Sin City
เมืองคนตายยาก
Official website
more info. from IMDB
แนว : แอ็คชั่น / อาชญากรรม / ดราม่า / ระทึกขวัญ
ความยาว : 124 นาที
กำหนดฉาย : 26 พฤษภาคม 2548

The Hard Goodbye

มาร์ฟ (มิคกี้ รู้ค) หนุ่มวัยกลางคนสุดคลั่ง ที่เส้นทางชีวิตนั้นถูกปะติดปะต่อขึ้นมา จากเศษเดนอันกักขฬะของเมืองคนบาปแห่ง Sin City เพียงชั่วข้ามคืนของความสุขอันดื่มด่ำกับ โกลดี้ (เจม คิง) หญิงสาว ผู้ปฏิบัติกับเขาราวกับเทพเจ้าตัวน้อย แบบที่ไม่เคยมีหญิงใดเคยคิดจะทำอย่างนั้นกับเขามาก่อน เมื่อแสงแรกของวันใหม่มาถึง ร่างอันไร้วิญญาณของหญิงสาวก็แน่นิ่งอยู่ข้างกายเขา พร้อมกับเสียงไซเรนตำรวจที่กำลังดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เขารู้แน่ชัดว่าต้องมีใครสักคน ที่สร้างสถานการณ์เลวร้ายครั้งนี้ขึ้นมาเพื่อใส่ความเขา แต่ว่านั่นก็ไม่เท่ากับเพลิงแค้นในใจ ที่พร้อมจะเผาไหม้ทุกคน ที่ทำให้หญิงสาวคนเดียวที่เขารัก และรักเขาต้องจบชีวิตลง

ในขณะที่เหล่าตำรวจออกตามล่าเขา มาร์ฟต้องวิ่งฝ่าทางเดินมืดๆ จากหลังตึกหนึ่งไปยังอีกตึกหนึ่ง ผ่านไปยังใจกลางของ Sin City เมืองคนบาป และเรื่องราวลึกลับซับซ้อน ที่มากไปกว่าโสเภณีคนหนึ่งที่ถูกฆ่า ก็เริ่มเผยให้เห็นถึงเรื่องราวเบื้องลึก เบื้องหลังที่สลับซับซ้อน และร้ายแรงเกินกว่าที่มาร์ฟจะคาดคิด อาจดูเหมือนว่ามันคือเรื่องราวความโหดเหี้ยม และไร้ศีลธรรม แต่ทุกสิ่งที่เขากำลังจำทำมันลงไปนั้น ก็หมายความว่าเขาจะต้องกลับเข้าคุกไปอีกครั้งเช่นกัน!!! ทว่าเขานั้นเชื่ออย่างสุดใจว่านั่นคือสิ่งถูกต้อง ที่เขาจะทำให้แก่หญิงสาวคนรักที่จากไปได้

หลังจากการเดินทางออกตามล่าล้างแค้น และต่อสู้กับคำถามถึงศีลธรรมในใจของมาร์ฟ ที่มีต่อการฆ่าอย่างไม่ปรานีแล้ว เรื่องราวที่อีกด้านหนึ่งของเมือง ก็กำลังก่อตัวขึ้นอย่างดุเดือด เต็มไปด้วยสงครามหมัด เสียงปืนดังกึกก้อง และเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว


The Big Fat Kill

ภายหลังจาก ดไวท์ แม็คคาร์ทธี่ (ไคลฟ์ โอเว่น) รอดชีวิตจากเหตุการณ์สุดโหด และถูกฉุดขึ้นมาจากสถานการณ์เฉียดตาย โดยโสเภณีสาวในย่านเมืองเก่า ดไวท์กลับมาใช้ชีวิตอีกครั้ง โดยตัดสินใจทำศัลยกรรมใบหน้าทั้งหมด เพื่อหลบหนีการไล่ล่าของกรมตำรวจแห่ง Sin City ซึ่งใบหน้าใหม่เท่านั้น ที่จะการันตีถึงความอยู่รอดในเมืองที่เขารักแห่งนี้

หลังจากกบดานอยู่นาน ดไวท์ก็มาตกหลุมรัก ชีล่า สาวในบาร์ที่มอบหัวใจให้เขาตั้งนานแล้ว และคืนหนึ่งหลังจากขับไล่ บิ๊กแจ็ค แฟนเก่าของเธอออกไป ดไวท์ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า บิ๊กแจ็คอาจกำลังมุ่งหน้าไปทำร้ายเหล่าโสเภณี ที่ทำงานอยู่ในย่านเมืองเก่า ดไวท์จึงตัดสินใจออกตามเขาไป แต่ว่าเขานั้นมีเพียงบางอย่างที่ยังกังวลอยู่ นั่นคือการวางมือของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ จากประชากรในย่านเมืองเก่า ซึ่งกฎเพียงข้อเดียวที่เหลืออยู่ ก็คือการเอาตัวรอด และพร้อมรับมือกับเหตุร้ายที่จะเกิดขึ้นได้อยู่เสมอ

เมื่อมาถึงย่านเมืองเก่า ดไวท์ก็เกือบรู้สึกเสียใจกับบิ๊กแจ็คและลูกน้อง แต่ว่านั่นก็ไม่ทำให้เขาหยุดยั้ง ที่จะลงมือจัดการกับเรื่องที่เกิดขึ้นได้

เมื่อจัดการกับบิ๊กแจ็คได้แล้ว เขาก็พบกับความจริงที่ว่า แท้จริงแล้วบิ๊กแจ็คก็คือ แจ็ค แรฟเฟอร์ตี้ (เบนิชิโอ เดล โทโร่) นายตำรวจจาก Sin City ที่ทุกคนยกย่อง ณ วินาทีนี่เอง ที่ความกลัวได้เข้ามาเกาะที่ขั้วหัวใจของเขา แต่ว่ามันไม่ใช่ความกลัวต่อความตายที่จะเกิดขึ้นกับตัวเขา หากแต่ว่ามันคือความกลัวที่ว่า การเสียชีวิตลงของบุคคลสำคัญอย่างแจ็ค แรฟเฟอร์ตี้นั้น จะนำมาซึ่งจุดจบของการวางมือของตำรวจในย่านเมืองเก่าแห่งนี้ แล้วนำมาซึ่งวันเก่าๆ ที่ทุกแห่งหนนั้น ถูกครอบครองไปด้วยผู้คนทรงอิทธิพล ชะตาชีวิตของเหล่าผู้หญิงทำงานในย่านเมืองเก่านั้น ตกอยู่ในมือของดไวท์ แม็คคาร์ทธี่ เขาคือชายที่กำลังหนีกฎหมาย กำลังสู้กับกฎหมาย และเขาเองก็เป็นหนี้ชีวิตของผู้หญิงกลางคืนเหล่านั้นเช่นกัน


That Yellow Bastard

จอห์น ฮาร์ติกัน (บรู๊ซ วิลลิส) นายตำรวจแห่ง Sin City PD กับหน้าที่ในวันสุดท้าย ก่อนที่จะถูกปลดระวางลงไป เนื่องมาจากอาการของโรคหัวใจ แต่มันยังมีคดีอีกคดีหนึ่ง ที่เขายังต้องสะสางให้จบสิ้น มันคือคดีลูกชายของ ส.ว. โร้ค ที่ผู้คนรู้จักกันในชื่อ จูเนียร์ (นิค สตาห์ล) ซึ่งเขาก็รอดพ้นจากการถูกดำเนินคดีอุกฉกรรจ์ ทั้งลักพาตัว ข่มขืน ฆาตกรรมหญิงสาวจำนวนมาก

ปัญหาก็คือ ฮาร์ติกันต้องหาตัวจูเนียร์ให้ได้ ก่อนที่เขาจะได้รับความช่วยเหลือจากเหล่าผู้พิพากษา ซึ่งมี ส.ว.โร้คใช้อำนาจทางการเมือง ทำให้เขานั้นหลุดรอดไปได้อย่างง่ายดาย ราวกับน้ำกลิ้งบนหลังเป็ด และวันนั้นเอง ที่เด็กสาววัย 11 ปีก็หายตัวไปจาก Sin City โดยมีชื่อจูเนียร์เกี่ยวข้องกับการหายตัวไป

ฮาร์ติกันและคู่หูของเขานั้นออกติดตาม แนนซี่ คัลลาฮาน (เจสสิก้า อัลบ้า) และจูเนียร์ไปอย่างไม่ลดละ จนมาเจอกับเบาะแสสำคัญ ที่ทำให้พวกเขาได้มาเจอกับจูเนียร์ในที่สุด

ในขณะที่กำลังรอกำลังเสริมที่เดินทางมายังที่เกิดเหตุนั้น เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อคู่หูของฮาร์ติกันกลับหักหลังเขาในที่สุด เนื่องมาจากเขาได้เงินใต้โต๊ะจากครอบครัวของ ส.ว.โร้ค อย่างไรก็ดี ฮาร์ติกันนั้นก็สามารถเอาตัวรอดมาได้ พร้อมกับช่วยเหลือสาวน้อย แต่ทุกอย่างก็ไม่ง่ายเสมอไปใน Sin City

แม้ว่าจูเนียร์จะรอดมาได้ แต่ว่าก็ไม่ได้ทำให้ ส.ว.โร้ค นั้นดีใจเลย แถมยังเคียดแค้นนายตำรวจตงฉินมากขึ้นเกินเท่าทวีคูณ พร้อมวางแผนใส่ความเขาให้เป็นผู้ร้ายลักพาตัว และข่มขืนแนนซี่เสียเอง และยังขู่ที่จะฆ่าเธอและภรรยาที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ของเขาด้วย โร้คนั้นทำให้เขาต้องต่อสู้กับศักดิ์ศรี ในหน้าที่และความรู้สึกผิดชอบชั่วดี

ฮาร์ติกันต้องตัดสินใจครั้งสำคัญของชีวิต โดยมีชีวิตของภรรยาและสาวน้อยเป็นเดิมพัน โดยเขาคิดว่า หากชายแก่ไร้ค่าคนหนึ่งต้องจบชีวิตลง เพื่อให้สาวน้อยคนหนึ่งมีชีวิตอยู่รอดต่อไป ก็ถือว่ายุติธรรม แล้วเรื่องราวที่แท้จริงของ that Yellow Bastard ก็เริ่มต้นขึ้น เมื่อฮาร์ติกันต้องไปชดใช้ผลพวงจากสิ่งที่เขาทำอยู่ในคุก โดยมีจดหมายจากสาวน้อย มาเป็นน้ำหล่อเลี้ยงเพื่อให้มีชีวิตอยู่ได้ไปวันๆ จวบจนเวลาล่วงเลยไปถึง 8 ปีที่เขาอยู่ในนั้น

จดหมายก็เริ่มหายไป ฮาร์ติกันเข้าใจว่าสาวน้อยเติบใหญ่เป็นสาวรุ่น และเดินทางชีวิตของเธอแล้ว โดยทิ้งเขาเอาไว้เบื้องหลัง แต่แล้วพัสดุปริศนาก็มาถึงเขา พร้อมกับเรียวนิ้วปริศนาที่อยู่ภายใน เขารู้แล้วว่าเขาไม่อาจจะปกป้องเธอได้ และมีเพียงหนทางเดียวเท่านั้นที่จะปกป้องเธอ ก็คือหาทางออกไปจากที่นั่น ฮาร์ติกันต้องตัดสินใจทำสิ่งที่หยามเกียรติ และลดศักดิ์ศรีตัวเขาเองอีกครั้ง เพื่อให้ได้ออกไปสู่ถนนอันบ้าคลั่งของ Sin City อีกครั้ง


Sin City มันคือเมืองแห่งฆาตกรรมและคอรัปชั่น มันคือเมืองแห่งความรักและการล้างแค้น ซึ่งทุกสิ่งนั้นเป็นเรื่องราวที่ง่ายดาย เหมือนกับเรื่องราวของหัวใจทุกคน

จากผลงานการ์ตูนยอดนิยมจาก Dark Hourse Comics โดยนักเขียนการ์ตูน แฟรงค์ มิลเลอร์ เจ้าของรางวัลนักเขียนการ์ตูนยอดเยี่ยมปี 1992 มาสู่ผลงานภาพยนตร์ Sin City ที่สร้างจากซีรี่ส์ผลงานการ์ตูนยอดนิยม 3 ตอนคือ Sin City: The Hard Goodbye, Sin City: The Big Fat Kill และ Sin City: That Yellow Bastard ที่ถูกสอดประสานเรื่องราวให้กลายเป็นเนื้อเดียวกัน จากฝีมือกำกับของ โรเบิร์ต รอดริเกซ ผู้กำกับหนุ่มไฟแรงจาก Spy Kids ทั้ง 3 ภาค และผลงานภาพยนตร์แอ็คชั่นสุดมันส์อย่าง El Mariachi, Desperado และ Once Upon A Time In Mexico ร่วมด้วย แฟรงค์ มิลเลอร์ เจ้าของบทประพันธ์