Box Office สุดสัปดาห์ที่ 21 - 23 ธันวาคม 2544
(updated ประมาณบ่ายวันอังคารของทุกสัปดาห์)


สัปดาห์นี้ ข้อมูลสรุปจากต่างประเทศมาล่าช้าเพราะติดวันหยุดยาวหลายวัน อภิมหากาพย์แห่งปี ที่คอหนังรอคอยมานาน The Lord of the Rings: Fellowship of the Rings เรต PG-13 จาก New Line Cinema ได้ฤกษ์ลงจอเสียที และก็สามารถครองอันดับหนึ่ง ในการโกยรายได้สุดสัปดาห์ก่อนสุดท้ายแห่งปี ไปอย่างไม่มีอะไรผิดความคาดหมาย แถมยังเป็นหนังที่เปิดตัวด้วยรายได้สูงสุดของเดือนธันวาคม (ตามปกติสถิติหนังทำเงินสูงๆ จะอยู่ที่ปลายเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นสุดสัปดาห์ Thanksgiving) ส่วนหนังใหม่อีก 4 เรื่อง ได้แก่หนังตลก hip hop How High, หนังแอนิเมชั่นสำหรับเด็กๆ Jimmy Neutron: Boy Genius สองเรื่องนี้ไปได้สวย แต่อีก 2 เรื่องคือ หนังตลกแนวครอบครัวของ Tim Allen เรื่อง Joe Somebody, และหนังดราม่าหวังกล่องของ Jim Carrey เรื่อง The Majestic กลับประสบกับความผิดหวัง

อภิมหากาพย์แนวผจญภัยแฟนตาซี The Lord of the Rings: Fellowship of the Rings ทำรายได้นำลิ่ว ด้วยตัวเลข $47.2M ซึ่งเป็นตัวเลขรายได้ในช่วง 3 วันสุดสัปดาห์ที่สูงที่สุดในรอบ 1 ปีย้อนหลัง สถิติเก่าทำไว้ $38.1M โดย Ocean's Eleven เมื่อสองสัปดาห์ที่แล้วนี่เอง เมื่อรวมรายได้จากวันแรกที่เข้าฉาย (พุธที่ 19 ธันวาคม) อภิมหากาพย์เรื่องนี้โกยเงินไปแล้ว $75.1M (รวม 5 วัน) จากจำนวนโรง 3,359 โรง (หรือประมาณกว่า 5,700 ก็อปปี้) เฉลี่ยรายได้ต่อโรงในช่วงสุดสัปดาห์ 3 วันออกมา $14,055 สูงมากทั้งที่หนังมีความยาวถึง 178 นาที หรือเกือบ 3 ชั่วโมงเต็ม ซึ่งจำนวนรอบฉายต่อวันจะถูกลดลงไปโดยปริยาย

ในขณะเดียวกัน The Lord of the Rings: Fellowship of the Rings ก็เปิดฉายในอีก 15 ประเทศทั่วโลก อาทิ เยอรมัน, ฝรั่งเศส, สเปน, สหราชอาณาจักร (อังกฤษ) และนิวซีแลนด์ ซึ่งใช้เป็นโลเกชั่นหลักในการถ่ายทำและงาน post production เกือบทั้งเรื่อง รวมทั้งอีก 2 ภาคที่กำลังตัดต่ออยู่ รายได้จากตลาดนอกทวีปอเมริกาเหนือทำได้แล้วราว $60M ทำให้รายได้รวมของหนังจากทั่วโลกทำไปได้แล้ว $133M ในช่วงเวลาเพียง 5 วันเท่านั้นเอง สัปดาห์หน้า ก็จะยังเป็นช่วงเวลาทองของหนังเรื่องนี้อีกเช่นกัน เพราะเข้าสู่เทศกาลวันคริสต์มาส และวันปีใหม่ ทางด้านเสียงสะท้อนจากผู้ชมและหมู่นักวิจารณ์ ก็ได้รับความชื่นชมว่าหนังดีมากดังที่คาดหวัง คอหนังชาวไทยจะได้พิสูจน์กัน ต้อนรับปีใหม่ 28 ธันวาคมนี้

The Lord of the Rings: Fellowship of the Rings เป็นผลงานการกำกับของ Peter Jackson สร้างจากตอนแรกในนวนิยายไตรภาคเรื่องเยี่ยมของ J.R.R. Tolkien ที่เขียนไว้เมื่อเกือบ 50 ปีก่อน ด้วยทุนสร้างสูงถึง $270M ลงมือสร้างพร้อมกันรวดเดียว 3 ภาค และจะเปิดฉายปีละ 1 ภาคในเดือนธันวาคม ตั้งแต่ปี 2001-2003 เป็นเรื่องราวของการแย่งชิงแหวน The One Ring ซึ่งเป็นแหวนที่มีฤทธิ์ทำให้ผู้เป็นเจ้าของ ได้ครอบครองโลกได้อย่างง่ายดาย นำแสดงโดย Elijah Wood, Billy Boyd, Bill Boyd, Dominic Monaghan, Ian McKellen, Sean Astin, Ian Holm, Sean Bean, Christopher Lee, Viggo Mortensen, Orlando Bloom, Cate Blanchett, Liv Tyler, John Rhys-Davies, Hugo Weaving

สัปดาห์ที่ 3 ของหนังรวมดารา Ocean's Eleven ของผู้กำกับ Steven Soderbergh จัดจำหน่ายโดย Warner Bros. นำแสดงโดย George Clooney, Brad Pitt, Julia Roberts, Matt Damon, Andy Garcia, Casey Affleck, Don Cheadle ยังคงยึดแน่นอยู่ที่อันดับสองเหมือนเดิม ทำรายได้ไปอีก $14.7M รวมรายได้จากที่ฉายมา 17 วัน ทำได้ $95.3M คาดว่าจะทะลุผ่านระดับร้อยล้านได้ ในช่วงประมาณวันคริสต์มาส กำหนดฉายในไทย อยู่ที่ 4 มกราคม

หนังแอนิเมชั่นเรต G ทุนสร้าง $23M จาก Paramount เรื่อง Jimmy Neutron: Boy Genius สร้างจากซีรีส์การ์ตูนยอดฮิตของ Nickelodeon เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับแฟนหนังรุ่นเยาว์ เปิดตัวสัปดาห์แรกทำรายได้ไป $13.8M จากสุดสัปดาห์ 3 วันแรก จากจำนวน 3,139 โรง เฉลี่ยรายรับต่อโรงออกมา $4,407 ประสบความสำเร็จในระดับเดียวกันกับ Rugrats หนังการ์ตูนเรื่องก่อนหน้าจากทีมนี้ คาดว่าในช่วงสิ้นปี คงจะทำเงินไปอีกหลาย เพราะเด็กๆ ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก ต่างก็ได้หยุดยาวพร้อมกับผู้ปกครอง ซึ่งแน่นอนว่าต้องพาเด็กๆ ไปดูกัน

จากสถิติรายได้รวมของหนังแอนิเมชั่น หรือหนังครอบครัวทั่วๆ ไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หนังที่เปิดฉายในสุดสัปดาห์ก่อนคริสต์มาส ต่างก็ทำรายได้รวมไปในเกณฑ์ 7-9 เท่าของรายได้ในสุดสัปดาห์แรก เช่น The Emperor's New Groove เปิดตัวด้วยรายได้ $9.8M และไปหยุดที่ $89.3M, Stuart Little เมื่อปี 1999 เปิดตัวได้ $15M และไปปิดยอดที่ $140M, The Prince of Egypt เมื่อปี 1998 เปิดตัวได้ $14.5M ก่อนจะไปหยุดที่ $101.3M หลังจากการโกยเงินของ Harry Potter and the Sorcerer's Stone และ Monsters, Inc. ที่เด็กๆ ดูกันไปหมดแล้ว ก็ยังไม่มีหนังสำหรับพวกเขาให้ดูกัน รวมทั้งในอีกหลายสัปดาห์ข้างหน้า จึงพอจะคาดหมายได้ว่า Jimmy Neutron Boy Genius คงจะเดินหน้าทำเงิน จากแฟนหนังกลุ่มครอบครัวได้อย่างสบายไปอีกหลายสัปดาห์

แชมป์รายได้เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว Vanilla Sky แนวดราม่า-ระทึกขวัญติดเรต R แสดงนำและอำนวยการสร้างเองโดย Tom Cruise กำกับโดย Cameron Crowe (Almost Famous, Jerry Maguire) สัปดาห์นี้ฟ้าไม่เป็นใจ โดนเบียดจากอันดับ 1 ลงมาอยู่ 4 รายได้ร่วงลงถึง 52% ทำเงินไปอีก $12.1M แถมยังโดนนักวิจารณ์สับเละอีกต่างหาก รายได้รวม 10 วันแรกทำไปได้ $45.1M จากทุนสร้างราว $60M คาดว่าหนังคงทำเงินไปถึงประมาณ $70-80M เท่านั้น อาการของหนังอยู่ในลักษณะเดียวกับ Eyes Wide Shut ของ Tom Cruise เมื่อปี 1999 ที่เปิดตัวอยู่อันดับหนึ่ง และร่วงลงถึง 54% ในสุดสัปดาห์ต่อมา กำหนดฉาย Vanilla Sky ในไทย ล่าสุดเลื่อนไป 15 กุมภาพันธ์

อันดับ 5 เป็นหนังเข้าใหม่จาก Universal เรื่อง How High หนังตลกแนว hip hop ทุนสร้างแค่ $12M เพราะถ่ายทำด้วยวิดีโอดิจิตอล นำแสดงโดยสองศิลปินแร็ป Method Man และ Redman ในบทนักศึกษาฮาเวิร์ด ทำรายได้ไป $7.1M จากจำนวน 1,266 โรง เฉลี่ยรายได้ต่อโรง $5,610 สูงเป็นอันดับสองใน top-10 รองจาก The Lord of the Rings คาดว่าจะเป็นหนังทำกำไรสูงอีกเรื่องของ Universal

Harry Potter and the Sorcerer's Stone รายได้สัปดาห์นี้ร่วงลงแค่ 29% ได้ไปอีก $7.09M หล่นจากอันดับ 4 มาอยู่ 6 ยังฉายในจำนวนโรงมากถึง 3,311 โรง ตอนนี้ Warner Bros. โกยเงินไปนอนกอดแล้ว $264.1M ส่วนหนังตลกล้อเลียนหนังวัยรุ่น Not Another Teen Movie จาก Sony ทุนสร้างแค่ $15M สัปดาห์นี้รายได้ร่วงลงถึง 58% ตกจาก 3 มาอยู่ 7 ได้ไปอีก $5.25M รวมฉายมา 2 สัปดาห์หรือ 10 วันทำเงินไป $21.4M

อันดับ 8 เป็นหนังใหม่แนวดราม่าย้อนยุคของ Jim Carrey เรื่อง The Majestic จัดจำหน่ายโดย Warner Bros. ที่หวังกล่องมากกว่ารายได้ เปิดตัวทำเงินไปเพียง $4.9M จากจำนวนโรง 2,361 โรง เฉลี่ยรายรับต่อโรงได้เพียงแค่ $2,077 ประสบกับความผิดหวังด้านรายได้ไปแล้ว จะสมหวังด้านรางวัลหรือไม่ ต้องติดตาม... ส่วนอันดับ 9 เป็นของ Monsters, Inc. หนังแอนิเมชั่นจาก Disney/Pixar ที่ตกมาจากอันดับ 6 ได้ไปอีก $3.8M ลดลงจากสุดสัปดาห์ที่แล้วเพียง 24% ซึ่งน้อยที่สุดใน top-10 รวมรายรับขณะนี้ทำได้ $224.4M

ปิดท้ายอันดับสิบ ด้วยหนังเข้าใหม่ตลกสำหรับครอบครัวแสดงนำโดย Tim Allen เรื่อง Joe Somebody จัดจำหน่ายโดย Fox ทำรายได้ $3.55M จากจำนวนโรง 2,503 เฉลี่ยรายได้ต่อโรง $1,418 อยู่ในเกณฑ์น่าผิดหวัง

หนังใหม่ของผู้กำกับ Ron Howard เรื่อง A Beautiful Mind แสดงนำโดย Russell Crowe, Ed Harris และ Jennifer Connelly จัดจำหน่ายโดย Universal เรื่องราวชีวิตของนักคณิตศาสตร์อัจฉริยะ เปิดฉายแบบชิมลาง เพื่อเอาสิทธิ์เข้าชิงออสการ์ ทำรายได้ไป $367,151 จากจำนวนแค่ 11 โรง เฉลี่ยต่อโรงออกมา $33,377 อยู่อันดับ 16 ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำถึง 6 สาขา ซึ่งก็ได้รับคำชื่นชมจากผู้ชมและนักวิจารณ์อย่างท่วมท้น หนังจะได้โรงเพิ่มเป็น 514 โรงทั่วอเมริกาเหนือ ในช่วงคริสต์มาส ก่อนจะเปิดฉายแบบเต็มตัว ในวันศุกร์ที่ 4 มกราคม

หนังตลกของผู้กำกับ Wes Anderson เกี่ยวกับครอบครัวสุดเพี้ยนเรื่อง The Royal Tenenbaums แสดงนำโดย Gene Hackman, Anjelica Huston, Gwenyth Paltrow และ Ben Stiller ยังคงฉายแบบชิมลางเป็นสัปดาห์ที่สอง Buena Vista เพิ่มโรงให้จาก 5 ไปเป็น 40 โรง ก็เลยทำรายได้ไปอีก $1.27M อยู่อันดับ 12 เฉลี่ยรายรับต่อโรงได้สูงถึง $31,722 สัปดาห์หน้าจะเพิ่มโรงไปเป็นกว่า100 โรง และจะเพิ่มขึ้นไปถึงระดับ 700-800 โรงในสุดสัปดาห์ที่ 11 มกราคม

หนัง 5 เรื่องที่โดนเบียดหลุดจาก top-10 ไปก็คือ Behind Enemy Lines รายได้ร่วงลง 41% ตกจากอันดับ 5 มา 11 ได้ไปอีก $3.2M รวมรายรับขณะนี้ $43.8M จากทุนสร้าง $40M คาดว่าคงไปหยุดแถวๆ $50-55M วางโปรแกรมเริ่มฉายในไทย 18 มกราคม ; "อัศวินดำ" Black Knight หนังตลกของ Martin Lawrence ฉายเป็นสัปดาห์ที่ห้า ตกจากอันดับ 8 มาอยู่ 15 รายได้รวมทำไปแล้ว $30.8M โปรแกรมเข้าฉายในไทย วางไว้ 22 มีนาคม และหนังตลกอีกเรื่อง Shallow Hal หล่นจาก 9 มา 17 ทำเงินไปแล้ว $67.8M มีกำหนดฉายในไทย 25 มกราคม ทั้ง 3 เรื่องจัดจำหน่ายโดย Fox

หนังดราม่าสายลับทุนสร้าง $90M เรื่อง Spy Game จาก Universal สัปดาห์นี้หล่นจากอันดับ 7 มา 13 ทำเงินไปแล้ว $59.6M ใน 5 สัปดาห์ มีโปรแกรมฉายในไทย 11 มกราคม ส่วนหนังตลกจากฝรั่งเศสเรื่อง Amelie งานของ Jean-Pierre Jeunet จัดจำหน่ายโดย Miramax สัปดาห์นี้ตกจากอันดับ 10 มาอยู่ 14 โกยเงินไปแล้ว $13.7M จากจำนวนโรงไม่ถึง 250 โรง

สัปดาห์หน้า หนังเข้าใหม่ที่คงไม่แรงพอจะโค่นแชมป์มี 2 เรื่องคือ Ali ชีวิตของนักมวยระดับโลก และอีกเรื่อง Kate & Leopold หนังโรแมนติกของ Meg Ryan


ตารางรายได้ 20 อันดับหนังทำเงินสุดสัปดาห์ที่ 21 - 23 ธันวาคม 2544
#
Title
Dec 21 - 23
Dec 14 - 16
% Chg.
Theaters
Weeks
AVG
Cumulative
Dist.
                   
1
The Lord of the Rings
$47,211,490
   
3,359
1
$14,055
$75,129,468
New Line
2
Ocean's Eleven
14,716,582
22,076,664
-33
3,075
3
4,786
95,347,822
Warner Bros.
3
Jimmy Neutron: Boy Genius
13,832,786
   
3,139
1
4,407
13,832,786
Paramount
4
Vanilla Sky
12,076,661
25,015,518
-52
2,744
2
4,401
45,081,570
Paramount
5
How High
7,102,260
   
1,266
1
5,610
7,102,260
Universal
6
Harry Potter and the Sorcerer's Stone
7,092,906
9,919,596
-29
3,311
6
2,142
264,095,956
Warner Bros.
7
Not Another Teen Movie
5,250,880
12,615,116
-58
2,365
2
2,220
21,404,064
Sony
8
The Majestic
4,904,339
   
2,361
1
2,077
4,904,339
Warner Bros.
9
Monsters, Inc.
3,801,516
4,980,223
-24
2,097
8
1,813
224,450,540
Buena Vista
10
Joe Somebody
3,553,725
   
2,506
1
1,418
3,553,725
Fox
11
Behind Enemy Lines
3,198,907
5,414,981
-41
1,808
4
1,769
43,826,619
Fox
12
The Royal Tenenbaums
1,268,860 
276,981 
358
40
2
31,722
1,759,964
Buena Vista 
13
Spy Game
921,570
2,465,455
-63
834
5
1,105
59,633,160
Universal
14
Amelie
770,897 
773,164 
-0
221
8
3,488
13,709,091
Miramax
15
Black Knight
2,035,439
553,567
-73
647
5
856
30,818,586
Fox
16
A Beautiful Mind
367,151
   
11
1
33,377
367,151
Universal
17
Shallow Hal
327,660
1,492,695
-78
549
7
597
67,766,055
Fox
18
Serendipity
319,623 
181,429
+76
331
12
966
49,824,430
Miramax
19
The Wash
215,098 
309,514 
-31
299
6
719
9,697,098
Lions Gate 
20
The Man Who Wasn't There
167,989
225,257 
-25
143
8
1,175
6,612,989
USA Films 

เรียบเรียงจาก : Weekend Box Office โดย Box Office Guru

ข้อมูลเพิ่มเติม :

top