Curse of the Golden Flower
ศึกโค่นบัลลังก์ วัง*ทอง
Official website
more info. from IMDB
แนว : แอ็คชั่น / ผจญภัย / ดราม่า / รัก
ความยาว : 114 นาที
กำหนดฉาย : 1 กุมภาพันธ์ 2550

จีน - ราชวงศ์ถังตอนปลาย - ศตวรรษที่ 10

ในคืนก่อนหน้าเทศกาลชุงเยิง ดอกไม้สีเหลืองทองเบ่งบานเต็มพระราชวังหลวง องค์ฮ่องเต้ (โจวเหวินฟะ) เสด็จกลับมาพร้อมกับ องค์ชายเจี๋ย (เจย์ โจว) พระราชโอรสองค์ที่สอง อย่างไม่คาดฝัน พระองค์มีพระประสงค์จะร่วมเฉลิมฉลองวันหยุดสำคัญนี้กับพระญาติ แต่ความสัมพันธ์ที่ร้าวฉานระหว่างองค์ฮ่องเต้และ องค์ฮองเฮา (กงลี่) ที่สุขภาพทรุดโทรม ก็ทำให้เรื่องนี้ดูมีวัตถุประสงค์แอบแฝง

ฮองเฮากับองค์รัชทายาท องค์ชายหวัน (หลิวเหย่) พระโอรสเลี้ยงของพระนาง แอบลักลอบมีความสัมพันธ์กันมานานหลายปี ด้วยความรู้สึกอึดอัด องค์ชายหวันจึงได้ใฝ่ฝันที่จะหลบหนีออกจากพระราชวัง พร้อมกับ เฉิน (หลี่มัน) คนรักลับๆ ของพระองค์ ซึ่งเป็นลูกสาวของหมอหลวงประจำราชสำนัก

ในขณะเดียวกัน องค์ชายเจี๋ย พระโอรสผู้ซื่อสัตย์จงรักภักดี รู้สึกกังวลในสุขภาพขององค์องค์ฮองเฮา และความหมกมุ่นในดอกเบญจมาศสีทองของพระนาง นี่พระนางกำลังมุ่งหน้าสู่เส้นทางหายนะหรือไร

ฮ่องเต้เองก็ทรงมีแผนการลับในพระทัยอยู่ด้วยเช่นกัน หมอหลวงเจียง (หนี่ต้าหง) เป็นบุคคลเพียงผู้เดียว ที่ได้รับรู้ถึงแผนเล่ห์เพทุบายของพระองค์ เมื่อฮ่องเต้ทราบถึงภัยคุกคามที่ใกล้เข้ามา พระองค์จึงรับสั่งย้ายครอบครัวของหมอหลวงจากพระราชวัง ไปยังสถานที่ห่างไกล

ขณะที่พวกเขาเดินทางอยู่นั้นเอง มือสังหารลึกลับได้ลอบโจมตีพวกเขา เฉินและ เจียงฉี (เฉินจิน) ผู้เป็นมารดา ถูกบีบบังคับให้กลับเข้าไปในพระราชวัง การกลับมาของพวกเธอ เป็นจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์มืดหม่น ที่น่าประหลาดใจมากมาย

ท่ามกลางความงดงามและเลิศหรูของเทศกาล ความลับดำมืดถูกเปิดเผย ในขณะที่เหล่าเชื้อพระวงศ์กำลังเฉลิมฉลองงานเทศกาลนี้ ภายในสถานที่ที่โอ่อ่า ใหญ่โต นักรบในชุดเกราะทองคำนับพันๆ คน กำลังบุกเข้ามายังพระราชวัง ใครกันเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการกบฏที่โหดเหี้ยมครั้งนี้ ความจงรักภักดีขององค์ชายเจี๋ยขึ้นอยู่กับผู้ใดกันแน่ ระหว่างความรักกับแรงปรารถนา อะไรคือผู้ชนะที่แท้จริง

ในราตรีที่แสงจันทร์สาดส่อง ดอกเบญจมาศที่เบ่งบานนับพันถูกย่ำยี เมื่อเลือดหลั่งนองทั่วพระราชวัง...


เรื่องราวใน Curse of the Golden Flower เกิดขึ้นในตอนปลายของราชวงศ์ถัง เมื่อกว่า 1,000 ปีที่แล้ว ราชวงศ์ถังเป็นราชวงศ์ที่รุ่งเรืองที่สุดราชวงศ์หนึ่งในประวัติศาสตร์จีน นับว่าเป็นยุคทองโดยแท้ มีสุภาษิตจีนโบราณกล่าวเอาไว้ว่า "ภายนอกดูเจิดจรัสด้วยทองคำและหยก แต่ภายในเต็มไปด้วยความเน่าเฟะ" ซึ่งหมายถึงว่า ลึกลงไปภายใต้ความงดงามภายนอก คือความจริงอันมืดหม่น และน่าสะอิดสะเอียน ภาพยนตร์เรื่องนี้ ถ่ายทอดเรื่องราวของเชื้อพระวงศ์ที่แก่งแย่งชิงดีกัน เช่นเดียวกับตระกูลใหญ่ๆ ในยุคศักดินา ภายใต้ความเลิศหรูในพระราชวังนั้น มีความลับซ่อนเร้นอยู่

ย้อนเวลาไปนับพันปี ลึกเข้าไปในพระราชวังต้องห้าม คือโลกที่ทุกสิ่งไม่ได้เป็นอย่างที่ตาเห็น ในยุคเรืองอำนาจ คนนับพันเห็นพระราชวังต้องห้าม จากภายนอก มีเพียงคนในราชวงศ์ ที่ล่วงรู้ความลับที่ปกปิดไว้ภายใน เรื่องราวที่เต็มไปด้วยกิเลส ที่เกิดจากความลุ่มหลงที่ลวงตา การหักหลังที่เกิดจากความภักดีที่ต้องแบ่งฝ่าย เล่ห์ลวงที่ล้มความยิ่งใหญ่ที่รอวันถูกโค่นล้าง รอยแค้นแห่งราชวงศ์ การแตกหักระหว่าง ฮองเต้ กับ ฮองเฮา กำลังจะเปิดฉาก

Curse of the Golden Flower เป็นหนังแอ็กชันเรื่องที่สามของผู้กำกับ จางอี้โหมว ต่อจาก Hero และ House of Flying Daggers หลังจากที่สร้างผลงานยอดเยี่ยมมามากมาย อาทิ Red Sorghum ที่ได้รับรางวัลหมีทองคำ ที่งานเทศกาลภาพยนตร์เบอร์ลิน, Ju Dou ที่ได้รับการเสนอชื่อชิงออสการ์ สาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม, Raise the Red Lantern ที่ได้รับรางวัลสิงโตเงิน ในงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเวนิสครั้งที่ 44, The Story of Qiu Ju ที่ได้รับรางวัลสิงโตทองคำ จากงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเวนิสครั้งที่ 45, To Live ที่ได้รับรางวัลแกรนด์ จูรี ไพรซ์ ในงานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ครั้งที่ 47, Not One Less ที่ได้รับรางวัลสิงโตทองคำ ในงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเวนิสครั้งที่ 52, The Road Home ซึ่งได้รับรางวัลหมีเงิน ในงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองเบอร์ลิน และ Hero ที่ได้รับรางวัลอัลเฟรด เบาเออร์

ในการเลือกเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ การคัดเลือกตัวนักแสดงที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญมาก บทของฮองเต้ จึงต้องการนักแสดงที่พิเศษ และเขาต้องเป็นนักแสดงที่ทรงพลังอย่างยิ่งเมื่ออยู่บนจอ นั่นก็คือ โจ เหวิน ฟะ (A Better Tomorrow หรือ โหดเลวดี, The Killer, Hard-boiled, The Replacement Killers, Crouching Tiger, Hidden Dragon, ซีรีส์ The Bund หรือ เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ และเร็วๆ นี้กับ Pirates of the Caribbean: At Worlds End)

บทฮองเต้ที่ทรงพลังก็ต้องมีฮองเฮาที่แข็งแกร่งเช่นกัน กง ลี่ นักแสดงหญิงชั้นแนวหน้าแห่งเอเชีย จึงได้รับบทเป็นฮองเฮา บทที่ทั้งมีเอกลักษณ์ และแตกต่างสำหรับเธอ เป็นบทที่ได้รับในการกลับมาร่วมงานกับผู้กำกับ จางอี้โหมว ซึ่งเป็นอดีตสามี เป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี หลังจาก Ju Dou, Raise the Red Lantern, The Story of Qui Ju ที่เธอได้รับรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม จากงานเทศกาลภาพยนตร์เวนิส, To Live และ Shanghai Triad และล่าสุด งานภาพยนตร์อเมริกันเรื่องแรก Memoirs of a Geisha ต่อด้วย Miami Vice และเร็วๆ นี้กับ Hannibal Rising

การแสดงคู่กับนักแสดงชั้นแนวหน้าของจีน น่าจะเป็นแรงกดดันไม่น้อย โดยเฉพาะกับดาราหน้าใหม่อย่าง โจวเจี๋ยหลุน หรือ เจย์ โชว ป๊อปสตาร์ชื่อดังของเอเชีย ผลงานเรื่องนี้เป็นหนังเรื่องที่ 2 แต่เป็นหนังจีนพีเรียดเรื่องแรกของนักร้องชื่อดังแห่งเอเชีย หลังจากที่เริ่มจากบทนำใน Initial D

Curse of the Golden Flower ร่วมเขียนบทโดย อู่หนาน (เขียนบทละครโทรทัศน์ เรื่อง The Scent of Women และ The Legend of La Jia) และ เปี้ยนจื่อหง อำนวยการสร้างโดย บิล กง แห่งบริษัท เอ็ดโก ฟิล์มส์ (The Blue Kite, The Day the Sun Turned Cold, Crouching Tiger, Hidden Dragon, Zhou Yu’s Train, Springtime in a Small Town, Hero, Windstruck, House of Flying Daggers, Fearless) กำกับภาพโดย จ้าวเสี่ยวติง (Hero, House of Flying Daggers) กำกับคิวบู๊โดย โทนี เฉิงเสี่ยวตง (A Better Tomorrow, Swordsman, A Chinese Ghost Story, Shaolin Soccer, Hero) ออกแบบงานสร้างโดย ฮัวถิงเสี่ยว (Farewell My Concubine, The Emperor and the Assassin) ประพันธ์ดนตรีประกอบโดย ชิเงรุ อุเมบายาชิ (In the Mood for Love, Floating Landscape, Midnight Fly, Fearless, House of Flying Daggers)