Box Office สุดสัปดาห์ที่ 5 - 7 ธันวาคม 2546
(updated ประมาณบ่ายวันอังคารของทุกสัปดาห์)


Tom Cruise เป็นเจ้า Box Office ประจำสุดสัปดาห์ตามเคย กับหนังใหม่แนวพีเรียดเรื่อง The Last Samurai ตามด้วยหนังดราม่าเกี่ยวกับแดนเซอร์ แสดงนำโดย Jessica Alba เรื่อง Honey ส่วนหนังค้างในโปรแกรมเรื่องอื่นๆ รายได้ร่วงลงในอัตราที่มากกว่าครึ่ง ซึ่งเป็นปกติของสุดสัปดาห์หลังจาก Thanksgiving ที่โกยกันไปเพียบแล้ว แถมยังเจออุปสรรคจากพายุหิมะ ที่ถล่มด้านตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปอเมริกาเหนือเข้าพอดี ทำเอาคอหนังจำต้องอยู่โยงเฝ้าจอทีวีอยู่บ้านกันเป็นแถวๆ

เป็นปีที่สิบเอ็ดติดต่อกันเข้าไปแล้วที่หนังของสุดหล่อ Tom Cruise เปิดตัวที่อันดับหนึ่งบนตาราง Box Office ซึ่งคราวนี้หนังผจญภัยในแดนอาทิตย์อุทัย The Last Samurai จาก Warner Bros. ก็ครองแชมป์ไปได้ด้วยรายได้นำโด่ง $24.3M จาก 2,908 โรง เฉลี่ยออกมา $8,346 ต่อโรง หนังเรื่องนี้ว่าด้วยเซลแมนขายปืนชาวอเมริกันในปี 1876 ที่จับพลัดจับผลูได้เข้าไปสอนการยิงปืนให้กับทหารแห่งจักรวรรดิ์ญี่ปุ่น แต่พลาดท่าถูกฝ่ายตรงข้ามจับตัวไ้ป นั่นคือโอกาสที่ทำให้เขาได้เรียนรู้วิถีแห่งซามูไร หนังได้เรต R ด้วยทุนสร้างราว $100-140M กำกับโดย Ed Zwick (เจ้าของผลงานยอดเยี่ยมอย่าง Glory, Legends of the Fall) ได้รับการชื่นชมจากนักวิจารณ์จนได้อันดับสอง ของรายชื่อหนังยอดเยี่ยมจาก National Board of Review (เป็นรองแค่ Mystic River จากค่ายเดียวกัน)

อันที่จริงรายได้ของ The Last Samurai น่าจะทำได้มากกว่านี้ แต่เนื่องจากช่วงวันศุกร์และเสาร์ ฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปอเมริกาเหนือ เจอพายุหิมะถล่มแบบเต็มๆ พาลทำให้แฟนหนังบริเวณดังกล่าวออกจากบ้านไปไหนมาไหนไม่สะดวก สำหรับในญี่ปุ่น ซึ่งใช้เป็นโลเกชั่นหลักของหนัง หนังเปิดตัวพร้อมในทวีปอเมริกาเหนือในจำนวน 540 โรง และทำรายได้ไปราว $8.5M ส่วนในประเทศอื่นๆ ต้องรอถึงต้นปีหน้า รวมทั้งในไทยที่วางโปรแกรมไว้เรียบร้อยที่ 22 มกราคม ต้อนรับตรุษจีนพอดี

อันดับสอง หนังเล็กแต่แรงเกินคาด Honey หนังดราม่าเรต PG-13 จัดจำหน่ายโดย Universal เกี่ยวกับแดนเซอร์สาวที่รับบทโดย Jessica Alba เปิดตัวอย่างดีเกินคาดที่ $12.9M จาก 1,942 โรง เฉลี่ยต่อโรงออกมา $6,620 แน่นอนว่าผู้ชมสวนใหญ่ถึง 74% เป็นหญิง ในจำนวนนี้ราวสามในสี่มีวัยไม่ถึง 21 และ 60% เป็นชาวผิวสี นั่นแปลว่า Honey ชนะใจผู้ชมวัยรุ่นเพศหญิงและกลุ่มคนผิวสีได้อย่างยอดเยี่ยม (เพราะไม่มีคู่ชนที่จับตลาดกลุ่มเดียวกัน) จากทุนสร้างจิ๊บจ๊อยแค่ $18M ทำให้หนังเรื่องนี้ กลายเป็นหนังทำกำไรงามของค่าย Universal ไปแบบสบายปลายปี

The Haunted Mansion หนังตลกบ้านผีสิงของ Eddie Murphy ร่วงจากรองแชมป์มาอยู่อันดับสาม ทำเงินให้ Disney ไปอีก $9.4M รายได้สุดสัปดาห์นี้ร่วงลงในอัตรา 61% เป็นธรรมดาเพราะสุดสัปดาห์แรก โกยไปเพียบแล้วในเทศกาลขอบคุณพระเจ้า ฉายมา 12 วันได้ไปแล้ว $46M คาดว่าคงไปได้ถึงประมาณ $85-95M กำหนดฉายในไทยวางไว้ 9 มกราคม

หนังสนุกสนานประจำเทศกาล Elf ร่วงลงถึง 63% ด้วยเหตุผลเดียวกัน ทำเงินไปอีก $8M ในสุดสัปดาห์ที่ห้าของการฉาย รวมรายได้ที่ทำให้ Universal ไปแล้ว $139.5M จะเข้าฉายในไทยสุดสัปดาห์นี้แหละ (12 ธันวาคม) ส่วนอดีตแชมป์สองสมัย Dr. Seuss' The Cat in the Hat ร่วงหนักกว่าทุกเรื่องใน top ten คือ 71% ได้ไปอีก $7.1M ฉายมาสามสัปดาห์เก็บไปแล้ว $85.3M คาดว่าจะไปหยุดที่ประมาณ $100-110M ส่วนในไทยจะลงโรงเดือนมีนาคม รับปิดเทอมโน่น

เบาๆ มาแล้วสามเรื่อง สามอันดับต่อมาเป็นหนังหนักๆ บ้าง โดยอันดับ 6 เป็นของ Bad Santa หนังตลกร้ายจากค่าย Miramax ที่แสดงโดย Billy Bob Thornton รายได้ลดลงน้อยกว่าทุกเรื่องคือแค่ 43% เก็บไปอีก $7M รวม 12 วันฟันไป $27.1M ส่วนหนังสยองขวัญจากฝีมือแสดงนำของ Halle Berry เรื่อง Gothika ร่วงลง 59% เก็บไปอีก $5.3M ทำรายได้รวมขยับขึ้นไปเป็น $49.5M กำหนดวันฉายไว้ 30 มกราคมปีหน้า ตามด้วยหนังดราม่าระทึกขวัญแนวตะวันตกของ Ron Howard เรื่อง The Missing ที่แสดงนำโดย Tommy Lee Jones และ Cate Blanchett รายได้หล่นลง 63% ได้ไปอีก $4M ในสัปดาห์ที่สองของการฉาย ทำเงินไปแล้ว $21.8M ใน 12 วันแรก คิวฉายในไทยวางไว้ 27 กุมภาพันธ์ปีหน้า

หนังฟอร์มยักษ์จาก Fox เรื่อง Master and Commander: The Far Side of the World ที่เพิ่งได้รับการประักาศให้ติดหนึ่งในสิบหนังยอดเยี่ยมของ National Board of Review รายนี้ร่วงลง 69% เพราะโดน The Last Samurai ชิงคนดูกลุ่มเป้าหมายเดียวกันไป หนังทำเงินไปได้อีก $3.7M รวมรายได้ $72.6M จากสี่สัปดาห์ รอดูกันได้ในไทย 31 ธันวาคมสิ้นปีนี้ ปิดท้าย top ten ด้วยหนังรักรวมมิตรที่เพิ่งลงโรงในไทย Love Actually เก็บไปอีก $3.6M ลดลงจากสัปดาห์ที่แล้ว 57% ทำเงินให้ Universal ไปแล้ว $48.7M ในห้าสัปดาห์

หนังสองเรื่องที่ถูกเบียดหลุดจาก top ten ก็ได้แก่เรื่องแรกหนัง sci-fi ผจญภัยย้อนเวลาจาก Paramount เรื่อง Timeline ผลงานกำกับของ Richard Donner รายได้ร่วงลงไปสองในสาม เก็บไปอีก $2.7M รวม 12 วันหรือสองสัปดาห์เก็บไป $16.8M จากทุนสร้างกว่า $60M มีโปรแกรมฉายในไทย 6 กุมภาพันธ์ปีหน้า ส่วนอีกเรื่อง Brother Bear หนังแอนิเมชั่นวาดด้วยมือจาก Disney ที่มีโปรแกรมฉายในไทย 26 ธันวาคม ทำรายได้รวมไปแล้ว $79.5M

New Line Cinema ปล่อยฉาย The Lord of the Rings: The Fellowship of the Ring ฉบับ Extended Edition ความยาว 208 นาทีในจำนวนแค่ 126 โรง เก็บไปได้แบบสบายๆ อีก $473,463 เฉลี่ยต่อโรงทำได้ $3,758 สัปดาห์หน้าแฟนหนังจะได้ดูฉบับ 214 นาทีของ The Two Towers เพื่อเป็นการทบทวนก่อนจะพบกับบทสุดท้ายของมหาสงครามชิงพิภพ The Return of the King ตั้งแต่ 17 ธันวาคม (ส่วนในไทย 19 ธันวาคม)

มาทางด้านหนังที่ลงโรงในวงจำกัดเพื่ออุ่นเครื่องเอาสิทธิ์เข้าชิงออสการ์กันบ้าง Fox Searchlight ยังยืนโรงให้หนังไอริช-อเมริกันเรื่อง In America ที่กำกับโดย Jim Sheridan ในจำนวน 11 โรง และเก็บไปได้แบบเหนาะๆ อีก $143,380 เฉลี่ยต่อโรงออกมา $13,035 ยังคงสูงอยู่มาก รวมรายได้ล่าสุด $471,347 ใน 12 วัน สุดสัปดาห์หน้าถึงคิวเพิ่มเป็น 50 โรง และจะเป็น 400 โรงในช่วงคริสต์มาส (หนังเรื่องนี้ติดหนึ่งในสิบหนังยอดเยี่ยมของ National Board of Review ด้วย) ส่วนหนังของ William H. Macy เรื่อง The Cooler จัดจำหน่ายโดย Lions Gate เก็บไป $75,699 จาก 11 โรงเท่ากัน ทำรายได้เฉลี่ยไป $6,882 รวมรายได้ $291,603 ในสิบสองวัน ที่มาแรงอีกเรื่องก็คือ 21 Grams หนังดราม่าจาก Focus Features นำแสดงโดย Sean Penn และ Benicio Del Toro ที่ติดหนึ่งในสิบหนังยอดเยี่ยมของ National Board of Review กับเขาด้วย เก็บไปอีก $502,327 จาก 74 โรง เฉลี่ยออกมา $6,788 ต่อโรง เก็บไปแล้วแบบนิ่มๆ $2.4M ในสามสัปดาห์ กำหนดฉายในไทยล่าสุดคือ 12 มีนาคม

สัปดาห์หน้าพบกับหนังยอดเยี่ยม Something's Gotta Give แสดงนำโดย Jack Nicholson, Diane Keaton, Keanu Reeves, Amanda Peet, Jon Favreau สร้างและกำกับโดย Nancy Meyers; หนังตลกแฝดสยามตัวติดกัน Stuck On You ของพี่น้อง Farrelly แสดงนำคู่โดย Matt Damon กับ Greg Kinnear และหนังรักเบาสมอง Love Don't Cost A Thing รีเมคจากหนังวัยรุ่นเมื่อปี 1987


ตารางรายได้ 20 อันดับหนังทำเงินสุดสัปดาห์ที่ 5 - 7 ธันวาคม 2546

# Title Dec. 5 - 7 Nov. 28 - 30 % Chg. Theaters Weeks AVG Cumulative Distributor










1 The Last Samurai $ 24,271,354

2,908 1 $ 8,346 $ 24,271,354 Warner Bros.
2 Honey 12,856,040

1,942 1 6,620 12,856,040 Universal
3 The Haunted Mansion 9,394,185 24,278,410 -61.3 3,122 2 3,009 45,974,409 Buena Vista
4 Elf 8,026,797 21,649,842 -62.9 3,119 5 2,574 139,527,719 New Line
5 The Cat in the Hat 7,141,855 24,459,685 -70.8 3,409 3 2,095 85,297,270 Universal
6 Bad Santa 7,014,010 12,292,952 -42.9 2,091 2 3,354 27,138,311 Miramax
7 Gothika 5,250,356 12,868,471 -59.2 2,205 3 2,381 49,545,578 Warner Bros.
8 The Missing 4,034,563 10,833,633 -62.8 2,756 2 1,464 21,805,272 Sony
9 Master and Commander 3,722,008 12,048,731 -69.1 2,344 4 1,588 72,555,668 Fox
10 Love Actually 3,561,360 8,218,630 -56.7 1,672 5 2,130 48,743,275 Universal










11 Timeline 2,729,568 8,440,629 -67.7 2,787 2 979 16,797,982 Paramount
12 The Matrix Revolutions 1,352,380 4,787,326 -71.8 1,257 5 1,076 135,673,369 Warner Bros.
13 Brother Bear 1,259,466 4,872,344 -74.2 1,616 7 779 79,475,621 Buena Vista
14 Mystic River 622,480 1,610,234 -61.3 505 9 1,233 51,900,754 Warner Bros.
15 Looney Tunes: Back in Action 531,429 2,507,465 -78.8 1,010 4 526 19,435,770 Warner Bros.
16 21 Grams 502,327 988,321 -49.2 74 3 6,788 2,388,710 Focus
17 LOTR: The Fellowship of the Ring 473,463

126 1 3,758 313,837,577 New Line
18 Radio 401,494 1,705,022 -76.5 515 7 780 50,607,991 Sony
19 Kal Ho Naa Ho 303,623 758,211 -60.0 51 2 5,953 1,468,203 Yash Raj Films
20 Lost in Translation 283,758 544,363 -47.9 156 13 1,819 29,310,562 Focus

เรียบเรียงจาก : Weekend Box Office โดย Box Office Guru

ข้อมูลเพิ่มเติม :

top