จากฝีมือกำกับโดย Tom Shadyac และจากผลงานเขียนของ Steve Oedekerk ซึ่งเปิดโอกาสให้ Robin Williams ได้แสดงอัจฉริยภาพทางการแสดงในบทตลก ผสานกับการโปรโมทของ Universal ที่เน้นไปที่จุดเด่นดังกล่าว เป็นแรงหนุนให้คนดูออกจากบ้านมาดูหนังเรื่องนี้กันอย่างล้นหลาม แถมยังมีแรงส่งจากข่าวการได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ ในสาขาหนังยอดเยี่ยมและดารานำยอดเยี่ยมฝ่ายชายPatch Adams เลยสร้างสถิติใหม่ กลายเป็นหนังเปิดตัวที่ทำเงินสูงสุดประจำเทศกาลคริสต์มาส และเป็นอันดับ 3 ของหนังเปิดตัวด้วยรายได้สูงสุดในเดือนธันวาคม รองจาก Scream2 และ Titanic และเป็นหนังที่เปิดฉายแรงเป็นอันดับ 2 ของ Robin Williams รองจาก Flubber

นอกจากนี้ Patch Adams ยังทำให้ Tom Shadyac มีความมั่นคงในฐานะผู้กำกับชั้นแนวหน้าของวงการหนังตลก หลังจากที่งานชิ้นก่อนๆของเขาอย่างเช่น Ace Ventura: Pet Detective, The Nutty Professor, และ Liar, Liar โกยเงินไปแล้วทั่วโลกประมาณ $675M และส่งให้ Jim Carrey, Eddie Murphy โด่งดังไปทั่วโลก มาคราวนี้ก็ถึงคิวกำกับของเขากับ Robin Williams บ้างละ และจากการที่ยังไม่มีหนังใหม่เข้ามาชิงตำแหน่งในสุดสัปดาห์หน้า เลยคาดกันว่าหนังเรื่องนี้จะยังคงครองแชมป์ Box Office ต่อไป ดีไม่ดีอาจจะยาวตลอดเดือนมกราคมเลยก็เป็นได้

ในขณะเดียวกัน Stepmom หนังดราม่าน้ำตาท่วมจอของค่าย Sony เป็นหนังของดาราที่เคยฝากผลงานร่วมกับ Robin Williams จาก Hook ของสปีลเบิร์ก นั่นก็คือ Julia Roberts ซึ่งร่วมแสดงกับ Susan Sarandon และ Ed Harris จากการกำกับของ Chris Columbus ที่เคยฝากผลงานมาแล้วอย่าง Home Alone และ Mrs.Doubtfire ก็ทำเงินสุดสัปดาห์แรกของการเปิดฉายอย่างงดงามเช่นกัน โดยตามติดมาเป็นอันดับ 2 ของตาราง Box Office ได้ไป $19.1M จากจำนวน 2,358 โรง เฉลี่ยต่อโรงสูงถึง $8,118 นับเป็นสถิติหนังที่เปิดฉายด้วยรายได้แรงเป็นอันดับ 3 ของ Julia Roberts รองจากตัวเลข $21.7M ของ My Best Friend's Wedding เมื่อเดือนมิถุนายน 1997 และ $19.3M จาก Conspiracy Theoryในช่วงซัมเมอร์ปีเดียวกัน นอกจากนี้ ยังเป็นหนังเปิดตัวสูงเป็นอันดับ 3 ของค่าย Sony ประจำปีนี้ แถมยังเป็นสถิติหนังอันดับ 2 ที่ทำรายได้สูงสุดจากการเปิดฉายในเทศกาลคริสต์มาส (รองจาก Patch Adams นั่นแหละ) คาดกันว่าช่วงวันหยุดปีใหม่ คงจะมีคนดูหนังเรื่องนี้มากขึ้น และอาจทำให้Stepmom กลายเป็นหนังร้อยล้านเรื่องที่ 6 ของ Julia Roberts อย่างง่ายดาย

แชมป์เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว ที่ครองอันดับหนึ่งได้เพียงสัปดาห์เดียวYou've Got Mail หนัง romantic comedy ที่นำแสดงโดย Tom Hanks และ Meg Ryan โดนเขี่ยตกลงมาอยู่อันดับ 3 แต่รายได้ก็ลดไปแค่ 2% จากสัปดาห์ที่แล้ว ได้ไปอีก $18.1M หลังจากฉายมา 10 วัน ก็ทำเงินไปแล้วถึง $47.4M เป้าหมาย $100M ก็อยู่อีกไม่ไกล ที่สำคัญก็คือ เป็นการแข่งกันระหว่าง Tom Hanks และ Robin Williams ว่าใครจะเข้าหลักร้อยล้านก่อนกัน (ทั้งคู่มีหนังผ่านหลักร้อยล้านมาแล้วคนละ 6 เรื่องในทศวรรษ 1990)

อันดับ 4 The Prince of Egypt โชว์ฟอร์มสดในสัปดาห์ที่ 2 รายได้เพิ่มขึ้นอีก 4% จากสัปดาห์ก่อนซึ่งเป็นการเปิดฉาย โดยทำเงินได้ไปอีก $15.1M รวม 10 วันทำเงินไปแล้ว $40.1M เชื่อว่าจะไปถึง $90M อย่างสบายๆ และอาจผ่านหลักร้อยล้านก็เป็นได้ ซึ่งก็จะกลายเป็นหนังอนิเมชั่นที่ไม่ใช่ของดิสนี่ย์ที่ผ่านหลักร้อยล้านได้เป็นเรื่องแรก

The Faculty หนัง sci-fi/horror ของค่าย Miramax นำแสดงโดย Elijah Wood, Usher, Jon Stewart, และ Robert Patrick จากผลงานกำกับของ Robert Rodriguez (From Dusk Till Dawn และ El Mariachi ) และงานเขียนบทโดย Kevin Williamson (Scream และ I Know What You Did Last Summer ) เปิดตัวสัปดาห์แรกอยู่อันดับ 5 ทำเงินไป $11.6M เป็นเรื่องของนักเรียน high school ที่คิดว่าครูของพวกเขาคือเอเลี่ยน จากการเปิดฉายใน 2,365 โรงThe Faculty ทำรายได้เฉลี่ยต่อโรง $4,919 นับว่าไม่เลว แต่ก็ยังต่ำกว่าที่คาดการณ์กันไว้ ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะ นี่เป็นหนังเขย่าขวัญเรื่องที่ 7 ที่เปิดฉายในรอบ 5 เดือนที่ผ่านมา

อันดับ 6 Mighty Joe Young หนังรีเมคจากปี 1949 เกี่ยวกับกอริลล่าทุนสร้าง $70M ของค่าย Disney จากผลงานกำกับของ Ron Underwood (City Slickers และ Speechless ) เปิดตัวด้วยรายรับ $10.6M ในจำนวน 2,502 โรง เฉลี่ยได้ไป $4,237 ต่อโรง การสร้างใหม่นี้นำแสดงโดย Charlize Theron และ Bill Paxton ผู้ชมราวๆ 2 ใน 3 เป็นกลุ่มครอบครัว คาดกันว่าคงจะไม่ถึงกับล้มเหลว ทั้งที่มีหนังจับตลาดเดียวกันถึง 7 เรื่องที่เข้าฉายก่อนหน้าในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ..ดิสนี่ย์ซะอย่าง

อันดับ 7 ตามมาติดๆคือหนังอนิเมชั่นแห่งปี A Bug's Life ได้ไปอีก $10.1M ตอนนี้ตุนไปแล้ว $114.5M แนวโน้มของรายได้ก็ยังคงตามรอยรุ่นพี่Toy Story เมื่อปี 1995 อย่างไม่ผิดกันเลยทีเดียว คือ Toy Story รับไป $115.7M เมื่อผ่านสุดสัปดาห์คริสต์มาสปีนั้น โดย A Bug's Life ผ่านหลักร้อยล้านได้เมื่อวันที่ 22 ธันวาคมที่ผ่านมาตามความคาดหมาย ตอนนี้ก็กลายเป็นหนังร้อยล้านเรื่องที่ 12 ของปี 1998 ไปเรียบร้อย

Star Trek: Insurrection ของค่าย Paramount มาเป็นอันดับ 8 ทำเงินไปอีก $7.3M ลดลงแค่ 12% ตอนนี้ตุนไปแล้ว $47.7M คาดว่าคงไปได้ถึงหลัก $70M ส่วนอันดับ 9 Enemy of the State ของ Will Smith ที่กำลังจะฉายในบ้านเรา ทำรายรับไปอีก $5.3M เพิ่มขึ้น11% จากสัปดาห์ที่แล้ว ตอนนี้รายได้รวมอยู่ที่ $87.5M คงจะผ่านหลัก $100M ในราวต้นเดือนมกราคม ส่วน Jack Frost อยู่อันดับ 10 ด้วยรายรับ $3.9M 

ที่หลุดจาก Top-10 ไปก็คือ The Rugrats Movie ตกลงมาอยู่อันดับ 11 ได้ไปอีก $2.7M (ลดลง 7%) ตอนนี้รายได้รวมอยู่ที่ $82M, อันดับ 13 หนังตลกของ Adam Sandler The Waterboy ได้ไปอีก $2.3M (ลดลง 26%) รายได้รวมอยู่ที่ $145.6M, Psycho ของ Universal ผ่านหลัก $20M อย่างทุลักทุเล ตกไปอยู่อันดับ 21 ขณะที่ Elizabeth ของค่าย Gramercy ได้ไปแล้วทั้งสิ้น $14.6M ขณะนี้

หนังสงครามที่เข้าฉายเพื่อหวังกล่องที่ระดมดาราดังอย่าง Sean Penn, Nick Nolte, Woody Harrelson, John Cusack, George Clooney, Ben Chaplin จากค่าย Fox , The Thin Red Line กำกับโดย Terence Malick เปิดฉายเพื่อเอาสิทธิ์เข้าชิงออสการ์จำนวนแค่ 5 โรง อยู่อันดับ 26 ทำเงินได้ไป $223,548 เฉลี่ยอย่างน่ามหัศจรรย์ถึง $44,710 ต่อโรงเลยทีเดียว, หนังใหม่ของ John Travolta โดยมีดาราสมทบดีๆอย่าง Robert Duvall, William H. Macy, และ John Lithgow A Civil Action เปิดฉายแบบชิมลางแค่ 2 โรง ได้ไป $70,079 เฉลี่ยสูงถึง $35,040 ต่อโรง อยู่อันดับ 42 มีกำหนดเปิดฉายแบบเต็มที่เริ่ม 8 มกราคมปีหน้าทั้งสองเรื่อง ส่วน Hurlyburly นำแสดงโดย Kevin Spacey, Sean Penn, และ Robin-Wright Penn เปิดฉาย 16 โรง ทำเงินไป $164,826 เฉลี่ยต่อโรง $10,302 อยู่อันดับ 36 ฉายจริง 15 มกราคม