Divine Secrets of the Ya-Ya Sisterhood
Official website
more info. from IMDB
แนว : ดราม่า / ตลก
ความยาว : 116 นาที
กำหนดฉาย : 20 กันยายน 2545

ซิดด้า ลี วอล์กเกอร์ (แซนดร้า บุลล็อค), นักประพันธ์บทละครผู้โด่งดัง ดำเนินชีวิตอยู่ในนิวยอร์ค ซิตี้ ห่างไกลจากพื้นเพที่เดิมหลุยเซียน่าบ้านเกิด รวมทั้งมารดาเจ้าอารมณ์ผู้ไม่ธรรมดาของเธอ วีวี่ (เอลเลน เบอร์สตีน) ซึ่งซิดด้าพอใจให้เป็นเช่นนั้น

นิตยสารชื่อดัง Time Magazine ตีพิมพ์ประวัติของซิดด้า และกล่าวถึงวีวี่ในแง่ลบของความเป็นแม่ ทำให้วีวี่รู้สึกเหมือนโดนสบประมาท และไม่รีรอที่จะชวนวิวาท ไม่เพียงแต่มีผลกระทบต่อคนทั้งคู่ แต่ยังเกี่ยวพันไปถึงแผนการแต่งงานอันเปราะบางของซิดด้ากับ คอนเนอร์ แมคกิล (แองกัส แมคฟาเดียน) คนรักที่เฝ้าอดทนรอคอยเธอมาถึง 7 ปี เพื่อให้เธอลบความรู้สึกกลัว ที่จะมีครอบครัวของตนเอง

เป็นหน้าที่ของเพื่อนผองน้องพี่สามสาว ยา-ย่า อันได้แก่ ทีนซี่ (ฟิออนนูลา ฟลานาแกน), เนซี่ (เชอร์ลี ไนท์), คาโร (แม็กกี้ สมิธ) ผู้เป็นกลุ่มเพื่อนสนิทกันมายาวนานของวีวี่ ที่เต็มใจจะเป็นผู้ประสานรอยร้าวให้กับเพื่อนรัก ไม่ว่าด้วยวิธีใดๆ ก็ตาม

เพื่อทำให้ซิดด้าเข้าใจตัวตนที่แท้จริงของวีวี่นั้น กลุ่มยา-ย่า เชื่อมั่นว่าต้องเปิดเผยความเป็นมาตั้งแต่วัยสาวของวีวี่ สมัยที่เธอเคยเป็นสาวงาม พร้อมกับที่เป็นผู้บูชาความรัก และความซื่อสัตย์เหนือสิ่งอื่นใด วีวี่ (รับบทในวัยสาวโดย แอชลี่ย์ จัดด์) พานพบความผิดหวังมากมายในชีวิต แต่ยังสามารถรักษาความมีอารมณ์ขันไว้ได้ การร่วมทุกข์ร่วมสุขกว่า 40 ปี ของเพื่อนตายทั้งสี่ เต็มไปด้วยเสน่ห์และความสนุกสนาน พวกเขาจารึกความทรงจำล้ำค่าเหล่านั้นไว้ในสมุดบันทึก ซึ่งเต็มไปด้วยจดหมาย ตั๋วใช้แล้ว ดอกไม้ทับแห้ง และรูปถ่าย - อันเป็นที่รู้กันว่า นั่นคือความลับศักดิ์สิทธิ์ของกลุ่มสาวยา-ย่า

กลุ่มยา-ย่าใช้ความพยายามอย่างสุดฝีมือ และใช้เล่ห์เพทุบายนานาประการ ในอันที่จะประสานความสัมพันธ์แม่ลูก ด้วยความช่วยเหลือของพวกเธอทั้งหลาย และบันทึกลับเล่มนั้น อันจะทำให้ซิดด้าได้พบคำตอบ เกี่ยวกับมารดาผู้มีปัญหาที่ไม่ธรรมดา รวมทั้งการให้อภัย และยอมรับเพื่อปลดปล่อยอดีตที่ขมขื่นของเธอ


วอร์เนอร์บราเดอร์ส พิกเจอร์ส ร่วมกับ เกย์ลอร์ด ฟิล์ม, ออล-เกิร์ล โปรดักชั่น ภูมิใจเสนอ Divine Secrets of the Ya-Ya Sisterhood อำนวยการสร้างโดย บอนนี่ บรุ๊คไฮเมอร์ (Beaches, For the Boys) และ ฮันท์ โลว์รี่ (A Walk to Remember) กำกับการแสดงโดย แคลลี่ คูรี่ (Thelma and Louise, Something to Talk About) จากบทภาพยนตร์ของ แคลลี่ คูรี่ ซึ่งดัดแปลงโดย มาร์ก แอนดรัส (Life As a House และร่วมเขียนบท As Good As It Gets) จากนวนิยายเรื่อง Divine Secrets of the Ya-Ya Sisterhood และ Little Altars Everywhere บทประพันธ์ของ รีเบกก้า เวลส์ ผู้อำนวยการบริหาร ได้แก่ เบตต์ มิดเลอร์, แมรี่ แมคลาก์เลน, อี.เค. เกย์ลอร์ด II และ ลิซ่า สจ๊วต

Divine Secrets of the Ya-Ya Sisterhood นำแสดงโดย แซนดรา บุลล็อค (Miss Congeniality, While You Were Sleeping, Speed) รับบท ซิดด้า ลี วอล์กเกอร์ ลูกสาวของวีวี่, เอลเลน เบอร์สติน (Requiem for a Dream, How to Make an American Quilt, The Exorcist) รับบทวีวี่ในวัยชรา, ฟิออนนูลา ฟลานาแกน (The Others, Waking Ned Devine) รับบท ทีนซี่ หนึ่งในสี่สาวยา-ย่า, เจมส์ การ์เนอร์ (Space Cowboys, Maverick) รับบท เชพ วอล์กเกอร์ สามีผู้ทนทุกข์ทรมาณของวีวี่ บิดาของซิดด้า, แอชลีย์ จัดด์ (Kiss the Girls, Double Jeopardy, Where the Heart Is) รับบทวีวี่ในวัยสาว, เชอร์ลี ไนท์ (As Good As It Gets, Diabolique, The Salton Sea) รับบท เนซี่ หนึ่งในสี่สาวยา-ย่า, แองกัส แมคฟาเดียน (Braveheart, Cradle Will Rock) รับบท คอนเนอร์ แมกกิล, คู่หมั้นของซิดด้า, แม็กกี้ สมิธ (Gosford Park, Room With a View, Sister Act) รับบท คาโร หนึ่งในสี่สาวยา-ย่า

ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับภาพโดย จอห์น เบย์ลี่ A.S.C. (The Big Chill, Ordinary People, As Good As It Gets), ออกแบบฝ่ายศิลป์โดย เดวิด เจ บอมบา (Original Sin, Apollo 13, A Civil Action), ลำดับภาพโดย แอนดรู มาร์คัส (Howard's End, Remains of the Day), ออกแบบเครื่องแต่งกายโดย แกรี่ โจนส์ (The Princess Diaries, และ The Other Sister, The Talented Mr. Ripley), ที โบน เบอร์เนตต์ (O Brother, Where Art Thou) และ เดวิด แมนส์ฟิลด์ (The Apostle, Tumbleweeds) ประพันธ์เพลงประกอบ

เพลงใหม่เอี่ยมที่ได้รับการเปิดตัวเป็นครั้งแรก ในซาวน์ดแทรคของ Divine Secrets of the Ya-Ya Sisterhood ได้แก่ เพลง Waitin' for You ประพันธ์เพื่อหนังโดยเฉพาะโดย บ็อบ ดีแลน เพื่อนเก่าแก่ของ ที โบน เบอร์เนตต์ และ เดวิด แมนส์ฟิลด์ ตั้งแต่สมัยที่พวกเขาเดินสายด้วยกันกับวง Rolling Thunder Review ของดีแลน ดีแลนเขียนเพลง Waitin' for You หลังได้ดูการสกรีนช่วงแรก และถูกใส่ไว้ในเครดิตท้ายของหนัง ส่วน ลอริน ฮิล ซึ่งมีชื่อกระหึ่มในปี 1999 ในงาน Grammy Awards กับการเสนอชื่อถึง 11 รางวัล และทำลายสถิติกวาด 5 รางวัลจากอัลบั้มแรกของเธอ The Miseducation of Lauryn Hill แต่งเพลงในจังหวะโซลชื่อ Selah เกี่ยวกับการไถ่โทษ

เมซี่ เกรย์ นักร้องผู้มีชื่อเสียง กลับมาสู่วงใหญ่เป็นครั้งแรก พร้อมกับแตร 12 ชิ้น ซึ่งประสานโดยเบอร์เนตต์ โดยการใช้ไมโครโฟนรุ่นเก่า เพื่อเสียงที่นุ่มนวลกว่า และได้ขับร้องให้เพลง My Mother's Son in Law ของ บิลลี่ ฮอลิเดย์ เพลงมีจังหวะซึ่งเข้ากับอารมณ์ขัน ซึ่งเหล่ายา-ย่า สาวรุ่น ใช้เวลาในยามค่ำคืนอันร้อนอบอ้าว ขับรถไปตามบนถนนในชุดนอน ด้วยรถเปิดประทุนเพื่อคลายร้อน

โทนี่ เบนเน็ตต์ นักร้องผู้โด่งดัง ได้ร่วมงานในเพลงโซลของ แน็ท คิง โคล If Yesterday Could Only Be Tomorrow ซึ่งนับเป็นความบังเอิญอย่างยิ่ง ที่เมื่อหลายปีก่อนหน้านี้ เขาเคยได้พบกับน้องชายของแน็ท คือ เฟรด โคล ในระหว่างเดินทางด้วยเครื่องบินร่วมกัน และโคลขอให้เขาร้องเพลงเดียวกันนี้ให้ และความคิดนี้ยังคงอยู่กับเขาเรื่อยมา จนกระทั่งได้รับการทาบทามให้อัดเพลงนี้ ให้กับซาวนด์แทรคของภาพยนตร์เรื่องนี้

เอลิสัน เคราส์ เจ้าของรางวัลแกรมมี่ เป็นผู้ขับร้องเพลง Sitting at the Window of My Room ซึ่งแต่งขึ้นใหม่เพื่อประกอบเรื่อง Divine Secrets โดยเฉพาะ จากผลงานของ ที โบน เบอร์เนตต์ และ เดวิด แมนสฟิลด์ ซึ่งใช้การผสมผสานดนตรีหลากรูปแบบ ซึ่งเน้นเสียงอันชัดเจน และเต็มไปด้วยอารมณ์ของเคราส์

เพลงอื่นๆ ที่รวมอยู่ในซาวนด์แทรค ได้แก่ Found Love, Little Rain และ Ain't That Loving You Baby โดย จิมมี่ รีด, The World Exploded into Love จากร็อคเกอร์ชาวเท็กซัส บ็อบ ชไนเดอร์, Lonely Avenue โดย เรย์ ชารล์ส, Drug State ของ เจด วินเซนท์, Got Love if You Want It โดย สลิม ฮาร์โป และ Assi Dans le Fenetre de ma Chambre โดย บลายด์ อังเคิล กาสพาร์ด

Divine Secrets of the Ya-Ya Sisterhood จัดจำหน่ายทั่วโลกโดย วอร์เนอร์บราเดอร์ส พิกเจอร์ส ในเครือ AOL ไทม์ วอร์เนอร์


เกร็ดภาพยนตร์

  • "เรื่องราวในหนัง กินเวลาที่ต่างกันถึงสามยุค ตั้งแต่ปลายทศวรรษของ 1930 และต้น 1940, ช่วง 1960 และ 1990 ทีมงานต้องกลับไปยังโลเคชั่นเดิมถึงสามสี่ครั้ง และทำการปรับเปลี่ยน ทั้งเสื้อผ้า และเพิ่มอายุให้แต่ละฉาก" ผู้อำนวยการบริหาร แมรี่ แมคลาก์เลน กล่าว ความท้าทายส่วนใหญ่ในการคำนวณนี้ ตกอยู่กับผู้ออกแบบฝ่ายศิลป์ เดวิด เจ. บอมบา และผู้กำกับภาพ จอห์น เบลี่ย์ รวมทั้งผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย แกรี่ โจนส์

  • ฉากหลักนั้นอยู่ที่สวนพีแคน โกรฟ บ้านของวีวี่ ถ่ายทำที่ บักเนอร์ ฮิล เฮาส์ ที่ นอร์ธ คาโรไลน่า ซึ่งมีอายุ 150 ปี ก่อนสงคราม ซึ่งได้รับการลงทะเบียนไว้ ในฐานะบ้านแห่งประวัติศาสตร์ ภายในบ้านประกอบด้วยโถงใหญ่ และห้องนอนสี่ห้องชั้นล่าง และอีกสี่ห้องชั้นบน แต่ละห้องมีทางเข้าออกสองทาง ส่วน เคบินสปริง ครีก ที่ซึ่งกลุ่มยา-ย่าพาซิดด้าไปนั้น ถูกสร้างในสองแห่ง ภายนอกคือตัวบ้านที่พบริมฝั่งทะเลสาบที่สวนโอตัน และภายในบ้านสร้างขึ้นในสตูดิโอสกรีนเจมส์ เว้นแต่หนึ่งห้อง ซึ่งเบลี่ย์สามารถถ่ายทำได้ในเคบินจริง

  • เพลงประกอบ ที่ถูกคัดสรรเพื่อปลุกแต่ละช่วงเวลาของเรื่อง ซึ่งครอบคลุมถึง 60 ปี มีทั้งประเภทบลู ร็อก ก็อสเปล และคลาสสิคโรแมนติค รวมทั้งทำนองคาฮุนที่เผ็ดร้อน แต่ละเพลงนำมาซึ่งความเป็นยา-ย่า ซึ่งมาจากทางใต้ที่แท้จริง และช่วยทำให้ช่วงที่โดดเด่นของชีวิตพวกเธอชัดเจนขึ้น เป็นผลงานประพันธ์ของ ที โบน เบอร์เนตต์ ผู้อำนวยการผลิตและนักดนตรี ซึ่งได้รับรางวัลแกรมมี่มากมาย คอลเลคชั่นเหล่านี้ เบอร์เนตต์ได้รับความช่วยเหลือจากนักประพันธ์ชื่อดัง เดวิด แมนสฟิลด์ และผู้กำกับการแสดง แคลลี่ คูรี่ ผู้หาจังหวะเพลงที่ลงตัวให้แต่ละฉาก