SME Thailand

กำจัดจุดอ่อน...แบบ Win Win Solution

 

 

วิกฤตเศรษฐกิจรอบนี้ส่อแววฉุดกระชากลากเศรษฐกิจไทยให้ซึมลึกนานอย่างแน่นอน ด้วยเหตุที่ไม่ใช่แค่ผลกระทบจากความถดถอยทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่เป็นตลาดส่งออกหลักเท่านั้น กรณีความไม่สงบจากปัญหาการเมืองภายในประเทศก็เป็นอีกแรงกดดันให้ระยะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยต้องยืดยาวออกไป แล้วไหนการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เม็กซิโกที่กำลังลุกลามไปทั่วโลกย่อมส่งผลให้วิกฤตเศรษฐกิจที่ย่ำแย่อยู่แล้วต้องทรุดลงไปอีกไม่มากก็น้อย

ท่ามกลางปัจจัยลบมากมายขนาดนี้ ย่อมเพิ่มความยากลำบากในการดำเนินงานบริหารธุรกิจ การที่เจ้าของธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางขนาดเล็ก (SME) จะรักษากิจการให้อยู่รอดด้วยคาถาที่ท่องกันทุกครั้งยามประสบวิกฤต คือ ลดต้นทุนตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น เร่งเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในองค์กร คงไม่เพียงพออีกต่อไป เพราะยุคนี้ธุรกิจ SME ส่วนใหญ่ผ่านกระบวนการปรับปรุงพัฒนาตัวเองมาแล้วทั้งนั้น ทุกกิจการจึงล้วนมีความสามารถทัดเทียมกันในการควบคุมต้นทุนและผลิตสินค้าคุณภาพออกจำหน่าย

เรียกได้ว่าในปัจจุบันมีสินค้าชนิดเดียวกันที่มีคุณภาพดีสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างตรงจุดเหมือนๆ กันวางขายอยู่เกลื่อนตลาด การที่เจ้าของสินค้าจะสร้างความต่างให้สินค้าโดดเด่นกว่าคู่แข่งขันเพื่อให้กระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคนั้น บางรายอาจคิดย้อนยุคถึงการกลับใช้การแข่งขันด้านราคาเข้าห้ำหั่นกัน แต่กลยุทธ์นี้ก็อย่างที่ทราบๆ กันดี หากเจ้าของสินค้ารายใดกระโจนเข้าร่วมสมรภูมิรบผลสุดท้ายก็คงหนีไม่พันกอดคอกันตายหมู่เช่นเดิม

Win Win Solution : รวมจุดแข็งกำจัดจุดอ่อน

ดังนั้น หนึ่งทางเลือกที่น่าจะเป็นทางออกสำหรับผู้ประกอบการ SME ในภาวะวิกฤตยุคนี้ก็คือ Win Win Solution แนวทางแก้ปัญหาในรูปแบบการรวมจุดแข็งของแต่ละรายเข้าด้วยกันเพื่อลบข้อด้อยหรือกำจัดจุดอ่อนของธุรกิจนั้นๆ โดยมีการแบ่งปันผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นจากการรวมตัวกันอย่างทั่วถึง ซึ่งรูปแบบที่ว่านี้มีตัวอย่างความสำเร็จให้เห็นอยู่มากมาย เพียงแต่ความสำเร็จจากการรวมตัวกันของกลุ่มธุรกิจหนึ่งไม่สามารถลอกเลียนวิธีการไปใช้กับอีกกลุ่มธุรกิจหนึ่งแล้วสามารถการันตีได้ว่าจะประสบความสำเร็จเช่นเดียวกัน

อย่างเช่น คลัสเตอร์หมูโคราช การรวมตัวกันของผู้ผลิตสินค้าแปรรูปจากเนื้อหมูเป็นผลิตภัณฑ์ของฝากขึ้นชื่อ อาทิ กุนเชียง หมูฝอย หมูหวาน หมูสวรรค์ หมูหยอง หมูแผ่น ฯลฯ จากเดิมที่แต่ละเจ้าต่างคนต่างผลิต ต่างคนต่างขายแข่งขันแย่งลูกค้ากันเอง จนเมื่อได้รับการส่งเสริมชักจูงให้รวมตัวกันโดยได้รับผลประโยชน์ตอบแทนทั้งการซื้อวัตถุดิบในราคาถูกลงและเพิ่มโอกาสในการขายมากขึ้น ก็ทำให้เกิด Win Win Solution ในรูปแบบเฉพาะตัวขึ้นมา

หรืออย่างกรณี คลัสเตอร์กล้วยไม้ราชบุรี และคลัสเตอร์เซรามิกลำปาง การรวมตัวกันของกลุ่มผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์กล้วยไม้และผลิตภัณฑ์เซรามิก ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำที่สามารถประสานผลประโยชน์ได้อย่างลงตัว โดยนอกจากสร้างโอกาสขายที่มากขึ้นภายใต้ต้นทุนที่ควบคุมได้ด้วยวัตถุดิบคุณภาพแล้ว ยังเป็นการร่วมกันพัฒนาขีดความสามารถและเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมทั้งระบบ ถือเป็น Win Win Solution ที่ผู้ประกอบการในวงจรการผลิตผลิตภัณฑ์ทั้งสองชนิดได้รับผลประโยชน์ทั้งหมด

ทั้งสามคลัสเตอร์ที่กล่าวมาหากหาจุดเหมือนที่ผลักดันให้เกิดการรวมตัวได้อย่างราบรื่น พบว่าเกิดจากแรงผลักดันและส่งเสริมการให้ผู้ประกอบการจับมือทำธุรกิจร่วมกันของหน่วยงานภาครัฐ ที่ลงมาเป็นเจ้าภาพจัดฝึกอบรมและให้แนวคิดการประสานผลประโยชน์ร่วมกันของผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกันจนทำให้เกิดการรวมตัวเป็นคลัสเตอร์ขึ้นมา



:: อ่านต่อในฉบับ ::

:: กลับไปหน้าหลัก ::