SMEs TODAY

คู่มือลงทุนตู้หยอดเหรียญ

 
ธุรกิจการขายสินค้าและบริการผ่านระบบตู้หยอดเหรียญที่กำลังอินเทรนด์อยู่ในหลายๆประเทศเวลานี้ จะว่าไปแล้ว ก็ไม่ใช่ของใหม่สำหรับเมืองไทย
   
หากไม่นับตู้โทรศัพท์สาธารณะหยอดเหรียญ ตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญก็เป็นธุรกิจตู้หยอดเหรียญตัวแรกของเมืองไทย ที่เข้ามาตั้งแต่เมื่อ 12 ปีที่แล้ว
   
ถึงวันนี้ธุรกิจตัวนี้ก็ยังอยู่
   
จากตู้น้ำดื่ม ก็ขยายสู่ตู้ซักผ้า, ตู้เติมเงินมือถือ, ตู้คาราโอเกะ, ตู้น้ำมัน ฯลฯ
   
มีข้อน่าสังเกตว่า ธุรกิจตุ้หยอดเหรียญเหล่านี้ที่ต้องเลิกไปก็มี แต่ที่ยังอยู่ได้ก็เยอะ อะไร คือ ตัวกำหนด โดยตัวธุรกิจมันเอง หรืออยู่ที่คนทำ
   
แต่ไม่ว่าจะมองกันอย่างไร บางทีการที่ธุรกิจนี้ยังมีอยู่ในเมืองไทย และจำนวนไม่น้อยยังอยู่กันได้ อาจพอเป็นคำตอบ
   
แม้กระนั้น วันนี้ก็ยังมีผู้พยายามตั้งคำถามอยู่อีก อย่างเช่น ตู้หยอดเหรียญเหมาะกับเมืองไทยจริงหรือ, อย่างเช่น เป็นได้แค่ธุรกิจเสริม หรือทำเป็นธุรกิจหลักได้ด้วย, อย่างเช่นไปได้กับสินค้าและบริการบางตัว หรือไปได้กับทุกตัว ฯลฯ
   
ตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญได้รับการพิสูจน์มาแล้ว 12 ป
   
“ณัฐพล ประดิษฐผลเลิศ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วอเทอร์ เน็ท จำกัด (มหาชน) ผู้บุกเบิกการผลิตตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญรายแรกของเมืองไทย ภายใต้แบรนด์ WaterNet และ DailyFresh เปิดประเด็นในเชิงวิเคราะห์ว่า ธุรกิจตู้หยอดเหรียญจะเวิร์คหรือไม่ขึ้นอยู่กับการดูแลของเจ้าของตู้เอง แปลไทยเป็นไทยตรงไปตรงมาว่า “อยู่ที่คนทำ” ด้วย
   
“อย่างตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญอาจไม่ใช่โมเดลที่ดีที่สุดสำหรับเมืองไทย สำหรับคนที่อยากจะทำธุรกิจ แต่ธุรกิจตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญเป็นทางเลือกสำหรับคนที่มีโอกาสจะเลือกได้ เช่น คุณเป็นเจ้าของอพาร์ตเมนท์ เจ้าของธุรกิจ พนักงานประจำที่มีพื้นที่อยู่แล้ว มีบ้านอยู่ในทำเลที่ดี
   
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า ทุกคนที่เป็นเจ้าของตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญจะได้รับการคืนทุนภายใน 3 เดือน 6 เดือน หรือ 1 ปี บางคนที่คืนทุนภายใน 2 ปีก็มี หรือคนที่มีวิธีการคิดอีกอย่างหนึ่ง อาจจะคืนทุนภายใน 2 เดือน ก็มีเหมือนกัน
   
กับอีกภาพหนึ่งที่ทุกๆตู้หยอดเหรียญพยายามบอกกับคนซื้อว่า ตู้นี้ดีที่สุด ซื้อมาตั้งแล้วไม่ต้องทำอะไรเลย อันนั้นมันผิด นี่คือข้อเท็จจริงที่สังคมต้องรับทราบ เพราะจะดีหรือไม่ขึ้นอยู่กับคุณภาพของการดูแลของเจ้าของตู้ ขึ้นอยู่กับความเข้าใจในธุรกิจตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญของเจ้าของตู้ เพราะคงจะไม่มีสินค้าอะไรที่ตั้งแล้วมันจะดีได้ทุกอย่าง”




:: อ่านต่อในฉบับ ::

:: กลับไปหน้าหลัก ::