Official website
more info. from IMDB
แนว : sci-fi / ดราม่า / โรแมนติก
ความยาว : 130 นาที
กำหนดฉาย 28 มกราคม 2543

 

 

 

 

 

 

 

 

ในศตวรรษแรกของสหัสวรรษใหม่ ความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีของโลกนั้น ไล่ตามทันอารมณ์ความรู้สึกนึกคิด ของมนุษย์เสียแล้ว ริชาร์ด มาร์ติน (แซม นีลล์) ได้ซื้อของขวัญหนึ่งชิ้น เป็นหุ่นยนต์รุ่นใหม่ NDR-114 ของขวัญชิ้นนี้ถูกตั้งชื่อว่า แอนดรูว์ (โรบิน วิลเลียมส์) โดยลูกคนเล็กของครอบครัว

Bicentennial Man ของ Columbia Pictures/Touchstone Pictures นั้นบอกเล่าเรื่องราวในช่วงชีวิตของ แอนดรูว์ หุ่นยนต์ที่ถูกซื้อมาเป็นของใช้ประจำบ้าน ที่ถูกตั้งโปรแกรมมาให้ทำงานเป็นคนรับใช้ของมนุษย์ เมื่อแอนดรูว์เริ่มรับรู้ถึงอารมณ์ และมีความคิดสร้างสรรค์ต่างๆของตนเอง ครอบครัวมาร์ตินก็รู้อย่างรวดเร็วว่า พวกเขาไม่ได้มีหุ่นยนต์ธรรมดาๆอยู่ในบ้านเสียแล้ว

Bicentennial Man นั้นบอกเล่าเรื่องราวที่กินเวลาสองศตวรรษ อันเป็นระยะเวลาที่ตั้งเป้าไว้ของสิ่งๆหนึ่ง ที่ต้องการเรียนรู้ทุกอย่างเท่าที่เขาจะทำได้ เกี่ยวกับความสับสนอลหม่านของมนุษย์, ชีวิต และความรัก ในความพยายามของเขา แอนดรูว์ หุ่นรุ่นยอดนิยม ได้เป็นผู้สอนมากพอๆกับที่เป็นผู้เรียน เขาแสดงให้โลกได้เห็นว่า ต้องเปิดตาและเปิดใจอย่างไร เพื่อเปิดรับบุคคลอื่นๆ ที่ร้องขอการยอมรับนั้น ด้วยความเมตตาการุณย์

แอนดรูว์นั้นดูเหมือนจะเป็นหุ่นยนต์ทั่วๆไป ก่อนที่เขาจะมานั้น บ้านตระกูลมาร์ตินนั้นมีสมาชิกทั้งสิ้นสี่คน ได้แก่ ริชาร์ด มาร์ติน ซึ่งแอนดรูว์เรียกด้วย ความเคารพอย่างสูงว่า ท่าน (Sir) , ภรรยาของเขาที่เรียกง่ายๆ ว่า คุณผู้หญิง (Ma'am) และลูกของพวกเขาอีกสองคน เกรซ และอแมนดาซึ่งเขาจะเรียกว่า คุณหนู (Miss) และคุณหนูน้อย (Little Miss)ไปตลอดกาล

คุณหนูน้อยนั้นเป็นคนแรกที่เรียกเขาว่าแอนดรูว์ เพราะเธอเข้าใจผิดคิดว่าเขา เป็นแอนดรอยด์ ซึ่งเขาไม่ใช่ เขาเป็นหุ่นยนต์ต่างหาก NorthAm Robotics NDR-114 ที่ถูกซื้อมาเพื่อ “เป็นผู้รับใช้ของมนุษย์ ทำครัว ทำความสะอาด ซ่อมแซมอุปกรณ์ต่างๆในบ้าน เล่นกับหรือคอยดูแลเด็กๆ” ตามคำพูดของแอนดรูว์เอง อย่างไรก็ตาม ตอนแรกเด็กๆพากันสงสัยในตัวสมาชิกใหม่นี้ คุณหนูมองเขาเสมือนเครื่องใช้ธรรมดาๆที่ไม่น่าสนใจอะไร เป็นของใช้ปกติตามบ้านของเพื่อนๆเธอ ขณะที่คุณหนูน้อยคิดว่าเขาค่อนข้างน่ากลัว แน่นอนเธอไม่มีอะไรต้องกลัวเลย เมื่อกฎข้อแรกของหุ่นยนต์ทุกตัว นั้นกำหนดเอาไว้ว่า “หุ่นยนต์นั้นห้ามทำอันตรายใดๆต่อมนุษย์ หรืออยู่เฉยจนเป็นเหตุให้มนุษย์ ได้รับอันตราย”

อาจจะเป็นกฎข้อที่สองของหุ่นยนต์ที่ว่า “หุ่นยนต์ต้องทำตามคำสั่งทุกอย่างของมนุษย์ เว้นแต่คำสั่งนั้นจะขัดแย้งกับกฎข้อแรก” ก็ได้ที่ทำให้ครอบครัวมาร์ติน เริ่มมีมุมมองต่อแอนดรูว์ต่างไปจากเดิม ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ ที่คุณหนู สั่งให้แอนดรูว์กระโดดลงไปจากหน้าต่างชั้นบน (คำสั่งที่เขาถูกบังคับให้ทำตาม) ซึ่งส่งผลให้ท่านต้องประกาศว่า “แม้ว่าในความจริงแล้ว แอนดรูว์นั้นจะเป็นเพียง วัตถุชิ้นหนึ่งเขาก็ควรได้รับการปฏิบัติ เสมือนเป็นมนุษย์คนหนึ่ง” ในการปฏิบัติต่อแอนดรูว์เหมือนเป็นมนุษย์ พวกเขาถึงเริ่มมองเห็นความเป็นมนุษย์ในตัวเขางั้นหรือ? เขาแสดงให้เห็นถึงการมีความคิดสร้างสรรค์, ความอยากรู้อยากเห็น และมิตรภาพ แบบเดียวกับมนุษย์ออกมาจริงหรือ? หรือว่ามันเป็นเพียง “เครื่องใช้รูปทรงมนุษย์ที่แสดงถึงสัญญาณแห่งความผิดพลาดของเครื่องกล ทำให้มีพฤติกรรมแปลกๆออกมา” ตามคำอธิบายของผู้บริหารของ NorthAm Robotics

ท่านตัดสินใจว่า เขาไม่เพียงแต่จะปล่อยให้แอนดรูว์มีความคิดสร้างสรรค์อย่างเต็มที่เท่านั้น แต่ยังสนับสนุนและทำการปลูกฝังพฤติกรรม เพราะเขาเชื่อว่าแอนดรูว์นั้นเป็นสิ่งที่มีเอกลักษณ์พิเศษเฉพาะตัว ความมีหัวศิลปะของแอนดรูว์นั้น แสดงออกมาเป็นครั้งแรก ในการแกะสลักสัตว์ขึ้นมาจากไม้ได้อย่างละเอียดอ่อน ไม่นานนัก เขาก็เปลี่ยนห้องใต้ดินที่บ้านครอบครัวมาร์ติน มาเป็นเวิร์กชอปของเขา ซึ่งเขาทำการแกะสลักนาฬิกา แสนสวยขึ้นมามากมาย เมื่อความสามารถของเขาพัฒนาไป มิตรภาพของแอนดรูว์กับท่าน และใจรักอันลึกซึ้งต่อ คุณหนูน้อยก็เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย

เป็นเรื่องตลกที่คนที่ใช้เวลาหลายๆ ชั่วโมงไปกับการสร้างเครื่องบอกเวลานั้น กลับไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จากเวลาที่ล่วงเลยไป แต่เวลาก็ล่วงเลยไปจริงๆ เริ่มจากหลายปี ไปเป็นหลายทศวรรษ แอนดรูว์มีชื่อเสียงในเรื่องของ การสร้างสรรค์ และขายผลงานอันยอดเยี่ยมของเขาได้ และตลอดเวลานั้นก็เฝ้ามองครอบครัว ที่เขาได้เข้ามาเป็นส่วน หนึ่งด้วยนั้นค่อยๆขยับขยายออกไป... และแก่ตัวลง มันทำให้แอนดรูว์รู้ตัวมากยิ่งขึ้นว่า เขาต่างไปจากคนอื่นๆมากเพียงใด และด้วยความแปลกไม่เหมือนใครของเขานี่เอง มันยิ่งทำให้เขาเปลี่ยวเหงามากขึ้นเท่านั้น

แอนดรูว์ตัดสินใจว่า ถ้าหากเขาดูเหมือนมนุษย์มากยิ่งขึ้น เขาอาจจะลดช่องว่างระหว่างตัวเขากับโลกมนุษย์ ที่เขาอยากจะเข้าใจเป็นนักหนาให้แคบลงได้ แม้ว่าหลังจากที่การอัปเกรดหุ่นยนต์ ได้เปลี่ยนรูปร่างหน้าตาของเขาไป บางอย่างก็ยังขาดหายไปอยู่ดี ความสามารถในการตัดสินใจด้วยตัวเอง ว่าจะใช้ชีวิตอยู่ที่ไหน,ความสามารถในการไปไหน มาไหนได้ตามใจชอบ และความสามารถในการเลือก ล้วนเป็นสิ่งที่แอนดรูว์ไม่สามารถรับรู้ด้วย เนื่องจากเขาเป็นสิ่งของชนิดหนึ่ง เขาขาดอำนาจในการทำตามใจตนเอง แม้ว่าจะไม่เคยมีการยื่นขอแบบนี้มาก่อนเลย ทางศาลก็พบว่าพวกเขาไม่สามารถปิดกั้นอิสรภาพของสิ่งใดๆ ที่มีจิตใจพัฒนาไปมากจนถึง ขนาดที่ต้องการอิสรภาพอย่างแรงได้เช่นนี้

ตอนแรก อิสรภาพของแอนดรูว์นั้นมาในราคาที่แพงลิบลิ่ว ท่าน เพื่อน และครูผู้วิเศษสุดในชีวิตของเขา ไม่สามารถเข้าใจความปรารถนาของแอนดรูว์ แต่สำหรับแอนดรูว์แล้ว มันเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางเพื่อความเติบโต ทางอารมณ์ และบางสิ่งที่เขาอยากจะลองค้นหา แอนดรูว์กำหนดการเดินทาง ออกค้นหาเพื่อค้นพบคำตอบด้วยตนเอง ว่าการเป็นมนุษย์นั้นเป็นเช่นไร เขาต้องรู้ให้ได้ว่ายังมีที่ไหนอีกไหม ที่จะมีบางคนหรือบางอย่างแบบเดียวกับเขาอยู่ การค้นหาของเขาไม่ได้ช่วยให้เขาเข้าใจคนอื่นๆมากขึ้น

แต่ด้วยความช่วยเหลือของเพื่อนใหม่ของเขา รูเพิร์ต (โอลิเวอร์ แพลตต์) ผู้เชี่ยวชาญด้านหุ่นยนต์จอมสร้างสรรค์ และไม่ขึ้นกับใคร แอนดรูว์จึงสามารถค้นพบตัวเขาเอง พัฒนา และรับรู้ถึงอารมณ์ความรู้สึก และความสามารถของเขาเองได้ เมื่อแอนดรูว์กลับมาสู่ชีวิตเดิมของเขา เขาก็ยังคงใกล้ชิดกับสมาชิกใหม่ๆ ของครอบครัวมาร์ติน ความรักแบบที่เขาเคยมีให้ กับคุณหนูน้อยนั้น ได้พัฒนาไปเป็นมิตรภาพอันล้ำค่า ระหว่างเขากับปอร์เตีย หลานของคุณหนูน้อย และจากปอร์เตียนี่เอง ที่เขาได้เรียนรู้ว่ามนุษย์นั้นต้องดับสูญลง และความแปลกที่เหมือนจะกีดกันเขา ออกจากความเป็นมนุษย์นั้น กลับเป็นสิ่งที่ทำให้เขามีความเป็นมนุษย์ขึ้นมา


“Bicentennial Man” กำกับโดยคริส โคลัมบัส (Home Alone 1-2, Stepmom, Mrs. Doubtfire, Nine Months, Jingle All the Way และ Monkeybone) จากบทภาพยนตร์ของ นิโคลาส คาแซน (Reversal of Fortune, Fallen, Matilda, Frances) ที่สร้างจากเรื่องสั้นของ ไอแซก อาซิมอฟ และนิยาย The Positronic Man ของ ไอแซก อาซิมอฟ และ รอเบิร์ต ซิลเวอร์เบิร์ก อำนวยการสร้างโดย วูลฟ์แกง ปีเตอร์เซน , ลอเรนซ์ มาร์ก, นีล มิลเลอร์, คริส โคลัมบัส, มาร์ก แรดคลิฟฟ์ และ ไมเคิล บาร์เนธาน อำนวยการสร้าง ดนตรีประกอบโดย เจมส์ ออร์เนอร์ (Titanic, Braveheart, Apollo 13, Legends of the Fall, Aliens)

นักแสดงประกอบด้วย รอบิน วิลเลียมส์ (Robin Williams) รับบท แอนดรูว์ มาร์ติน (Patch Adams, Good Will Hunting, Good Morning, Vietnam, Dead Poets Society, Hook, Mrs. Doubtfire) , แซม นีลล์ (Sam Neill) รับบท"ท่าน - Sir" (Event Horizon, Jurassic Park, The Piano) , เอ็มเบธ เดวิดต์ซ (Embeth Davidtz) รับบท"คุณหนูน้อย"ตอนโต/ปอร์เตีย (บทสาวใช้ชาวยิวใน Schindler's List, Matilda, Fallen) , โอลิเวอร์ แพลตต์ (Oliver Platt) รับบท รูเพิร์ต เบิร์นส์ (Lake Placid, Bulworth, Doctor Dolittle, Simon Birch, Executive Decision, A Time to Kill, The Three Musketeers, Indecent Proposal, Beethoven, Flatliners) , เวนดี ครูว์สัน (Wendy Crewson) รับบท"คุณผู้หญิง - Ma'am" (What Lies Beneath, บทผู้หญิงหมายเลข 1 ใน Air Force One, Gang Related, The Santa Clause, The Good Son) , ฮอลลี เคต ไอเซนเบิร์ก (Hallie Kate Eisenberg) รับบท"คุณหนูน้อย - Little Miss"วัยเด็ก (Paulie, The Insider) , สตีเฟน รูต (Stephen Root) รับบท เดนนิส แมนสกี (Office Space, Krippendorf's Tribe, Crocodile Dundee, Dave, Ghost, Robocop III, Kindergarten Cop) , ลินน์ ธิกเพน (Lynne Thigpen) รับบทประธานาธิบดีหญิง (The Insider, Random Hearts, Tootsie) , แบรดลีย์ วิตฟอร์ด (Bradley Whitford) รับบท ลอยด์ (The Muse, Philadelphia, The Cleint, A Perfect World, Scent of a Woman, Red Corner, Presumed Innocent) , เคิร์สเตน วอร์เรน (Kiersten Warren) รับบท หุ่นยนต์/มนุษย์ กาลาตี (Liberty Heights, Pushing Tin, Independence Day) , จอห์น ไมเคิล ฮิกกินส์ (John Michael Higgins) รับบท บิล ไฟน์โกลด์ (Wag the Dog, G.I. Jane) , จอร์จ ดี. วอลเลซ (George D. Wallace) รับบทประธานาธิบดีชาย (Forces of Nature, Multiplicity)