Return to Never Land
ปีเตอร์ แพน ผจญภัยท่องแดนมหัศจรรย์
Official website
more info. from IMDB
แนว : แอนิเมชั่น / ครอบครัว / เพลง / ผจญภัย
ความยาว : 72 นาที
กำหนดฉาย : 22 มีนาคม 2545

เจน ลูกสาวคนโตของ เวนดี้ ผู้ซึ่งสูญเสียจินตนาการ ความสนุกสนาน และทุกความผูกพัน ที่เธอมีต่อ "ความศรัทธา ความฝัน และละอองภูตวิเศษ" ให้กับสงครามโลก ที่สร้างความหายนะแก่กรุงลอนดอน เธอเติบโตมาท่ามกลางความจริงอันโหดร้ายของสงคราม จนทำให้เธอสูญเสียความสนุก และจินตนาการของเด็กไปหมดสิ้น ซ้ำในวันที่พ่อของเธอจะจากไปร่วมรบ เขายังฝากฝังภารกิจสำคัญไว้ให้นั่นคือ เธอจะต้องดูแลปกป้อง แดนนี่ น้องชายคนเล็กอย่างดีที่สุด

มันเป็นภาระที่เจนแบกรับไว้อย่างจริงจัง ด้วยการละทิ้งการเล่นแบบเด็กๆ และฝังความรู้สึกแท้จริงตามวัยไปจนหมด ยิ่งพ่อจากไปนานเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งหลงเหลือความเชื่อ ในเรื่องราวมหัศจรรย์เกี่ยวกับ ปีเตอร์ แพน ที่แม่เล่าให้ฟังน้อยลงเท่านั้น เพราะไม่สามารถปล่อยให้ตัวเองเชื่อมันได้สนิทใจ ต่างจากแดนนี่ ซึ่งเป็นเด็กที่คลั่งไคล้นิทานของแม่ ว่าด้วยปีเตอร์ แพน, โจรสลัด และดินแดนน่าหลงใหล ชื่อ "แดนมหัศจรรย์" (Never Land) เอามากๆ ทุกครั้งที่แม่เล่า แดนนี่จะฟังด้วยความตื่นเต้น และจินตนาการเต็มเปี่ยม โลกแห่งนิทานก่อนนอน ช่วยดึงพวกเขา ให้หลุดพ้นจากสงครามโหดร้ายรอบตัว และแดนนี่น้อยก็เฝ้าหวังว่า พี่สาวของเขาจะค้นพบนิสัยเล่นสนุก ในหัวใจของเธอบ้าง

แต่แล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลงไป เมื่อ กัปตันฮุค พลาดลักพาตัวเธอ ด้วยความเข้าใจผิดว่าคือเวนดี้ ไปสู่แดนมหัศจรรย์... ดินแดนซึ่งจินตนาการคือความจริง มันเป็นการเดินทางที่ประหลาดล้ำ และเป็นการผจญภัยเข้าสู่ภายในหัวใจ ซึ่งเป็นที่ที่เจนได้พบว่ามีสิ่งดีๆ มากมายที่เป็นไปได้... เพียงแต่อาศัยความศรัทธา ความไว้เนื้อเชื่อใจ และละอองภูตวิเศษนิดหน่อยเท่านั้น

ปีเตอร์ แพนช่วยเธอไว้ จากการจับกุมของเหล่าโจรสลัด และปล่อยทิ้งฮุคให้บ้าคลั่งอยู่ตามลำพัง โดยมีปลาหมึกหิวโซ ไล่ตามไปอย่างเมามัน ปีเตอร์พยายามแสดงให้เธอ ได้เห็นความมหัศจรรย์ของแดนมหัศจรรย์ แต่เด็กหญิงกลับมุ่งมั่นสนใจ ก็แต่เพียงการกลับสู่โลกแห่งความจริง ในบ้านของเธอเอง อย่างไรก็ตาม โชคไม่เข้าข้าง เมื่อเธอจำต้องบินให้เป็นก่อนเท่านั้น จึงจะกลับได้ และในอันที่จะบินให้ได้ เธอก็จำต้องเชื่อมั่นในมันเสียก่อน ซึ่งทั้งหมดนั้น ย่อมขึ้นอยู่กับ ปีเตอร์ แพน, ทิงเกอร์เบลล์ และกลุ่มลอสต์บอย ไม่ว่าจะเป็น คับบี้, นิบส์, สไลต์ลี่, เดอะทวินส์ หรือ ทูเดิลส์ ที่ต้องช่วยเจน ให้ค้นพบความรู้สึกสนุกสนาน และความอัศจรรย์ใจแบบเด็กๆ อีกครั้ง ขณะที่ตัวเจนเอง ก็จะต้องค้นหาความหมายของสิ่งนี้ ให้พบเพื่อจะเกิดความเชื่อมั่นได้อย่างแท้จริง


วอลท์ ดิสนีย์ พิคเจอร์ส ออกบินอีกครั้งกับ Return to Never Land ภาคต่อของผลงานแฟนตาซีคลาสสิคเปี่ยมเสน่ห์ปี 1953 ของดิสนีย์เรื่อง Peter Pan โดย Return to Never Land ซึ่งอำนวยการสร้างโดย วอลท์ ดิสนีย์ เทเลวิชั่น แอนิเมชั่น นี้ ถ่ายทอดการเดินทางอันน่าตื่นตาตื่นใจสู่ "แดนมหัศจรรย์" (Never Land)

เช่นเคย... เด็กชายผู้ไม่เคยโตเป็นผู้ใหญ่นาม ปีเตอร์ แพน ยังเป็นคนขี้เล่น ซุกซน ไร้ความกังวลใดๆ ดังที่เราจดจำกันได้ ทั้งยังเป็นผู้นำกลุ่มลอสต์บอย และยังคงต่อสู้ไม่เลิกรากับกัปตันฮุค ไม่เท่านั้น เขายังคงเป็นขวัญใจของทิงเกอร์ เบลล์เหมือนเดิม อย่างไรก็ตาม โลกรอบๆ ตัวของเขา กลับเติบโตและเปลี่ยนแปลง เวนดี้ไม่ใช่เด็กสาวอีกแล้ว เธอกลายเป็นแม่ลูกสอง โดยหนึ่งในนั้นคือ เด็กหญิงแข็งกร้าวชื่อ เจน ซึ่งใครที่ไหนอีกเล่า จะดึงหนูน้อยคนนี้ กลับสู่ความเชื่อเดิมๆ ได้อีก หากไม่ใช่ ปีเตอร์ แพน?

การสร้างสรรค์ภาคต่อ ของผลงานคลาสสิคปี 1953 ของดิสนีย์ครั้งนี้ เริ่มต้นจากการวางรากฐาน ให้กับองค์ประกอบที่สำคัญที่สุด ของหนังดิสนีย์ทุกเรื่อง นั่นคือ การสร้างเรื่องราวที่ดี โดยเคล็ดลับอยู่ตรงการค้นหาพล็อตเพิ่มเติม จากต้นฉบับที่ดูสมเหตุสมผล และเป็นธรรมชาติ เพื่อเปิดโอกาสให้คนดูได้กลับมาเยี่ยมเยือนตัวละคร และสถานที่เดิมๆ อีกครั้ง พร้อมๆ กับการได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ไปด้วย

นอกจากนั้น ทีมงานยังต้องเอาชนะความกดดัน ในการเดินตามรอยผลงานเรื่องนี้ ซึ่งถือเป็นหัวใจและเป้าหมายแท้จริง แห่งการทำหนังของดิสนีย์ อีกทั้งยังถึงพร้อมด้วยงานสร้างสวยสดงดงาม จากฝีมือของทีมแอนิเมเตอร์มืออาชีพของดิสนีย์ด้วย

ทีมงานชั่งน้ำหนักเป็นอย่างดี ในการสร้างภาคต่อ ของงานดิสนีย์คลาสสิคเรื่องนี้ ระหว่างการเคารพต้นฉบับเต็มที่ และการนำพาทั้งตัวละคร กับผู้ชมไปพบการผจญภัย และอารมณ์แปลกใหม่ ที่จะสร้างความรู้สึกประทับใจ เช่นเดียวกับหนังเรื่องแรก ตัวละครนำอย่างเจนนั้น เป็นส่วนผสมอันพอเหมาะพอเจาะ ของงานออกแบบแบบดั้งเดิม และการเติมเสน่ห์แบบสมัยใหม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ ชาร์ลี โบนิฟาซิโอ พรี-โปรดัคชั่นอาร์ติสต์ ทำได้ประสบความสำเร็จอย่างน่าชื่นชม

หนึ่งในความแตกต่างเด่นๆ ของภาคแรกกับภาคสองก็คือ การเปิดตัวคู่แค้นรายใหม่ของกัปตันฮุค ในช่วงห่างหลายปี ระหว่างการมาเยือนของเวนดี้และของเจนนั้น ไม่ค่อยมีอะไรเปลี่ยนไปเท่าไหร่นัก ในแดนมหัศจรรย์ ยกเว้นเรื่องสำคัญอยู่เรื่องหนึ่ง จระเข้ซึ่งเป็นศัตรูตัวเอ้ของกัปตันฮุค หายหน้าไปจากท้องทะเลสีครามเสียแล้ว และถูกแทนที่โดยปลาหมึกยักษ์ ซึ่งก็ยังมีรสนิยมชื่นชอบรสชาติของโจรสลัดเหมือนเดิม โดยเฉพาะโจรสลัดแขนเหล็ก ยิ่งเป็นของโปรด เจ้าปลาหมึกตัวนี้ ก็ไม่ต่างจากจระเข้ ตรงที่เป็นสัญลักษณ์ ย้ำเตือนให้ฮุค ต้องนึกถึงสภาพของตัวเองบ่อยๆ เพราะมันชอบใช้หนวด ทำเสียงกวนประสาท คล้ายกับคนที่ชอบหักนิ้วด้วยความเมามัน อย่างไรอย่างนั้น