หนังภาคต่อยอดฮิตแนวล้อเลียน, Austin Powers : The Spy Who Shagged Me จากสังกัด New Line Cinema ทำรายได้สัปดาห์แรกที่เข้าฉายอย่างเหนือความคาดหมายถึง $54.9M โดยเปิดฉายด้วยจำนวนโรงที่มากเป็นประวัติการณ์ 3,312 โรง รายได้เฉลี่ยต่อโรง $16,581 ซึ่งนับว่าสูงมาก นับเป็นหนังที่เปิดตัวสัปดาห์แรกทำเงินสูงเป็นอันดับ 3 ในประวัติศาสตร์รองจาก The Lost World และ Star Wars: Episode I เจ้าของตัวเลข $72.1M และ $64.8M ตามลำดับ หนังเรื่องนี้เป็นภาคต่อจากหนังฮิตเมื่อต้นเดือนพฤษภาคม ปี 1997, Austin Powers : International Man of Mystery ซึ่งทำเงินสัปดาห์แรกที่เปิดฉายเพียง $9.5M อยู่อันดับ 2 รองจาก Breakdown ที่เปิดตัวในสัปดาห์เดียวกัน ก่อนจะจบโปรแกรมที่รายได้รวม $53.9M ยืนอยู่ใน top-10 ถึง 2 เดือน แล้วย้ายไปกวาดยอดขายจากตลาดวิดิโออย่างเหลือเชื่อ จะเห็นว่าเพียงสุดสัปดาห์แรก หนังภาคต่อเรื่องนี้ก็ทำเงินมากกว่ารายได้ตลอดโปรแกรมของภาคแรกเสียแล้ว (ตามปกติ หนังภาคต่อจะทำเงินได้ในราว 2 ใน 3 ของหนังภาคแรก แต่ที่ทำเงินได้มากกว่าก็เช่น หนังภาคต่อของ Die Hard,Lethal Weapon,Terminator,First Blood และ Ace Ventura) และเมื่อรวมรายรับจากรอบพิเศษเมื่อคืนวันพฤหัส อีก $2.53M รายได้รวมของ Austin Powers : The Spy Who Shagged Me ก็จะเป็น $57.4M เป็นสามเท่าของหนังฮิตเรื่องก่อนของเขาเมื่อปี 1992, Wayne's World ที่ทำไว้ $18.1M เมื่อดูจากรายได้หนังใน top-10 จะเห็นว่า เฉพาะรายรับของAustin Powers : The Spy Who Shagged Me ก็กวาดไปมากพอๆกับหนังอีก 9 เรื่องรวมกันเลยทีเดียว

มาคราวนี้ใน Austin Powers : The Spy Who Shagged Me, Austin Powers ต้องเดินทางย้อนเวลาไปต่อกรกับ Dr. Evil แถมพกด้วยโคลนนิ่ง Mini-Me หนังกำกับโดย Jay Roach อีกเช่นเคย นำแสดงโดย Mike Myers, Robert Wagner,  Seth Green, Heather Graham, Rob Lowe, และ Verne Troyer ใช้ทุนสร้างไปราว $35M เป็นการกำหนดวันฉายได้เหมาะสมอย่างยิ่ง คือเป็นช่วงที่สาวกเจไดเริ่มอ่อนแรง นอกจากนั้นในโปรแกรมก็มีแต่หนังแอ็คชั่น หรือไม่ก็หนังรักๆ และในช่วงนี้ก็ไม่มีหนังแนวตลกเรื่องอื่นมาแย่งส่วนแบ่งการตลาด ผสานกับการได้พันธมิตรทางธุรกิจอย่าง Virgin Atlantic airlines, Heineken beer, รถ Jaguar (เรียกว่า..ล้อเลียน 007 ในหนังยังไม่หนำใจ สปอนเซอร์ยังเอาด้วย), และกาแฟ Starbucks ร่วมด้วย MTV แถมยังมี soundtrack ซึ่งมีเพลงใหม่ของ Madonna และฟันยอดขายไปแล้วร่วม 70,000 ก็อปปี้ ช่วยหนุนอีกต่างหาก

ทีนี้มาดูผลงานของหนังเรื่องนี้บ้าง รายได้ของ Austin Powers : The Spy Who Shagged Me ในสุดสัปดาห์แรกนี้ นับเป็นรายได้หนังที่เปิดตัวได้ดีที่สุดของสถิติหนังที่เปิดฉายในเดือนมิถุนายน เอาชนะแชมป์เก่าเมื่อปี 1995, Batman Forever ที่ทำไว้ $52.8M แล้วก็ยังเป็นแชมป์ใหม่ในจำนวนหนังแนว comedy ที่เปิดตัวแรงที่สุด เอาชนะ The Waterboy ที่ทำไว้ $39.4M นอกจากนี้ก็เป็นอันดับหนึ่งของหนังทำเงินสัปดาห์เปิดตัวจาก New Line Cinema เชือดRush Hour เจ้าของสถิติเก่า $33M และครองสถิติหนังเปิดฉายด้วยจำนวนโรงมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งคือ 3,312 โรง มากกว่าอดีตแชมป์เจ้าของตัวเลข 3,310 จากซัมเมอร์ปีที่แล้ว Godzilla

เท่านั้นยังไม่พอ Austin Powers : The Spy Who Shagged Me ยังครองตำแหน่งอันดับ 3 ในจำนวนหนังทำเงินเปิดตัวในวันศุกร์ ด้วยรายได้ $20.2M เป็นรองแค่ Star Wars: Episode I ($28.5M) และ The Lost World ($21.6M) เฉือนอันดับสามเจ้าเก่าเมื่อปี 1995 Batman Forever ที่ทำไว้ $20M ไปนิดเดียว ตอนนี้พระเอกหนุ่ม Mike Myers เลยติดกลุ่มดาราชายที่มีผลงานหนังตลกทำเงินต่อแถวจาก Jim Carrey, Robin Williams, Eddie Murphy, และคนล่าสุดหมาดๆ Adam Sandler ไปแล้วเรียบร้อย ส่วนยอดขายของอัลบั้ม soundtrack ก็กำลังจะแซง Star Wars: Episode I ในราวสัปดาห์หน้า และก็จะกลายเป็นอัลบั้มประเภท soundtrack ที่ขายดีที่สุดในอเมริกา

สามสัปดาห์ของการครองอันดับหนึ่งผ่านพ้นไป Star Wars: Episode I ก็ถึงเวลาลงจากบัลลังก์มาอยู่อันดับ 2 ซะแล้ว แต่ถึงกระนั้น รายได้สัปดาห์นี้ก็ลดลงเพียง 22% ทำรายได้จากสาวกเจไดไปอีก $25.6M รายได้รวมตอนนี้ $297M คาดว่าจะผ่านหลัก $300M ได้ในวันจันทร์ หรืออย่างช้าก็วันอังคาร ซึ่งเป็นวันที่ 27 หรือ 28 ของการฉาย เอาชนะแชมป์เก่าประเภทสามร้อยล้านเร็วที่สุด Titanic ที่ใช้เวลาถึง 44 วัน จากตัวเลขรายได้รวม $297M (เมื่อสัปดาห์ที่สี่ของ Titanic ทำเงินได้เพียง $197.9M) ทำให้ตอนนี้ Star Wars: Episode I ขึ้นมาอยู่อันดับ 9 ของหนังทำเงินสูงสุดในประวัติศาสตร์ รองจาก Independence Day (1996 - $306.2M) และหนังของ George Lucas เอง The Empire Strikes Back ($290.2M) คาดว่าจะทำเงินได้ถึงประมาณ $400M อย่างค่อนข้างแน่ และทำให้ขึ้นไปติด top-5 ได้อย่างสบายๆ

อันดับสามก็ถูกเลื่อนลงมาจากอันดับสองเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว,Notting Hill ทำรายได้ไป $11.3M รายได้รวมตอนนี้ $67.5M ลดลงเพียง 25% จากสุดสัปดาห์ที่แล้ว หนังฮิตเรื่องนี้ที่นำแสดงโดย Julia Roberts และ Hugh Grant กำลังตามหลังหนังฮิตแนวเดียวกันเมื่อปี 1997, My Best Friend's Wedding เพียง 2.6% ที่แสดงโดย Julia Roberts เช่นกัน ก่อนที่จะไปจบโปรแกรมที่ตัวเลขรายรับ $126.8M คาดว่า Notting Hill คงจะทำเงินได้ราวๆ $110-120M ทำให้เธอมีหนังทำเงินระดับร้อยล้านขึ้นไปถึง 6 เรื่อง มากกว่านางเอกทุกคนในฮอลลีวู๊ดเลยทีเดียว

อันดับ 4 เป็นหนังที่ถูกเลื่อนลงมา 1 อันดับเช่นกันInstinct หนังทริลเลอร์จิตวิทยาทุนสร้าง $57M ที่นำแสดงโดยสองดาราออสการ์ Anthony Hopkins และ Cuba Gooding Jr. รายได้ลดลง 34% ทำเงินไป $6.8M รวมรายได้สิบวันทำเงินไปแล้ว $21.3M คาดว่าคงไปได้ไกลสุดเพียง $40M ออกฉายตอนนี้ก็เลยแย่หน่อย

The Mummy โดนเลื่อนลงมา 1 อันดับเช่นกัน สัปดาห์นี้ตกมาอยู่อันดับ 5 รายได้ลดลงเพียง 26% ทำเงินสัปดาห์นี้ไป $5.5M รายได้รวมอยู่ที่ $136.2M คาดว่าคงปิดบัญชีที่ตัวเลขประมาณ $155M จากทุนสร้าง $80M ส่วนอันดับ 6 ก็คืออันดับ 5 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Entrapment รายได้ลดลงเพียง 28% เก็บไปอีก $2.7M รายได้รวมอยู่ที่ $79.4M คาดว่าจะไปหยุดที่ตัวเลข $90M, อันดับ 7 คือสัปดาห์ที่ 11 ของหนังฮิต The Matrix รายได้ลดลงแค่ 24% เก็บไปอีก $1.9M รายได้รวมกวาดไปแล้ว $161.4M คงจบโปรแกรมที่ตัวเลขประมาณ $170M

อันดับ 8 เป็นหนังแนว sci-fi thriller จาก SonyThe Thirtheenth Floor ทำรายได้ไป $1.2M, ลดลง 39%, รวมรายได้ 17 วันทำเงินไปแค่ $9.7M, อันดับ 9 คือ Tea With Mussolini ที่รายได้เพิ่มจากสัปดาห์ที่แล้วเล็กน้อย ทำเงินไปอีก $0.79M รายได้รวมแล้ว $7.7M, อันดับ 10 Never Been Kissed ที่ยังเหนียวแน่น รายได้ลดลงไป 40% ได้ไปอีก $0.70M รายได้รวม $51.9M

ที่หลุดจากสิบอันดับไปก็คือ Election ตกไปอยู่อันดับ 12 รายได้รวมแล้ว $13.2M, A Midsummer Night's Dream ตกไปอยู่อันดับ 11 รายได้รวม $14.3M

หนังที่ฉายแบบชิมลางคือ The Red Violin หนังดราม่าจาก Lions Gate กำกับโดย Francois Girard นำแสดงโดย Samuel L. Jackson, Don McKellan, และ Carlos Cecchi เป็นเรื่องของไวโอลินที่ถูกเปลี่ยนมือไปในหลายประเทศนานถึง 300 ปี ทำเงินไป $84,265 จากเพียง 7 โรงใน New York และ Los Angeles รายได้เฉลี่ยต่อโรงสูงถึง $12,038 ศุกร์หน้าจะได้โรงเพิ่มเป็น 30 โรงและเป็น 250 โรงในสุดสัปดาห์ถัดไป

หนังใหม่สัปดาห์หน้า ผู้ท้าชิง Austin Powers เป็นหนังอนิเมชั่นเรื่องล่าสุดจากดิสนี่ย์,Tarzan มาพร้อมกับหนังใหม่แนวทริลเลอร์ของ John Travolta ที่เลื่อนหลบมา 1 สัปดาห์,The General's Daughter