจ้าฟ้าจุฑามณี สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว เลียนแบบศิลปะอยุธยา มีต้นแบบจากพระแท่นราชบัลลังก์ของสมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาเสนานุรักษ์ วังหน้าในรัชสมัยสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 10:26:40

ความคิดเห็นที่ 17 สัปคับ ทำจากไม้ ประดับมุกและงาช้าง พื้นสานด้วยหวาย เดิมเป็นของเจ้าพระยาภูธราภัย จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 10:27:33

ความคิดเห็นที่ 18 สัปคับ ทำจากไม้จำหลักลายลงรักแดงปิดทอง ใช้เมื่อเดินทางระยะไกล สันนิษฐานว่าเป็นของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสวัสดิโสภณ กรมพระสวัสดิวัฒนวิศิษฎ์ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 10:28:37

ความคิดเห็นที่ 19 พระที่นั่งประพาสโถง เป็นสัปคับชนิดมีกูบ (หลังคา) ทำจากไม้ปิดทองประดับกระจก หลังคาเขียนเป็นลายทองก้านแย่ง พื้นสานด้วยหวาย สำหรับเจ้านายชั้นสูง ใช้ในการเดินทางระยะไกล และในการพระราชพิธี จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 10:29:11

ความคิดเห็นที่ 20 พระที่นั่งประพาสโถง เป็นสัปคับมีกูบ (หลังคา) ทำจากไม้จำหลักเป็นรูปกนกเครือไม้ รูปลิงจับยักษ์ ประดับมุกที่ลายเครือไม้ และประดับกระจกตามขอบลาย เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ องค์ที่ 8 ถวายพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อยังทรงดำรงพระยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เสด็จฯไปเมืองเชียงใหม่ เมื่อ พ.ศ. 2448 จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 10:30:56

ความคิดเห็นที่ 21 (ซ้าย) พระที่นั่งประพาสโถง สำหรับทรงช้างพระที่นั่ง (ซ้ายล่าง) เตียงเท้าสิงห์ จำหลักลายประแจจีน ดอกไม้ (ขวา) สัปคับพระประเทียบ เป็นสัปคับมีกูบ (หลังคา) จำหลักลายดอกไม้ และรูปครุฑยุดนาค ลงรักปิดทองประดับกระจกเป็นลายดอกไม้ สำหรับเจ้านาย จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 10:32:17

ความคิดเห็นที่ 22 พระที่นั่งอุตราภิมุข (511) เป็นห้องจัดแสดงศิลาจารึก จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 10:32:50

ความคิดเห็นที่ 23 พระที่นั่งวายุสถานอมเรศ (504) เป็นห้องจัดแสดงเครื่องทอง เครื่องราชูปโภค หมายถึงเครื่องใช้ไม้สอยของพระราชา หรือสิ่งของอันเป้นเครื่องแสดงความเป็นกษัตริย์ ทำขึ้นด้วยวัสดุมีค่าราคาสูง บรรดาเครื่องใช้สอยสำหรับพระมหากษัตริย์มีทั้งที่ใช้ในชีวิตประจำวันและในพระราชพิธี นับว่าเป็นเครื่องราชูปโภคทั้งสิ้น อาทิ เครื่องทรง เครื่องราชกกุธภัณฑ์ เครื่องศาสตราวุธ เครื่องสูง เครื่องประกอบพระราชอิสริยยศ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 10:34:07

ความคิดเห็นที่ 24 พระพุทธรูปและพระพิมพ์ พระพุทธรูปและพระพิมพ์เป็นศาสนวัตถุที่สร้างขึ้นตามคติความเชื่อทางพระพุทธศาสนา จากหลักฐานที่สืบค้นได้พบว่ามีการนำทองคำสร้างเป็นพระพุทธรูปตั้งแต่สมัยทวารวดี ส่วนพระพิมพ์นั้นไม่ปรากฎหลักฐานที่บ่งชี้ได้ ความนิยมในการนำเอาทองคำมาสร้าง เป็นพระพุทธรูปและพระพิมพ์มาปรากฎอย่างเด่นชัดในสมัยอยุธยาและสมัยรัตนโกสินทร์ เทคนิควิธีในการสร้างเท่าที่พบมีทั้งการหุ้ม การปิด การบุ การดุน การหล่อ และการกะไหล่ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 10:35:00

ความคิดเห็นที่ 25 ตามชมต่อ........ขอบคุณครับ ปล........DONE จากคุณ : Low Batt เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 10:36:40

ความคิดเห็นที่ 26 ปราสาท ปราสาทองค์นี้สร้างในสมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ 1 หรือ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 มีกระจังจำหลักเป็นลายกนก ยอดเป็นพรหมพักต์ มีครุฑประดับสี่ด้าน เป็นที่ประดิษฐานพระอัฐิของกรมพระราชวังบวร 3 พระองค์ ปัจจุบันพระอัฐินำไปไว้ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 10:37:14

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณครับคุณ Low Batt ที่ช่วยกดเก็บเข้าคลังกระทู้ให้ ................................................. สวนหย่อมน้อยๆ ในหมู่พระที่นั่ง จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 10:39:09

ความคิดเห็นที่ 28 ประตูพระที่นั่งบูรพาภิมุข (514) ลงรักปิดทองเขียนลายพฤกษาแบบจีน ด้านบนกรอบประตูตกแต่งด้วยไม้จำหลัก จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 10:39:46

ความคิดเห็นที่ 29 ในพระที่นั่งบูรพาภิมุข เป็นส่วนจัดแสดงเครื่องดนตรี มุมนี้เป็นเครื่องดนตรีไทย มีครบทั้งเครื่อง ดีด สี ตี เป่า จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 10:40:52

ความคิดเห็นที่ 30 มุมนี้เป็นเครื่องดนตรีจากต่างประเทศ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 10:41:27

ความคิดเห็นที่ 31 แคน เครื่องดนตรีประเภทเป่า ได้รับความนิยมแพร่หลายในเอเซีย ทั้งจีน ญี่ปุ่น เกาหลี และไทย แต่จะมีชื่อเรียกและลักษณะแตกต่างกัน ในประเทศไทยแคนเป็นเครื่องดนตรีพื้นเมืองภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำด้วยไม้รวกเล็กๆ เรียงติดกันเรียกตามจำนวนของลูกแคนตั้งแต่คู่ 3 ถึงคู่ 9 เช่น แคนเจ็ด แคนแปด แคนเก้า ใช้บรรเลงได้ทั้งแบบเดี่ยวและแบบประสมวงกับโปงลาง กรือโต๊ะ เครื่องดนตรีพื้นบ้านประเภทเครื่องตีของมาเลเซีย ภาษามลายูเรียกว่า KERTUK นิยมในหมู่ชาวไทยมุสลิมภาคใต้ในเขต 3 อำเภอของจังหวัดนราธิวาส คือ แว้ง สุไหงปาดี สุไหงโกลก จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 10:42:26

ความคิดเห็นที่ 32 หน้าพระที่นั่งพรหมเมศธาดา ตู้แฝดขาหมู ลายกระหนกใบเทศพื้นรักแดง ฝีมือสมัยรัตนโกสินทร์ ในตู้เก็บจดหมายเหตุรัชกาลที่ 4 และรัชกาลที่ 5 จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 10:43:17

ความคิดเห็นที่ 33 แอบเห็นผนังห้องจัดแสดงถลอกปอกเปิกแล้วเสียดายจังครับ เพราะสมบัติภายในนั้นมันเป็นที่สุดของชาติ น่าจะมีงบประมาณไปพัฒนาสถานที่จัดแสดงมากกว่านี้ จะได้ภูมิใจร่วมกันเวลาเข้าไปชม หรือมีแขกบ้านแขกเมืองมาชมนะครับ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 10:43:52

ความคิดเห็นที่ 34 บันไดขึ้นไปยังพระที่นั่งพรหมเมศธาดา (513 บน) ถ่ายภาพนี้ตอนขาลงครับ อิ อิ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 10:44:57

ความคิดเห็นที่ 35 เห็นด้วยครับคุณcold river เข้าใจว่าอีกสักพักคงจะปิดปรับปรุงส่วนนี้ ตอนนี้อาคารที่เป็นส่วนแสดงประวัติศาสตร์ศิลปะไทยตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 18 กำลังปิดบูรณะอยู่ มาลุ้นกันครับว่ากรมศิลป์จะมีอะไรให้แปลกใจหรือเปล่า (อยากให้แปลกใจแบบ โอ้โฮ มากกว่า โธ่ นะครับ อิ อิ) .............................................. พระที่นั่งพรหมเมศธาดา (บน) เป็นส่วนจัดแสดงเครื่องใช้ในพระพุทธศาสนา จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 10:53:06

ความคิดเห็นที่ 36 พนักเรือกันยา ของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ เจ้าพระยาสุรวงศ์วัฒนศักดิ์ (โต บุนนาค) ทูลเกล้าฯถวายพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เดิมเป็นธรรมมาสน์ไว้ที่วัดเบ็ญจมบพิตร เมื้อมีธรรมมาสน์หลวงแทน จึงรับมารักษาไว้ในพิพิธภัณฑสถาน พระนคร จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 10:53:47

ความคิดเห็นที่ 37 โคมเวียนใช้ในการพระราชพิธีเทศน์มหาชาติหลวง โคมเวียน คือ โคมที่ประกอบด้วยตัวโคมและที่ครอบซึ่งมีภาพประกอบเรื่อง ใช้ครอบไฟ เมื่อจุดไฟแล้วครอบนั้นหมุนได้ ในการพระราชพิธีเทศน์มหาชาติ คือ เทศน์เรื่องมหาเวสสันดรชาดก 13 กัณฑ์ จะจุดประทีปโคมไฟในโรงธรรมที่เทศน์มหาชาติ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 10:54:41

ความคิดเห็นที่ 38 ตู้แสดงเครื่องใช้ในพระพุทธศาสนา เช่น ตาลปัตร พัดยศ ฯลฯ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 10:55:39

ความคิดเห็นที่ 39 ตู้ใส่หนังสือสวด จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 10:56:06

ความคิดเห็นที่ 40 ตู้ใส่หนังสือเทศนา จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 10:56:41

ความคิดเห็นที่ 41 ประตูเข้าสู่พระที่นั่งพรหมเมศธาดา (513 ล่าง) น่าชื่นชมคุณแม่ที่พาลูกสาวมาปลูกฝังความซาบซึ้งในศิลปะ วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ โดยการเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 11:02:44

ความคิดเห็นที่ 42 พระที่นั่งพรหมเมศธาดา (ล่าง) เป็นส่วนจัดแสดงผ้าและเครื่องแต่งกาย จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 11:03:20

ความคิดเห็นที่ 43 ส่วนมากจะเป็นผ้าและเครื่องแต่งกายในราชสำนัก จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 11:04:06

ความคิดเห็นที่ 44 พระมาลาตุ้มปี่ พื้นกำมะหยี่ ปักเลื่อมและดิ้นทอง สมัยรัตนโกสินทร์ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 11:04:38

ความคิดเห็นที่ 45 ลอมพอก หมวกสำหรับขุนนางไทย ใช้เป็นเครื่องแสดงยศและบรรดาศักดิ์ ตั้งแต่ครั้งในสมัยกรุงศรีอยุธยา สมัยรัตนโกสินทร์ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 11:05:10

ความคิดเห็นที่ 46 เนื่องจากผ้าจัดแสดงอยู่ในตู้กระจกมีแสงสะท้อนจากหน้าต่างที่เปิดอยู่มาก ก็เลยถ่ายเจาะให้เห็นลายผ้า ทุกรูปถ่ายในแนวนอน ..................................... ผ้าสมปัก หรือ ผ้าปูม ผ้าสมปัก ทอจากเส้นไหมพื้นสีม่วงเข้ม ทอยกลายนาคเกี้ยวขดเป็นรูปดอกไม้สี่กลีบ มีเชิง 2 ชั้น สีแดงและม่วง ริมผ้าเป็นริ้วสีเขียว ผ้าลายนี้เป็นผ้าสำหรับขุนนาง ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ระดับเจ้าพระยาขึ้นไป สมัยรัตนโกสินทร์ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 11:07:23

ความคิดเห็นที่ 47 ผ้ายกไหม พื้นสีบานเย็น ยกไหมสลับลายดอกพิกุลร่วง เชิงผ้าทอยกเป็นลายกรวยเชิง ทอด้วยกรรมวิธีแบบจีน สมัยรัตนโกสินทร์ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 11:08:26

ความคิดเห็นที่ 48 ผ้าสมปัก หรือ ผ้าปูม พื้นสีไพล ทอยกดอกลายดอกพิกุลในช่องตาข่ายก้านแย่ง เชิงผ้า 2 ชั้น สีแดงและสีม่วงเข้ม สมัยรัตนโกสินทร์ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 11:09:24

ความคิดเห็นที่ 49 ผ้าสมปัก หรือ ผ้าปูม ผ้าที่พระเจ้าแผ่นดินพระราชทานให้แก่ขุนนาง เพื่อนุ่งตามตำแหน่ง กรม กอง ที่สังกัด สมัยรัตนโกสินทร์ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 11:10:03

ความคิดเห็นที่ 50 ผ้าลายอย่าง (ผ้าเกี้ยว) ผ้าลายอย่าง พิมพ์และเขียนลายที่ท้องผ้า และริมผ้าไม่มีเชิง ใช้เป็นผ้าปู หรือ ผ้าแขวน สมัยรัตนโกสินทร์ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 11:10:40

ความคิดเห็นที่ 51 ผ้าพิมพ์ลายอย่าง (ผ้านุ่ง) พื้นสีขาว พิมพ์และเขียนลายเทพนม ยืนเหนือลายหน้ากาล ผ้าท้องขาวเป็นผ้าสำหรับใช้ในงานพิธีที่เกี่ยวข้องกับศาสนา สมัยรัตนโกสินทร์ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 11:11:45

ความคิดเห็นที่ 52 ผ้าพิมพ์ลายอย่าง (ผ้านุ่ง) พื้นสีดำพิมพ์ลายเทพนมในวงกลมตลอดผืน สมัยรัตนโกสินทร์ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 11:12:17

ความคิดเห็นที่ 53 ผ้าเขียนทอง (ผ้านุ่ง) พื้นสีน้ำเงินอ่อน พิมพ์และเขียนลายพุ่มข้าวบิณฑ์ก้านแย่ง มีลายกรวยเชิง 2 ชั้น สมัยรัตนโกสินทร์ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 11:12:54

ความคิดเห็นที่ 54 ผ้าเยียรบับ (ผ้านุ่ง) พื้นสีม่วง ทอยกดิ้นทองเป็นลายพุ่มข้าวบิณฑ์ในช่องรั้วราชวัตร เชิงผ้าเป็นลายกรวยเชิง 3 ชั้น สมัยรัตนโกสินทร์ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 11:13:33

ความคิดเห็นที่ 55 มุขเด็จ (510) เป็นส่วนจัดแสดงเครื่องไม้จำหลัก สังเค็ด สังเค็ด คือสิ่งของซึ่งสร้างถวายพระภิกษุ เพื่ออุทิศส่วนกุศลแก่ผู้ตาย มีวัตถุหลากหลาย ได้แก่ ธรรมาสน์ โต๊ะ ตู้ เป็นต้น เจ้าอาวาสวัดรวก (บางบำหรุ) แขวงบางพลัด เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ มอบให้เมื่อ วันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2525 จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 11:14:13

ความคิดเห็นที่ 56 สังเค็ดนี้ไม่ปรากฎป้ายรายละเอียดบอกไว้ อาจจะเป็นของสร้างใหม่ ทำคานแบบตกท้องช้าง ปิดทองประดับกระจกสวยงามที่เดียว **เข้ามาเพิ่มเติม คุณMr.Cellophane ได้กรุณาบอกมาว่า เป็นของเก่าสมัยอยุธยา จากวัดใหญ่สุวรรณาราม เพชรบุรี ขอขอบคุณคุณMr.Cellophane เป็นอย่างมากครับ** แก้ไขเมื่อ 01 ส.ค. 55 08:11:52 จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 11:17:04

ความคิดเห็นที่ 57 ธรรมาสน์ สมัยอยุธยา ไม้จำหลักลงรักปิดทองประดับกระจก ที่สำหรับพระภึกษุสามเณรนั่งแสดงธรรม พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทาน เดิมทรงได้จากวัดค้างคาว จังหวัดนนทบุรี จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 11:17:41

ความคิดเห็นที่ 58 กินรีปูนปั้น สมัยรัตนโกสินทร์ ฝีมือช่างสมัยรัชกาลที่ 1 กินรีเป็นเพศหญิง ส่วนเพศชายเรียก กินนร เป็นสัตว์ในจินตนาการ มีรูปร่างครึ่งมนุษย์ครึ่งสัตว์คล้ายคลึงกับคนธรรพ์ รูปลักษณ์ดั้งเดิมที่กล่าวไว้ในปุรณะ กล่าวว่า มีร่างกายเป็นมนุษย์ แต่ศีรษะเป็นม้า ส่วนคนธรรพ์มีร่างกายท่อนบนเป็นคน มีปีกอย่างนก ใบหน้าอย่างครุฑ มีหลังแบบม้า ต่อมากินรีมีรูปร่างเปลี่ยนไป คือ มีท่อนบนเป็นมนุษย์ ส่วนท่อนล่างเป็นนกและมีปีก เดิมเป็นของประดับพระเมรุ รับมาจากกรมภูษามาลา จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 11:19:54

ความคิดเห็นที่ 59 งานชิ้นเอกในห้องนี้คือ บานประตูพระวิหารวัดสุทัศน์ ไม่มีป้ายบอกขนาด คะเนด้วยสายตาว่าสูงไม่ต่ำกว่า 6 เมตร ดูยิ่งใหญ่สวยงามจริงๆ ศิลปะรัตนโกสินทร์ กลางพุทธศตวรรษที่ 24 พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทรงจำหลักลายบางตอนด้วยฝีพระหัตถ์ ประตูถูกเพลิงไหม้เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2505 จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 11:21:27

ความคิดเห็นที่ 60 ลวดลายไม้จำหลักลอยตัวของบานประตู มีรายละเอียดงดงามมาก จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 11:22:03

ความคิดเห็นที่ 61 บานที่ถูกไฟไหม้ทำลายไปอย่างน่าเสียดาย เจ้าหน้าที่บอกว่าเกิดจากมีคนไปปักธูปที่บานประตู จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 11:22:53

ความคิดเห็นที่ 62 บานประตูไม้จำหลักรูปเซี่ยวกางบนหลังสิงห์ ศิลปะรัตนโกสินทร์ พุทธศตวรรษที่ 24 เดิมอยู่ที่ปราสาทพระเทพบิดร วัดพระศรีรัตนศาสดาราม จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 11:23:25

ความคิดเห็นที่ 63 บานประตูไม้จำหลักเป็นรูปครุฑ เทพนม ยักษ์ ลิง สมัยรัตนโกสินทร์ ได้มาจากพระยาสวัสดิการบรรจง ผู้บัญชาการกรมรถไฟ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 11:25:33

ความคิดเห็นที่ 64 งานไม้จำหลักเป็นรูป นกเทศ ลิง ยักษ์ ครุฑ และ บุษบก จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 11:26:03

ความคิดเห็นที่ 65 ซุ้มประตูไม้จำหลัก สมัยรัตนโกสินทร์ แผ่นไม้จำหลักรูปปราสาท สมัยอยธยา วิหารจำลอง ลงรักปิดทอง และเขียนสี สมัยรัตนโกสินทร์ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 11:26:37

ความคิดเห็นที่ 66 เจว็ด สมัยรัตนโกสินทร์ อายุราว พุทธศตวรรษที่ 25 เจว็ด เป็นไม้จำหลักรูปเทวดาสำหรับประดิษฐานไว้ในศาลพระภูมิ หรือ ศาลที่สร้างขึ้นในการประกอบพิธีทางศาสนาและความเชื่อต่างๆ นกหัสดายุ สมัยรัตนโกสินทร์ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 11:28:04

ความคิดเห็นที่ 67 (บน) พระพุทธรูปปางมารวิชัย สมัยอยุธยา (ซ้าย-ขวา) แผ่นไม้จำหลักรูปองคต สมัยรัตนโกสินทร์ (ล่าง) แผ่นไม้จำหลักรูปสุครีพ สมัยรัตนโกสินทร์ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 11:28:44

ความคิดเห็นที่ 68 (1) แผ่นไม้จำหลักรูปเทวดา สมัยอยุธยา (2) แผ่นไม้จำหลักรูปบุรุษไล่ตามวัว สมัยรัตนโกสินทร์ (3) แผ่นไม้จำหลักรูปบุคคลนั่งอยู่กลางป่า สมัยรัตนโกสินทร์ (4) ไม้จำหลักรูปนกสัมพาสี (สังปติ) สมัยรัตนโกสินทร์ (5) โต๊ะขาสิงห์จำหลักลายประแจจีนดอกไม้ สมัยรัตนโกสินทร์ (6-7) บานประตูรูปยักษ์แบก ไม้จำหลักปิดทอง เดิมเป็นบานประตูกำแพงแก้วพระพุทธรัตนสถาน ในพระบรมมหาราชวัง สมัยรัตนโกสินทร์ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 11:29:40

ความคิดเห็นที่ 69 พระที่นั่งปฤษฎางคภิมุข (508) เป็นส่วนจัดแสดงเครื่องอาวุธ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 11:30:20

ความคิดเห็นที่ 70 ปืนใหญ่โบราณขนาดต่างๆ และเครื่องกระสุน จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 11:30:50

ความคิดเห็นที่ 71 ประตูเข้าสู่พระที่นั่งสันตพิมาน (507) จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 11:31:33

ความคิดเห็นที่ 72 มองจากหน้าต่างพระที่นั่งสันตพิมานจะเห็นสวนหย่อมระหว่างพระตำหนัก จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 11:32:02

ความคิดเห็นที่ 73 พระที่นั่งสันตพิมานเป็นห้องจัดแสดงเครื่องถ้วยชาม จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 11:32:40

ความคิดเห็นที่ 74 กระปุก ชาม ตลับ สังคโลก เขียนลายสีใต้เคลือบ ศิลปะสุโขทัย พุทธศตวรรษที่ 20 – 22 เครื่องประกอบสถาปัตยกรรม (มกร ยอดบราลี) ศิลปะสุโขทัย กลางพุทธศตวรรษที่ 22 แหล่งเตาป่ายาง อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 11:33:15

ความคิดเห็นที่ 75 เครื่องเคลือบสังคโลก โถ กระปุก ถ้วย ชาม จาน ตะคัน แหล่งเตาศรีสัชนาลัย อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย สมัยสุโขทัย พุทธศตวรรษที่ 20 – 22 จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 11:34:16

ความคิดเห็นที่ 76 (บนชั้น) ตุ๊กตาสังคโลก สำหรับใช้ในพิธีกรรม หรือสำหรับเป็นของเล่นเด็ก ผลิตจากแหล่งเตาศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ศิลปะสุโขทัย พุทธศตวรรษที่ 19 – 20 (มุมซ้ายล่าง) เทพนม ยักษ์ และ ช้าง ใช้ประดับสถาปัตยกรรม ดินเผาเคลือบ ผลิตจากแหล่งเตาศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ศิลปะสุโขทัย พุทธศตวรรษที่ 19 – 20 (มุมขวาล่าง) ประติมากรรม “สังคโลก” ใช้ประดับสถาปัตยกรรม ผลิตจากแหล่งเตาศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ศิลปะสุโขทัย พุทธศตวรรษที่ 19 – 20 จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 11:35:05

ความคิดเห็นที่ 77 เ71. เครื่องถ้วยญี่ปุ่น พุทธศตวรรษที่ 24 – 25 ไทยและญี่ปุ่นมีความสัมพันธ์และมิตรภาพกันมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย เริ่มจากการค้าขายระหว่างพ่อค้าชาวไทยกับพ่อค้าชาวโอกินาวา ซึ่งขณะนั้นยังเป็นราชอาณาจักรริวกิว สินค้าจากญี่ปุ่นส่วนใหญ่เป็น สิ่งทอ ผ้าไหม เครื่องปั้นดินเผา ดาบ สินค้าจากไทยจะเป็น เครื่องสังคโลก เครื่องเทศ สุรา ฯลฯ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 11:36:18

ความคิดเห็นที่ 78 เครื่องปั้นดินเผาเคลือบศิลปะลพบุรี พุทธศตวรรษที่ 16 – 18 จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 11:36:47

ความคิดเห็นที่ 79 เครื่องกระเบื้องลายครามอย่างไทย ออกแบบลวดลายเป้นพิเศษสำหรับประเทศไทย สมัยราชวงศ์ชิง พุทธศตวรรษที่23 – 24 จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 11:37:20

ความคิดเห็นที่ 80 เครื่องลายครามประเภทต่างๆ เครื่องถ้วยลายน้ำทอง และถ้วยชาเคลือบสีต่างๆ สมัยราชวงศ์ชิง พุทธศตวรรษที่23 – 24 จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 11:37:50

ความคิดเห็นที่ 81 เครื่องถ้วยศิลปะไทย – จีน พุทธศตวรรษที่ 24 ชามฝาลายน้ำทอง และลายเขียนสีลงยา จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 11:38:25

ความคิดเห็นที่ 82 เครื่องถ้วยจีน มักจะพบเครื่องปั้นดินเผาของจีนในแหล่งโบราณคดีของไทยอยู่เสมอ บางแห่งก็พบศิลปวัตถุอื่นๆ ซึ่งบางครั้งมีอายุถึงสมัยราชวงศ์ฮั่น แต่ไม่อาจนำมาเป็นหลักฐานที่แท้จริงได้ เพราะไม่ได้มาจากการขุดค้นจึงไม่อาจทราบระดับชั้นดินได้ แม้แต่โบราณสถานในสมัยกรุงศรีอยุธยาก็พบเศษเครื่องปั้นดินเผาของจีนจำพวกลายคราม และจำพวกห้าสีเช่นกัน การขุดค้นเพื่อตรวจสอบเครื่องปั้นดินเผาตามชั้นดิน สามารถนำมาใช้ในการกำหนดอายุชุมชนและแหล่งโบราณคดีนั้นๆ ได้อย่างดี จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 11:39:47

ความคิดเห็นที่ 83 เครื่องเคลือบจีน ถ้วยเคลือบสีเขียว พุทธศตวรรษที่ 18 – 19 ชามลายคราม ราชวงศ์หมิงตอนปลาย พุทธศตวรรษที่ 21 – 22 ชามลายคราม ราชวงศ์ชิงตอนต้น พุทธศตวรรษที่ 22 กระปุกลายคราม ราชวงศ์หมิง พุทธศตวรรษที่ 20 – 22 กระปุกและที่ใส่น้ำรูปเป็ด ศิลปะอันหนาน พุทธศตวรรษที่ 21 – 22 จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 11:40:29

ความคิดเห็นที่ 84 ชาม ชามฝา และจานเบญจรงค์ ศิลปะไทย – จีน พุทธศตวรรษที่ 24 – 25 จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 11:40:59

ความคิดเห็นที่ 85 โถเบญจรงค์ ศิลปะไทย – จีน พุทธศตวรรษที่ 23 – 24 จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 11:41:37