ปี 1916 สงครามโลกยืดเยื้อมาเป็นเวลาเกือบ 2 ปี ทางฝั่งตะวันตก กองกำลังฝ่ายสัมพันธมิตร อันได้แก่ อังกฤษและฝรั่งเศส กำลังทำสงครามกับเยอรมันอย่างดุเดือด โดยมีทหารล้มตายไปกว่าล้านชีวิต ขณะที่อเมริกายังคงวางตัวเป็นกลาง และไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ปล่อยให้ชาวตะวันตกเผชิญสงครามเพียงลำพัง แต่ยังมีชาวอเมริกันกลุ่มหนึ่ง ที่ตัดสินใจเดินทางไปยังตะวันตก เพื่อช่วยเหลือฝ่ายสัมพันธมิตร พวกเขาบางคนไปเป็นอาสาสมัครหน่วยรักษาพยาบาล ขณะที่บางคนเข้าร่วมสมาชิกกองกำลังต่างชาติสนับสนุนฝรั่งเศส

ไม่นาน กลุ่มอาสาสมัครอเมริกันจำนวนหนึ่ง ก็รวมตัวกันจัดตั้งหน่วยนักบินรบของตนเอง เพื่อช่วยเหลือฝ่ายสัมพันธมิตร ในการต่อสู้กับกองกำลังโจมตีทางอากาศ ของเยอรมันที่มีอาวุธครบครัน เรื่องราวความเป็นความตายในสมรภูมิเหนือน่านฟ้าจึงเริ่มต้นขึ้น และเหล่านี้คือนักบินรบผู้กล้าใน Flyboys...

เบลน รอว์ลิ่งส์ (เจมส์ ฟรานโก) หนุ่มเท็กซัสที่ระเห็ดออกจากครอบครัวเจ้าของฟาร์ม 900 เอเคอร์ และพบอนาคตใหม่ในหน่วยนักบินรบ

ฮิกกินส์ (คริสเตียน แอนโฮลต์) สมาชิกใหม่ในกองกำลังต่างชาติสนับสนุนฝรั่งเศส ที่ย้ายจากหน่วยอาสาสมัครรักษาพยาบาล มาอยู่หน่วยบินรบ

วิลเลี่ยม เจนเซ่น (ฟิลิป วินเชสเตอร์) หนุ่มเนบราสก้า ลูกชายทหาร ที่เข้าร่วมรบเพื่อรักษาประเพณีของครอบครัวในการเข้าร่วมกองทัพ

บริกส์ โลว์รี่ (ไทเลอร์ ลาไบน์) สมัครเข้าร่วมรบตามแรงกดดันของพ่อผู้ร่ำรวยและมีอิทธิพล ที่อยากให้เขาทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันด้วยตัวเอง

เอ๊ดดี้ บีเกิล (เดวิด เอลลิสัน) จอมอวดดีที่ยิงไม่เคยตรงเป้า และดูเหมือนกำลังพยายามวิ่งหนีอดีต

ยูจีน สกินเนอร์ (อับดุล ซาลิส) อเมริกันผิวดำที่ถูกเนรเทศ และต้องการปกป้องฝรั่งเศส ประเทศที่ใจกว้างเปิดโอกาสให้เขาเข้าแข่งขันและได้เป็นแชมป์มวย ซึ่งถ้าเป็นอเมริกาคงไม่ยอมให้เขาขับเครื่องบินรบแน่...

ช่วงแรกของการฝึก รอว์ลิ่งส์ ได้พบกับหัวหน้าหน่วยรบ รีด แคสสิดี้ (มาร์ติน เฮนเดอร์สัน) ที่กลายเป็นเป็นนักบินรบผู้เชี่ยวชาญทั้งๆ ที่อายุเพียง 28 ปี แคสสิดี้ทั้งน่าเกรงขามและลึกลับ เขาคือนักบินชั้นยอดของกองทัพ ที่ผ่านช่วงเวลาสุดโหดในสนามรบมาแล้ว และมีสถิติสังหารฝ่ายตรงข้ามมากว่า 20 ราย แต่การก้าวมาถึงจุดนี้ เขาต้องแลกมาด้วยจิตวิญญาณอันบริสุทธิ์ของตนเอง แคสสิดี้รู้ว่าการรบทางอากาศครั้งนี้อันตรายมาก และทหารหนุ่มเหล่านี้คงเหลือรอดไม่กี่คน

ภายใต้การนำของร้อยเอกชาวฝรั่งเศส จอร์จ เธอโนลต์ (ฌอน เรอโน) อาสาสมัครอเมริกันต้องผ่านการฝึกสุดเข้ม เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการรบบนอากาศครั้งแรก และเมื่อหนุ่มๆ ได้ฝึกขับ นิวพอร์ท 17 เครื่องบินปีก 2 ชั้นรุ่นใหม่ของฝรั่งเศส พวกเขาก็ได้รู้สถานภาพของตนเองว่า นักบินรบมีอายุขัยประมาณ 3-6 สัปดาห์เท่านั้น พวกเขามีจำนวนมากกว่าก็จริง แต่ต้องต่อสู้กับกองทัพเยอรมันที่แข็งแกร่งกว่ามาก ซ้ำร้ายยังไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้ร่มชูชีพอีกด้วย เพราะทางกองทัพให้ความสำคัญกับเครื่องบินมากกว่าชีวิตนักบิน

ไม่นานการต่อสู้ก็เปิดฉากขึ้น รอว์ลิ่งส์และเพื่อนๆ ต้องเผชิญการไล่ล่าทางอากาศที่ดุเดือด และนำมาซึ่งการบาดเจ็บล้มตาย ที่เลวร้ายเกินกว่าที่พวกเขาเคยจินตนาการไว้ นักบินเยอรมันได้รับการฝึกมาอย่างดี เครื่องบินรบฟ็อคเกอร์ของพวกนั้น โฉบเข้าโจมตีและยิงเครื่องบินฝรั่งเศส ร่วงลงสูพื้นดินแบบไม่ให้ทันตั้งตัว จนจำนวนศพในสุสานกองทัพเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ระหว่างสงคราม รอว์ลิ่งส์ได้พบช่วงเวลาแห่งความหวังและความสุข เมื่อได้รู้จักและตกหลุมรัก ลูเซียน ดาร์ซี (เจนนิเฟอร์ เด็กเกอร์) สาวฝรั่งเศสที่อาศัยอยู่กับหลานสาวและหลานชาย ที่เป็นกำพร้าเพราะสงคราม รอว์ลิ่งส์ได้เรียนรู้ถึงผลกระทบของสงคราม ที่มีต่อลูเซียนและครอบครัว เมื่อฟาร์มของเธอถูกทหารเยอรมันล้อม เขาจึงเสี่ยงชีวิตเข้าไปช่วย แต่ไม่นาน ทั้งคู่ก็ต้องพรากจากกัน เพราะความชุลมุนของสงคราม

นักบินที่รอดชีวิต ต้องกลับมารวมตัวกันเพื่อเตรียมออกรบครั้งต่อไป รอว์ลิ่งส์และเพื่อนๆ ต้องทิ้งความกลัวไว้เบื้องหลัง เมื่อสงครามสุดอันตรายรออยู่ตรงหน้า พวกเขาโยนความคิดอุดมคติและความรู้สึกท้าทายทิ้งไป เหลือไว้เพียงเป้าหมายเดียวเท่านั้น นั่นคือ เอาชีวิตให้รอด และพยายามช่วยเพื่อน และคนรักให้ได้มากที่สุด...

น่าแปลกใจไม่น้อย ที่เรื่องราวสงครามโลกครั้งที่ 2 มีอยู่เกลื่อนกลาด ทั้งในเอกสาร ภาพยนตร์ และรายการโทรทัศน์ ขณะที่สงครามโลกครั้งที่ 1 ไม่ค่อยได้รับความสนใจจากสื่อเท่าที่ควร ยิ่งเป็นเรื่องราวการรบทางอากาศด้วยแล้ว นักสร้างหนัง นักทำสารคดี นักเขียน ต่างพากันเมินเฉย ผู้คนหลายชั่วอายุไม่เคยเห็นภาพเครื่องบินรบ ถ้าจะนับกันจริงๆ ครั้งสุดท้ายที่เรื่องราวกองกำลังโจมตีทางอากาศ ลาฟาแยต เอสกาดริลล์ ได้รับการบอกเล่าบนแผ่นฟิล์ม คือเมื่อ 75 ปีที่แล้ว ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนั้นคือ Wings เจ้าของรางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมตัวแรก (1929) ที่ยืนโรงฉายนานถึง 2 ปี ส่วน The Dawn Patrol และ Hell’s Angels ที่สร้างตามมานั้น ก็ประสบความสำเร็จอย่างสูง (น่าสังเกตว่าทุกเรื่องกำกับโดยนักบินทั้งหมด Flyboys ก็เช่นกัน)

สงครามโลกครั้งที่ 1 ไม่เคยได้รับการตีแผ่อย่างจริงจังในภาพยนตร์สมัยใหม่ จะมีก็แต่ในหนังรักฝรั่งเศสเรื่อง A Very Long Engagement และ Gallipoli ของออสเตรเลียเท่านั้น ซึ่งทั้งสองเรื่องพูดถึงการต่อสู้ในสนามรบ ไม่ใช่ในอากาศ ผู้อำนวยการสร้าง ดีน เดลวิน บอกว่าที่เป็นเช่นนั้น อาจเพราะเครื่องบินรบแบบในสงครามโลกครั้งที่ 1 ไม่มีเหลือแล้ว และเทคโนโลยีที่ใช้ถ่ายทำฉากรบแบบนี้ ก็เพิ่งได้รับการพัฒนาได้ไม่นาน

ผู้กำกับคนแรกที่เดลวินนึกถึงก็คือ โทนี่ บิล นักแสดง, ผู้กำกับ และผู้อำนวยการสร้างเจ้าของรางวัลออสการ์ ที่สอบผ่านเป็นนักบินตั้งแต่อายุ 14 ปี และเป็นแฟนพันธุ์แท้สงครามโลกครั้งที่ 1 โดยสะสมหนังสือเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ไว้มากมาย เขาบอกว่าเมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 ปะทุขึ้น คนส่วนใหญ่ไม่เคยเห็นเครื่องบินมาก่อน พี่น้องตระกูลไรท์ประดิษฐ์เครื่องบินสำเร็จในปี 1903 จากนั้นก็เงียบไป เทคโนโลยีเกี่ยวกับเครื่องบิน ได้รับการพัฒนาน้อยมากก่อนจะเกิดสงคราม (ในปี 1914) นักบินไม่ได้นั่งในห้องเครื่องด้วยซ้ำ พวกเขาไม่มีอะไรกำบัง นอกจากผ้าใบ ไม้ไผ่ เส้นลวด และผ้าลินิน ร่มชูชีพก็ไม่มี ต้องคอยบินหลบกระสุนของศัตรู เหมือนเป้าบินติดไฟง่าย การทรงตัวก็ทำได้ยาก ทหารหลายนายดิ่งสู่พื้นโลก เพราะไม่สามารถบังคับบังคับเครื่องเมื่อถูกโจมตีได้

ลักษณะสำคัญประการหนึ่งของการต่อสู้บนอากาศ ในสงครามโลกครั้งที่ 1 คือ มันให้ความรู้สึกเหมือนอัศวินยุคโบราณ การไล่ล่าบนเครื่องบินก็เหมือนการต่อสู้บนหลังม้า บนท้องฟ้า ทหารทั้งสองฝ่ายจะได้เผชิญหน้ากันแบบตัวต่อตัว และใกล้กันจนสามารถมองเห็นหน้าอีกฝ่ายได้ เมื่อมีการกราดยิงใส่กัน เลือดของศัตรูอาจกระเซ็นมาถึงกระจก หรือพุ่งใส่หน้าคุณก็ได้ เพราะฉะนั้นนักบินเหล่านี้จึงได้ฉายาว่า “อัศวินเหิรเวหา” แต่ด้วยเทคโนโลยีด้านอาวุธที่พัฒนาขึ้น ความรู้สึกแบบนี้จึงไม่มีอีกแล้วในโลกสมัยใหม่

การสร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับประวัติศาสตร์เรื่องนี้ คือความตื่นเต้นของทั้งทีมงานและนักแสดง เพราะยังไม่เคยมีใครสร้างมันอย่างสมจริงเช่นนี้มาก่อน และสงครามโลกครั้งที่ 1 ก็เป็นเหตุการณ์ในอดีต ที่เกิดขึ้นนานมากแล้วจนผู้คนเริ่มลืมเลือน Flyboys จะเป็นเครื่องเตือนความจำ ที่ทำให้ผู้คนย้อนนึกความสำคัญของเหตุการณ์นั้นอีกครั้ง

ทางด้านผู้กำกับภาพก็ยืนยันว่า ภาพการต่อสู้บนอากาศสุดตื่นตา จะไม่บดบังเรื่องราวอย่างแน่นอน เพราะถึงอย่างไรความใกล้ชิดระหว่างผู้ชม และตัวละครต้องมาก่อน ส่วนผู้อำนวยการสร้างก็เชื่อมั่นว่า การที่ผู้กำกับเป็นนักบิน จะทำให้หนังออกมาสมจริง น่าตื่นเต้น และน่าเชื่อถือ

เพียง 12 ปีหลังการคิดประดิษฐ์เครื่องบิน นักบินรบก็ถือกำเนิดขึ้น และยุคสมัยแห่งสงครามทางอากาศก็เปิดฉากขึ้น "ถลาลมเหนือพื้นโลกบนเครื่องบินปีก 2 ชั้นอันบอบบาง ไล่ล่าเครื่องบินชั้นยอดของศัตรู และรู้ตัวว่าคงมีชีวิตรอดได้ไม่ถึง 6 สัปดาห์" คือเรื่องราวความกล้าหาญเยี่ยงวีรบุรุษ ของกลุ่มชายฉกรรจ์ที่อาสาร่วมรบเพื่อประชาธิปไตย ในสงครามโลกครั้งที่ 1 ในนาม ลาฟาแยต เอสกาดริลล์ นักบินรบหน่วยแรกของโลก และเป็นเรื่องราวที่ Flyboys ขอนำเสนอ ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เกี่ยวกับความรัก การสูญเสีย และการผจญภัยเรื่องนี้ โดดเด่นด้วยเครื่องบินรบสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 ของจริง, สเปเชี่ยลเอ็ฟเฟ็กต์ตระการตา และเทคโนโลยีกล้องดิจิตอลชั้นยอด ที่จะทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนกำลังอยู่บนเครื่องบินรบ

Flyboys นำแสดงโดย เจมส์ ฟรานโก (James Dean, Spider-Man), มาร์ติน เฮนเดอร์สัน (The Ring, Bride and Prejudice), ฌอง เรอโน (The Davinci Code, Mission Impossible) และดาวรุ่งสาวดวงใหม่จากฝรั่งเศส เจนนิเฟอร์ เด็กเกอร์ กำกับโดยผู้กำกับเจ้าของรางวัลออสการ์ โทนี่ บิล (The Bodyguard, Five Corners) อำนวยการสร้างโดย ดีน เดลวิน (Independence Day, The Patriot) เขียนบทโดย เดวิด เอส วาร์ด เจ้าของรางวัลออสการ์จาก The Sting หนังถ่ายทำในประเทศอังกฤษ เมื่อฤดูใบไม้ผลิปี 2005