CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGang
เลือกดูกระทู้ใน Cafe         

Box Office สุดสัปดาห์ที่ 19 - 21 มกราคม 2550


สุดสัปดาห์นี้เป็นอีกช่วงที่ Box office ซบเซาที่สุดในรอบปี เหมือนทุกปีที่ผ่านมา (ปกติจะเป็นในช่วงเดือนมกราคม และกันยายนของทุกปี) แชมป์ยังคงอยู่ในมือของหนังเต้นรำ Stomp the Yard ในขณะที่หนังสยองขวัญรีเมค The Hitcher ที่เพิ่งลงโรง กลับได้รับความหมางเมินจากผู้ชม ทั้งที่เป็นหนังใหม่เพียงเรื่องเดียวประจำสุดสัปดาห์

หนังทุนต่ำที่ฮิตเกินคาดของ Sony เรื่อง Stomp the Yard ครองแชมป์ต่อเป็นสุดสัปดาห์ที่สอง ด้วยรายรับ $12.3M ลดลงไป 44% จากสุดสัปดาห์แรกที่เข้าฉาย นับว่าไปได้สวยเนื่องจากหนังวัยรุ่นส่วนใหญ่ รายได้สุดสัปดาห์ที่สองมักจะดิ่งลงหนักหนากว่านี้ หลังจากลงโรงมาสิบวัน หนังกวาดไปแล้ว $40.6M จากทุนสร้างแค่ $14M คาดว่าคงไปได้ถึงประมาณ $65M รายได้เฉลี่ยของ Stomp the Yard สุดสัปดาห์นี้คือ $5,991 จาก 2,051 โรง มีกำหนดเข้าฉายในไทย 14 มิถุนายน

ไล่ตามมาติดๆ ที่อันดับสอง คือหนังตลกผจญภัยยอดฮิตจากค่าย Fox เรื่อง Night at the Museum ที่แสดงนำโดย Ben Stiller สุดสัปดาห์นี้รับไปอีก $12M แผ่วลงไปแค่ 30% เท่านั้น ทำรายได้รวมไปแล้วถึง $204.9M ผ่านหลักสองร้อยล้านได้ในวันเสาร์ กลายเป็นหนังสองร้อยล้านเรื่องที่ 6 ของปี 2006 ไปแล้วเรียบร้อย คาดว่าอีกไม่นาน Night at the Museum จะสามารถทำเงินแซงหน้า The Da Vinci Code ที่ทำไว้ $217.5M และจะกลายเป็นหนังทำเงินสูงสุดอันดับ 4 ในบรรดาหนังที่เข้าฉายในปีที่แล้วไป และคาดว่ารายได้สุดท้ายปลายโปรแกรมของ Night at the Museum น่าจะไปอยู่ที่ราวๆ $240M เฉพาะในอเมริกา หรือราว $450M จากทั่วโลก

ผลจากการคว้าไปถึง 3 รางวัลลูกโลกทองคำ และได้โรงเพิ่มอีก 307 โรง หนังเพลงที่มาแรงสุดๆ ตอนนี้อย่าง Dreamgirls ก็ทำรายได้ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ไป $8M แผ่วลงจากสุดสัปดาห์ที่แล้วแค่ 4% เฉลี่ยต่อโรงออกมา $3,617 จาก 2,214 โรง เป็นการฉายแบบเต็มตัวเป็นสุดสัปดาห์ที่ 4 ผลงานร่วมระหว่าง Paramount/DreamWorks เรื่องนี้ทำรายได้รวมไปแล้วถึง $77.4M และคาดว่าจะสามารถลอยลำผ่านหลักร้อยล้านไปได้แบบสบายๆ ในขณะที่อัดแรงโปรโมทอย่างเต็มเหนี่ยวกว่าเดิม เพื่อลุ้นการประกาศรายชื่อผู้เข้าชิงรางวัลออสการ์ ที่วันอังคารที่จะถึงนี้ ซึ่งคาดว่า Dreamgirls มีลุ้นเข้าชิงรางวัลสำคัญๆ หลายสาขา โดยมีคู่แข่งเจ้าเก่าจากหลายเวทีที่ไปปะทะกันมาแล้วอย่าง The Departed และ Babel

หนังสยองขวัญรีเมค The Hitcher อาจกลายเป็นหนังที่เข้าโรงผิดจังหวะ คือมาตอนที่แฟนหนังกำลังเอียนกับการรีเมคอย่างสุดๆ เลยทำผลงานออกมาได้อย่างน่าผิดหวัง เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกที่อันดับ 4 ด้วยรายได้เพียง $7.8M หนังเรื่องนี้เป็นการรีเมคหนังสยองขวัญยอดฮิตของ Rutger Hauer เมื่อปี 1986 เวอร์ชั่นล่าสุดนี้ทำรายได้เฉลี่ยต่อโรงออกมาแค่ $2,758 จากจำนวนโรงที่ทุ่มไปมากถึง 2,835 โรง (มากที่สุดที่เคยใช้โดย Focus และค่ายย่อยในนาม Rogue Pictures) จากเดิมที่คาดว่าหนังน่าจะไปได้สวยกว่านี้ เพราะไม่มีคู่ปรับแนวเดียวกันในโรงขณะนี้ แต่กลับไปพลาดท่าให้กับม้ามืดอย่าง Stomp the Yard ที่ยังมาแรงอยู่ กับหนังแฟนตาซี Pan's Labyrinth ที่เพิ่มโรงเข้ามาปะทะพอดี

The Hitcher เป็นความล้มเหลวครั้งล่าสุดของ Focus ต่อจากที่ผิดหวังมาแล้วกับ Catch a Fire และ The Return โดยก่อนหน้านั้น Focus ประสบความสำเร็จกับหนังออสการ์ Brokeback Mountain ที่กวาดไปอิ่มหนำสำราญถึง $83M โดยหนังที่เข้าฉายปีที่แล้วและทำรายได้สูงสุดของค่ายนี้ก็คือ Fearless ของ Jet Li ที่รับไป $24.6M

หนังดราม่าคนสู้ชีวิตของ Will Smith เรื่อง The Pursuit of Happyness หล่นมาอยู่อันดับ 5 ด้วยรายได้ $6.3M แผ่วลงไปแค่ 29% จากสุดสัปดาห์ที่แล้ว รายได้รวมขณะนี้อยู่ที่ $146.1M คาดว่าหนังฮิตเรื่องนี้จะทำเงินให้ Sony ไปได้ถึงประมาณ $160M มีกำหนดเข้าฉายในไทย 22 กุมภาพันธ์ ส่วนหนังดราม่านักเรียนของ Paramount ที่แสดงนำโดย Hilary Swank ในเรื่อง Freedom Writers สุดสัปดาห์นี้รับไป $5.2M แผ่วลงไปในอัตราที่พอกันคือ 29% ฉายมา 17 วันทำเงินไปแล้ว $26.5M คาดว่าจะไปจบที่ประมาณ $35-40M ส่วนกำหนดฉายในไทยวางไว้ 26 เมษายน

หนังแฟนตาซีระทึกขวัญที่ใช้ภาษาสเปนของ Guillermo del Toro เรื่อง Pan's Labyrinth จัดจำหน่ายโดย Picturehouse ไต่ขึ้นมาติด top ten จากการเปิดฉายแบบเต็มตัวเสียที หนังทำเงินมาที่อันดับ 7 ด้วยรายได้ $4.5M เฉลี่ยต่อโรงทำตัวเลขได้สูงกว่าทุกเรื่อง ในบรรดาหนังที่ฉายแบบทั่วประเทศคือ $7,393 จากจำนวน 609 โรง รายได้รวมของหนังอยู่ที่ $9.9M ส่วนหนังดราม่าโลกอนาคต Children of Men จากผู้กำกับ Alfonso Cuaron ก็ทำเงินตามมาด้วยรายได้ $3.7M ลดลง 42% จากสุดสัปดาห์ก่อนหน้า ทำรายได้ให้ Universal ไปแล้ว $27.5M

หนังดราม่าจาก Miramax เรื่อง The Queen คว้าไปอีก $3.4M หลังจากที่เพิ่มโรงให้จาก 344 เป็น 1,586 โรง เพื่อตอบรับกระแสผู้ชมที่อยากดูหนังสองรางวัลลูกโลกทองคำ (สาขาผู้แสดงนำหญิงและบทภาพยนตร์) รายได้เฉลี่ยต่อโรงสุดสัปดาห์นี้ทำได้ไม่สูงนักคือ $2,144 เป็นครั้งที่สองที่หนังสามารถขึ้นมาติด top ten หลังจากฉายมา 17 สัปดาห์ แต่รายได้สุดสัปดาห์นี้เป็นตัวเลขที่มากที่สุด รายได้รวมขณะนี้อยู่ที่ $35.6M ปิดท้าย top ten ด้วยหนังแอนิเมชั่นแฟนตาซีของ Luc Besson เรื่อง Arthur and the Invisibles ที่จัดจำหน่ายโดย MGM ที่ทำรายได้ไป $3.1M หรือลดลง 28% จากสุดสัปดาห์ที่แล้ว ทำรายได้รวมไปแล้วขณะนี้ $9.3M

สุดสัปดาห์นี้มีหนังสามเรื่อง โดนเบียดหลุดจาก top ten ไป โดยหนังอาชญากรรมระทึกขวัญจากค่าย Universal เรื่อง Alpha Dog รายได้ร่วงลง 53% ในสุดสัปดาห์ที่สองของการฉาย หลังจากที่ทำเงินไปอีก $3M รวมรายได้ขณะนี้ $11.8M ซึ่งน้อยกว่าเป้าหมาย คาดว่าหนังคงจะไปจบรายได้ที่ตัวเลขประมาณ $15-17M ส่วนหนังสยองขวัญ Primeval ก็ยังไม่ฟื้น จากรายได้ในสุดสัปดาห์ที่สองที่ทรุดลงถึง 69% โดยทำเงินไปอีกเพียง $1.9M หนังทำรายได้ใน Buena Vista ไปแล้วแค่ $9.6M จากที่ฉายมาสิบวัน

"แมงมุมเพื่อนรัก" ของ Paramount เวอร์ชั่นหนังใหญ่ Charlotte's Web ทำรายได้ในสุดสัปดาห์นี้ไป $2.3M หรือลดลง 38% จากสุดสัปดาห์ที่แล้ว รายได้รวมขณะนี้อยู่ที่ $76.8M คาดว่าคงจะไปได้ถึงระดับ $80M Charlotte's Web เปิดตัวในช่วงกลางเดือนธันวาคมปีกลาย ด้วยตัวเลขที่ไม่ถึงครึ่ง ของหนังใหญ่แนวผจญภัยแฟนตาซีอย่าง Eragon ที่ลงโรงปะทะกันในสุดสัปดาห์เดียวกัน แต่เมื่อถึงขณะนี้ นักรบขี่มังกรทำเงินไปได้แค่ $72.3M เท่านั้นเอง

หนังที่ได้รางวัลลูกโลกทองคำ 3 เรื่อง ต่างพากันเพิ่มโรงเพื่อรองรับกระแส โดย Paramount Vantage เพิ่มโรงให้ Babel ที่คว้ารางวัลหนังยอดเยี่ยมประเภทดราม่าไป จาก 173 เป็น 889 โรง ทำรายได้ไปอีก $2.1M รวมรายได้ $23.7M ส่วน Fox Searchlight เพิ่มโรงให้ The Last King of Scotland ที่ Forest Whitaker คว้ารางวัลแสดงนำชายไปครอง จากสี่โรงเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว พรวดเดียวเป็น 495 โรง ทำรายได้ไปถึง $1.6M รายได้รวมกระโดดรวดเดียวจาก $3.7M (หลังจากฉายมา 16 สัปดาห์) เป็น $5.3M ในเวลาไม่กี่วัน ในขณะที่ Warner Bros. เพิ่มโรงให้หนังสงครามของปู่ Clint Eastwood เรื่อง Letters from Iwo Jima จาก 35 เป็น 360 โรง ทำรายได้ไป $1.4M รายได้รวมกระโดดไปเป็น $2.4M ต่อจากนี้ก็เป็นช่วงเวลาลุ้นว่าจะติดโผเข้าชิงออสการ์กันคนละกี่สาขา

สุดสัปดาห์หน้าพบกับ หนังล้อเลียนแบบยำใหญ่ Epic Movie, หนังรัก Catch and Release, หนังสยองขวัญแฟนตาซี Blood and Chocolate และแอ็คชั่นระห่ำเดือดสไตล์อินดี้ Smokin' Aces


ตารางรายได้ 20 อันดับหนังทำเงินสุดสัปดาห์ที่ 19 - 21 มกราคม 2550

# Title Jan 19 - 21 Jan 12 - 14 % Chg. Theaters Weeks AVG Cumulative Distributor










1 Stomp the Yard $ 12,287,352 $ 21,833,312 -43.7 2,051 2 $ 5,991 $ 40,550,946 Sony
2 Night at the Museum 12,012,724 17,162,357 -30.0 3,483 5 3,449 204,852,656 Fox
3 Dreamgirls 8,008,749 8,362,451 -4.2 2,214 6 3,617 77,415,704 Paramount
4 The Hitcher 7,818,239

2,835 1 2,758 7,818,239 Focus
5 The Pursuit of Happyness 6,310,133 8,901,206 -29.1 3,066 6 2,058 146,121,200 Sony
6 Freedom Writers 5,207,062 7,324,853 -28.9 2,286 3 2,278 26,524,683 Paramount
7 Pan's Labyrinth 4,502,243 2,169,002 107.6 609 4 7,393 9,932,414 Picturehouse
8 Children of Men 3,710,945 6,371,335 -41.8 1,524 4 2,435 27,491,508 Universal
9 The Queen 3,400,061 1,111,909 205.8 1,586 17 2,144 35,557,521 Miramax
10 Arthur and the Invisibles 3,080,698 4,294,936 -28.3 2,248 2 1,370 9,272,106 MGM










11 Alpha Dog 2,990,995 6,412,775 -53.4 1,292 2 2,315 11,787,810 Universal
12 Charlotte's Web 2,335,120 3,786,488 -38.3 1,915 6 1,219 76,773,487 Paramount
13 Babel 2,072,412 380,869 444.1 889 13 2,331 23,658,420 Par. Vantage
14 The Good Shepherd 2,050,155 3,708,000 -44.7 1,571 5 1,305 57,602,410 Universal
15 Primeval 1,878,287 6,048,315 -68.9 2,444 2 769 9,594,760 Buena Vista
16 Blood Diamond 1,744,497 2,462,117 -29.1 955 7 1,827 50,627,655 Warner Bros.
17 The Last King of Scotland 1,609,920 16,926
495 17 3,252 5,326,979 Fox Searchlight
18 Rocky Balboa 1,578,171 2,779,180 -43.2 1,450 5 1,088 67,725,170 MGM
19 Happily N'Ever After 1,562,814 3,128,897 -50.1 1,758 3 889 13,918,125 Lionsgate
20 We Are Marshall 1,472,349 2,399,509 -38.6 1,440 5 1,022 41,078,532 Warner Bros.

เรียบเรียงจาก : Weekend Box Office โดย Box Office Guru

ข้อมูลเพิ่มเติม :