Box Office สุดสัปดาห์ที่ 4 - 6 กุมภาพันธ์ 2543


*** 57th Annual Golden Globe Awards Winners ***

box office สัปดาห์แรกของเดือนกุมภาพันธ์ เปิดตัวด้วยความร้อนแรง โดยอันดับหนึ่งเป็นของ Scream 3 จาก Miramax นำโด่งอยู่เรื่องเดียวด้วยรายได้สูงลิบลิ่วถึงกว่า 34 ล้าน อันดับอื่นที่ตามหลังมาทำได้ไม่ถึง 5 ล้าน

หลังจากที่ตกอยู่ท่ามกลางความคาดหวังของนักดูหนังมานาน Scream 3 ซึ่งข่าวว่าจะเป็นไตรภาคสุดท้ายของหนังฮิตเรื่องนี้ ก็เปิดฉายเสียที หนังทำรายได้ไปถึง $34.7M มากกว่าหนังอีก 9 เรื่องใน top-10 ทำได้รวมกันเสียอีก จากจำนวน 3,467 โรง ทำรายได้เฉลี่ยต่อโรงไป $10,013 (Scream 2 เปิดฉายเมื่อเดือนธันวาคม 1997 ทำรายได้ $32.9M จาก 2,663 โรง ส่วนภาคแรกทำรายได้สัปดาห์แรกไปแค่ $6.4M) เฉลี่ยต่อโรง $12,364 มาคราวนี้ หนังยังคงกำกับโดย Wes Craven เช่นเดิม แต่ผู้เขียนบทเปลี่ยนจาก Kevin Williamson มาเป็น Ehren Kruger นำแสดงโดยดาราชุดเก่าที่ยังรอดชีวิตอยู่จากภาคที่แล้ว ได้แก่ Neve Campbell, Courteney Cox Arquette, และ David Arquette สมทบด้วยขบวนหวีดหน้าใหม่ Parker Posey, Patrick Dempsey, และ Jenny McCarthy ภาคนี้จับความตอนที่ Sidney เข้าฮอลลีวู้ดเพื่อถ่ายหนังเกรด B ที่สร้างจากเหตุการณ์สยองขวัญที่เกิดขึ้นใน Woodsboro ที่ใช้ชื่อเรื่องว่า Stab 3 แล้วเหตุการณ์สยองก็เริ่มต้นขึ้นที่นั่น..

สถิติใหม่ที่ Scream 3 สร้างขึ้นจากการเปิดฉายได้แก่ หนังทำรายได้สูงสุดที่เปิดฉายในเดือนกุมภาพันธ์ (สถิติเก่าเป็นของ The Empire Strikes Back - Special Edition ที่ทำไว้ $22M เมื่อปี 1997) , สถิติหนังเปิดตัวแรงที่สุดของ Miramax (สถิติเก่าเป็นของ Scream 2 ทำไว้ $32.9M เมื่อปลายปี 1997) นอกจากนี้ Scream 3 ยังเป็นหนังที่ทำรายได้สุดสัปดาห์แรกได้สูงสุดนับแต่ปีใหม่เป็นต้นมา และคาดว่าจะครองสถิตินี้ได้อีกนานพอสมควร สถิติอื่นๆที่ทำได้ก็คือ เป็นหนังเรต R ที่ทำรายได้เปิดตัวสูงสุดอันดับสาม (รองจาก Air Force One $37.1M และ Interview with the Vampire $36.4M) และ หนังภาคต่อตอนที่ 3 ที่ทำเงินสูงสุดอันดับ 3 จากการฉายสัปดาห์แรก รองจาก Batman Forever $52.8M และ Indiana Jones and the Last Crusade $37M (เพราะส่วนใหญ่ หนัง"ภาค 3" มักจะไปไม่ค่อยรอด !!)

ปัจจัยที่คาดกันว่า มีผลกับรายรับสูงลิ่วของ Scream 3 ก็คือ เป็นหนังที่คนดูใจจดใจจ่อรอดูมาก แฟนๆของหนังชุดนี้ก็มีมากมาย และช่วงนี้ไม่มีหนังเต็งเข้าฉายเลย นอกจากหนังประเภทจ้องกวาดรางวัล ข่าวบอกว่า มีหนังถึงกว่า 5,500 ก็อปปี้ที่ออกฉายในจำนวน 3,467 โรง ซึ่งก็ตอบสนองคนดูได้ถ้วนทั่ว (คล้ายกับปรากฏการณ์ "เทโรงฉาย" ของหนังบางเรื่องในไทยไม่มีผิด) หนังลงทุนสร้างไปประมาณ $30-40M มีแผนจะเปิดฉายในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา แต่ก็เจอโรคเลื่อนเข้าเสียก่อน รายได้ของหนัง 2 ตอนแรกก็คือ Scream เปิดฉายเมื่อเดือนธันวาคม 1996 ทำรายได้ไป $87M แล้วกลับมาฉายใหม่เมื่อเดือนเมษายนปีต่อมา จึงกวาดรายได้รวมไปทั้งสิ้น $103M ส่วน Scream 2 เปิดฉายตามมาติดๆ ตามประสา "น้ำขึ้นให้รีบตัก" เมื่อเดือนธันวาคม 1997 กวาดรายได้รวมไป $96M แล้วกลับมาฉายอีก(เหมือนกัน) ในเดือนเมษายนปี 1998 รวมรายได้ทั้งสิ้น $101M คาดว่าภาคสามนี้ คงจะทำเงินไปในระดับร้อยล้านเช่นกัน

อันดับ 2 box office ได้แก่ The Hurricane ของ Universal หนังรางวัลลูกโลกทองคำ สาขาดารานำชายของ Denzel Washington ไต่จากอันดับ 3 ขึ้นมาด้วยรายได้ $4.94M ลดลงแค่ 13% จากสัปดาห์ที่แล้ว ฉายมาแล้ว 6 สัปดาห์ (รวมการเปิดฉายแบบชิมลาง เพื่อเอาสิทธิ์เข้าชิงรางวัล) รวมรายได้ทั้งสิ้น $37.6M กำลังลุ้นว่าจะได้เข้าชิงออสการ์หรือไม่ในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะมีผลกับรายได้ของหนังอย่างแน่นอน

Stuart Little ของ Sony ยังเหนียวแน่นอยู่บน top-5 ต่อไป สัปดาห์นี้ทำรายได้ใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่แล้วคือ $4.7M ไต่ขึ้นมาจากอันดับ 4 รายได้รวมตอนนี้อยู่ที่ $128.6M จาก 8 สัปดาห์ เนื่องจากไม่มีหนังแข็งๆ แนวบันเทิงแบบครอบครัว เข้าฉายชนในช่วงนี้ อย่างไรก็ตาม หนังที่จับกลุ่มเป้าหมายเดียวกัน กำลังจะตามมาอีก 2 เรื่องในสุดสัปดาห์หน้าคือ The Tigger Movie ของ Disney และ Snow Day หนังตลกของ Chevy Chase จากค่าย Paramount เปิดฉายแบบปูพรมในจำนวน 2,700 และ 2,500 โรงตามลำดับ คาดว่าจะมีผลกระทบกับเจ้าหนูช่างพูดอย่างแน่นอน

หนังตลกของ Ice Cube จากค่าย New Line, Next Friday ร่วงจากอันดับ 2 มาอยู่ 4 ทำรายได้ไปอีก $4.3M รายได้รวมล่าสุดอยู่ที่ $45.5M ส่วนแชมป์เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว Eye of the Beholder หนังทริลเลอร์ที่นำโดย Ewan McGregor และ Ashley Judd รายได้วูบลง 29% ลงมาอยู่อันดับ 5 ทำเงินไป $4.2M รายได้รวมขณะนี้ $12M จาก 10 วัน คาดว่าจะทำรายได้ไปถึงระดับประมาณ $20-25M

อันดับ 6 หนังดราม่าของ Tom Hanks, The Green Mile ทำรายได้ลดลงนิดหน่อย ได้ไปอีก $4M รายได้รวม $120.4M ส่วน Galaxy Quest รายได้ลดลงแค่ 3% ทำได้ $3.3M รวมแล้ว $62.9M อันดับ 8 หนังโรแมนติกจาก Miramax, Down to You ลดลง 33% นับว่าหนักหนาที่สุดใน top-10 เพราะโดน "หวีด 3" แย่งคนดูวัยรุ่นไป เลยทำรายได้ไปแค่ $2.7M รายรับรวม 17 วัน $16.6M

อันดับ 9 หนังของ Winona Ryder และดาราสมทบ เจ้าของรางวัลลูกโลกทองคำ Angelina Jolie, Girl, Interrupted จาก Sony ทำรายได้ $2.6M รายได้รวมแล้วถึงตอนนี้ $24.9M ส่วน The Talented Mr. Ripley ของผู้กำกับ Anthony Minghella โดย Paramount รั้งท้ายอันดับ 10 ด้วยรายรับ $2.5M รายได้รวมอยู่ที่ $75.6M

หนังอนิเมชั่นยอดฮิตจาก Disney/Pixar, Toy Story 2, หลุดจาก top-10 อีกครั้ง ตกมาอยู่อันดับ 11 ทำรายได้สุดสัปดาห์นี้ไป $2.25M รายได้รวมกวาดไปแล้ว $237.1M ตอนนี้อยู่อันดับ 19 หนังทำเงินสูงสุดตลอดกาลในอเมริกาเหนือ และกำลังจะแย่งอันดับ 18 จาก Ghostbusters ของ Bill Murray และ Dan Akroyd เจ้าของตัวเลข $238.6M เมื่อปี 1984 ในราวสัปดาห์หน้า

หนัง IMAX ของ Disney, Fantasia 2000 รายได้ลดลงจากสุดสัปดาห์ที่แล้วแค่ 1% ทำเงินไปอีก $1.7M เฉลี่ยต่อโรงสุดสัปดาห์นี้ $34,093 รวมรายได้ขณะนี้ $18.9M จากจำนวนแค่ 54 โรงในอเมริกาเหนือ ส่วนในตลาดโลกก็ฉายในจำนวน 75 โรงรวมรายได้ตลอดเดือนมกราคม $24M จากทั่วโลก

หนังตลก Gun Shy จาก Buena Vista เหมือนกัน เปิดตัวด้วยความเงียบเหงา ทำรายได้ไปแค่ $703,109 จากจำนวน 296 โรง หนังนำแสดงโดย Liam Neeson, Oliver Platt, และ Sandra Bullock ที่พ่วงตำแหน่ง producer รายได้เฉลี่ยต่อโรงทำได้แค่ $2,375 เท่านั้น

Simpatico หนัง comedy-drama จาก Fine Line ที่สร้างจากบทละครของ Sam Shepard นำแสดงโดย Nick Nolte, Jeff Bridges, และ Sharon Stone เปิดฉายใน 256 โรง ทำเงินได้แค่ $459,020 เฉลี่ยแล้ว $1,793 เท่านั้น

หนังใหม่สุดสัปดาห์หน้า The Beach ของพระเอก Leonardo DiCaprio จากค่าย Fox เปิดฉาย พร้อมด้วย The Tigger Movie หนังการ์ตูนของ Disney เรื่องราวของ Winnie the Pooh และเสือน้อย Tigger กับผองเพื่อน อีกเรื่องคือ Snow Day หนังตลกของ Chevy Chase จากค่าย Paramount


ตารางรายได้ 20 อันดับหนังทำเงินสุดสัปดาห์ที่ 4 - 6 กุมภาพันธ์ 2543
# Title Feb. 4 - 6 Jan. 28 - 30 % Chg. Theaters Weeks AVG Cumulative Dist.
1 Scream 3 $ 34,713,342     3,467 1 $ 10,013 $ 34,713,342 Miramax
2 The Hurricane 4,940,420 5,701,085 -13.3 2,148 6 2,300 37,559,916 Universal
3 Stuart Little 4,713,252 4,778,048 -1.4 2,702 8 1,744 128,636,752 Sony
4 Next Friday 4,286,355 5,752,715 -25.5 1,420 4 3,019 45,536,739 New Line
5 Eye of the Beholder 4,213,996 5,959,447 -29.3 1,751 2 2,407 12,014,004 Destination
6 The Green Mile 4,017,133 4,022,589 -0.1 2,335 9 1,720 120,403,882 Warner Bros.
7 Galaxy Quest 3,312,708 3,402,102 -2.6 1,939 7 1,708 62,940,730 DreamWorks
8 Down to You 2,707,955 4,019,014 -32.6 2,003 3 1,352 16,551,741 Miramax
9 Girl, Interrupted 2,556,403 3,254,074 -21.4 1,863 7 1,372 24,906,736 Sony
10 The Talented Mr. Ripley 2,488,414 2,780,431 -10.5 1,819 7 1,368 75,610,389 Paramount
11 Toy Story 2 2,254,993 2,341,447 -3.7 1,618 12 1,394 237,113,435 Buena Vista
12 The Cider House Rules 1,934,415 1,751,673 10.4 834 9 2,319 20,587,459 Miramax
13 Fantasia 2000 1,841,001 1,855,056 -0.8 54 6 34,093 18,907,800 Buena Vista
14 Angela's Ashes 1,539,191 1,822,355 -15.5 614 7 2,507 8,636,345 Paramount
15 Magnolia 1,290,415 1,586,327 -18.7 829 8 1,557 19,300,617 New Line
16 The End of the Affair 1,054,011 1,176,105 -10.4 681 10 1,548 8,437,884 Sony
17 Any Given Sunday 1,020,667 1,437,548 -29.0 1,557 7 656 73,866,223 Warner Bros.
18 Play it to the Bone 809,594 1,687,668 -52.0 1,249 3 648 7,720,389 Buena Vista
19 Bicentennial Man 794,701 981,842 -19.1 861 8 923 56,718,027 Buena Vista
20 Snow Falling on Cedars 732,035 905,005 -19.1 800 7 915 12,868,743 Universal


เรียบเรียงจาก : Weekend Box Office โดย Box Office Guru

ข้อมูลเพิ่มเติม :

top