Box Office สุดสัปดาห์ที่ 1 - 3 ตุลาคม 2542

สัปดาห์นี้ Double Jeopardy ยังคงมาแรงโดยครองอันดับหนึ่ง box office เป็นสัปดาห์ที่สอง หนังใหม่ของ George Clooney, Three Kings ถึงแม้จะทำเงินเป็นกอบเป็นกำ แต่ก็ยังไม่มากพอที่จะโค่นแชมป์เก่าได้ ส่วนหนังใหม่เรื่องอื่นๆก็พาเหรดกันเข้าสู่ top-10 อย่างทั่วหน้า แต่ American Beauty ที่เปิดฉายชิมลางมาล่วงหน้า และได้โรงฉายเพิ่ม ก็ยังทำรายได้ดีมาก สมกับที่ถูกยกให้เป็นตัวเก็งรางวัลออสการ์ปีนี้

Ashley Judd และ Tommy Lee Jones กับหนังทริลเลอร์แนวอาชญากรรมของทั้งสอง ด้วยทุนสร้าง$40M จาก Paramount, Double Jeopardy ยังคงอยู่อันดับหนึ่ง box office จากการฉายสัปดาห์ที่สอง ทำรายได้สัปดาห์นี้ไป $17.02M ลดลงแค่ 26.5% จากสัปดาห์ที่แล้ว รวมรายได้จากการเปิดฉายมาแล้ว 10 วันทำเงินไปแล้ว $47.23M สัปดาห์นี้ได้โรงเพิ่มอีก 337 โรงจาก 2,547 เป็น 2,884 โรง รายได้เฉลี่ยต่อโรงคือ $5,901 หรือลดลงไป 35% จากรายได้เฉลี่ย $9,094 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เป็นเรื่องของหญิงสาวผู้ต้องติดคุกถึง 6 ปีเพราะต้องคดีฆาตกรรมสามีของตัวเอง เธอจึงกลับมาแก้แค้นหลังจากออกจากคุก เมื่อพบว่าสามีเธอยังไม่ตาย และกำลังเสวยสุขอยู่ เป็นบทนำที่ Jodie Foster จำใจปฏิเสธไปเพราะตั้งครรภ์พอดี Ashley Judd จึงเข้ามารับบทนี้ไปแทน หนังได้รับความสนใจจากผู้ชมสูงพอสมควร เนื่องมาจากแผนการโปรโมทที่ยอดเยี่ยมของค่ายดาวภูเขา คาดว่าหนังจะทำเงินไปถึงระดับประมาณ $90-100M

อันดับสองเป็นหนังที่ใช้สงครามอ่าวเปอร์เซียเป็นฉากหลัง, Three Kings ทุนสร้าง $50M จากค่าย Warner Bros. นำแสดงโดย George Clooney, Mark Wahlberg และ Ice Cube ในบททหารที่พยายามขโมยทองคำในอิรักจาก Saddam Hussein หนังกำกับโดย David O. Russell (Spanking the Monkey, Flirting With Disaster) เปิดฉายเป็นสัปดาห์แรกจากจำนวน 2,942 โรงซึ่งมากที่สุดในบรรดาหนังที่เคยเปิดฉายในเดือนตุลาคม ทำรายได้ไป $15.85M ซึ่งสูงเป็นอันดับสามของหนังที่เปิดตัวในเดือนนี้ รายได้เฉลี่ยต่อโรง $5,387 อยู่ในเกณฑ์พอใช้ได้ นักวิจารณ์ให้คะแนนหนังเรื่องนี้ในทางชื่นชม และทางสังกัด Warner Bros. ก็เสริมแรงส่งด้วยการอัดโปรโมชั่นอย่างเต็มที่ เป็นหนังของ George Clooney ที่เปิดตัวได้งดงามที่สุด (ไม่นับหนังชุด Batman & Robin) ดีกว่า The Peacemaker (เปิดตัวด้วยรายได้ $12.3M), Out of Sight (รายได้สุดสัปดาห์แรก $12M), และ From Dusk Till Dawn ($10.2M ในสุดสัปดาห์แรก) ส่วนรายได้หนังที่ผ่านมาของ Mark Wahlberg คือ $10.8M จากสุดสัปดาห์แรกของ The Big Hit เมื่อปีที่แล้ว และ $5.8M จาก The Corruptor ที่ประกบกับโจวเหวินฟะ ทางด้าน Ice Cube เคยนำแสดงใน The Player's Club และ Anaconda ทำรายได้สุดสัปดาห์แรกไป $5.9M และ $16.6M ตามลำดับ

DreamWorks ยังคงปลื้มกับความสำเร็จของ American Beauty หนังแนว dark romantic comedy หรือโรแมนติกแบบตลกร้าย นำแสดงโดย Kevin Spacey และ Annette Bening ที่ได้โรงเพิ่มจาก 429 เป็น 706 โรง และไต่จากอันดับ 5 เมื่อสัปดาห์ที่แล้วมาอยู่อันดับ 3 ทำรายได้ไปถึง $8.2M รายได้เฉลี่ยต่อโรงสูงถึง $11,599 (จากสัปดาห์ที่แล้วเฉลี่ย $13,845) นับเป็นผลสำเร็จจากการเล็งผลเลิศของ DreamWorks ที่ใช้กลยุทธค่อยๆเพิ่มโรงฉาย รายได้รวมขณะนี้กวาดไปแล้ว $18.4M และสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้จะได้เพิ่มโรงเป็นกว่า 1,200 โรง

Blue Streak ของ Martin Lawrence จากค่าย Sony ร่วงจากอันดับสองเมื่อสัปดาห์ที่แล้วมาอยู่อันดับ 4 ทำรายได้ไป $8M จากการฉายเป็นสัปดาห์ที่ 3 รายได้ลดลง 36% อยู่ในเกณฑ์ปกติ ฉายมาแล้ว 17 วันทำเงินไปแล้ว $47.7M คงจะไปได้ถึงประมาณ $70M

หนังทำเงินสูงสุดอันดับ 2 ของปีนี้, The Sixth Sense นำโดย Bruce Willis รายได้ลดลงแค่ 17% จากการฉายสัปดาห์ที่ 9 แล้ว ทำรายได้ไปอีก $7.02M ทำให้ยอดรายได้รวมขยับไปอยู่ที่ $234.5M โค่น The Lost World เมื่อปี 1997 ที่ทำได้ $229M และจวนเจียนจะแซง Beverly Hills Cop หนังที่ทำให้ Eddie Murphy ได้แจ้งเกิดในฮอลลีวู๊ดเมื่อเดือนธันวาคมปี 1984 ที่ทำรายได้รวมไว้ $234.8M เพื่อขึ้นมาอยู่อันดับ 18 หนังทำเงินสูงสุดตลอดกาลในอเมริกาเหนือ ส่วนอันดับ 17 ที่กำลังจะโดนแซงหน้าเป็นรายต่อไปก็คือ Ghostbusters เมื่อเดือนมิถุนายน 1984 เหมือนกัน ทำรายได้ไว้ $238.6M

หนัง romantic comedy วัยเรียนทุนสร้างไม่มากมายนักจาก Fox, Drive Me Crazy เปิดฉายสัปดาห์แรกอยู่อันดับ 6 ทำรายได้ $6.85M นำแสดงโดย Melissa Joan Hart จากหนังทีวียอดฮิต Sabrina the Teenage Witch, Drive Me Crazy เปิดตัวในจำนวน 2,222 โรง ทำรายได้เฉลี่ยไปแบบงั้นๆแค่ $3,081 ต่อโรง ทั้งที่เป็นหนังวัยรุ่นเพียงเรื่องเดียวในช่วงนี้ แถมยังมีเพลงประกอบหนังจาก Britney Spears อีกด้วย แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จแบบหนังแนวเดียวกันเรื่องก่อนๆ คือ Varsity Blues (สัปดาห์แรก $15.2M, รายได้รวม $52.9M), She's All That (สัปดาห์แรก $16.1M, รายได้รวม $63.4M), Ten Things I Hate About You (สัปดาห์แรก $8.3M, รายได้รวม $38.2M), Never Been Kissed (สัปดาห์แรก $11.8M, รายได้รวม $55.5M), และAmerican Pie (สัปดาห์แรก $18.7M, รายได้รวม $101.2M และยังคงฉายอยู่)

Kevin Costner เริ่มแรงตกจากหนังเรื่องล่าสุด, For Love of the Game ทุนสร้าง $50M โดย Universal หล่นจากอันดับ 4 มาอยู่ 7 รายได้ร่วงลงไปถึง 45% จากการฉายเป็นสัปดาห์ที่สาม หนังทำรายได้สัปดาห์นี้ไป $3.55M ยอดรายได้รวมคือแค่ $28.4M จาก 17 วัน คาดว่าจะจบเกมที่ตัวเลขประมาณ $35-40M

หุ่นมหาสนุกเพิ่งออกจอเงินไปแล้วแบบน่าผิดหวังจาก Muppets From Space คราวนี้ก็ถึงคิวของ Sesame Street บ้าง, The Adventures of Elmo in Grouchland จาก Sony เปิดฉายสัปดาห์แรกอยู่อันดับที่ 8 ทำรายได้ไปแบบจุ๋มจิ๋ม $3.25M จากจำนวน 1,210 โรง รายได้เฉลี่ยต่อโรงแค่ $2,690 เท่านั้นเอง

Buena Vista เปิดตัวหนังเรื่องใหม่เกี่ยวกับกีฬาฮ็อกกี้น้ำแข็งแนว drama-comedy ทุนสร้าง $32M, Mystery, Alaska อยู่อันดับ 9 ทำรายได้ไปแค่ $3.1M จากสัปดาห์แรก หนังเขียนบทและโปรดิวซ์โดย David E. Kelley กำกับโดย Jay Roach จาก Austin Powers ร่วมแสดงโดย Russell Crowe, Hank Azaria, และ Burt Reynolds ทำรายได้เฉลี่ยไปแค่ $1,854 จาก 1,673 โรง

Stigmata หนังแนว supernatural thriller จาก MGM ร่วงจากอันดับ 6 เมื่อสัปดาห์ที่แล้วมาอยู่อันดับ 10 ทำรายได้ไป $2.36M ลดลงถึงครึ่งหนึ่งจากสัปดาห์ที่แล้ว ยอดรายได้รวมอยู่ที่ $44.3M จาก 4 สัปดาห์

หนังที่โดนหนังเข้าใหม่เบียดตกจาก top-10 ไปมี 4 เรื่องคือ Stir of Echoes จาก Artisan นำโดย Kevin Bacon ตกจากอันดับ 7 ไป 11 ทำรายได้ไปอีก $1.23M รายได้รวมอยู่ที่ $17.7M คาดว่าจะจบโปรแกรมที่ตัวเลขราวๆ $20M , Runaway Bride ทุนสร้าง $70M จากค่าย Paramount นำแสดงโดย Julia-Roberts และ Richard Gere ตกจากอันดับ 10 ไป 13 ทำรายได้สุดสัปดาห์นี้ไป $0.95M รวมรายได้จนถึงวันนี้ $148M จาก 10 สัปดาห์ คาดว่าจะไปได้ถึง $150-152M เฉพาะในอเมริกาเหนือ

แค่สัปดาห์ที่สองเท่านั้น Jakob the Liar และ Mumford ที่เพิ่งเปิดฉายหมาดๆเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้วก็ดิ่งลงอย่างหนัก โดย Jakob the Liar จาก Sony ที่นำแสดงโดย Robin Williams ตกไปอยู่อันดับ 12 ทำรายได้สัปดาห์นี้ไปแค่ $1M รวม 10 วันทำรายได้ไปเพียง $3.73M เท่านั้น คาดว่าจะไปได้อย่างมากราวๆ $6M , ส่วน Mumford จาก Buena Vista ที่ลงทุนสร้าง $29M ตกไปอยู่อันดับ 14 ทำรายได้ไปแค่ $0.88M รวมรายได้จากสิบวัน ได้ไปเพียง $3.4M คาดว่ายอดรวมรายได้คงจะประมาณ $5-6M เหมือนกัน

Star Wars: Episode I ของ George Lucas ทำรายได้ผ่านหลัก $425M ไปแล้วเมื่อวันเสาร์ และคาดว่าจะทำรายได้ถึง $825M จากรายได้ทั่วโลกในสัปดาห์หน้านี้ เพื่อจะยึดอันดับ 3 หนังทำเงินทั่วโลกสูงสุดตลอดกาลจาก Independence Day ($813.2M) และจะผ่านหลัก $900M ปลายฤดูใบไม้ผลินี้แน่นอน เพื่อแซง Jurassic Park ขึ้นครองอันดับสองต่อไป

USA Films เปิดฉายหนังเล็กๆแนวพีเรียดเรื่องใหม่ Plunkett and Macleane, นำแสดงโดย Robert Carlyle และ Liv Tyler, ด้วยจำนวน 475 โรง ทำรายได้ไป $244,765 ทำรายได้เฉลี่ยไปอย่างน่าผิดหวังเพียง $515 ต่อโรง ส่วนหนังของ Miramax ที่ได้รับความฮือฮามาแล้วจากเทศกาล Sundance, Happy, Texas นำแสดงโดย Steve Zahn เปิดฉายแค่ 8 โรง ทำรายได้ไป $72,056 หรือเฉลี่ย $9,007 ต่อโรง

หนังเข้าใหม่สุดสัปดาห์หน้า Random Hearts จากผลงานสร้างของ Columbia/Mirage/Rastar จัดจำหน่ายโดย Sony นำแสดงโดย Harrison Ford และ Kristin Scott Thomas อีกเรื่องคือ Superstar หนังตลกจาก Saturday Night Live จัดจำหน่ายโดย Paramount เปิดฉาย

เรียบเรียงจาก : Weekend Box Office โดย Box Office Guru

ข้อมูลเพิ่มเติม :

• VARIETY.COM - Domestic Box Office
• Entertainment Insiders: Weekend Gross
• Cinema1: Weekend Box Office
• ShowBIZ Daily Box Office Report
• Box Office News: ACNielsen EDI
• Box Office สุดสัปดาห์ย้อนหลัง