Box Office สุดสัปดาห์ที่ 12 - 14 กันยายน 2546
(updated ประมาณบ่ายวันอังคารของทุกสัปดาห์)


สองนักแสดงนำระดับแม่เหล็ก Antonio Banderas, Johnny Depp และผู้กำกับคนขยัน Robert Rodriguez ประสานมือกันครั้งนี้ ส่งให้ภาค 3 ของหนังแอ็คชั่นลีลาเท่เรื่อง Once Upon a Time in Mexico ครองแชมป์รายได้ประจำสัปดาห์นี้ไป ส่วนหนังใหม่ของ Nicolas Cage เรื่อง Matchstick Men และหนังสยองขวัญ Cabin Fever เปิดตัวได้อย่างไม่มีปัญหา ได้เงินกันไปอย่างสมน้ำสมเนื้อ..

Once Upon a Time in Mexico เปิดฉายสัปดาห์แรกเก็บไปถึง $23.4M (เป็นหนังอันดับหนึ่ง Box Office เรื่องที่ 7 ในปีนี้ของค่าย Sony) โดยทำรายได้เฉลี่ยต่อโรงออกมา $7,137 จากจำนวน 3,282 โรง หนังเรื่องนี้เป็นภาคต่อของหนังฮิตเมื่อปี 1995 เรื่อง Desperado ซึ่งต่อเนื่องมาจากหนังอาร์ตทุนต่ำเรื่อง El Mariachi อีกทีหนึ่ง ทั้งสามเรื่องกำกับโดย Robert Rodriguez หนังภาคสามเรื่องนี้ ร่วมแสดงโดย Salma Hayek, Cheech Marin, Willem Dafoe และ Enrique Iglesias รายได้เปิดตัวของหนังสูงเป็นอันดับสาม ของหนังที่เปิดตัวในเดือนกันยายน รองจาก Sweet Home Alabama ($35.6M เมื่อปีที่แล้ว) และ Rush Hour ($33M เมื่อปี 1998) แต่ทั้งสองเรื่องได้เรต PG-13 ในขณะที่ Once Upon a Time in Mexico ติดเรต R ที่ผู้ชมบางกลุ่มวัยถูกกรองไปก่อนหน้าแล้ว

แม้ว่า Once Upon a Time in Mexico จะทิ้งช่วงจากภาคที่แล้วคือ Desperado นานหลายปี แต่แฟนๆ หนังสไตล์นี้ก็ยังมาอุดหนุนกันอุ่นหนาฝาคั่งเช่นเคย แปดปีที่แล้ว Desperado ทำรายได้รวมไป $25.5M จัดว่าฮิตในระดับกลางๆ แต่โดดเด่นด้วยลีลาเท่ๆ ทำให้หนังไปได้รับความนิยมสูงมาก ในตลาดวิดีโอเทปและทางเคเบิ้ลทีวี นอกจากนั้น แรงส่งจากหนังผจญภัยที่กำลังฮิตอย่าง Pirates of the Caribbean: The Curse of the Black Pearl ที่มี Johnny Depp รับบทโจรสลัดสุดหล่อ และความแรงของหนังเรื่องก่อนหน้า ของผู้กำกับและนักแสดงนำอย่าง Antonio Banderas จากหนังครอบครัวเรื่อง Spy Kids 3-D ที่ออกสตาร์ทไปก่อนเมื่อไม่ถึงสองเดือนที่ผ่านมา ยิ่งทำให้หนังเรื่องนี้ได้รับความสนใจจากผู้ชมอย่างมากมาย Once Upon a Time in Mexico มีกำหนดลงโรงในไทย 21 พฤศจิกายนนี้

หนังใหม่แนวตลก ติดเรต PG-13 ของ Nicolas Cage ในบทนักต้มตุ๋นที่เพิ่งรู้ว่าตนเองมีลูกสาวใน Matchstick Men ที่จัดจำหน่ายโดย Warner Bros. เปิดตัวด้วยรายได้ $13.1M รายได้เฉลี่ยต่อโรงออกมา $4,827 จากจำนวน 2,711 โรง หนังเรื่องนี้กำกับโดยผู้กำกับคนดัง Ridley Scott โดยมี Sam Rockwell และ Alison Lohman ร่วมแสดง หนังได้รับความเห็นในแง่บวกจากนักวิจารณ์ มีกำหนดลงโรงในไทยสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้เอง (19 กันยายน) ไม่ต้องรอนาน

อันดับ 3 หนังสยองขวัญทุนต่ำติดเรต R จากค่าย Lions Gate เรื่อง Cabin Fever เกี่ยวกับไวรัสกินเนื้อคนที่นักศึกษากลุ่มหนึ่งต้องพบ หนังเปิดตัวด้วยรายได้ $8.6M จากจำนวน 2,087 โรง เฉลี่ยต่อโรงอยู่ในระดับดีคือ $4,137 ก่อนหน้านี้ หนังสยองขวัญไวรัสอย่าง 28 Days Later เปิดตัวไปเมื่อเดือนมิถุนายน ด้วยรายได้ $10.1M เฉลี่ยต่อโรง $7,986

แชมป์ Box Office สุดสัปดาห์ที่แล้ว Dickie Roberts: Former Child Star จาก Paramount ที่เขียนบทและแสดงนำโดยดาวตลก David Spade (Joe Dirt) ยังคงไปได้สวยในสัปดาห์ที่สอง รายได้แผ่วลงไปเพียง 24% ได้ไปอีก $5M รวมสิบวันเก็บไปแล้ว $12.9M

สัปดาห์ที่สิบของหนังผจญภัยจาก Disney เรื่อง Pirates of the Caribbean: The Curse of the Black Pearl ยังไปได้ดีเช่นเคย ทำรายได้ออกมาอีก $4.5M ลดลงจากสัปดาห์ที่แล้วเพียงแค่ 15% ซึ่งน้อยกว่าทุกเรื่องใน top ten รายได้รวมขณะนี้อยู่ที่ $287.9M ขึ้นไปครองอันดับ 18 บนตารางหนังทำเงินสูงสุดตลอดกาลในอเมริกาเหนือ เขี่ยเจ้าหนูโดดเดี่ยว Home Alone เมื่อปี 1990 ที่ทำสถิติไว้ $285.8M ไปอยู่อันดับ 19 แทน

ส่วนหนังทำเงินอีกเรื่องของ Disney คือ Freaky Friday ที่แสดงโดย Jamie Lee Curtis และ Lindsay Lohan ก็ยังไปได้ดีเยี่ยมเช่นกัน รายได้ทะลุผ่านหลักร้อยล้านไปเรียบร้อย เป็นเรื่องที่ 18 ของปีนี้ โดยทำเงินไปอีก $4.1M ลดลงจากสัปดาห์ที่แล้วเพียง 19% ฉายมา 6 สัปดาห์เก็บไปแล้วสบายๆ $102M จะลงโรงในไทย รับวันฮัลโลวีน 31 ตุลาคมนี้

หนังสยองขวัญภาคต่อจาก MGM เรื่อง Jeepers Creepers 2 เก็บไป $3M ลดลงจากสัปดาห์ที่แล้ว 54% รายได้รวมทำไป $31.9M จาก 3 สัปดาห์ ตามด้วยหนังดราม่าประทับใจจากค่าย Universal เรื่อง Seabiscuit ได้ไปอีก $2.8M ลดลงจากสัปดาห์ที่แล้วเพียง 26% รายได้รวมอยู่ที่ $113.6M จาก 8 สัปดาห์ ตามด้วยหนังแอ็คชั่นจาก Sony เรื่อง S.W.A.T. เก็บไปอีก $2.7M รายได้รวมเท่ากับ $112.8M ใน 6 สัปดาห์ มีโปรแกรมจะลงโรงในไทยสุดสัปดาห์นี้ ส่วนหนังคาวบอยจาก Kevin Costner เรื่อง Open Range รายได้แผ่วลง 36% ทำเงินไป $2.7M รวมยอดรายได้ $53.5M จาก 5 สัปดาห์

ทางด้านหนังที่ฉายแบบจำกัดโรงสัปดาห์นี้ หนังดราม่าของ Bill Murray เรื่อง Lost in Translation ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม จากการเปิดฉายใน 23 โรง แต่เก็บไปได้ถึง $925,087 เฉลี่ยต่อโรงสูงลิ่วถึง $40,221 หนังเรื่องนี้กำกับโดย Sofia Coppola (The Virgin Suicides) จัดจำหน่ายในนาม Focus Features ส่วนหนังตลกของเจ้าของรางวัลออสการ์ Adrien Brody เรื่อง Dummy ผู้จัดจำหน่ายคือ Artisan เปิดฉายหนังในจำนวน 5 โรง ทำเงินไป $30,120 เฉลี่ยต่อโรงทำได้ $6,024

แต่ที่ไม่ประสบความสำเร็จก็คือ หนังแอนิเมชั่นระดับรางวัลจากญี่ปุ่น Millennium Actress จัดจำหน่ายในนาม Go Fish ค่ายใหม่เอี่ยมในเครือ DreamWorks ทำเงินไปเพียง $18,732 จากจำนวน 6 โรง เฉลี่ยต่อโรงทำได้แค่ $3,122

Buena Vista เปิดรอบพิเศษหนังดราม่าที่แสดงนำโดย Diane Lane เรื่อง Under the Tuscan Sun ได้รับความสนใจจากผู้ชมกลุ่มผู้ใหญ่ ความเห็นต่อหนังออกมาในแง่บวก โดยหนังจะเข้าฉายในระดับ 1,200 โรง ตั้งแต่สุดสัปดาห์ที่ 26 กันยายนนี้

หนังสามเรื่องที่หลุดจาก top ten ไปก็คือ Uptown Girls หนังตลกจาก MGM แสดงนำโดย Brittany Murphy และ Dakota Fanning รายได้ร่วงลง 43% ได้ไปอีก $1.4M ฉาย 5 สัปดาห์ทำรายรับออกมา $35.5M จากทุนสร้างไม่ถึง $20M, หนังแอ็คชั่นสยองขวัญ Freddy vs. Jason ร่วงลงไป 57% เก็บไปอีก $1.4M ฉายมา 5 สัปดาห์เท่ากัน ทำเงินให้ New Line ไปแล้ว $80.5M จากทุนสร้าง $30M อีกเรื่องคือหนังระทึกขวัญจาก Fox ที่แสดงโดย Heath Ledger เรื่อง The Order ร่วงลงในสัปดาห์ที่สองของการฉายถึง 74% เก็บไปอีก $1.1M รวมสิบวันได้เงินกลับไปเพียง $6.8M

สุดสัปดาห์หน้า หนังใหม่มากันเพียบ ได้แก่ Underworld โรมิโอ-จูเลียต ฉบับแวมไพร์กับมนุษย์หมาป่า แสดงนำโดย Kate Beckinsale และ Scott Speedman, Cold Creek Manor หนังระทึกขวัญแสดงนำโดย Dennis Quaid, Sharon Stone, Stephen Dorff, Juliette Lewis เรื่องของเจ้าของบ้านที่ออกจากคุก มาทวงบ้านคืนจากครอบครัวชาวเมือง ที่เพิ่งย้ายมาอยู่ในบ้านในฝันหลังนั้น, The Fighting Temptations หนังตลก/เพลง แสดงนำโดย Cuba Gooding Jr., Beyonce Knowles, Mike Epps กำกับโดย Jonathan Lynn (The Whole Nine Yards), Secondhand Lions หนังดราม่าแสดงนำโดย Haley Joel Osment, Michael Caine, Robert Duvall และหนังรัก/ตลก Anything Else จาก DreamWorks เขียนบทและกำกับโดย Woody Allen แสดงนำโดย Jason Biggs, Christina Ricci, Woody Allen, Stockard Channing, Glenn Close, Danny DeVito


ตารางรายได้ 20 อันดับหนังทำเงินสุดสัปดาห์ที่ 12 - 14 กันยายน 2546

# Title Sep 12 - 14  Sep 5 - 7  % Chg.  Theaters  Weeks  AVG  Cumulative  Distributor
1 Once Upon A Time in Mexico $ 23,424,118 3,282  1 $ 7,137  $ 23,424,118 Sony
2 Matchstick Men 13,087,307 2,711  1 4,827  13,087,307 Warner Bros. 
3 Cabin Fever 8,633,585 2,087  1 4,137  8,633,585 Lions Gate 
4 Dickie Roberts 5,042,028 6,660,540 -24.3 2,083  2 2,421  12,871,357 Paramount
5 Pirates of the Caribbean 4,506,400 5,271,528 -14.5 2,029  10 2,221  287,884,372 Buena Vista 
6 Freaky Friday 4,061,689 5,040,247 -19.4 2,567  6 1,582  101,971,030 Buena Vista 
7 Jeepers Creepers 2 3,019,860 6,562,008 -54.0 2,784  3 1,085  31,865,481 MGM
8 Seabiscuit 2,754,615 3,705,320 -25.7 2,102  8 1,310  113,606,750 Universal
9 S.W.A.T. 2,708,563 4,570,388 -40.7 2,062  6 1,314  112,791,312 Sony
10 Open Range 2,706,853 4,202,447 -35.6 2,063  5 1,312  53,482,017 Buena Vista 
11 Uptown Girls 1,403,912 2,466,987 -43.1 1,425  5 985  35,496,283 MGM
12 Freddy vs. Jason 1,387,720 3,243,261 -57.2 1,577  5 880  80,539,099 New Line 
13 The Order 1,140,136 4,438,899 -74.3 1,975  2 577  6,845,194 Fox
14 American Wedding 1,137,375 2,195,325 -48.2 1,011  7 1,125  102,486,890 Universal
15 Lost in Translation 925,087  23  1 40,221  925,087  Focus
16 American Splendor 840,774  580,938  44.7 272  5 3,091  3,871,437 Fine Line 
17 The Medallion 835,165  2,183,244 -61.7 990  4 844  21,252,540 Sony
18 The Italian Job 791,525  1,754,500 -54.9 980  16 808  104,733,456 Paramount
19 Finding Nemo 636,935  804,150  -20.8 624  16 1,021  334,702,727 Buena Vista 
20 Whale Rider 632,224  893,391  -29.2 492  15 1,285  19,100,089 Newmarket

เรียบเรียงจาก : Weekend Box Office โดย Box Office Guru

ข้อมูลเพิ่มเติม :

top