ในปี 1375 ประเทศจีนอยู่ในช่วงเหตุการณ์จลาจล ระหว่างราชวงศ์หยวนกับราชวงศ์หมิง กองทัพกังโฮ (อาณาจักรเกาหลีโบราณในช่วงนั้น) ได้ส่งคณะผู้แทนจำนวนหนึ่ง ประกอบด้วยนักเจรจา, ทหาร และทาสอีกหนึ่งคน เพื่อเป็นฑูตเชื่อมสัมพันธ์กับ จู หยวน จาง ฮ่องเต้องค์ใหม่ของประเทศจีน ซึ่งเป็นผู้นำแห่งราชวงศ์หมิง แต่คณะผู้แทนกลับถูกกล่าวหาว่าเป็นสายสืบ และถูกเนรเทศไปยังทะเลทรายที่ห่างไกล ระหว่างทางพวกเขาถูกจู่โจม โดยกองทหารของหยวน

ทหารทั้งหมดของราชวงศ์หมิงเสียชีวิตในสนามรบ มีเพียงนักดาบของกังโฮเท่านั้นที่รอดตาย หัวหน้าคณะฑูตคือ นายพล ชุย จ้าว (Joo Jin-mo) ทหารรักษาพระองค์ ตัดสินใจว่า พวกเขาต้องกลับไปยังเกาหลี บนเส้นทางการเดินทางที่ลำบากแสนสาหัส เขาได้ช่วยสตรีนางหนึ่งจากทหารหยวน ซึ่งต่อมาทราบภายหลังว่า เธอเป็นเจ้าหญิงของราชวงศ์หมิงนามว่า ปู ยอง (จางซิยี่)

คณะทูตของกังโฮ อยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากยิ่งขึ้น เมื่อองค์หญิงปู ยองขอให้พวกเขา พากลุ่มชาวบ้านหนีตายกลุ่มใหญ่ไปพร้อมกัน โดยหากทำภารกิจสำเร็จ นอกจากจะเป็นผลดีด้านการฑูตแล้ว ยังจะได้รางวัลเป็นเรือ เพื่อพาคณะฑูตกลับบ้านเกิดโดยสะดวก แต่กระนั้นมันก็หาใช่เรื่องง่าย ที่คนเพียงหยิบมือ จะสามารถปกป้องคนจำนวนมากขนาดนั้น จากกองทหารหยวนซึ่งตามราวีไม่เลิกรา

พวกเขาหลบหนีมาถึงปราสาทร้าง ซึ่งมีสภาพผุพัง และไม่มีทหารชาวหมิงอยู่ ทหารชาวหยวนไล่ตามพวกเขามาจนทันที่นี่ ปัญหารักสามเส้าที่ซ่อนอยู่ระหว่าง ชุย-จ้าว และ ยิว-โซล (Jung Woo-sung) ทหารทาสฝีมือดี ที่ต่างก็มีใจให้เจ้าหญิงปู ยอง ก็ยังเหมือนเป็นอุปสรรค ที่ทำให้นักรบกังโฮแยกเป็นสองฝ่าย พวกเขาเลือกที่จะลืมความขัดแย้งนี้ แล้วหันมาสู้ร่วมกันหรือไม่ ช่วงเวลาแห่งการตัดสินใจ กำลังใกล้เข้ามา...

ภาพยนตร์แนวมหากาพย์สงคราม ผลงานสร้างร่วมกัน ระหว่างจีนและเกาหลีใต้เรื่อง Musa มหาสงครามกู้ปฐพี ผลงานการกำกับ และเขียนบทภาพยนตร์ของ คิม ซุง-ซู Kim Sung-su (City of the Rising Sun) ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจาก แซม แพ็คกินพาห์ และ อากิระ คูโรซาวา อำนวยการสร้างโดย Cho Min-Hwan นำแสดงโดยดาวรุ่งหนุ่มชาวเกาหลี จู จิน โม Joo Jin-mo (Wanee & Junah, Real Fiction), ซูเปอร์สตาร์สาวชาวเอเชีย จางซิยี่ (The Road Home, Rush Hour 2, Crouching Tiger, Hidden Dragon) ร่วมด้วย Jung Woo-sung (City of the Rising Sun), Ahn Sung-kee (Kilimanjaro, My Beautiful Girl, Mari, Nowhere to Hide), Park Yong-woo, Park Jeong-hak