วันนี้เป็นวันที่สองที่เราท่องเที่ยวอยู่ที่เมืองซีอาน หลังจากเพิ่มพลังยามเช้ากันแล้ว วันนี้เราก็จะไปเที่ยวสถานที่ไฮไลท์ของที่นี่กัน
อาหารเช้าง่ายๆ มาม่าต้มยำ ใส่หอยลายและหมูฝอย (ดูไฮโซมั๊ย) พร้อมด้วยสาลี่และชานมที่ซื้อมาเมื่อวาน มีเจลลี่ด้วย
อยากบอกว่าทริปนี้เตรียมกล่องพลาสติก ช้อน ส้อมและมีด มาด้วย เรียกกว่าอุปกรณ์ครบ กล่องพลาสติกมีประโยชน์ดีมาก ขามาใส่เสบียงขนมมา แถมยังเป็นชามใส่อาหาร พกพวกบะหมี่ซองๆ มาใส่น้ำร้อนกินได้เลย สะดวกดี ถ้าใครติดถุงพลาสติกพวกซิปล็อคมาด้วยก็จะดีมาก เอาไว้ใส่อาหารติดเป้ไว้กินตอนไปเที่ยว
[18 มิ.ย. 54 22:57:35
]
ชมนมรสช็อคโกแลต ซื้อมาประมาณ 3 หยวน ตอนนั่งรอที่สถานีรถไฟเมื่อวาน รสชาติก็หวาน หอมดี
วันก่อนลืมเล่าว่าเราลงจากเขาหัวซานมาเร็ว แล้วมารอที่สถานีรถไฟล่วงหน้านานสองชั่วโมงได้ เลยนั่งๆ นอน สำรวจร้านขายของในนั้น สุดท้ายซื้อไพ่ ราคาสองหยวนมาเล่นกันฆ่าเวลาขำๆ
[18 มิ.ย. 54 23:09:31
]
พี่ในทริป พกเซ็ต ช้อน ส้อม ตะเกียบ มาด้วย สะดวกต่อการพกพามาก อยากได้บ้าง เห็นว่าเค้าซื้อจากในเว็บ
วนเวียนอยู่แต่เรื่องของกิน ยังไปไม่ถึงไหนเลย 555
[18 มิ.ย. 54 23:11:41
]
พวกเราถามสายรถเมล์จากที่โรงแรม รวมทั้งป้ายที่จะขึ้นด้วย ต้องขึ้นให้ถูกทิศด้วย ป้ายที่เราไปขึ้นอยู่ย้อนขึ้นไป เยื้องจากป้ายปากซอยที่พัก
รถเมล์มาแล้ว ขึ้นสาย 603 เป็นแบบสองชั้นซะด้วย เราก็นั่งกันชั้นสองซะเลย ชมวิวยามเช้า
[18 มิ.ย. 54 23:16:14
]
ตามไปเที่ยวต่อครับ
จากคุณ : เล็กทาโร่
[18 มิ.ย. 54 23:18:22
]
มองไปเห็นผู้คน ออกกำลังกายกัน บ้างก็พาหมามาเดินเล่น ที่เห็นเป็นพันธุ์เล็กๆ พวกปั๊ก หมาเร่ร่อนที่นี่ไม่มีให้เห็นเลย จะเห็นก็แต่หมาไฮโซ มีเจ้าของจูงเท่านั้น
เหมือนใบเมเปิลเลย ยังเป็นสีเขียว
[18 มิ.ย. 54 23:19:56
]
คุณเล็กทาโร่ นี่แฟนพันธุ์แท้จริงๆ มาเที่ยวกันต่อจ้า
เรามาลงรถที่แถวสถานีรถไฟ เพื่อต่อรถนักท่องเที่ยวไปยังสุสานทหารปิงหมาหย่ง
ตามข้อมูลที่ศึกษามา ให้ขึ้นรถแบบนี้ พวกที่ตะโกนชักชวนอย่าได้ตามไป ก่อนขึ้นรถก็ไม่ลืมถามว่าไปสุสานแน่นะ พร้อมด้วยราคา ก็โอเค ขึ้นไป
[18 มิ.ย. 54 23:23:45
]
ตอนที่เท่าไรแล้วครับ
จากคุณ : Hero11147
[18 มิ.ย. 54 23:24:34
]
waiting
จากคุณ : จำปีขี้สงสาร
[18 มิ.ย. 54 23:32:03
]
บนรถก็จะมีพนักงานมาเก็บค่าโดยสาร เราจำราคาที่แน่นอนไม่ได้ว่าคนละเท่าไหร่ (ดันจดค่าเดินทางทุกอย่างเป็นยอดเดียวเลย กระดาษที่ใช้จดแยกก็หายไปแล้ว) น่าจะเที่ยวละไม่ถึงสิบหยวน คือทั้งวันนี้ไปกลับ รวมขึ้นรถเมล์อีกสามรอบได้ ใช้เงินกองกลางไป 118
ใช้เวลานานพอประมาณ เกือบชั่วโมงได้ ก็มาถึงจุดหมายของเรา
ต้องเดินเข้าไปด้านในอีก
เจอหนังหมาจิ้งจอก แขวนอยู่ ขนฟูเชียว
[18 มิ.ย. 54 23:41:56
]
โอ้ มีคนติดตามแล้ว โทษค่ะ โพสช้าไปหน่อย เพราะมัวแต่ระลึกถึงความหลังอยู่ว่า ทำไร จ่ายไรไปบ้าง
ค่าบัตรคนละ 110 หยวน
หน้าประตูมีนักท่องเที่ยวเยอะหลายกลุ่มเลย เจอกลุ่มหมวกแดง อีกแล้ว
ลงผิดรูปซะงั้น เอาใหม่ค่ะ
[18 มิ.ย. 54 23:45:53
]
ถึงทางเข้าแล้ว
จากคุณ : luckyclover
[18 มิ.ย. 54 23:47:02
]
พวกเราเลือกเดินไปทางด้านซ้ายก่อน เพราะกะว่าจะไปดูห้องที่เป็นหนังฉายความเป็นมาก่อน แต่ก็ไม่เจอ เจอแต่ร้านขายพวกของที่ระลึก
ตอนนี้แค่เล็งๆ ไว้ก่อน อย่าเพิ่งรีบซื้อ
[18 มิ.ย. 54 23:49:35
]
พวกตุ๊กตาหน้าแมว สีสันสดใส ใครทราบความหมายของสัญลักษณ์นี้ช่วยบอกด้วยค่ะ
จากคุณ : luckyclover
[18 มิ.ย. 54 23:51:44
]
ใครอยากถ่ายรูปกับทหารก็มีนะ
จากคุณ : luckyclover
[18 มิ.ย. 54 23:52:57
]
เริ่มเข้าเรื่องกันซะที ทางเข้าสุสานทหารจิ๋นซี แบบที่คนไทยเรียกกัน ภาษาอังกฤษเรียก Terracotta Warriors
ข้อมูลจาก Wikipedia
สุสานฉินชื่อหวง (จีนตัวเต็ม: 秦始皇兵馬俑; จีนตัวย่อ: 秦始皇兵马俑; พินอิน: Qínshǐhuáng bīngmǎyǒng ฉินชื่อหวงปิงหมาหย่ง แปลว่า หุ่นทหารและม้าของฉินชื่อหวง) คือ ฮวงซุ้ยของจักรพรรดิจีนฉินสื่อหวงแห่งราชวงศ์ฉิน ตั้งอยู่ที่ตำบลหลินถง ห่างจากเมืองซีอาน มณฑลฉ่านซี ประเทศจีน
สุสานฉินชื่อหวงได้ค้นพบโดยบังเอิญเมื่อ 29 มีนาคม พ.ศ. 2517 โดยชาวนาในหมู่บ้านซีหยาง ชื่อ หยางจื้อฟา ในขณะที่ขุดดินเพื่อทำบ่อน้ำ บริเวณเชิงเขาหลีซาน ห่างจากตัวเมืองซีอาน ไปทางทิศตะวันออกประมาณ 35 กม. โดยในระหว่างที่ขุดนั้น ก็บังเอิญพบกับซากของทหารดินเผา ที่ทราบภายหลังว่ามีอายุมากกว่า 2,000 ปี
ปัจจุบันรัฐบาลจีนขุดค้นพบวัตถุโบราณที่เป็นกองทัพทหารดินเผา สรรพาวุธ รถม้าและม้าศึก จำนวนทั้งสิ้นกว่า 7,400 ชิ้น ภายในบริเวณพื้นที่หลุมสุสานกว่า 25,000 ตร.ม. มีการคาดคะเนว่าอาณาเขตของสุสานฉินชื่อหวงจะมีพื้นที่มากกว่า 2,180 ตร.กม. สุสานฉินชื่อหวงได้รับการคัดเลือกให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมในปี พ.ศ. 2530
[18 มิ.ย. 54 23:57:30
]
สุสานฉินชื่อหวงเริ่มก่อสร้างในสมัยฉินชื่อหวง ใช้ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 38 ปี ตั้งแต่ปี 246 - 208 ก่อนคริสตกาล ซึ่งอาณาเขตพื้นที่ของสุสานรวมทั้งสิ้น 2,180 ตร.กม. แบ่งออกเป็นพระราชฐานชั้นในและพระราชฐานชั้นนอก ภายในสุสานใช้บรรจุพระบรมศพของฉินชื่อหวง ทรัพย์สมบัติต่าง ๆ ตลอดจนกองกำลังทหาร นางสนมและนางกำนัล รถม้าและขุนพลทหาร จำนวนมาก เพื่อเป็นตัวแทนของข้าราชบริพารในการร่วมเดินทางไปยังปรโลกของฉินชื่อหวง[4]
โครงสร้างและสถาปัตยกรรมโดยรวมของสุสาน มีพื้นที่เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีความลึกเฉลี่ย 35 เมตร กว้าง 145 เมตร และ ยาว 170 เมตร
สำหรับห้องบรรจุพระบรมศพอยู่จุดกึ่งกลางของสุสาน มีความสูง 15 เมตร มีขนาดพื้นที่และความใหญ่โตมโหฬารราวกับสนามฟุตบอล
สำหรับภายใน ในส่วนที่ก่อสร้างจากหินนั้นยังคงได้รับการปิดผนึกอย่างดีโดยคงสภาพเดิมเอาไว้ และไม่เคยผ่านการขุดและรื้อทำลายมาก่อน โดยโครงสร้างของสุสานดังกล่าว มีรูปแบบโครงสร้างและการจัดสร้างที่มีความสลับซับซ้อน ขนาดของสุสานมีขนาดมหึมา ยิ่งใหญ่สมพระเกียรติของจักรพรรดิจีนผู้รวบรวมประเทศจีนให้เป็นปึกแผ่น
เดินข้าไปดูหนังกันก่อน
[19 มิ.ย. 54 00:00:11
]
ตามมาเที่ยวด้วยคนค่ะ
จากคุณ : หมวยไม้หอม
[19 มิ.ย. 54 00:02:07
]
ก่อนเข้าไปดูสุสานด้านใน เรามาดูกำเนิดสุสานกันก่อน ประวัติศาสตร์จีน นี่น่าสนใจจริงๆ
ฉินชื่อหวงทรงสร้างสุสานกองทัพทหารดินเผาขึ้น เพื่อใช้เป็นสถานที่เก็บพระบรมศพของพระองค์เอง แสดงให้เห็นถึงวิวัฒนาการและสถาปัตยกรรมโบราณของจีน และศักยภาพอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ จักรพรรดิจีนทุกพระองค์ในประวัติศาสตร์จะมีความใฝ่ฝันสูงสุดอยู่ 2 ประการคือ
1. ยาอายุวัฒนะ ถ้าหากพระองค์ยังเสาะแสวงหาไม่ได้ สิ่งที่พระองค์จะต้องทำก็คือ
2. การสร้างมหาสุสานขนาดอันใหญ่โตมโหฬาร เพื่อเป็นที่ประทับชั่วกาลนาน
ชาวจีนในสมัยโบราณมีความเชื่อว่ามนุษย์นั้นมี 2 วิญญาณ วิญญาณแรกคือ โป (Po) ซึ่งจะมาพร้อมกับการเกิดของทารก อีกวิญญาณหนึ่งเรียกว่า ฮั่น (Han) เป็นวิญญาณที่สวรรค์ส่งมารวมกับวิญญาณแรกพร้อมกันตั้งแต่เกิด และเมื่อเจ้าของร่างตายลง วิญญาณแรกหรือโปจะคงอยู่ในร่างนั้น ส่วนฮั่นจะออกจากร่างกลับคืนสู่สวรรค์ไป
ถ้าผู้ตายไม่ได้รับการฝังอย่างถูกต้องตามประเพณี โปจะอยู่อย่างไม่มีความสุข เที่ยวเร่ร่อนกลายเป็น กุย (Gui) หรือปีศาจอันชั่วร้าย ชาวจีนทุกคนจึงต้องได้รับการฝังอย่างถูกต้องตามประเพณีเมื่อถึงแก่กรรม โดยจะถูกบรรจุร่างไว้ภายในสุสานตามฐานะของผู้ตาย
นอกจากนั้น พระองค์ยังทรงโปรด ฯ ให้สร้างสุสานของพระองค์ทันทีตามโบราณราชประเพณี และอีกสิ่งหนึ่งที่พระองค์ทรงใส่พระทัยเป็นพิเศษก็คือ ทรงมีพระราชบัญชาให้ นักพรตสีฝู่ นำตัวเด็กหญิงและเด็กชายพรหมจรรย์นับพันคน ลงเรือเดินทะเล เดินทางไปทางตะวันออกเพื่อแสวงหาเกาะเผิงไหล เกาะฟางเจ้า และเกาะอิ๋งโจว ทรงเชื่อว่าเป็นดินแดนหวงห้ามของมนุษย์ เนื่องจากเป็นที่พำนักของเซียนที่จะมอบยาอายุวัฒนะให้พระองค์ทรงมีชีวิตเป็นอมตะ
แต่ทว่าตลอดพระชนมชีพของพระองค์ ข่าวคราวและชะตากรรมของคณะเดินทางที่พระองค์ทรงมอบหมายภารกิจเสี่ยงตายให้นั้น ไม่เคยได้ยินถึงพระกรรณของพระองค์เลยแม้แต่น้อย
[19 มิ.ย. 54 00:06:03
]
สาวๆ เจอดอกไม้สวยๆ อดหยุดถ่ายรูปไม่ได้อีกแล้ว
จากคุณ : luckyclover
[19 มิ.ย. 54 00:07:05
]
หลังทรงขึ้นครองราชย์ในปี 247 ก่อนคริสตกาล ฉินชื่อหวงก็เริ่มสร้างสุสานของพระองค์แล้ว จนถึงในปี 210 ก่อนคริสตกาล เมื่อพระองค์สิ้นพระชนม์ลง งานสร้างมหาสุสานก็ยังไม่แล้วเสร็จ จนมาเสร็จสมบูรณ์ในปีที่ 2 ของรัชสมัยฉินเอ้อซื่อ ผู้เป็นบุตรชาย (ปี 208 ก่อนคริสตกาล) รวมระยะเวลาในการก่อสร้างถึง 38 ปี และได้เรียกชื่อสุสานนี้ว่า หลีซานหยวน หรืออุทยานแห่งเขาหลีซาน ใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างสุสานตั้งแต่ปี 246 - 208 ก่อนปีคริสต์ศักราช
เพราะมีความเชื่อเกี่ยวกับชีวิตหลังความตายของพระองค์ ทรงสร้างหุ่นกองทัพทหารดินเผาจำนวนมากรวมทั้งรถม้าและม้าศึก เพื่อให้ทั้งหมดนี้ติดตามไปรับใช้และอารักขาพระองค์ในปรโลก และเนื่องด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้ทำให้หุ่นทหารดินเผา ม้าศึกและรถม้าจำนวนมากที่ถูกฝังอยู่ภายในสุสาน ล้วนแต่มีขนาดเท่าของจริงทุกประการ รวมทั้งรายละเอียดต่าง ๆ ของหุ่นทหารดินเผาและการจัดทัพ ซึ่งเป็นการจัดตำแหน่งตามกระบวนทัพโดยแบ่งออกเป็น 11 แถว ประกอบไปด้วย
แม่ทัพฝ่ายบู๊
แม่ทัพฝ่ายบุ๋น
พลหอก
พลดาบ (ซึ่งอาวุธในมือส่วนใหญ่คืออาวุธจริง)
สารถีประจำรถม้า
ม้าศึก
เข้าไปด้านในหลุมที่ 1 ก็จะเจอแบบนี้คะ
[19 มิ.ย. 54 00:10:15
]
หุ่นทหารดินเผาภายในสุสานมีขนาดรูปร่างที่แตกต่างกัน มีความสูงประมาณ 1.8 เมตร ลักษณะหน้าตา กริยาท่าทาง เครื่องแต่งกายไม่เหมือนกันแม้แต่ตัวเดียว รัฐบาลจีนที่รับผิดชอบในการขุดค้นสุสานประวัติศาสตร์นี้ เชื่อกันว่าหลุมกองทัพดินเผาของฉินชื่อหวง มีด้วยกันทั้งหมด 8 หลุม
แต่ในปัจจุบันมีการขุดค้นเพียงแค่ 3 หลุมเท่านั้น เพราะรัฐบาลจีนยังไม่ต้องการทำการขุดค้นอย่างต่อเนื่อง เพราะเกรงว่าสีของหุ่นทหารดินเผาที่ขุดพบนั้นจะหายไป ในอดีตเริ่มแรกของการขุดพบกองทัพทหารดินเผาจากสุสานใต้ดินนั้น หุ่นทหารเหล่านี้มีแก้มเป็นสีชมพู สวมเครื่องแต่งกายที่มีสีสันสดใสที่ทาสีเอาไว้อย่างสวยงาม โดยส่วนใหญ่จะสวมเสื้อสีชมพู กางเกงสีเขียวและฟ้า แต่ทว่าเมื่อหุ่นทหารดินเผาถูกอากาศและแสงแดด เกิดปฏิกิริยาทางเคมีทำให้สีของหุ่นทหารดินเผาลอกหายไป เปลี่ยนเป็นสีดำอย่างน่าเสียดาย
จากการตรวจสอบขนาดของมหาสุสานนี้ในปัจจุบันพบว่า สุสานตั้งอยู่บนเนินดินที่เคยสูงประมาณ 115 เมตร มีขนาดคล้ายสี่เหลี่ยมจัตุรัสเมื่อแรกสร้าง คือ จากทิศเหนือไปใต้ยาวประมาณ 350 เมตร จากทิศตะวันออกไปตะวันตกยาวประมาณ 345 เมตร ตัวสุสานเป็นหลุมขนาดใหญ่ มีความลึกกว่า 30 เมตร นักโบราณคดีประเมินคร่าว ๆ ว่าขนาดของพระราชวังใต้ดินถูกสร้างขึ้นในระดับที่ลึกที่สุดของหลุม มีขนาด 120 x 160 เมตร หรือเทียบเท่าขนาดของสนามบาสเกตบอล 40 สนามรวมกัน
และจากการตรวจสอบด้วยเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัย ยืนยันได้ว่า ภายในสุสานมีสารปรอทจำนวนมากผิดปกติ คือ สูงกว่าระดับปกติถึงกว่า 100 เท่า จึงไม่ผิดกับที่ ซือหม่า เสี่ยน ได้บันทึกในปูมประวัติศาสตร์มากว่า 2,000 ปีที่แล้วว่า "...ภายในมีสารปรอทไหลเวียนดุจแม่น้ำและทะเล..."
[19 มิ.ย. 54 00:12:27
]
ตุ๊กตาทหารดินเผาทุกตัวจะมีตราประทับอักษรบนตัวมากกว่า 80 ชื่อ ทำให้นักโบราณคดีจีนมั่นใจว่าผู้ที่สร้างหุ่นทหารดินเผาทั้งหมด เป็นบรรดาช่างปั้นหม้อ ในสังคมสมัยฉิน ถือว่าพวกนี้เป็นพวกชั้นต่ำ บางพวกเคยทำงานรับใช้ในราชสำนัก ช่างปั้นดินเผาในสมัยจีนโบราณที่สืบทอดวิชาความรู้จากครูหรือบรรพบุรุษ มีเอกลักษณ์งานปั้นเฉพาะตัว รับคำสั่งเกณฑ์พลจากทุกแห่งเพื่อสร้างกองทัพทหารดินเผา
ผู้ที่จัดวางตำแหน่งของกองทัพทหารดินเผาภายในสุสาน ได้วางตำแหน่งอย่างเป็นระเบียบ ทหารดินเผาทุกตัวอยู่ในท่าเตรียมพร้อม ประกอบไปด้วยทหารดาบ ทหารเกาทัณฑ์ ทหารหอก และรถม้าศึก โดยเลือกชัยภูมิจัดผังออกแบบค่ายเป็นรูปสี่เหลี่ยมล้อมรอบด้วยกำแพงดินพูนสูงขึ้น และมีคูอยู่นอกกำแพงเมือง
ถนนตัดอยู่ภายในเป็นทางเดินกองทหาร ตัดจากทิศเหนือไปถึงทิศใต้และตะวันออกไปตะวันตก มีด่านกันไฟเป็นระยะ ๆ ตรงกลางค่ายเป็นที่ตั้งกองบัญชาการ ล้อมด้วยเหล่าเสนาบดี ที่ปรึกษา หน่วยทหารที่เป็นหน่วยกล้าตายและองค์รักษ์ ทำหน้าที่คุ้มกันฉินชื่อหวง การจัดวางกองทัพทหารดินเผาเป็นการยืนยันถึงภาพที่ชัดเจนของตำราพิชัยสงครามซุนวู
[19 มิ.ย. 54 00:15:22
]
ในยุคสมัยของฉินชื่อหวงสุสานแห่งนี้เคยถูกเผาทำลายหลายครั้ง โดยมีหลายข้อสันนิษฐาน เช่น การปะทุของก๊าซมีเทนใต้ผิวดิน หรืออาจถูกเผาจากหลังจากพิธีฝังพระบรมศพ
ทหารดินเผาที่ขุดพบได้นั้นมีลักษณะใบหน้าที่มองดูแล้วกลมเกือบคล้ายกัน บางหน้าเป็นรูปไข่ บางหน้าเป็นรูปเหลี่ยม ซึ่งแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับเทคนิคของช่างแต่ละคน มีการแบ่งหน้าที่อย่างชัดเจน เช่นแผนกช่างนวดดิน ช่างปั้น ช่างทำพิมพ์ สำหรับอวัยวะต่าง ๆ เช่น มือ แขน ขา ศีรษะ เป็นหน้าที่ของช่างขึ้นรูป ที่ทำการปั้นขึ้นรูปศีรษะเป็นรูป ๆ ทำให้ใบหน้าแต่ละหน้าจึงไม่ซ้ำกัน ซึ่งอาจจะเป็นการจำลองจากบุคลิกของทหารจริงในเวลานั้น
ส่วนมากใบหน้าของกองทัพทหารดินเผามีสัณฐานสี่เหลี่ยม ริมฝีปากหนา ไว้หนวดเคราทรงผมนานาชนิด แล้วเอาส่วนต่าง ๆ มาประกอบเข้ากัน นำไปเผาไฟแล้วส่งต่อไปให้ช่างสีซึ่งใช้ฝุ่นสีฉูดฉาดเช่น สีแดง เขียว ฟ้า น้ำตาล เหลือง ดำ ม่วง น้ำเงิน ขาว มาระบายลงบนตัวทหารดินเผา แยกสีตามเหล่าทหารแต่ละกอง
สำหรับการปั้นม้าจะแยกชิ้นส่วนต่าง ๆ ตามลักษณะของม้า ก่อนนำมาประกอบเข้าเป็นลำตัวที่กลวง ส่วนอื่นจะทึบตันหมด แล้วจึงเข้าเตาเผาไฟที่มีความร้อนสูงระหว่าง 950 ถึง 1,050 องศา เทคนิคงานปั้นดินเผาของจีนเริ่มมานานกว่า 2,000 ปี จนถึงปัจจุบันวิธีเก่าแก่นี้ก็ยังคงใช้อยู่ทั่วโลก
[19 มิ.ย. 54 00:16:58
]
กองทัพทหารดินเผาทุกตัวเคยถืออาวุธจริงแต่ได้โดนยึดไปโดยพวกกบฏเป็นจำนวนมาก คงหลงเหลือกว่า 10,000 ชิ้น อาวุธส่วนมากสร้างขึ้นจากโลหะผสมทองแดงและดีบุก รวมทั้งนิกเกิลและสังกะสี ฝีมือประณีตโดยเฉพาะหัวลูกธนูจะผสมตะกั่วเท่ากับเป็นการอาบยาพิษอย่างแรง แต่ทั้งหมดได้รับการปลดออกมาเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางทหาร และเทคโนโลยี[10]
จากการขุดค้นพบกองทัพทหารดินเผาและม้าศึกจำนวนกว่า 6,000 ตัว คาดว่าเมื่อรวมกับจำนวนของทหารดินเผาที่ยังไม่ได้ขุดค้น อาจมีประติมากรรมอันเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกมากถึง 8,000 ตัว กองทัพทหารดินเผาที่ขุดค้นพบทั้ง 3 หลุมนี้ ในแต่ละหลุมจะแยกจากกันอย่างมีแบบแผน มีการฝังลึกลงไปจากผิวดินในระยะทางประมาณ 5 เมตร มีแนวกำแพงดินพูนสูงราว 3 เมตร แยกจากกันเป็นช่วง ๆ ค้ำยันด้วยท่อนซุง โดยรายละเอียดต่าง ๆ ของกองทัพทหารดินเผา มีดังนี้
[19 มิ.ย. 54 00:17:55
]
หลุมหมายเลข 1
หลุมหมายเลข 1 ที่รัฐบาลจีนทำการขุดค้นมีขนาดกว้างใหญ่ที่สุดในบรรดาหลุมทั้ง 3 หรือราว 230 เมตร จากเหนือไปใต้และกว้าง 62 เมตร จากตะวันออกไปตะวันตก เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า เนื้อที่ 14,260 ตร.ม. มีขนาดความกว้างประมาณ 197 ฟุต (62 เมตร) ยาว 689 ฟุต (230 เมตร) และลึก 14.8 - 21.3 ฟุต (5 เมตร) ประกอบไปด้วยกองทัพทหารติดอาวุธครบมือจำนวนมากกว่า 6,000 ตัว รถศึกพร้อมม้าเทียมรถศึกอีกรวม 40 คัน แบ่งออกเป็น 4 เหล่า คือกองระวังหน้า ปีกซ้าย ปีกขวา และกองระวังหลัง ซึ่งจัดกองทัพทหารดินเผาออกเป็น 38 แถว กองทัพทหารดินเผาทุกนายภายในสุสานมีอาวุธประจำกายได้แก่ ดาบ เกาทัณฑ์ และ หอก อยู่ในที่ตั้งตามตำแหน่งอย่างชัดเจนไม่สับสน
รถม้าและรถศึก กองทัพทหารดินเผาและม้าศึกที่ได้ขุดพบนั้นมีขนาดใหญ่และเล็กเหมือนกับของจริงทุกประการ หุ่นดินเผาทุกตัวมีโครงหน้า สีหน้าและทรงผมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่เหมือนกันแม้แต่ตัวเดียว มีขนาดความสูงราว 5 ฟุต 8 นิ้ว จนถึง 6 ฟุต 5 นิ้ว ยืนตระหง่านเรียงรายอยู่เป็นหมวดหมู่ ภายในหลุมที่ 1 ซึ่งเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้านักโบราณคดีของจีนตั้งข้อสังเกตถึงรูปแบบการจัดเรียงของกองทัพทหารดินเผาที่ขุดพบในหลุมที่ 1 มีรูปแบบและแนวการจัดทัพตามบันทึกในตำราพิชัยสงครามซุนวู มีกองทัพทหารดินเผามากกว่า 6,000 ตัว
[19 มิ.ย. 54 00:19:20
]
หลุมหมายเลข 2
เป็นรูปตัว L ได้ขุดพบในปี พ.ศ. 2519 อยู่ห่างจากหลุมที่ 1 ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 20 เมตร ในอาณาเขตพื้นที่ประมาณ 6,000 ตร.ม. แบ่งออกเป็นพื้นที่ขนาด 4 ส่วน ความกว้างจากเหนือไปใต้ราว 98 เมตร มีความยาวจากตะวันออกไปตะวันตกราว 124 ภายในหลุมมีกองทัพทหารดินเผาจำนวน 4,000 ตัว รถม้าไม้ 89 คัน แบ่งออกเป็น 4 แถว ประกอบไปด้วยเหล่าขุนพลทหารม้า ขุนทหารประจำรถม้าศึก ซึ่งมีรูปร่างสูงใหญ่ สวมหมวกหนัง รองเท้าบูต มือข้างหนึ่งถือ ธนู ม้าศึกมีลักษณะแข็งแรงปราดเปรียว ทุกตัวถูกจัดตามลำดับแถว หลุมรูปปั้นกองทัพทหารดินเผาหลุมที่ 2 รัฐบาลจีนทำการขุดค้นหาพบหุ่นทหารดินเผาจำนวนกว่า 1,000 ตัว ม้าศึก 500 ตัวและรถม้าที่ทำจากไม้ 89 คัน เปิดให้สาธารณชนได้เข้าชมและศึกษาเกี่ยวกับโบราณวัตถุทางประวัติศาสตร์ในปี พ.ศ. 2538
[19 มิ.ย. 54 00:21:36
]
คนนี้เป็นพลธนู
จากคุณ : luckyclover
[19 มิ.ย. 54 00:22:44
]
คนนี้ เป็นข้าราชการชั้นสูง
สังเกตการแต่งกายจะต่างกัน ตอนเดินดูเราก็ไม่ค่อยได้มีความรู้เท่าไหร่ พอดีเจอกลุ่มคนไทยมีไกด์ไทย ไกด์จีน เลยเดินตามๆ ฟังเค้าไปด้วย อิอิ
[19 มิ.ย. 54 00:24:19
]
หลุมหมายเลข 3 เป็นรูปตัว U อยู่ห่างจากหลุมที่ 1 ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือราว 25 เมตร หรือ 120 เมตร รัฐบาลจีนขุดค้นพบในปี พ.ศ. 2519 ทางทิศตะวันออกของหลุมที่ 2 มีขนาดพื้นที่ประมาณ 520 ตร.ม. เป็นหลุมที่เล็กที่สุด แต่มีความสำคัญที่สุดยิ่งกว่า หลุมหมายเลข 1 และ 2 เนื่องจากเป็นกองบัญชาการสูงสุด โดยกองทัพทหารดินเผาทุกตัวมีอาวุธครบมือ เข้าแถวรักษาการณ์แบบเผชิญหน้ากันทางทิศเหนือกับทิศใต้ข้างละ 2 แถว เพื่อเป็นการคุ้มกันเหล่าแม่ทัพภายในกระโจมบัญชาการ นอกจากนี้ยังพบเขากวางและกระดูกสัตว์ ซึ่งใช้เป็นเครื่องรางของขลังซึ่งเข้าใจว่าเป็นเครื่องที่ใช้ในการประกอบพิธีบูชายัญในพิธีศพอีกด้วย ซึ่งหลุมที่ 3 นี้เปิดให้สาธารณชนได้เข้าชมในปี พ.ศ. 2532
จากคุณ : luckyclover
[19 มิ.ย. 54 00:25:12
]
ไปซีอานด้วยคนครับ...อยากเห็นมานานแล้ว
[19 มิ.ย. 54 00:26:26
]
ออกมาด้านนอก เจอต้นไม้เป็นทิวแถว เพื่อนๆ เดินแยกกันดูกระจัดกระจายกันไปหมดแล้ว กว่าจะตามกันมาครบ
เราเจอพี่ไกด์คนไทย เลยถามเค้าว่าอยากซื้อบัวหิมะ ที่ซีอานเนี่ยมีให้ซื้อมั๊ย เค้าบอกว่ามี ต้องพาลูกทัวร์ไปแวะอยู่แล้ว แต่เราไปกันเองคงไปไม่ถูกแน่ พี่เค้าก็ใจดีให้เราฝากซื้อได้ด้วย แลกเบอร์โทรแล้วมาจ่ายเงินที่เมืองไทย ขอบคุณพี่จ๋า มากคะ
[19 มิ.ย. 54 00:29:19
]
ตามมาเที่ยวกันเลยคะ ตอนนี้ความรู้อัดแน่น
ระหว่างรอสมาชิก ก็ถ่ายรูปกันไปพลางๆ ดอกไม้ที่นี่ต้นใหญ่ ออกดอกเต็มต้นเลย
[19 มิ.ย. 54 00:31:52
]
ซูมเข้าไปใกล้ๆ
จากคุณ : luckyclover
[19 มิ.ย. 54 00:33:07
]
ขบวนรถม้าสำริด
รถม้าสำริดที่ขุดค้นพบภายในสุสานฉินชื่อหวงนอกจากการขุดพบกองทัพทหารดินเผาจำนวนมากแล้ว รัฐบาลจีนยังขุดพบโลงไม้ ยาว 7 เมตร กว้าง 2.3 เมตร ฝังอยู่ใต้พื้นดิน ห่างจากสุสานฉินชื่อหวงไปทางทิศตะวันตกราว 20 เมตร และเมื่อนำขึ้นมาเปิดฝาโลงออกก็พบกับขบวนรถม้าสำริดจำลองของฉินชื่อหวง ฝีมือประณีตสวยงาม ใช้เทคนิคงานโลหะผสม สร้างขึ้นเพื่อให้เป็นรถม้าประจำพระองค์ในภพหน้า ปัจจุบันรถม้าสำริดที่ถูกขุดค้นพบ จัดแสดงไว้ในอาคารอีกหลังหนึ่งในบริเวณพิพิธภัณฑ์ กองทัพทหหารดินเผาประกอบด้วยรถม้าส่วนพระองค์ รถเทียมม้าบุกนำทาง มีองค์รักษ์ทำหน้าที่พลขับ
[19 มิ.ย. 54 00:38:32
]
รถม้าบุกนำทาง มีความยาว 1.26 เมตร กว้าง 70 เซนติเมตร กั้นร่มคลุมแทนหลังคา ติดอาวุธพร้อม มีอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ ขนาดเล็กรวมทั้งหมดราว 3,064 ชิ้น ส่วนรถม้าส่วนพระองค์จำลองของฉินชื่อหวง มีความยาว 3.17 เมตร กว้าง 1.06 เมตร รูปทรงสี่เหลี่ยม คลุมด้วยหลังคารูปไข่ ชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่ประกอบเป็นตัวรถม้าส่วนพระองค์จำลองรวม 3,462 ชิ้น ประดับด้วยทองคำและเงินจำนวนมากกว่า 1,000 ชิ้น นอกจากนี้ ยังมีเส้นทองแดงขดเป็นโซ่ขนาดเล็ก ขนาดเพียง 0.05 เซนติเมตร อยู่ภายใน
จากคุณ : luckyclover
[19 มิ.ย. 54 00:39:03
]
รถม้าทั้งสองคันเทียมด้วยม้าสำริดคันละ 4 ตัว แต่งเครื่องทรงเต็มยศ องครักษ์ สูง 51 เซนติเมตร แต่งเครื่องแบบเต็มยศเช่นกัน นับเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญที่สุดอีกชิ้นหนึ่งที่ได้เคยค้นพบในประเทศจีน เป็นการลบภาพความเชื่อเดิม ๆ ที่ว่า ยุคทองของเครื่องสำริดได้หมดไปตั้งแต่สมัยราชวงศ์ชิง ซึ่งเหล็กได้เข้ามามีบทบาทแทนที่จนถึงสมัยราชวงศ์ฉินและราชวงศ์ฮั่น ที่ช่างสำริดได้สูญหายไปหมดแล้ว จากรูปสำริดเหล่านี้ นักโบราณคดีจีนสามารถจินตนาการขบวนรถม้าส่วนพระองค์ของจริงที่ฉินชื่อหวงทรงใช้ประทับแรมระหว่างเสด็จประพาสตามหัวเมืองต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย
จากคุณ : luckyclover
[19 มิ.ย. 54 00:39:29
]
ออกมาด้านนอก เจอร้านของฝากเพียบ อย่าลืมต่อราคากันเยอะๆ ด้วยค่ะ
เราได้เสื้อยืด แม็กเน็ต แล้วก็จอกเหล้า เก๋ไก๋
[19 มิ.ย. 54 00:43:56
]
เสื้อแดงเนี่ย ไม่ค่อยเห่อเล้ย ซื้อปุ๊บใส่ปั๊บ ตัวละไม่ถึงร้อยบาท ผ้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่อยากได้เป็นที่ระลึก (ใส่ถ่ายรูปขำๆ อะคะ)
ขอไปนอนก่อนค่ะ พรุ่งนี้มาต่อ
[19 มิ.ย. 54 00:47:44
]
ตามไปเที่ยวด้วยค่ะ อ่านเพลินไปเลย
จากคุณ : ป้าฟู
[19 มิ.ย. 54 01:16:38
]
แวะเข้ามาชมตอนดึกๆครับ

[19 มิ.ย. 54 04:33:07
]
ไปเ ที่ยวด้วยคนครับ
จากคุณ : ชานมชงเอง
[19 มิ.ย. 54 07:26:54
]
ได้ความรู้มากเลยคับ น่าไปมากเลย
จากคุณ : zalim9588
[19 มิ.ย. 54 08:23:53
]
มารอติดตามรีวิวที่เหลืออยู่ครับ
จากคุณ : Destiny-Boy
[19 มิ.ย. 54 11:56:36
]
ต้องหาโอกาสไปให้ได้ รอชมต่อนะคะ
จากคุณ : Freedom of Life
[19 มิ.ย. 54 14:02:55
]
สวัสดีทุกคนจ้า มาต่อแล้วคะ
หลังจากชมสุสานเราก็นั่งรถกลับเข้าเมือง กะว่าขึ้นรถเมล์ไปตั้งหลักตรงป้ายแถวหน้าที่พัก เพื่อจะไปเจดีย์ห่านป่าเล็ก
คนต่อแถวรอรถเมล์กันแต่ละสาย มีช่องของใครของมัน รถเมล์ก็จะจอดตรงตำแหน่งค่ะ เห็นที่จีนพัฒนากว่าเราก็ตรงนี้แหล่ะ
[19 มิ.ย. 54 14:21:46
]
พอเราได้ขึ้นรถเมล์ เกิดเหตุการณ์ตื่นเต้นเล็กน้อย ก็คนแน่นมาก เราขึ้นประตูหน้า แล้วได้ที่นั่งแถวหน้ารถ แต่เวลาตอนลง ต้องลงประตูกลาง คราวนี้นั่งกันเพลิน ไม่ได้ลุกออกมายืนใกล้ๆ ประตูก่อน รู้ตัวอีกที จะถึงป้าย ก็เบียดคนออกมาไม่ทันแล้วค่ะ รถแน่นมาก ตอนรถเมล์เบรค แบบเซกันเป็นโดมิโน แทบจะลงไปกองเลยค่ะ
พี่ผู้ชายสองคนยืนใกล้ประตู พอถึงป้ายก็ลงไปก่อน ส่วนสี่สาวที่เหลือลงไม่ทันคะ ประตูปิด รถวิ่งต่อ เราก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวลงป้ายหน้า แล้วค่อยเดินย้อนกลับมาก็ได้ แต่มันไม่เป็นอย่างที่คิดน่ะสิ รถเมล์เค้าก็จอดป้ายเฉพาะสายเค้าเท่านั้น คราวนี้ก็วิ่งเลยไปไกลหลายกิโลเลย ชนิดว่าเดินกลับไม่ไหวแล้ว เหวอกันนิดหน่อย แต่ไม่เป็นไร ก็ลงป้ายต่อไปที่จอดแล้วกัน
ลงจากรถ ตอนแรกกะเรียกแท็กซี่กลับ แต่มองไปฝั่งตรงข้ามเห็นรถเมล์สายที่เราขึ้นมา ก็เลยข้ามถนนไปรอรถค่ะ ตอนอยู่บนรถเมล์ ตั้งสติได้ หยิบนามบัตรโรงแรมที่มีแผนที่ด้วย มาถามป้ายที่ลงไปด้วย เพื่อความชัวร์ ก็พอสื่อสารกันรู้เรื่องค่ะ นั่งมาลงป้ายใกล้ๆ ที่พัก แล้วเดินต่ออีกหน่อย ก็เจอพี่สองคนรออยู่ป้ายเดิม โล่งใจไป (ตอนนั้นในใจคิดว่า จะนั่งรถเมล์ต่อไปเจอที่เที่ยวที่จะไปกันเลย หรือย้อนมาเจอเค้าดี สรุปว่าตัดสินใจถูก ที่ย้อนกลับมาคะ)
ตอนที่อยู่ปักกิ่ง ก็เกิดเหตุการณ์คล้ายๆ งี้แล้วคะ ขึ้นรถไฟใต้ดิน แล้วคนแน่นมากกก พี่คนนึงออกมาไม่ทัน แต่เราก็รอกันอยู่ที่เดิมเค้าก็นั่งรถย้อนกลับมาเจอ
ข้อคิดในการเที่ยวต่างประเทศนะคะ เราควรจะพกแผนที่ นามบัตรที่พัก หรือพอศึกษาความรู้ของเมืองนั้นๆ สถานที่ท่องเที่ยว หรือการเดินทางไว้บ้าง อย่าคอยแต่ตามคนอื่นอย่างเดียว ใครไปเที่ยวเป็นหมู่คณะก็ตกลงกันให้ดี เกิดพลัดหลงกันจะเจอยังไง
โอ้ พิมพ์ซะยาว เราว่ามีเรื่องตื่นเต้น หลงๆ งงๆ บ้างก็ทำให้การเดินทางมีสีสัน น่าจดจำดี อิอิ :)
ที่แตะบัตรบนรถเมล์
[19 มิ.ย. 54 14:45:25
]
ขึ้นรถเมล์ไปเที่ยวเจดีย์ห่านป่าเล็กต่อ ตอนนั้นก็เกือบสี่โมงแล้ว แต่ก็วัดใจลองไปดู ว่าจะทันป่าว
ต้นไม้แถวนั้นร่มรื่น ตกแต่งกิ่งได้เป็นระเบียบมาก
[19 มิ.ย. 54 14:57:16
]
แล้วเราก็ไปไม่ทัน จริงๆ ยังไม่ถึงเวลาปิดเข้าชม แต่ว่าเค้าปิดขายบัตร
ก่อนครึ่งชั่วโมง อดเลย เห็นแต่ทางเข้า
[19 มิ.ย. 54 15:00:38
]
ขึ้นรถเมล์ต่อเพื่อจะไปชม หอกลอง หอระฆัง สัญลักษณ์ของเมืองซีอานอีกแห่ง เจอดอกทิวลิปงามๆ ตรงเกาะกลางถนน รีบไปถ่ายรูปกันเลย
จากคุณ : luckyclover
[19 มิ.ย. 54 15:21:01
]
นึกว่าอยู่เนเธอร์แลนด์ อิอิ
จากคุณ : luckyclover
[19 มิ.ย. 54 15:22:36
]
สีม่วงก็มี
จากคุณ : luckyclover
[19 มิ.ย. 54 15:33:35
]
ต้นนี้เขียวๆ มีดอกเล็กๆ น่ารักดี
จากคุณ : luckyclover
[19 มิ.ย. 54 15:58:24
]
ดอกไม้สวยๆ ใกล้ๆหอระฆัง
จากคุณ : luckyclover
[19 มิ.ย. 54 16:27:10
]
มองไปข้างหน้าเป็นเกาะกลางถนน เห็นหอระฆังเด่นเป็นสง่าเลย
จากคุณ : luckyclover
[19 มิ.ย. 54 16:31:15
]
ก่อนจะไปขอหาอะไรกินก่อนค่ะ
จากคุณ : luckyclover
[19 มิ.ย. 54 16:31:34
]
อาหารมื้อบ่ายแก่ๆ ไม่รู้จะกินอะไรดี กินแมคแล้วกัน
จากคุณ : luckyclover
[19 มิ.ย. 54 17:39:56
]
กินอิ่มเรียบร้อยมีแรง ข้ามถนนลอดใต้ดินไปชมหอระฆัง เราซื้อบัตรคู่เลย ชมสองที่ หอกลอง หอระฆัง 40 หยวน ประหยัดกว่าซื้อแยก
ประวัติ
Bell Tower
หอระฆังเป็นดุจดั่งหัวใจของเมืองซีอาน เพราะตั้งอยู่ตรงศูนย์กลางของถนนทั้งสี่ทิศที่กระจายตัวออกไปยังตะวันออก ตะวันตก เหนือ และใต้ รวมทั้งเป็นจุดเชื่อมของประตูเมืองทั้งสี่แห่งราชวงศ์หมิง สร้างในปี ค.ศ. 1384 โดยจูหยวนจางฮ่องเต้ เพื่อให้เป็นศูนย์บังคับบัญชาการปกครองภูมิภาคโดยรอบ และเตรียมพร้อมป้องกันการจู่โจมของข้าศึก ด้วยเสียงกังวานก้องของระฆังจิ่งหยุนที่เคยทำหน้าที่สม่ำเสมอในราชวงศ์ถัง ก่อนจะแทนที่ด้วยระฆังขนาดเล็กกว่าที่หนักราว 5 ตัน ในราชวงศ์หมิง
[19 มิ.ย. 54 17:43:21
]
อาคารที่เต็มไปด้วยตำนานหลังนี้นับว่าเป็นหอคอยไม้โบราณที่ใหญ่ที่สุด และมีสภาพสมบูรณ์ที่สุดในประเทศจีน ตัวหอคอยสูง 36 เมตร ฐานหอคอยที่ก่อด้วยอิฐแต่ละด้านนั้นมีความยาว 35.5 เมตร และสูง 8.6 เมตร ด้วยขนาดและความสำคัญในประวัติศาสตร์ของสถานที่แห่งนี้ สะท้อนได้เป็นอย่างดีว่าเพราะเหตุใดซีอานจึงได้ชื่อว่าเป็นเมืองทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีนในยุคราชวงศ์หมิงที่มีความสำคัญด้านการทหาร
มองไปตึกฝั่งตรงข้าม ตึกที่เรานั่งกินแมคกัน
[19 มิ.ย. 54 17:46:39
]
อีกมุมนึง มองเห็นรถวิ่งโดยรอบ ปลูกดอกไม้สีเหลือง แดง ตัดกันสุดๆ
จากคุณ : luckyclover
[19 มิ.ย. 54 17:49:22
]
Starbuck หลังคาเดิ้นมาก
จากคุณ : luckyclover
[19 มิ.ย. 54 17:55:31
]
มองไปลิบๆ อีกหลังนึง คือหอกลองที่เรากำลังจะไปกัน
จากคุณ : luckyclover
[19 มิ.ย. 54 17:57:20
]
สถานที่บริเวณนี้ ประดับด้วยดอกไม้สวยงาม เหมาะกับมานั่งพักผ่อน เดินเล่นชิวๆ
จากคุณ : luckyclover
[19 มิ.ย. 54 17:59:35
]
ถึงแล้ว หอกลอง
Drum Tower
หอกลองอยู่ห่างจากหอระฆังไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ตรงข้ามกับจัตุรัสหอระฆังและจัตุรัสหอกลอง หอคอยทั้งสองได้ชื่อว่าเป็น ตึกสองพี่น้อง หรือ ระฆังรุ่งอรุณและกลองรัตติกาล เนื่องจากประเทศจีนในอดีต โดยเฉพาะราชวงศ์หยวนนั้น จะมีการตีกลองเพื่อบอกเวลาและเตือนภัยยามมีสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยการให้สัญญาณบอกเวลานั้น ยามเช้าใช้เสียงระฆัง และยามค่ำใช้เสียงกลอง
[19 มิ.ย. 54 18:00:47
]
หอกลองเมืองซีอานสร้างในปี ค.ศ. 1380 ซึ่งเป็นยุคการปกครองของฮองวูฮ่องเต้แห่งราชวงศ์หมิง ผ่านการบูรณะสองครั้งสองคราในราชวงศ์ชิง อาคารสองชั้นที่รับน้ำหนักด้วยผนังหลังนี้สูง 34 เมตร มีความยาวจากตะวันออกจรดตะวันตก 52.6 เมตร และความกว้างจากเหนือจรดใต้ 38 เมตร
จากคุณ : luckyclover
[19 มิ.ย. 54 18:01:56
]
สถาปัตยกรรมของหอกลองเป็นการผสมผสานระหว่างรูปแบบศิลปะราชวงศ์ถังและราชวงศ์ชิง รวมทั้งมีรายละเอียดของนวัตกรรมบางอย่างแต้มเติมอยู่ด้วย อย่างเช่น มีการอ้างว่าในหอกลองไม่มีการใช้ตะปูเหล็กสักตัวเดียว
พิพิธภัณฑ์กลองด้านใน มีหลากหลายชนิด
[19 มิ.ย. 54 18:03:18
]
จุดเด่นของที่นี่คือกลองทั้ง 24 ใบบริเวณลานด้านทิศเหนือและทิศใต้ของลานระเบียงชั้นสอง กลองเหล่านี้ตั้งไว้เพื่อเป็นการบอกเวลาด้วยแสงอาทิตย์ในระยะ 24 โมงยาม ซึ่งเป็นปฏิทินแสดงสภาพอากาศแบบหนึ่งของจีนโบราณที่คิดค้นขึ้นมาเพื่อใช้ในการเกษตร จากลานกว้างนี้มองลงไปเห็นทัศนียภาพใจกลางเมืองของถนนรอบด้าน ชมบรรยากาศของถนนมุสลิมและสวนสวย
จากคุณ : luckyclover
[19 มิ.ย. 54 18:05:46
]
ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
จากคุณ : luckyclover
[19 มิ.ย. 54 18:06:32
]
ยามค่ำคืน สวยจัง เรานั่งพักกันที่นี่รอเดินตลาดมุสลิมยามค่ำคืน
จากคุณ : luckyclover
[19 มิ.ย. 54 18:07:48
]
หนังสือเล่มนี้ของพี่ในกลุ่ม มีข้อมูลเที่ยวเมืองจีน เมืองหลักๆ ละเอียดดี บอกประวัติความเป็นมา
จากคุณ : luckyclover
[19 มิ.ย. 54 18:09:31
]
ได้เวลาลงไปช๊อปปิ้งแล้ว ที่ถนนมุสลิม มีของฝาก ของที่ระลึกเยอะเลย เดินอ้อมไปด้านหลังของหอกลองนิดเดียว
หาข้อมูลตลาดมุสลิม มาฝากจ้า
Moslem Street(Huimin Jie)
สิ่งหนึ่งที่สัมผัสได้เมื่อก้าวเท้าสู่อาณาบริเวณของหอกลอง คือกลิ่นเครื่องเทศที่กำจายอยู่ในมวลอากาศ ซึ่งมีที่มาจากถนนสายเล็กที่อยู่ข้างๆ หุยหมิ่นเจี่ย หมายถึง ชุมชนชาวหุย ซึ่งเป็นย่านที่อยู่อาศัยของชาวมุสลิมชนชาติหุยกว่าหกหมื่นชีวิตที่สืบเชื้อสายมาจากบรรพบุรุษชาวมุสลิมต่างชาติ ทั้งนักการทูตและพ่อค้าวาณิชซึ่งมาพำนักอยู่ในซีอานเมื่อครั้งอดีต ด้วยลักษณะอาคารที่มีสถาปัตยกรรมในรูปแบบราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง ทำให้คาดเดาได้ไม่ยากว่าชุมชนนี้เริ่มต้นในยุคใด
เส้นทางที่มีความยาว 500 เมตร ร่มรื่นด้วยแนวต้นไม้ใหญ่ที่โบกกิ่งใบในสายลมเย็นและเงาของอาคารเก่าแก่ที่เรียงรายขนาบข้าง ข้าวของที่วางขายในร้านมีทั้งเสื้อผ้า ของพื้นเมือง ของที่ระลึก เครื่องเขียน เครื่องเทศ ผลไม้ อาหารมุสลิม ซึ่งถ้าจะถามถึงสีสันอันคึกคักต้องเป็นแผงลอยและรถเข็นที่พ่อค้าแม่ขายแข่งกันตะเบ็งเซ็งแซ่ให้แวะชิมแวะชมสินค้าของพวกเขา เมนูเด็ดตำรับหุยที่น่าลิ้มลองมีทั้งเนื้อย่าง เกี๊ยวไส้แกะ ก๋วยเตี๋ยวผัดเครื่องเทศ แกงวุ้นเส้น น้ำสมุนไพร
สีสันอันคึกคักของถนนสายนี้เริ่มต้นตั้งแต่พระอาทิตย์ส่องสว่างจนกระทั่งย่ำสนธยา
[19 มิ.ย. 54 18:14:45
]
นาฬิกาท่านเหมา
จากคุณ : luckyclover
[19 มิ.ย. 54 18:15:47
]
ผลไม้แห้งต่างๆ มีเยอะมาก
จากคุณ : luckyclover
[19 มิ.ย. 54 18:18:20
]
พวกอินทผาลัม ถั่วต่างๆ ลูกพลับ ลูกพีช มีขายตลอดทาง ราคาคอนเฟิร์มว่าถูกกว่าซื้อบ้านเราแน่นอน เราซื้อมาได้แค่สองอย่าง เพราะกลัวน้ำหนักเกิน ถุงนึงก็ครึ่งโลแล้ว
เดินถนนนี้ ใช้ประโยคนี้บ่อยมาก เจ้อเก้อ ตัวเส่าเฉียน อันนี้ราคาเท่าไหร่
[19 มิ.ย. 54 18:23:33
]
ขนมแปลกๆ ชุบหลายอย่างมาก ถั่ว งา น้ำจิ้มหวานๆ เห็นมีคนลองซื้อกินเยอะเลย
จากคุณ : luckyclover
[19 มิ.ย. 54 18:25:13
]
อันนี้ก็อร่อย เป็นแป้งนิ่มๆ ราดน้ำเชื่อม เหมือนน้ำตาลเคี่ยว หวานหอม
จากคุณ : luckyclover
[19 มิ.ย. 54 18:26:02
]
เดินชมตลาด ลองกินกันอย่างเพลิดเพลิน
อันนี้อะไหร่หว่า ไม่แน่ใจว่าคือแป้ง หรือเนื้อสัตว์
[19 มิ.ย. 54 18:27:32
]
คนมุสลิมนั่งกันเต็มเลย แต่ดูหน้าตาออกจีนๆ กันทั้งนั้น
จากคุณ : luckyclover
[19 มิ.ย. 54 18:29:52
]
หลายคนในกลุ่มลองกินพวกเนื้อย่าง มีโต๊ะ เก้าอื้ เตี้ยๆ ให้นั่งกิน เราไม่กินเนื้อ ไม่กินเครื่องใน งานนี้เลยขอบาย นั่งดูเฉยๆ แต่ถ้าเป็นขนมอย่างอื่นลองหมด อิอิ
จากคุณ : luckyclover
[19 มิ.ย. 54 18:31:25
]
ก่อนกลับ เห็นภาพเขียนวางขายข้างทางเลย พี่เค้าอยากได้ภาพวาดดอกโบตั๋นแบบเราบ้าง เลยเดินช๊อปกันแถวนี้ ราคาต่อรองได้ ไม่แพง
จากคุณ : luckyclover
[19 มิ.ย. 54 18:32:55
]
พรุ่งนี้เราก็จะอำลาซีอานกันแล้ว ต้องตื่นแต่เช้า บินไปกวางเจา ไว้เจอกันตอนสุดท้ายคะ
จากคุณ : luckyclover
[19 มิ.ย. 54 18:37:26
]
Day 11 กวางเจา อนุสาวรีย์ห้าแพะ ช๊อปปิ้งเป่ยจิงลู่
จากคุณ : luckyclover
[19 มิ.ย. 54 19:20:19
]
ได้ความรู้เกี่ยวกับสุสานทหารมากๆเลยครับ
เดี๋ยวตามไปเที่ยวตอนต่อไปนะครับ
[19 มิ.ย. 54 20:14:12
]
ซีอาน เป็นเมืองที่น่าสนใจมากๆเลยนะคะ
อ่านเพลินไปเลย:D
ขอบคุณที่นำภาพและเรื่องราวการเดินทางมาแบ่งปันนะคะ
[19 มิ.ย. 54 20:21:27
]
ขอบคุณมากๆ สำหรับภาพที่หาดูได้ยากครับ ผมคงไม่มีโอกาสได้ไปเที่ยวไกลๆ แบบนี้แน่นอน
จากคุณ : owl2
[19 มิ.ย. 54 22:14:11
]
มีของที่ระลึกขายเยอะแยะเลย ขอบคุณที่พาเที่ยวค่ะ กำลังตามไปชมรีวิวต่อนะคะ
จากคุณ : สาวหน้าใส
[19 มิ.ย. 54 22:49:41
]
สุสานทหารดินเผานี่อยากไปดูของจริงมากๆค่ะ อ่านและดูรูปในรีวิวยังนึกเลยว่าทำไมมันถึงได้ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ สร้างเข้าไปได้ยังไง อารยธรรมสูงส่งจริงๆ
ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ
[20 มิ.ย. 54 11:53:28
]