The Tiger and the Snow
สวรรค์ช่วย หัวใจรักไม่สิ้นหวัง
Official website
more info. from IMDB
แนว : ตลก
ความยาว : 114 นาที
กำหนดฉาย : 16 มีนาคม 2549

แอตติลิโอ (โรเบอโต้ เบนิญี่) เป็นกวีและอาจารย์ด้านโคลงกลอน ที่มหาวิทยาลัยสำหรับชาวต่างชาติในกรุงโรม พวกเราอยู่ในปี 2003 สงครามในอิรักยังไม่เริ่มต้น แต่สัญญาณความขัดแย้งเริ่มปะทุกันกลางอากาศ แอตติลิโอดูเหมือนจะใช้ชีวิตอยู่ในโลกของเขา ปิดตัวเองในหอคอยงาช้าง ซึ่งถูกเข้าร่วมโดยเสียงของกลุ่มกวีที่เขารักมากที่สุด เขามีชื่อเสียงทางด้านวรรณกรรม ล่าสุดเขาเพิ่งตีพิมพ์ผลงานรวมชุดใหม่ของเขาที่ชื่อ The Tiger and the Snow ซึ่งเป็นที่ต้อนรับอย่างดี ทั้งจากนักวิจารณ์และสาธารณะชนที่อ่านบทกวี

เขาแทบจะไม่ได้สัมผัสเหตุการณ์ปัจจุบัน ตกดึกเขาเฝ้าฝันถึงหญิงที่เขาปรารถนาที่จะแต่งงานด้วย ชื่อของเธอคือ วิตโตเรีย (นิดโคเล็ตต้า บราสชี) ในชีวิตจริงเธอไม่ต้องการยุ่งกับเขา จริงๆ แล้ว เธอรู้สึกรำคาญกับความตั้งใจของเขา ที่ไม่หยุดประกาศความรักที่ไม่เคยตายของเขากับเธอ แอตติลิโอติดตามเธอไป นอนรอเธอ และสัญญากับเธอด้วยความสุขนิรันดร์กาล แต่ยิ่งเขาเดินหน้า เธอก็ยิ่งต่อต้าน เธอก็อยู่ในโลกของวรรณกรรมเช่นกัน ปัจจุบันเธอกำลังเขียนประวัติของกวีชาวอิรักที่ขึ้นชื่อ ซึ่งเคยอยู่ในปารีสหลายปี ตอนนี้กำลังเตรียมเดินทางกลับบ้านเกิดของเขาในแบกแดด ถ้าเกิดสงครามขึ้น เขาต้องการอยู่ท่ามกลางคนของเขา วิตโตเรียและแอตติลิโอพบกับเขาอย่างสั้นๆ ในโรม ความเป็นคนปราศจากกังวลของแอตติลิโอ และบุคลิกน่าปวดหัว ทำให้ชีวิตแต่ละวันค่อนข้างยุ่งยากสำหรับเขา เพื่อนนักกฎหมายของเขาใช้เวลาส่วนใหญ่ พยายามหนีห่างจากตัวเขา เพื่อนเขาคุยโทรศัพท์มือถือทั้งวันทั้งคืน ทำสุดความสามารถเพื่อลูกค้าของเขารู้สึกตัว

อยู่มาวันหนึ่ง แอตติลิโอได้รับโทรศัพท์จากกวีชาวอิรัก ซึ่งกลับไปแบกแดด เขาได้รับข่าวร้าย วิตโตเรีย ซึ่งกลับไปอิรักกับเขาเพื่อเขียนงานประวัติ ได้รับบาดเจ็บทางศรีษะอย่างรุนแรง จากการบุกโจมตีชาวอเมริกันด้วยระเบิดในครั้งแรกๆ เธอกำลังรอความตาย แอตติลิโอไม่ลังเลเลยสักวินาที เขาเดินทางไปอิรักในวันนั้น เข้าร่วมกับกลุ่มกาชาด ด้วยโชคและความรักที่เขามีต่อวิตโตเรีย จากนั้นเขาจึงติดต่อไปหากวีชาวอิรัก และหาโรงพยาบาลซึ่งรับรักษาวิตโตเรียอยู่ หญิงในฝันของเขาไร้ซึ่งสติ ใกล้ความตายอยู่ในโรงพยาบาลที่ขาดอุปกรณ์พื้นฐาน และยาใช้รักษา สถานการณ์ที่เป็นอยู่ไร้ซึ่งความหวัง เพื่อโอกาสในการรอดชีวิต วิตโตเรียต้องการยาที่ช่วยลดความดันของโรคทางสมอง ที่กำลังจะพรากชีวิตเธอไป แอตติลิโอเดินทางเข้าไปในเมืองเพื่อหายา เขาพบร้านขายยาที่ถูกทิ้งไว้ เขาไม่ละทิ้งความหวัง ถ้าหายาไม่เจอ มันจะต้องถูกทำขึ้นมาแทน เขาตามหานักเคมีชาวอิรัก ชวนเขาให้มอบสูตรเพื่อใช้ในการรักษา

ในที่สุด แอตติลิโอวิ่งไปวิ่งมาท่ามกลางระเบิด แต่เขาก็พลิกสถานการณ์ได้ และช่วยชีวิตของวิตโตเรีย เขาพาเธอไปอยู่ที่ห้องใต้บันไดในโรงพยาบาล จนเขาได้พบกับยาที่จำเป็น ออกซิเจน และท่อสายยาง เขาใช้เวลาทุกนาทีดูแลคนที่เป็นที่รักของเขา ซึ่งไม่เคยรับรู้ในสิ่งที่เขาทำให้เธอทุกอย่าง เพราะเธอยังคงนอนหมดสติ เพื่อนทนายในโรมพยายามโทรหาแอตติลิโอทางโทรศัพท์มือถือ โดยเชื่อว่าลูกค้าของเขายังอยู่สุขสบาย และมีความสุขในโรม กวีชาวอิรักเป็นเพื่อนของแอตติลิโอ เขาตระหนักได้ว่าสำหรับเพื่อนของเขา ชีวิตมนุษย์เพียงคนเดียวมีความสำคัญพอๆ กับประเทศทั้งประเทศ เมื่อวิตโตเรียลืมตาขึ้นอีกครั้ง แอตติลิโอก็ไม่ได้อยู่กับเธอ เขาถูกทหารอเมริกันจับตัวไป การอยู่ของเขาถูกหักหลังจากเสียงโทรของโทรศัพท์ที่ดังไม่หยุด วิตโตเรียได้รับการฟื้นฟูสุขภาพ และเดินทางกลับไปอิตาลี ขณะที่แอตติลิโอที่ถูกจับไปเป็นทหารข้าศึกอยู่ในคุก แต่ท้ายสุด เขาก็ได้กลับบ้านอย่างปลอดภัย เขาได้พบกับวิตโตเรีย ซึ่งไม่รู้เลยว่าเธอได้รับการช่วยชีวิต จากชายชอบเขียนบทกวีที่แปลกประหลาดของเธอ สิ่งหนึ่งที่มั่นคงและแน่นอน คือ แอตติลิโอจะไม่ยอมบอกเรื่องนี้กับเธอ...


The Tiger and the Snow เป็นผลงานจากแรงปรารถนาในการสร้างภาพยนตร์ ไม่ได้มีแนวคิดอะไร อาศัยแค่เพียงความรัก ตัวละครสำคัญก็คือ ความรัก ..พลังที่ยิ่งใหญ่ และก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดในโลก มันเป็นผลิตผลจากความปรารถนา ในการสร้างหนังที่บริสุทธิ์เหมือนกับหิมะ ดุดันพอๆ กับเสือ

ความรักที่ชายพร้อมยอมตายเพื่อสุดที่รักของเขา และหญิงที่ไม่ต้องการข้องเกี่ยวกับชายแปลกคนนั้น เขาเขียนบทกลอนเป็นอาชีพ และใช้เวลาเพื่อค้นหาคำหนึ่งคำ ถ้ามันทำให้หัวใจเขาเต้น มันก็จะทำให้หัวใจของคนที่ได้ยินเต้นไปด้วย เพียงแต่เขาไม่สามารถทำให้หัวใจของหญิงที่เขารักสุดหัวใจเต้นได้ แต่เขาก็ติดตามเธอไปทุกหนแห่ง คุยกับเธอไปทั่ว ต้องการใช้เวลาทุกวันกับเธอ และนอนกับเธอทุกค่ำคืน ใส่ชุดชั้นในของเขาให้เธอ ทรมานเธอด้วยความพยายามที่จะสื่อความรักของเขากับเธอ และแรงปรารถนาที่จะมีชีวิตอยู่ของเขา แรงปรารถนาที่จะมีชีวิตอยู่ ซึ่งทำให้เขาเขียนกลอนเกี่ยวกับทุกอย่างที่เขาเห็น ด้วยความจริงง่ายๆ ที่ว่ามันมีตัวตน แรงปรารถนที่ทำให้เขาบอกว่า แม้ว่าเขาจะตาย เขาก็จะยังจำช่วงที่เคยมีชีวิตอยู่เอาไว้

เขาเป็นชายที่เฝ้าฝันถึงหญิงของเขาทุกคืน พบว่าตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์ขัดแย้งรุนแรง สงครามในอิรักเริ่มต้นเดือนมีนาคม ปี 2003 มันเป็นความรักของกวี ของชายที่ไม่ยอมจำนนต่อทุกเหตุผล ความรักที่นำให้แอตติลิโอต่อสู้กับสงครามของเขาเอง... ทั้งหมดก็เพื่อมีเวลาของชีวิตเพิ่มขึ้นเพื่อหญิงที่เขารัก ด้วยความเชื่อที่ว่า ความตายของคนๆ หนึ่งมีค่าพอๆ กับความตายของโลกทั้งโลก แต่ความรักของแอตติลิโอไม่ใช่ความรักที่หวานแหวว ค่อนข้างจะเหมือนเสือที่พุ่งด้วยความโกรธ เพื่อตะครุบเหยื่อโดยปราศจากความกลัว เขากลัวความรัก กลัวชีวิต และกลัวชีวิตพอๆ กับความตาย การเชื่อเช่นนี้ กวีต้องการส่งผ่านความเชื่อของเขา ทำให้ชายทุกคนเชื่อว่า พวกเขามีความรักอยู่ภายในตัว นั่นคือจุดประสงค์ของบทกวี ของศิลปะทั้งมวล เพื่อเปิดเผยสิ่งที่อยู่ภายใน

เรื่องราวทั้งหมดเน้นไปที่ตัวละครสำคัญ และอารมณ์ของพวกเขา ที่เหลือทั้งหมดก็แค่เพียงแนะนำ และพยายามทำเอาใจใส่สิ่งเล็กๆ น้อยๆ พยายามเล่าเรื่องราวด้วยวิธีที่ตรงไปตรงมาที่สุด โดยหวังที่จะทำให้ประหลาดใจ กวนใจ รำคาญใจ แต่เหนืออื่นใด ก็เพื่อทำให้ประทับใจ จนกระทั่งถึงจุดไคลแม็กซ์ ที่ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่เป็นความตกใจที่ความคาดหวังเป็นที่น่าพอใจ

The Tiger and the Snow ทั้งหมดออกเงินทุนโดยมี แลมโป้ ซีนีม่าโทกราฟิก้า ซึ่งเป็นผู้ครอบครองลิขสิทธิ์ในอิตาลีและทั่วโลก บริษัทถูกตั้งขึ้นจากการพูดคุยกันระหว่าง โรเบอโต้ เบนิญี่ และ วินเซนโซ่ เซรามิ การจัดจำหน่ายหนังได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการสร้าง นิโคเล็ตต้า บราสชี ในอิตาลีโดย 01 ดิสทริบิวชั่น และในฝรั่งเศสโดย Pathe โฟกัส ฟีเจอร์ส ได้รับมอบหมายให้ดูแลการขายสิทธิ์การจัดจำหน่ายต่างประเทศ นอกเหนือจากอเมริกา

The Tiger and the Snow เขียนบทและกำกับโดย โรเบอโต้ เบนิญี่ (Life is Beautiful, Pinocchio, The Monster, Johnny Stecchino, The Little Devil) นำแสดงโดย โรเบอโต้ เบนิญี่ (Life is Beautiful, Pinocchio, Son of the Pink Panther, Asterix and Obelix Take On Caesar), นิดโคเล็ตต้า บราสชี (Life is Beautiful, Pinocchio, The Monster), ฌอง เรโน (The Da Vinci Code, The Pink Panther, Ruby & Quentin, Rollerball, The Crimson Rivers, Ronin, Godzilla, Mission: Impossible, Leon)