The Chronicles of Riddick
ริดดิก
Official website (US)
Official website (Japan)
more info. from IMDB
แนว : แอ็คชั่น / ระทึกขวัญ / Sci-Fi / ผจญภัย
ความยาว : 119 นาที
กำหนดฉาย : 22 กรกฎาคม 2547

มันคือยุคมืดในจักรวาล...

ดาวเคราะห์ดวงแล้วดวงเล่า ต้องตกอยู่ในกำมือของกองทัพชั่วร้ายของพวก เนโครมองเกอร์ (Necromongers) ภายใต้การนำของจอมเผด็จการ ลอร์ดมาร์แชล (คอล์ม ฟีโอเร่) กลุ่มนักรบผู้มีชัยที่เสนอทางเลือกง่ายๆ ให้กับโลกที่โดนทำลาย นั่นก็คือยอมจำนน หรือไม่งั้นก็ตาย บรรดาผู้ที่ปฏิเสธการปกครองของพวกเนโครมองเกอร์ ต่างหวังลมๆ แล้งๆ ว่าจะได้พบใครสักคน หรืออะไรสักอย่าง ที่จะมายับยั้งการขยายอำนาจของพวกเนโครมองเกอร์ แต่พวกกบฏมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน และดูเหมือนว่าคนที่จะช่วยพวกเขาได้ ก็มีอยู่น้อยเต็มที

เมื่อเหตุการณ์เริ่มเลวร้าย ผู้รอดชีวิตที่ต่างเหนื่อยล้า ต่างหันไปพึ่งพิงตำนานเพื่อบรรเทาทุกข์ในใจ พวกเขาพร่ำเพ้อถึงคำทำนาย ความหวังลมๆ แล้งๆ เรื่องเล่าในตำนานเกี่ยวกับความดีที่มีชัยเหนือความชั่ว แต่ความดีใช่จะเป็นสิ่งที่ต้านความชั่วร้ายได้เสมอไป และตำนานอาจผิดพลาดได้บางครั้ง ทางเดียวที่จะหยุดความชั่วร้ายได้ อาจไม่เกี่ยวกับความดี แต่เป็นความชั่วร้ายในอีกรูปแบบหนึ่งต่างหาก

ดังนั้น บุคคลที่ดูไม่น่าเป็นฮีโร่ จึงถูกเรียกตัวมาหลังจากโดนเนรเทศ และได้รับคำขอร้องให้เข้าร่วมในการต่อสู้ เขาก็คือ ริดดิก (วิน ดีเซล) ผู้ไม่แคร์ว่าใครจะเป็นผู้ปกครองจักรวาล ตราบใดที่ไม่มีใครมายุ่งกับเขา นับแต่เดินทางออกจากดาวเคราะห์ดวงหนึ่ง ในระบบสุริยะทอรัส ที่แม้แต่เทพเจ้ายังลืมเมื่อห้าปีก่อน ริดดิคซึ่งเป็นอาชญากรผู้เป็นที่ต้องการตัว ไม่เคยมองย้อนกลับไปสู่อดีต เวลาส่วนใหญ่ของเขา หมดไปกับการหลบหนีจากการจับกุม ของพวกนักล่าเงินรางวัลที่ไล่ตามเขามาตลอด สำหรับริดดิคแล้ว ไม่ว่าจักรวาลจะพินาศหรือไม่ ทุกอย่างล้วนไม่แตกต่าง นักรบฉายเดี่ยวนายนี้ สนใจแต่เพียงเอาชีวิตตัวเองให้รอด ถ้าลองแหยมเดินเข้ามาขวางเส้นทางของเขา ริดดิคพร้อมจัดการกับทุกคน

แต่บางสิ่งกำลังเปลี่ยนแปลง การเผชิญหน้าที่ใกล้มาถึง ทำให้ริดดิคต้องเข้ามาเกี่ยวข้องกับการต่อสู้อันกล้าหาญ ที่ผู้ชนะเท่านั้นจะได้ครอบครองทุกอย่าง ตั้งแต่อารยธรรมอันหลากหลาย ที่อยู่ภายใต้การโจมตี ไปจนถึงคุกใต้ดิน ที่อยู่ใต้พื้นผิวของดาวเคราะห์ภูเขาไฟที่ร้อนดั่งนรก และในที่สุด ก็คือบนยานบาซิลิก้า ยานแม่ของพวกเนโคร และเป็นขุมแห่งอำนาจในอาณาจักรมืดของพวกเนโคร

ในสงครามครั้งสุดท้าย มีคำทำนายว่าชะตากรรมของทุกชีวิตขึ้นอยู่กับโชคชะตาของชาวฟิวเรี่ยนหนึ่งเดียว และพลังทั้งหมดทั้งมวลในจักรวาล ก็มิอาจหยุดชะตากรรมนี้ได้...


ยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส ภูมิใจเสนอผลงานของ เรดาร์ พิคเจอร์ส / วันเรซ ฟิล์มส์ ขอเสนอภาพยนตร์เอพิคแอ็กชั่นผจญภัยแนวไซไฟเรื่อง The Chronicles of Riddick เขียนบทและกำกับโดย เดวิด ทูฮี (The Arrival, Pitch Black, Below) สร้างจากตัวละครที่สร้างโดย จิม และ เคน วีต อำนวยการสร้างโดย สก๊อตต์ ครูปฟ์ และ วิน ดีเซล โดยมี เท็ด ฟิลด์, จอร์จ แซ็กก์ และ เดวิด วูมาร์ก ทำหน้าที่ผู้อำนวยการสร้างบริหาร

The Chronicles of Riddick นำแสดงโดย วิน ดีเซล (The Fast and the Furious, xXx) กลับมารับบทเดิมจากภาพยนตร์เรื่อง Pitch Black ที่เคยสร้างความโด่งดังให้กับเขา เมื่อเขาสวมวิญญาณของ ริชาร์ด บี ริดดิก ร่วมด้วย แธนดี้ นิวตัน (M:I-2, The Truth About Charlie, Beloved, Jefferson in Paris) รับบทเป็น เดม วาอาโก้ คู่ชีวิตสุดทะเยอทะยาน และเต็มไปตัณหาของวาอาโก้ ผู้บัญชาการของเนโครมองเกอร์, คาร์ล เออร์แบน (Ghost Ship, The Lord of the Rings, The Bourne Supremacy, ซีรีส์ Xena: Warrior Princess) รับบทเป็น วาอาโก้ ผู้บัญชาการหนุ่มชาวเนโคร ที่ความภักดีที่เขามีต่อผู้นำอย่างลอร์ดมาร์แชล ต้องผ่านการทดสอบ โดยภรรยาสุดทะเยอทะยานของเขา, คอล์ม ฟีโอเร่ (Chicago, The Sum of All Fears, Paycheck, Pearl Harbor) รับบทเป็นลอร์ดมาร์แชลที่ 6 ผู้นำสูงสุดของชาวเนโคร และยังเป็นชาวเนโครมองเกอร์ที่มีอำนาจที่สุด ได้รับความนับถือบูชามากที่สุด และน่ากลัวที่สุดด้วย, ไลนัส โรช (Beyond Borders, Hart's War, The Wings of the Dove) รับบทเป็นผู้ชำระล้าง บุคคลผู้มีสถานะสูงส่งในหมู่ชาวเนโคร เป็นผู้ทำหน้าที่ในการเปลี่ยนแปลงสถานะ ของเชลยที่ถูกจับมาได้

คีธ เดวิด (Agent Cody Banks, Barbershop, The Replacements, Where the Heart Is, Pitch Black) กลับมารับบทเดิมเป็นอิหม่าม ผู้คุ้นเคยกับริดดิคเป็นอย่างดี จากประสบการณ์ที่เคยร่วมผจญภัยด้วยกัน ในระบบสุริยะทอรัส, โยริก แวน เวจนินเจน (Beyond Borders) รับบทเป็นเดอะกัฟ ผู้นำอย่างไม่เป็นทางการของนักโทษ ที่ใช้ชีวิตอยู่ในคุกที่โหดร้ายที่สุดของจักรวาล นั่นก็คือเดอะสแลม บนดาวเคราะห์ครีมาโตเรีย, อเล็กซ่า ดาวาลอส (ซีรีส์ Angel) รับบทเป็น คีร่า หญิงสาวที่ความทรหดและความร้ายกาจ เกือบสูสีกับริดดิคทีเดียว ริดดิคเคยช่วยเธอเอาไว้ (สมัยที่เธอยังเป็นเพียงเด็กผู้หญิงที่มีชื่อว่า 'แจ๊ค') จากดาวเคราะห์ในระบบสุริยะทอรัส และบัดนี้ในอีกห้าปีต่อมา ทั้งคู่ได้กลับมาพบกันอีกครั้ง, นิก ชินลันด์ (Tears of the Sun, Below, Con Air) รับบทเป็น ทูมบ์ส นักล่าเงินรางวัลที่น่ากลัว ที่มุ่งมั่นว่าจะต้องจับตัวริดดิคให้ได้ และเจ้าของรางวัลออสการ์ จูดี้ เดนช์ (James Bond 007, Iris, Chocolat, Shakespeare in Love) รับบทเป็น อีรีออน ทูตลึกลับจากเผ่าพันธุ์ที่หายสาปสูญ ผู้ที่ความต้องการของเธอยังคงลึกลับ พอๆ กับรูปกายที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา

ด้วยทุนสร้างจำนวนมากขึ้น และมีผืนผ้าใบขนาดใหญ่ ที่ทำให้เขาสามารถปลดปล่อยจินตนาการให้เป็นอิสระได้ ทูฮีย์จึงเริ่มต้นรวบรวมทีมนักออกแบบคอนเซปต์ อาทิเช่น แม็ตต์ ค็อดด์ (The Haunting, Saving Private Ryan, Men in Black, Twelve Monkeys), ดาเรน ด็อชเตอร์แมน (Master and Commander: The Far Side of the World, How the Grinch Stole Christmas, Deep Blue Sea), เจมส์ อ็อกฟอร์ด (Armageddon, Amistad, The Lost World: Jurassic Park) และ ไบรอัน เมอร์เร่ย์ (Pitch Black) เพื่อให้พวกเขาเริ่มต้นสเก็ตช์ภาพโลกของภาพยนตร์ The Chronicles of Riddick หลังจากนั้นไม่นาน ทูฮีย์ยังเสริมความแน่นของทีม ด้วยการดึงโปรดักชั่นดีไซเนอร์ โฮลเกอร์ กรอสส์ ที่ผลงานก่อนหน้านี้ของเขาก็คือ Windtalkers, Broken Arrow ของจอห์น วู และภาพยนตร์ฮิตของ โรแลนด์ เอ็มเมอริช เรื่อง Stargate ให้มาทำงานด้วย ร่วมกับผู้กำกับศิลป์ เควิน อิชิโอกะ (Windtalkers, The Negotiator, Deep Rising)

ในการสร้างตัวละครของพวกเขาขึ้นมา ทีมนักแสดงยังได้รับความช่วยเหลือ จากการสร้างสรรค์ผลงานของนักออกแบบเสื้อผ้า เอลเลน มิรอจนิก (Unfaithful, What Women Want, Starship Troopers, Chaplin) และ ไมเคิล เดนนิสัน (Mona Lisa Smile) ร่วมด้วยคอสตูมซูเปอร์ไวเซอร์ เจมส์ ไทสัน (ผู้เคยทำงานให้กับภาพยนตร์อย่าง Master and Commander: The Far Side of the World, Batman Forever และ Predator) และช่างแต่งหน้า วิคตอเรีย ดาวน์ ส่วนผู้ที่ทำหน้าที่เป็นวิชวลเอฟเฟ็กต์ซูเปอร์ไวเซอร์ ได้แก่ ปีเตอร์ เจียง ผู้กำกับภาพได้แก่ ฮิวจ์ จอห์นสัน (G.I. Jane, White Squall) มือตัดต่อได้แก่ มาร์ติน ฮันเตอร์ (Underworld, Below, Event Horizon, Full Metal Jacket) และ เดนนิส เวิร์กเลอร์ ACE. (Daredevil, Batman & Robin, The Fugitive, The Hunt for Red October) ดนตรีประกอบเป็นฝีมือของ เกรมี่ รีเวลล์ (Freddy Vs. Jason, Daredevil, Below, Lara Croft: Tomb Raider)